บทนำ
เด็กหญิงตัวน้อยเหวี่ยงตัวบนไปนั่งบนกิ่งไม้แล้วมองการเคลื่อนไหวด้านล่าง เสียงผู้คนวุ่นวายทำลายความรื่นรมย์ของเด็กหญิงวัยแปดขวบที่มีนามว่า ‘เคอหลิ่งหลิน’ หมดลง เด็กหญิงตัวเล็กแม้จะมอมแมมไปสักหน่อยแต่ก็มีเค้าโครงหน้างดงาม
เด็กน้อยจำใจต้องปล่อยเ้ากวางน้อยที่วิ่งไล่จับเมื่อครู่แล้วทำตัวเป็วานรปีนป่ายต้นไม้ขึ้นมาบนกิ่งสูงนี้เพียงเพื่อมองหาที่มาของเสียงดังน่ารำคาญ รูปร่างปราดเปรียวและซุกซนจนบิดาผู้เป็ ‘ขุนโจรแห่งหุบเขาชิงซาน’ ไม่มั่นใจว่าตนเองมีบุตรหญิงหรือชายกันแน่ หากนับความเฉลียวฉลาดในการเอาตัวรอดของนางและฝีมือด้านวรยุทธแล้วละก็ นางก็ได้ชื่อเป็เป็บุตรของ ‘เคอตงตง จอมโจรแห่งหุบเขาชิงซาน’ แล้ว
ครู่ต่อมานางก็รู้ว่ามีลิงตัวใหญ่ั์ห้อยโหนมานั่งบนกิ่งไม้เดียวกับนาง สายตาคมเกินเด็กหันไปจ้องมองแล้วยกนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากเป็สัญญาณให้เงียบ เ้าลิงั์กลับทำท่าเลียนแบบนาง เด็กหญิงจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วมันก็ยังทำตามเช่นเดิม
ดวงตากลมมองเห็นกลุ่มคนกำลังไล่ล่าบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง รูปร่างผอมบางราวสตรีแม้มีกระบี่ในมือแต่ดูเหมือนเขาจะแทบไร้เรี่ยวแรงที่จะยกมันขึ้นเพื่อป้องกันตัวเอง เคอหลิ่งหลินไม่รู้หรอกว่าฝ่ายใดเป็คนโฉดชั่วหรือฝ่ายใดเป็คนดีทว่าสิ่งที่สองตาของนางมองเห็นตอนนี้คนหมู่มากกำลังรุมชายเพียงคนเดียว ร่างของชายผู้นั้นเสียหลักหงายหลัง ชายในชุดดำมีผ้าบิดใบหน้ามิดชิดเงื้อกระบี่ในมือหมายจะฟาดเอาชีวิตคนที่ไร้ทางสู้ มือเรียวเล็กของเด็กหญิงเด็ดผลไม้ที่อยู่ใกล้มือแล้วขว้างไปสุดแรง ด้วยการฝึกฝนั้แ่เล็กแต่น้อย ความแม่นยำของนางไม่เป็รองใคร มันส่งผลให้ผลไม้ลูกนั้นกระแทกใส่ข้อมือของผู้ที่ถือกระบี่ ชายชุดดำเสียจังหวะผงะถอยหลังทำให้ชายในชุดขาวที่เปื้อนเปรอะลุกขึ้นได้
“เ้า! มาทางนี้” เคอหลิ่งหลินะโบอกแล้วชี้ให้วิ่งไปอีกทาง ส่วนนางก็ะโลงมายืนแล้วฉุดข้อมือชายแปลกหน้าให้วิ่งตามนางไป โดยมีชายชุดดำสามคนไล่ตามหลัง
“เ้าะโไหวไหม?”
“อะไรนะ!” เสียงนั้นถามอย่างงุนงง
“เอ้า! ะโ!”
ชายหนุ่มไม่ทันได้คิดอะไร เพราะมัวแต่วิ่งมุ่งไปข้างหน้า และเมื่อได้ยินคำว่า ‘ะโ’ เบื้องหน้าก็ไร้พื้นดิน เพราะมันเป็หน้าผาและด่านล่างเป็น้ำตก
“เฮ้ย!”
เสียงชายหนุ่มเผลอร้องลั่น แต่ข้างหูเขากลับได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก มือใหญ่ของเขามีมือเรียวเล็กจับไว้มั่น เด็กหญิงหันมายกนิ้วแตะที่ริมฝีปากเป็เชิงบอกให้เขาเงียบก่อนจะชี้ขึ้นไป้า ทั้งสองไม่ได้ตกลงมาในสระน้ำเบื้องล่าง ละอองน้ำตกพร่างพราวขาวราวไข่มุก ทำให้ชายชุดดำทั้งสามก้มมองไม่เห็นคนทั้งสองที่ยืนอยู่ขอบน้ำตก พวกมันเข้าใจว่าทั้งสองตกน้ำไปแล้วจึงหมุนตัวจากไป เคอหลิ่งหลินแหงนหน้ามองอีกครั้งให้มั่นใจว่าคนกลุ่มนั้นไปหมดแล้ว ก็กระตุกข้อมือข้างที่นางจับไว้ให้เดินไต่ขอบน้ำตกตามเข้าไปหลังม่านน้ำตาซึ่งเป็ถ้ำขนาดใหญ่
“แม่นางน้อย” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามาในถ้ำแล้ว แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกเหนื่อยหอบหลังจากถูกตามไล่ล่าจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
“เรียกข้าเคอหลิ่งหลิน” เด็กหญิงยิ้มกระจ่างสดใส ยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำที่กระเซ็นถูกใบหน้าอ่อนใส “พี่ชายาเ็ที่ใดหรือไม่”
“ได้แม่นางน้อยช่วยทำให้ข้าปลอดภัยดี”
“อย่าได้คิดมาก ข้าเป็จอมยุทธหญิงย่อมต้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว” เด็กหญิงยืดอกด้วยท่าทีภูมิใจ ไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่าย
ตัวเล็กกระจ้อยร่อยอาจหาญเรียกตัวเองว่าจอมยุทธหญิง? เด็กคนนี้ช่างกล้านัก!
“เป็อะไรไปพี่ชาย ท่านติดค้างคำขอบคุณข้าอยู่นะ”
ชายหนุ่มเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่คำพูดของเด็กหญิงตัวเล็กตรงหน้าทำเอาเขาอดกลั้นที่จะหัวเราะไว้ไม่ไหว คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างฉงน ชายผู้นี้เป็อย่างไรกัน นางเป็คนช่วยชีวิตเขาแท้ๆ แต่กลับหัวเราะท้องคักท้องแข็งไม่เกรงมารยาทเอาเสียเลย
“มาเถอะ ข้าจะพาพี่ชายไปส่งที่ตีนเขา” เด็กน้อยพยักหน้าแรงๆเรียกชายหนุ่ม
“ไยเ้าจึงช่วยข้าเล่า หากข้าเป็คนไม่ดีล่ะ เ้าจะทำเช่นไร”
เด็กหญิงตัวน้อยหันมายิ้มแล้วหัวเราะร่า ประกายวับวาวไร้ความหวาดกลัว “พี่ชายเอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยคิดเื่อื่นเถิด”
โดนเด็กน้อยกำราบเข้าให้ เขามิกล้าจะเอ่ยถามอายุจอมยุทธ์หญิงเลย เขายอมเดินตามนางจนออกมาถึงป่าโปร่ง แล้วเด็กน้อยก็ชี้นิ้วบอกทาง
“ข้าส่งพี่ชายได้เพียงแค่นี้”
“ข้าขอบใจเ้ามาก”
“ข้าไปล่ะ ถ้าท่านพ่อรู้เข้าข้าจะโดนดุเอา”
เคอหลิ่งหลินรีบวิ่งไปทิศทางตรงข้าม นางดูคล่องแคล่วเหมือนแมวป่า และร่าเริงดุจนกน้อย มิได้สนใจว่าผู้ที่เฝ้ามองอยู่นั้นจะมองนางด้วยความรู้สึกเช่นใด เด็กน้อยวิ่งกลับไปที่กระท่อมเชิงเขา กลิ่นข้าวหอมกรุ่นจนเด็กหญิงต้องยกมือขึ้นกุมท้อง
“ข้าหิวแล้วท่านพ่อ”
“เ้าควรกลับบ้านมาก่อนที่พ่อจะเข้ามาใช่หรือไม่”
“ข้า...ข้าออกไปเล่นนิดเดียวเอง” นางไม่ได้บอกพ่อในทุกเื่ และเพื่อนสนิทของนางที่เป็ลิงั์ก็ไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง เพราะกลัวว่าพ่อจะไม่ชอบเพื่อนของนาง
“่นี้ที่ชายแดนมีการสู้รบ เ้าจะไปเถลไถลที่ไหนไกลบ้านมิได้ เราอาจเจอพวกทหารหนีทัพก็ได้นะ”
“เป็ทหารแล้วไยต้องหนีทัพละท่านพ่อ”
พ่อทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็ไม่พูดต่อ วางมือใหญ่ลงบนศีรษะของนาง “ยังมีเื่อีกมากที่เ้าไม่รู้”
“ท่านก็บอกข้าซิ ยากตรงไหน” เด็กหญิงหัวเราะร่า
“พ่อไม่รู้จะบอกเ้าอย่างไร ถ้าแม่เ้ายังอยู่คงช่วยพ่อสอนเ้าได้ดีกว่านี้”
“อยู่ซิ ท่านแม่อยู่กับข้า อยู่ในนี้” เด็กหญิงตบอกตัวเองหนักแน่น ผู้เป็พ่อเห็นแล้วก็ยิ้ม
“ถูกต้องแล้ว หลินเอ๋อร์ แม่ของเ้าอยู่ในใจเ้ามิได้เป็ไหน” เขาเป็คนสอนลูกเองกลับลืมไปเสียได้ ยังไม่ทันกล่าวอะไรต่อก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาที่หน้าประตูกระท่อมหลังน้อย พ่อลุกขึ้นยืนแล้วเดินไป ปล่อยลูกสาวไว้ที่โต๊ะอาหาร เด็กหญิงได้แต่นั่งกินข้าวกับผัดผักที่พ่อทำไว้ให้ พ่อทำกับข้าวอร่อย นางชอบทุกอย่างที่พ่อทำ
เด็กหญิงรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง พ่อหันมามองหน้านางเหมือนครุ่นคิดและตามด้วยเสียงถอนหายใจหนักหน่วง
จุดเริ่มต้นของโชคชะตาเด็กหญิงจึงเริ่มขึ้น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้