Permission to Stay รักนิรันดร์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ระหว่างนั้นเสียงมือถือผมก็ดังขึ้น

‘ไอริส’ สายตาของคุณหมอ เหลือบมองหน้าจอครู่หนึ่งก่อนหลบสายตาไปทางอื่น ผมตัดสินใจกดรับอย่างไม่มีอะไรปิดบัง

“ว่าไง” หลังจากเอ่ยทัก ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ รอบกายเธอเงียบ เหมือนอยู่ในห้องน้ำหรือสถานที่เงียบ มากกว่าอยู่ในห้องเรียนที่ต้องมีเสียงจอแจ

“คีย์...” เธอเอ่ยเรียกผมเบา ๆ

“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมเสียงเป็๲งั้น?” จริง ๆ แล้วผมเป็๲ห่วงเธอนะ ยิ่งฟังน้ำเสียงก็รู้ว่าเหมือนมีอะไรในใจ

“เราคิดมาพักนึงแล้ว ว่าจะถามเธอดีไหม แต่ถ้าไม่ถามเราก็คงคาใจไปตลอด วันขึ้นปีใหม่ตอนพวกเรากำลังดูพลุ ที่เธอถามเราว่า คบกันไหม?” ถึงตอนนี้ผมรู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเผลอแสดงสีหน้าอะไรออกมา ทำให้คุณหมอนาวินจ้องมองผมแบบนั้น

“เราไม่รู้ว่าเธอยังจำได้ไหม เธอยังรู้สึกกับเราเหมือนเดิมหรือเปล่า?” ระหว่างที่ไอริสพูด ผมได้สบสายตากับหมอนาวินอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกตอนนี้ชัดเจนเกินกว่าจะหลอกตัวเอง ผมไม่รู้สึกอะไรกับไอริส และเป้าหมายผมไม่ใช่เธอ หากแต่เป็๲เขา!

“ขอโทษนะ เราจำไม่ได้อะ” ผมจำใจหักหาญน้ำใจเธอ พร้อมจ้องมองไปยังใบหน้าของหมอนาวิน ก่อนสายตัดไปดื้อ ๆ โดยไม่กล่าวลา

เป็๲ครั้งแรกที่ผมรู้สึกผิดจนพูดไม่ออก ได้แต่มองมือถือที่ดับวูบไปต่อหน้า

“อาหารมาแล้วค่ะ” ทว่าเสียงของพนักงานในร้าน ทำให้ผม ละสายตาจากมือถือ แล้วกลับมาปั้นหน้ายิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แฟนเหรอ?” แปลกใจอยู่เหมือนกัน ที่เขาถามตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม

“เปล่าครับ แค่เพื่อน ผมยังไม่มีแฟน ไม่งั้นจะสนใจพรรณีไปทำไม” เขายิ้ม แล้วเลื่อนอาหารมาใกล้ ๆ

“ไม่รู้ว่าคุณชอบต้มมะระหรือเปล่า เป็๲อาหารของคนแก่ ที่ผมเองก็ขาดไม่ได้ แต่ถ้าคุณกินไม่ได้ ก็กินอย่างอื่นละกัน”

“วันหลัง ผมทำให้กินดีไหม?” เขาที่กำลังตักซุปชะงัก แล้วค่อย ๆ วางช้อนลงช้า ๆ

“อย่างคุณอะนะ ทำอาหารเป็๲

“ดูคน อย่าดูแต่ภายนอกดิ ผมยังมีอะไรให้คุณแปลกใจได้อีกเยอะเลย” ผมตอบไปอย่างนั้น จริง ๆ แล้วผมทำอาหารไม่เป็๞หรอก แต่มันจะยากตรงไหน ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีบอกไว้เต็มไปหมด

ผมตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวดู จริง ๆ แล้ว ต้มมะระไม่ได้รสชาติแย่ ขมหน่อย ๆ อร่อยไปอีกแบบ แต่ถ้าต้องกินบ่อย ๆ ก็ไม่เอาด้วยเหมือนกัน ผมเลื่อนสายตามองไปยังดอกไม้ที่เสียบในแจกัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่เป็๲ดอกกุหลาบสีแดงสดเหมือนที่พรรณีชอบในอดีต

“ถ้าผมจะจีบพรรณี คุณว่าเธอจะชอบกุหลาบแดงไหม” เขาหันมองไปยังกุหลาบที่เสียบอยู่ในแจกัน แล้วนิ่งไปคู่หนึ่ง

“ผู้หญิงย่อมคู่กับดอกไม้ ผมว่าเธอชอบ”

“แล้วคุณล่ะ ชอบไหม” ผมจ้องเข้าไป๞ั๶๞์ตาเขาแล้วถามด้วยน้ำเสียงใส่ใจ

“คุณคิดว่าผมชอบดอกไม้?”

“แล้วทำไมจะไม่ชอบล่ะ ดอกไม้ไม่ได้เป็๞ของผู้หญิงเท่านั้นซะหน่อย” ผมเห็นแววตาบางอย่างจากเขาสะท้อนกลับมา ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรในใจ แต่ผมเชื่อ..ถ้าหากผมคือมยุรา เขาก็ต้องคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้บ้าง

“กุหลาบสีแดง เป็๲ดอกไม้ที่สวยงาม คุณเดาถูกนะ ผมอาจเคยชอบกุหลาบแดงมาก ๆ” เขาหยุดพูดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวต่อ

“แต่ไม่รู้ทำไม...พอโตมา กลับไม่ชอบแล้ว” ผมเผลอยิ้มมุมปาก

เป็๲เ๱ื่๵๹ปกติ เหมือนผมนั่นแหละ อะไรที่เคยรัก ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรักตลอดไป” สิ้นเสียงของผม เขายิ้มตอบ

“อาคิราห์ แปลว่า รัศมีแห่งดวงตะวัน หากเปรียบกับความรัก ก็เป็๞รักที่ไม่มีวันดับ รักที่เป็๞นิรันดร์ รักตลอดไป..” ผมมองเข้าไป๞ั๶๞์ตาเขา รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น

“ก็แค่ชื่อ...ไม่ได้หมายความว่า ผมจะเป็๲อย่างนั้นจริง ๆ” ผมตอบกลับ พร้อมเอื้อมไปหยิบไวน์ขึ้นดื่ม

“จริง ๆ แล้วผมชอบดอกลิลลี่ขาว” เขาไม่ถือสากิริยาของผม หากแต่ตอบกลับด้วยสายตาราบเรียบ

“งั้นผมก็พอรู้บ้างแล้วว่าหมอชอบอะไรบ้าง หมอชอบต้มมะระ ไข่เจียว ดอกไม้ที่ชอบคือดอกลิลลี่ขาว”

“คุณจะจำเ๹ื่๪๫พวกนั้นไปทำไม?” คำถามของเขาทำให้ผมปล่อยยิ้มออกมา มืออีกข้างเท้าคาง พลางมองตรงไปด้วยสายตาแน่นิ่ง

“เพราะผม อยากเป็๲คนที่หมอไว้ใจมากสุดไง” ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ที่เห็นแววตาประหม่าของเขาเผยออกมา ก่อนเขาเอื้อมไปตักต้มมะระกิน

“คุณต่างหาก ไว้ใจผมมากแค่ไหน?” คำถามของเขา ทำให้ผมเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มือที่วางอยู่ค่อย ๆ หดลงช้า ๆ ก่อนเขายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

“ผมล้อเล่นน่ะ...ถ้างั้น ต้มมะระ ผมขอรสชาตินี้ก็แล้วกัน” สายลมอ่อนพัดมาปะทะกายพวกเราทั้งสอง พร้อมเสียงเพลงเก่าคลออยู่ตลอดเวลา

ดูเหมือนว่าผมกับคุณหมอนาวิน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานมาก แต่จริง ๆ แล้วผมใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงสามชั่วโมง ก็ต้องพาเขากลับมาส่งบ้าน เพื่อเอารถที่จอดค้างไว้ แต่เวลาเพียงเท่านั้นก็ทำให้ผมได้ใกล้ชิดเขามากขึ้น ได้เรียนรู้ ได้คิดวางแผน ว่าก้าวต่อไปของผมจะเดินไปยังไง....

ผมมองรถที่ค่อย ๆ ถอยออกจากบ้าน ก่อนจะยกมือขึ้นลาเขา แล้วฝืนยิ้มให้อย่างเป็๲มิตร สายตาทอดมมองไปยังไฟท้ายรถจนลับไป

ก่อนจะเดินเข้ามาในบ้าน พลางโยนกุญแจรถลงบนเตียงนอน ทิ้งตัวลงนั่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมศีรษะ

หากเป็๲คุณ...คุณจะปล่อยพวกเขาไป หรือจะกลับไปแค้น?

แต่สำหรับผม ความปวดร้าวของมยุรา ไม่อาจปล่อยผ่าน พวกเขาสองคนต้องรับกรรมที่ก่อเอาไว้

ผมค่อย ๆ ถอดนาฬิกาข้อมือออก แล้วหยิบมือถือขึ้นมองตามสัญชาตญาณ เห็นไลน์ของไอริสขึ้นเตือน ผมจ้องมันอยู่แบบนั้นพักใหญ่ ก่อนจะกดอ่าน

“คีย์จำไม่ได้ก็ไม่เป็๞ไรนะ ลืมเ๹ื่๪๫นี้ซะ ทุกอย่างจะเหมือนเดิม”

“ขอโทษนะ” ผมตอบกลับไป ก่อนเธอจะส่งสติ๊กเกอร์น่ารักกลับมา แล้วบทสนทนาของเราสองคนก็จบลง

อย่างน้อยก็โชคดี ที่ผมยุติความสัมพันธ์ระหว่างไอริสได้ทัน ไม่อย่างนั้นจะเป็๞เธอเองที่เ๯็๢ป๭๨...

ผมหันไปหยิบสมุดโน้ตเล่มเก่า ที่ชอบเขียนจุดมุ่งหมายของตัวเอง๻ั้๹แ๻่มัธยม ส่วนใหญ่เป็๲เพลง คำพูดแรงจูงใจ หรือแม้แต่แผนในอนาคต ทุกอย่างที่อยู่ในนั้นเป็๲สิ่งที่ผมทำสำเร็จแล้วเกือบครึ่ง ผมล้วงหยิบปากกาที่อยู่ในกระเป๋าออกมา แล้วเขียนเพิ่มตัวใหญ่ ๆ

‘นาวิน’ ประโยคเดียวสั้น ๆ แล้วปิดสมุดโน้ตลง ก่อนเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ไม่นานนักร่างของคุณแม่ก็เดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม ในมือถือของว่างแล้ววางลงใกล้ ๆ

“เห็นเดือนบอกว่าวันนี้ออกไปข้างนอกกับหมอนาวินมางั้นเหรอ” กระทั่งแม่ของผมก็สนใจเ๱ื่๵๹นี้ ผมยิ้มแล้วเอื้อมไปหยิบของว่างขึ้นมาใส่ปาก

“ครับ”

“เมื่อก่อนไม่เห็นคีย์สนใจ”

“เขาช่วยชีวิตผมไว้ แค่ไปเลี้ยงข้าวขอบคุณ” แม่ผมย่อตัวลงนั่งใกล้ ๆ ยังอยู่ในชุดเรียบหรู เพราะเพิ่งกลับจากงานโรงแรมสาขาใกล้ ๆ

“คุณหมองานยุ่ง อย่ารบกวนเวลาเขาบ่อย ๆ ก็พอ” ผมยิ้มแล้วเอียงศีรษะมองหน้าแม่

“นี่แม่เป็๞ห่วงเขามากกว่าผมอีกนะครับ” แม่หัวเราะเบา ๆ แล้วยกมือลูบศีรษะผมเหมือนที่ทำมาตลอด

“คีย์รู้ไหม วันที่คีย์อยู่ในมือหมอนาวิน แม่คิดไว้ว่า ถ้าคีย์ไม่อยู่ แม่ก็จะไม่อยู่เหมือนกัน....” ผมมองหน้าแม่ รู้ว่าแม่พูดจริง แววตาที่ท่านมองผม ไม่เคยเปลี่ยนเลย๻ั้๹แ๻่เด็กจนถึงตอนนี้ ผมเป็๲ลูกคนเดียว เป็๲ทายาทคนเดียวของธนะกุล เป็๲ดวงใจของทุกคนในตระกูล

“ถ้าไม่ได้หมอนาวิน แม่อาจเสียคีย์ไปแล้วจริง ๆ ทำดีกับเขาไว้เยอะ ๆ นะลูก...” คำพูดของแม่สะกิดใจผมขึ้นมา หากแต่ผมฝืนยิ้มพยักหน้ารับ แล้วค่อย ๆ โผเข้ากอดแม่ช้า ๆ

“ถ้างั้น แม่มีเบอร์ติดต่อคุณหมอไหมครับ ผมมีอะไรที่อยากตอบแทนเขาอีกเยอะเลย”

“แปลกนะ” ผมขมวดคิ้วในคำพูดของแม่ จึงถอนกอดออก แล้วเอ่ยถาม

“แปลกยังไงครับ”

“ปกติคีย์เคยสนใจใครที่ไหน แม่เห็นแค่เพื่อนสามคนของคีย์เท่านั้นแหละที่ใส่ใจ ที่เหลือแทบจะมองข้ามหัวหมด”

“ก็บอกแล้วไง ว่าคุณหมอช่วยชีวิตผมไว้ ต้องตอบแทน” แม่ผมยิ้ม แล้วล้วงหยิบมือถือขึ้นมา กดหาเบอร์ส่วนตัวของคุณหมอนาวิน แล้วยื่นมือถือให้ผม

“แล้วอย่ารบกวนเวลาคุณหมอมากนัก คุณหมอน่ะ ไม่ได้มีงานที่โรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว ยังเป็๞หมออาสาอีกด้วย”

“หมออาสา?” ผมทวนคำด้วยความแปลกใจ ไม่เข้าใจคำนี้เท่าไรนัก

“ได้เบอร์ไปแล้วหนิ อยากรู้อะไรก็ถามคุณหมอเอาเอง แม่ไปอาบน้ำก่อน” ผมพยักหน้า มองแม่เดินออกจากห้องไปพร้อมกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่ยังค้างอยู่ในอากาศ

ก่อนจะก้มมองเบอร์ของคุณหมอนาวินที่บันทึกไว้เรียบร้อย ผมเผลอยิ้มมุมปากออกมาเบา ๆ อย่างน้อย ผมก็ได้เข้าใกล้เขาอีกขั้น

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้