รุ่งอรุณของวันใหม่มาเยือน เกาเฟยฉีตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น แต่เมื่อเขาหันไปมองโจวฟางเซียนที่นอนอยู่ข้างๆ เขาก็พบว่าใบหน้าของนางซีดเผือดและเต็มไปด้วยเหงื่อ
เกาเฟยฉีรีบเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของโจวฟางเซียน เขารู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของนาง
"เซียนเอ๋อร์" เขาเรียกชื่อนางแ่เบา แต่โจวฟางเซียนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
เกาเฟยฉีใมาก เขารีบออกไปตามเกาฮูหยิน มารดาของเขาให้มาดูอาการของโจวฟางเซียน
เกาฮูหยินรีบมาถึงห้องหอด้วยความร้อนใจ เมื่อเห็นอาการของโจวฟางเซียน นางก็รีบสั่งให้คนไปตามหมอมาตรวจทันที
หมอมาถึงและตรวจอาการของโจวฟางเซียนอย่างละเอียด ก่อนจะสรุปว่านางเป็ไข้สูงเนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและกิจกรรมในคืนวันแต่งงาน หมอจัดยาให้โจวฟางเซียนและกำชับให้พักผ่อนมากๆ
เกาเฟยฉีรับยาจากหมอมาด้วยความร้อนใจ เขารีบไปต้มยาให้โจวฟางเซียนด้วยตัวเอง ในระหว่างที่รอให้ยาเดือด เขาก็ลงมือทำอาหารง่ายๆ ให้กับนาง
เกาเฟยฉีพยายามป้อนข้าวต้มให้นางทีละคำ โจวฟางเซียนทานได้เพียงเล็กน้อยก็ส่ายหน้าบอกว่าอิ่มแล้ว
เกาฮูหยินที่เฝ้ามองอยู่ตลอดเวลาก็รู้สึกสงสารลูกสะใภ้คนใหม่ของตน นางสั่งให้คนไปนำโสมบำรุงร่างกายมาให้โจวฟางเซียนกิน เพื่อช่วยปรับสมดุลเืลมและฟื้นฟูร่างกาย
"อาฉี" เกาฮูหยินเรียกลูกชายของตนมาคุย "เ้าต้องดูแลเซียนเอ๋อร์ให้ดี นางเป็ภรรยาของเ้าแล้ว เ้าต้องรับผิดชอบนาง"
เกาเฟยฉีพยักหน้ารับคำมารดาอย่างหนักแน่น "ท่านแม่ไม่ต้องเป็ห่วง ข้าจะดูแลเซียนเอ๋อร์อย่างดีที่สุด"
เกาฮูหยินยิ้มออกมาอย่างพอใจ นางรู้ดีว่าลูกชายของนางเป็คนดีและมีความรับผิดชอบ นางเชื่อว่าเขาจะดูแลโจวฟางเซียนได้เป็อย่างดี
เกาเฟยฉีนั่งเฝ้าโจวฟางเซียนอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งวัน เขาคอยเช็ดตัว ป้อนยา ป้อนข้าว และดูแลนางอย่างใกล้ชิด
เขาประคองร่างบอบบางของโจวฟางเซียนขึ้นอย่างแ่เบา เขาตักยาสมุนไพรมาจ่อที่ปากนาง แต่โจวฟางเซียนกลับส่ายหน้าหนีด้วยความหวาดกลัวรสชาติอันขมปร่าของมัน
"เซียนเอ๋อร์" เกาเฟยฉีเรียกชื่อนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เ้าต้องกินยา ไม่เช่นนั้นไข้จะไม่ลด"
แต่โจวฟางเซียนยังคงดื้อดึง เกาเฟยฉีจึงตัดสินใจใช้วิธีที่ไม่เหมือนใคร เขาจรดริมฝีปากของตนเองลงบนริมฝีปากของโจวฟางเซียนอย่างแ่เบา ก่อนจะค่อยๆ ป้อนยาให้นางทีละน้อย
โจวฟางเซียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ แต่นางก็ยอมกลืนยาลงไปแต่โดยดี
เกาเฟยฉียิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบลูกอมรสน้ำผึ้งที่เขาทำเองกับมือออกมา แล้วป้อนให้โจวฟางเซียน
รสชาติหวานหอมของลูกอมช่วยบรรเทาความขมของยาได้เป็อย่างดี โจวฟางเซียนหลับตาพริ้มด้วยความสุข ก่อนจะพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงพร่าเลือน "หลางเกอ..."
เกาเฟยฉีชะงักไปครู่หนึ่ง "ยังจำข้าได้อยู่อีกหรือ" เขาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ข้านึกว่าเ้าลืมข้าไปหมดสิ้นแล้ว"
โจวฟางเซียนพยายามลืมตาขึ้นมองเกาเฟยฉี แต่สติของนางเลือนรางเต็มที นางจำได้เพียงรางๆ ว่าหลางเกอคือชื่อที่นางเคยเรียกเขาเมื่อตอนเด็กๆ
"หลางเกอ..." นางพึมพำซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเขาด้วยฤทธิ์ของยา
เกาเฟยฉีมองใบหน้าซีดเซียวของโจวฟางเซียนด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่เคยคิดว่านางจะยังจำเขาได้ เขาคิดว่าความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขาคงเลือนหายไปตามกาลเวลาแล้ว
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าโจวฟางเซียนยังคงเก็บความทรงจำเกี่ยวกับเขาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ และนั่นทำให้เขามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
เกาเฟยฉีเฝ้ามองโจวฟางเซียนที่หลับใหลอยู่บนเตียง ภาพของนางในยามนี้ช่างแตกต่างจากองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ที่เขาได้พบในวันแต่งงาน ความอ่อนแอและบอบบางของนางปลุกเร้าความรู้สึกห่วงใยในใจเขาขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็มาก่อน
ทันใดนั้น ภาพความทรงจำในวัยเด็กก็ผุดขึ้นมาในห้วงคำนึงของเขา...
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ครั้งที่เกาเฟยฉียังเป็เพียงเด็กชายตัวเล็กๆ ตามบิดาผู้เป็แม่ทัพมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในวังหลวง เขาได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งใต้ต้นไม้ใหญ่หลังกำแพงวังหลวง นางมีดวงตากลมโตเป็ประกาย ริมฝีปากแดงระเรื่อ และผิวพรรณขาวผ่องราวกับหยก
เกาเฟยฉีจำได้ว่านางกำลังถูกพี่เลี้ยงบังคับให้ดื่มยาขม แต่เด็กสาวก็พยายามบ่ายเบี่ยงด้วยท่าทางน่าเอ็นดู เขาเห็นดังนั้นจึงมอบลูกอมรสน้ำผึ้งที่เขาทำขึ้นมาเองให้นาง
"กินนี่สิ" เขาพูดเสียงเบา "มันหวาน อร่อยกว่ายานั่นเยอะ"
เด็กสาวยิ้มกว้าง ก่อนจะรับลูกอมจากมือเขาไปอย่างว่าง่าย "ขอบใจนะ พี่ชาย"
เกาเฟยฉีรู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของนาง เขาไม่เคยพบเจอเด็กผู้หญิงคนไหนที่งดงามและมีเสน่ห์เท่านี้มาก่อน
"ข้าชื่อโจวฟางเซียน" นางแนะนำตัว "แล้วเ้าล่ะ"
"ข้าชื่อเกาเฟยฉี เรียกข้าสั้นๆว่าหลางเกอ" เขาตอบ
ทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรส จนกระทั่งพี่เลี้ยงของโจวฟางเซียนมาตามนางกลับตำหนัก
"ข้าต้องไปแล้ว" โจวฟางเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย "แต่ข้าจะไม่ลืมท่านนะ หลางเกอ"
เกาเฟยฉีมองตามร่างของโจวฟางเซียนที่เดินจากไปจนลับสายตา เขาไม่รู้ว่าจะได้พบกับนางอีกหรือไม่ แต่เขารู้ว่าเขาจะไม่มีวันลืมเด็กสาวคนนี้
นับั้แ่วันนั้น เกาเฟยฉีก็เฝ้าคิดถึงโจวฟางเซียนอยู่เสมอ เขาใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้พบกับนางอีกครั้ง และเมื่อวันนั้นมาถึง เขาก็จะบอกความในใจให้นางได้รับรู้ว่าเขาตกหลุมรักนางั้แ่แรกเห็น
แต่เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาก็ได้รู้ว่าโจวฟางเซียนเป็ถึงองค์หญิงสาม ผู้สูงศักดิ์เกินกว่าที่เขาจะอาจเอื้อมถึง เขาจึงเก็บความรู้สึกที่มีต่อนางไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง
จนกระทั่งวันหนึ่ง โชคชะตาก็เล่นตลก นำพาให้เขากับโจวฟางเซียนมาพบกันอีกครั้งในฐานะสามีภรรยา
เกาเฟยฉีมองโจวฟางเซียนที่หลับใหลอยู่บนเตียงอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็อย่างไร แต่เขารู้ว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องและดูแลนาง
สามวันผ่านไป อาการป่วยของโจวฟางเซียนค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ ความเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดของเกาเฟยฉีทำให้หัวใจขององค์หญิงสามเริ่มอ่อนยวบลง นางไม่เคยได้รับความรักและความห่วงใยจากใครมากมายเช่นนี้มาก่อน
เกาเฟยฉีคอยเฝ้าดูแลนางไม่ห่างกาย ทั้งป้อนยา ป้อนข้าว เช็ดตัว และคอยเล่านิทานสนุกๆ ให้ฟังเพื่อคลายเหงา ความอ่อนโยนและความจริงใจของเขาค่อยๆ ละลายกำแพงน้ำแข็งที่โจวฟางเซียนสร้างขึ้นมาปกป้องตัวเอง
ในยามค่ำคืน เกาเฟยฉีมักจะนั่งข้างเตียง เล่านิทานให้โจวฟางเซียนฟังจนนางผล็อยหลับไป นางรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ
"เซียนเอ๋อร์" เกาเฟยฉีเรียกชื่อนางแ่เบาขณะที่นางหลับ "ข้าสัญญาว่าจะดูแลเ้าตลอดไป"
แม้โจวฟางเซียนจะหลับอยู่ แต่นางก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของเกาเฟยฉีที่ลูบผมนางเบาๆ นางยิ้มออกมาในความฝัน หัวใจของนางเริ่มเปิดรับเกาเฟยฉีมากขึ้นเรื่อยๆ
ในวันที่สาม โจวฟางเซียนสามารถลุกขึ้นเดินได้แล้ว นางเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนหลังจวน เกาเฟยฉีเดินตามมาสมทบ
"เ้ารู้สึกดีขึ้นแล้วหรือ" เขาถามด้วยความเป็ห่วง
"เ้าค่ะ ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว" โจวฟางเซียนตอบด้วยรอยยิ้ม
เกาเฟยฉียิ้มตอบ "ข้าดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น"
ทั้งสองคนเดินเล่นในสวนด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสงบสุข โจวฟางเซียนรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่มีเกาเฟยฉีอยู่เคียงข้าง
โจวฟางเซียนเริ่มรู้สึกว่าหัวใจของนางกำลังเปลี่ยนไป นางเริ่มรู้สึกดีกับเกาเฟยฉีมากขึ้นทุกวัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้