ร่างเย่เฟิงหายไป!
หลี่เสวียนถึงกับขนลุกชัน กระตุ้นโล่ปราณสีขาวขึ้น ครั้งนี้มันมีความแข็งแกร่งกว่าที่เขาใช้อย่างเร่งด่วนเสียอีก เนื่องจากเขาใช้วิชาพลังไท่จี๋ดึงรั้งเย่เฟิงเอาไว้ด้วย ความเข้มข้นของมันยิ่งเหนือกว่าโล่ปราณที่รีบเร่งใช้ออกเมื่อครู่ ถ้าเย่เฟิงใช้กระบวนท่ากระบี่ด้วยพลังเท่าเดิม แน่นอนว่าคราวนี้ไม่สามารถทำลายโล่ปราณของหลี่เสวียนได้แน่
“ผู้าุโ!”
เหล่าศิษย์ตำหนักไท่จี๋ะโด้วยความตระหนก กลับกลายเป็มีสติอีกครั้ง แต่พวกเขารู้ว่ากำลังเผชิญหน้ากับวิชาที่แปลกประหลาดของเย่เฟิง ต่อให้มีสติก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขา้าโอกาสรอดชีวิต ซึ่งก็คือการพึ่งพาการคุ้มครองจากหลี่เสวียน
“เงียบซะ!”
หลี่เสวียนะโลั่น เหยียดแขนออกกว้าง โล่ปราณก็ขยายระยะออกไปสิบเมตรปกคลุมพวกเขาทุกคน ด้วยวิธีนี้ ความแข็งแกร่งของโล่ปราณจะลดลง แต่เขาไม่กังวล เนื่องจากเพียงควบคุมมันเล็กน้อย ยามเย่เฟิงใช้วิชากระบี่ มันก็ทำลายโล่ปราณของเขาไม่ได้แล้ว
ในที่สุดกระบี่พลังชี่สีเขียวมรกตก็สว่างวาบขึ้นเบื้องหน้า!
ฟาดฟันกระบี่ไปหนึ่งที สองที สามที...
แต่ละกระบี่ของเย่เฟิงคล้ายกับเล็งตรงไปยังหัวใจของศิษย์ตำหนักไท่จี๋ ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านไปถึงิญญา รวมถึงเฉินฮุยและลูกศิษย์หลายคนที่อยู่รอบกายหลี่เสวียนเช่นกัน ขณะที่อยู่ใกล้ระยะการป้องกันของโล่ปราณ เพียงเพราะเห็นกระบี่พลังชี่สีเขียวมรกตฟันโล่ปราณนี้เล่มแล้วเล่มเล่า ทำให้โล่ปราณบิดเบี้ยวไปมา
ครั้งที่สิบสาม!
เพียงชั่วพริบตา วิชากระบี่ไร้ตัวตนของเย่เฟิงก็บรรลุถึงกระบี่สุดท้าย ปราณกระบี่ที่สิบสามฟันลงที่ตำแหน่งเดิม มันฟันโล่ปราณของหลี่เสวียนครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้โล่ปราณบางลงเรื่อยๆ
“ครั้งที่สิบสามก็จบแล้ว...”
หลี่เสวียนพึมพำในใจ ใบหน้าชราผ่อนคลายเล็กน้อย
เขารู้สึกโล่งอก เนื่องจากเย่เฟิงไม่สามารถทำลายโล่ปราณลงได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ผ่อนคลายเต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยังมีกระบวนท่าอะไรอีกหรือไม่ จะใช้วิชาอะไรอีก
หากระดับวรยุทธ์เย่เฟิงสูงกว่านี้ หลี่เสวียนคงไม่สามารถรับมือได้ น่าเสียดายที่มันไม่ใช่อย่างนั้น หลี่เสวียนส่ายหัว เขาคิดว่าเย่เฟิงคงไม่มีกระบวนท่าอะไรอีก ถ้ามีก็คงใช้ออกมาแล้ว วิชากระบี่ของเขาช่างพลิกฟ้าะเืดิน หรือพูดได้อีกอย่างว่า หาก้าเอาชีวิตแล้วยังจะมีใครเหลือรอดอยู่อีกหรือ?
ศิษย์คนอื่นๆ ของตำหนักไท่จี๋ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน บนใบหน้าเปิดเผยท่าทางความสุขเพราะรอดชีวิตจากหายนะ
เฉินฮุยสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ผู้าุโก็ยังเป็ผู้าุโ คิดว่ามีวรยุทธ์ได้ถึงเก้าสิบห้าปีเพียงเพราะมีชื่อเสียงเหรอ? ไม่ว่าเย่เฟิงจะเก่งกาจน่ากลัวเท่าใด เมื่อเจอผู้าุโก็ไม่ต่างอะไรจากนักเลงข้างถนน!
แต่ขณะพวกเขาผ่อนคลายอารมณ์ ปราณกระบี่ที่สิบสี่ก็ปรากฏขึ้นมาราวกับภูตผี มันออกมาจากอากาศธาตุอย่างเงียบงัน ฟาดฟันอย่างรวดเร็วและรุนแรง!
กระบี่นี้คล้ายกับสายฟ้าสีเขียวมรกต ตวัดฟันไปตำแหน่งเดิมของโล่ปราณและท้ายสุดก็เบาบางลงอีก
เพล้ง!
ปราณกระบี่แตกสลายไป!
ลำแสงกระบี่สีเขียวหายไป แต่เหล่าศิษย์ตำหนักไท่จี๋ภายในโล่ปราณต่างเบิกตากว้าง ตะลึงด้วยความใ ตื่นตัวอย่างรวดเร็ว เย่เฟิงกลับสามารถปลดปล่อยปราณกระบี่สิบสี่สายได้โดยไม่คาดคิด!
เื่นี้มันเป็ไปได้อย่างไร!
กระบวนท่าที่เย่เฟิงใช้ไปเมื่อครู่นี้สองรอบ ไม่ใช่ว่ามันมีเพียงสิบสามสายหรอกหรือ? แม้กระบี่ไร้ตัวตนจะรวดเร็ว แต่พวกเขาเป็มือดีของตำหนักไท่จี๋ ก็นับจำนวนกระบี่ที่เย่เฟิงใช้ออก
“โอ้”
มีใครบางคนร้องโพล่งออกมา ซึ่งก็คือชายวัยกลางคนที่อยู่ขอบของโล่ปราณ สีหน้าของเขาตื่นตระหนก เนื่องจากกระบี่สีเขียวเล็งมาที่เขา
“ฉันไม่ได้้าสังหารแกเสียหน่อย”
ขณะเย่เฟิงอยู่ภายในมิติ มุมปากก็ยกยิ้ม มองท่าทางชายวัยกลางคนตื่นตระหนก อากาศรอบๆ บิดเบี้ยว
อีกหนึ่งสาย!
ปราณกระบี่ที่สิบห้า!
เย่เฟิงกวัดแกว่งกระบี่สุดท้ายที่เขาจะใช้ออกไปได้ ตวัดลงไปที่หลี่เสวียนทันที ปราณกระบี่สีเขียวที่วาดผ่านทำให้อากาศบิดเบี้ยว ทุกคนต่างไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นปราณกระบี่ก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
หลี่เสวียนหวาดกลัวในทันที
มันไม่ใช่เพียงกระบี่เดียว แต่เพิ่มถึงสองกระบี่ เย่เฟิงคนนี้ถึงกับเพิ่มความสามารถของวิชาได้อีกหรือ?
นี่มันยิ่งกว่าอัจฉริยะเสียอีกที่จะบรรลุถึงขั้นนี้ ถึงหลี่เสวียนจะไม่มีเวลาขบคิด แต่เขาเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวอยู่นานแล้ว
พลังไท่จี๋ ม้าป่าพองขน!
หลี่เสวียนสูดหายใจยาว ย่อตัวลง มือข้างหนึ่งตวัดลงล่าง กำลังภายในทั้งร่างะเิออก ทันทีที่ปราณะเิขึ้นมาก็พุ่งตรงไปยังเย่เฟิงที่ปรากฏขึ้นมาจากอากาศธาตุ หลี่เสวียนตอบสนองได้อย่างรวดเร็วไม่เสียเปล่า ท่วงท่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
หากเป็คนธรรมดาเผชิญหน้ากับกระบวนท่าเย่เฟิง คงจะตื่นใไปนานแล้ว คงเพียงขบคิดว่าเย่เฟิงปรากฏตัวออกมาอย่างไรจนเสียเวลา ไม่ต้องพูดถึงเื่ที่จะโต้กลับไปเลย แต่หลี่เสวียนเป็ถึงผู้าุโของตำหนักไท่จี๋ ประสบการณ์การต่อสู้มากมายอย่างยิ่ง รู้ว่าเป้าหมายหลักคือต้องกำจัดอีกฝ่ายให้ได้ แต่ไม่รู้เลยว่าฝ่ายตรงข้ามใช้วิชาอะไรได้บ้าง รอจนกระทั่งจัดการศัตรูได้เสียก่อนค่อยหาวิธีคิดถึงปัญหาเ่าั้
“สมกับเป็ผู้าุโของตำหนักไท่จี๋”
เมื่อเย่เฟิงเห็นฝ่ายตรงข้ามตอบโต้ได้ทัน ภายในใจรู้สึกยกย่อง มุมปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
เปรี้ยง!
กระบวนท่าม้าป่าพองขนะเิขึ้นโจมตีเย่เฟิงทันที การโจมตีที่รุนแรงส่งให้ร่างลอยออกไป แต่แทบจะทันทีผู้คนที่อยู่เื้ัก็พบว่า ‘เย่เฟิง’ สลายกลายเป็หมอกควัน
ก่อนที่ร่างเขาจะหายไปก็เผยรอยยิ้มแปลกประหลาด ทำให้หลี่เสวียน เฉินฮุย และคนอื่นต่างรู้สึกว่าไม่แปลก
“ตายซะ!”
ร่างเย่เฟิงปรากฏขึ้นด้านหลังของหลี่เสวียนอย่างน่าใ!
นี่คือร่างจริงของเย่เฟิงที่กวัดแกว่งกระบี่ไร้ตัวตัวที่สิบห้า ก่อนปรากฏขึ้นจากอากาศอยู่เื้ัหลี่เสวียน
ร่างของ ‘เย่เฟิง’ เบื้องหน้าหลี่เสวียนเมื่อครู่นี้ แท้จริงแล้วเป็เพียงร่างกายของผู้ฝึกิญญาจ้าวอี้เปย เพื่อหลอกล่อหลี่เสวียน ให้ใช้กระบวนท่าม้าป่าพองขนที่เตรียมพร้อมไว้ไปผิดตำแหน่ง
ด้วยกระบี่อันหลากหลายของเย่เฟิง ท้ายสุดก็ทำให้ผู้คนคาดไม่ถึง มันแทงลึกลงไปที่แผ่นหลังร่างเล็กของหลี่เสวียน เืแดงฉานทะลักออกมา ย้อมชุดสีขาวราวกับเวลาหยุดเดิน
เหล่าศิษย์ตำหนักไท่จี๋รวมถึงเฉินฮุยต่างตกตะลึง มันไม่ถูกต้อง เกิดอะไรขึ้นกับตอนสุดท้ายของการต่อสู้? เย่เฟิงผลุบโผล่ราวกับภูตผีปีศาจ ราวกับเป็นินจาผู้พลิกฟ้าะเืดิน!
แท้จริงมันคือวิทยายุทธ์อะไรกันแน่?
“ผู้าุโ!”
เฉินฮุยกรีดร้องทันทีพร้อมกับใบหน้าซีดเผือด
กระบี่ของเย่เฟิงแทงทะลุหน้าอกหลี่เสวียนอย่างน่าสยดสยอง!
เื่นี้มันเกินกว่าสามัญสำนึกนัก เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลี่เสวียนจะถูกจัดการอย่างง่ายดายโดยน้ำมือเย่เฟิง เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของหลี่เสวียนมากกว่าศิษย์ทั้งหมดในที่นี้รวมกันเสียอีก ต่อให้มีเย่เฟิงสิบคนก็ไม่สามารถรับมือได้! แต่ความจริงช่างโหดร้าย เย่เฟิงใช้กระบวนท่าแปลกประหลาด กระบี่แทงทะลุอกหลี่เสวียน โลหิตย้อมชุดสีขาวของเขาจนแดงฉาน
“ผู้าุโหลี่ คุณแพ้แล้ว”
เย่เฟิงแย้มยิ้มเบาบาง ก่อนถอนกระบี่สีเขียวมรกตออกมา เขาไม่ได้ทะลวงหัวใจหลี่เสวียน แต่กลับไว้ชีวิตเขาไว้! มันไม่ใช่เพราะหลิงเฉิน แต่มีเหตุผลบางอย่าง...