หญิงชาวบ้านวัยกลางคนจำนวนไม่น้อยสวมใส่เสื้อกันเปื้อนแบบเดียวกันย่อตัวอยู่ข้างบ่อเพื่อล้างผักฝั่งเตาปรุงอาหารมีเสียงหั่นผักและสับเนื้อดังขึ้นเป็ระยะ เทียบกับโถงใหญ่ที่สะอาดหมดจดไม่มีแม้แต่ฝุ่นที่นี่ดูค่อนข้างวุ่นวาย
น้ำจากบ่อที่ใช้แล้ว ก็เทลงข้างๆไหลออกไปตามร่องน้ำขนาดเล็ก สตรีบางคนมีแรงมาก จึงเทน้ำสกปรกจนสาดกระเด็นขึ้นมาบนขั้นบันได
น้ำสกปรกนั่น ไม่เพียงแค่ใช้ชะล้างผักทั้งยังมีน้ำจากการฆ่าปลา ล้างเนื้อหมู เืสีแดง ใบผักสีเขียว ล้วนกระเด็นขึ้นไปบนขั้นบันได
กู้ซินเยว่เห็นคราบน้ำบนขั้นบันไดจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ชายกระโปรงของนางลากกับพื้นหากนางเหยียบลงไป กระโปรงบนกายนางต้องสกปรกแน่ นางเพิ่งได้สวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสเพื่อให้ญาติผู้พี่รู้สึกประหลาดใจ
หากเลอะเปรอะเปื้อน ก็จะดูไม่ดี!
กู้ซินเยว่คิดเช่นนี้ จึงปล่อยมือที่ประคองฮูหยินเฒ่าออกโดยไม่ทันรู้ตัวนางใช้มือยกชายกระโปรงของตัวเองขึ้น
ฮูหยินเฒ่ากู้คิดแต่จะพบบุตรชายของตัวเองและอยากลองอาหารใหม่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นท่าทางเมื่อครู่ของกู้ซินเยว่
แต่ซ่งฝูที่อยู่ข้างๆ เห็นเข้า
เดิมทีเขาเดินอยู่ข้างหน้าขณะเดินผ่านบ่อน้ำ เห็นว่าบนขั้นบันไดมีคราบน้ำ จึงหยุดฝีเท้าหันไปประคองฮูหยินเฒ่าให้เดินผ่านตรงนี้ไป
หันกลับไปก็เห็นคุณหนูเยว่ปล่อยมือที่ประคองแขนฮูหยินเฒ่าออกนางยกชายกระโปรงเดินลงบันได ส่วนฮูหยินเฒ่าเดินอยู่คนเดียว เดินลงบันไดที่เต็มไปด้วยคราบน้ำหากเท้าเกิดลื่น...
ซ่งฝูไม่กล้าคิด รีบเดินขึ้นหน้าไปประคองมือฮูหยินเฒ่าไว้
เขาหันมองกู้ซินเยว่ด้วยความประหลาดใจทว่าหลังจากพวกเขาเดินผ่าน่ที่มีคราบน้ำ กู้ซินเยว่ก็ปล่อยชายกระโปรงลง แล้วเข้าไปประคองฮูหยินเฒ่าโดยไม่กล่าวอะไรหลังจากประคองแขนฮูหยินเฒ่าแล้วจึงเอ่ยถามซ่งฝู “ญาติผู้พี่ลองอาหารใหม่ที่ไหนงั้นหรือ? ”
ซ่งฝูกล่าวตอบ “ที่นี่ขอรับ”
เขาชี้ไปยังห้องครัวห้องหนึ่งประตูห้องครัวปิดอยู่ มองไม่เห็นด้านใน
ฮูหยินเฒ่ากู้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“ทำอาหารตอนกลางวัน เหตุใดต้องปิดประตูด้วย? อยู่ข้างในไม่ร้อนงั้นหรือ? ”
ตอนซ่งฝูออกมา คุณชายเป็คนบอกให้เขาปิด
เขายังไม่ทันปริปาก ก็เห็นกู้ซินเยว่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งกล่าวกับจื่อเยียนที่อยู่ข้างกายนาง“จื่อเยียน รีบไปเปิดประตู อย่าให้ญาติผู้พี่ต้องทนร้อน! ”
จื่อเยียนขานตอบ เดินขึ้นหน้าผลักเปิดประตูโดยไม่เคาะประตูด้วยซ้ำ
ฮูหยินเฒ่ากู้และกู้ซินเยว่ยืนอยู่หน้าประตูพอเปิดประตู ก็เห็นคนด้านในอย่างชัดเจน
เซี่ยยวี่หลัวยืนหันหลังให้ประตูซ่งฉางชิงยืนหันข้างให้ประตู เพ่งมองการเคลื่อนไหวของมือนางอย่างมีสมาธิจดจ่อ
ต้องใช้เนื้อหมูส่วนใดจึงจะอ่อนนุ่มและหอมที่สุดต้องมีส่วนเนื้อแดงและชั้นไขมันเท่าไร ขณะต้มต้องใส่เครื่องปรุงอะไรบ้าง ต้มนานเท่าไรต้มเสร็จแล้วต้องหั่นอย่างไร
นางอธิบายอย่างละเอียด
ซ่งฉางชิงเผยรอยยิ้มที่มุมปากยืนอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากเซี่ยยวี่หลัวสองก้าว พิงอยู่ข้างปล่องไฟด้วยท่าทางเกียจคร้านจ้องมองมือของเซี่ยยวี่หลัวไม่ละสายตา
ปกติแววตาของเขาจะเ็าและดูขึงขังแต่เวลานี้ แววตาของซ่งฉางชิง อ่อนโยนดุจสายน้ำก็มิปาน!
ในห้วงภวังค์ของกู้ซินเยว่เกิดเสียงราวกับะเิดัง“ตึ้ง”
นางไม่เคยเห็นญาติผู้พี่ที่แววตาอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อนไม่มีความเ็าและเคร่งขรึมเหมือนที่ผ่านมา ราวกับเปลี่ยนไปเป็คนละคน
ญาติผู้พี่เคยมองนางเช่นนี้ที่ไหนกัน?
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูซ่งฉางชิงหันขวับมองออกไปข้างนอก
เขาเหมือนคนเปลี่ยนหน้าเป็อย่างไรอย่างนั้นเมื่อครู่ยังอ่อนโยนนุ่มนวลดุจหยก แววตาอบอุ่น เพียงหันขวับไป ก็กลับสู่ท่าทางเ็าเข้มงวดตามปกติช่างดูเย็นเยียบ
ท่าทางต่างจากเมื่อครู่ราวกับเป็คนละคน!
ในสายตาซ่งฉางชิงเห็นเพียงฮูหยินเฒ่ากู้เขาเดินขึ้นหน้า ฝีเท้ามั่นคงบุคลิกท่าทางงามสง่า “ท่านแม่...”
ฮูหยินเฒ่ากู้มองบุตรชายที่ไม่ได้พบมาหลายวันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตื่นเต้นจนแก้มขึ้นสีแดง “ฉางชิง เ้าดูสิ เหนื่อยจนผอมลงแล้ว! ”
ซ่งฉางชิงกล่าวอย่างอ่อนโยน“ท่านแม่ ฉางชิงไม่เหนื่อย! ”
ฮูหยินเฒ่ากู้แย้มรอยยิ้มตบมือซ่งฉางชิงเบาๆ พร้อมกล่าว “ลำบากเ้าแล้ว! ”
กู้ซินเยว่ย่อตัวเล็กน้อยยิ้มอย่างอ่อนหวานพร้อมกล่าว “ญาติผู้พี่...”
ซ่งฉางชิงพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงถือว่าทักทายแล้ว!
ไม่เห็นเลยว่าวันนี้กู้ซินเยว่ถอดชุดไว้ทุกข์สีขาวออกสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสแล้ว เดิมทีนางก็งดงามมาก ระหว่างทางมา บุรุษจำนวนไม่น้อยต่างก็จับจ้องมาที่ตัวนางอย่างไม่อาจละสายตาดวงตาแต่ละคู่ราวกับอยากแนบติดอยู่บนตัวนางอย่างไรอย่างนั้น
เดิมคิดว่าญาติผู้พี่จะมองนางมากขึ้นใครจะรู้ว่าเขาไม่มองด้วยซ้ำ ก็หันไปทางอื่นแล้ว
แววตาเรียบสงบ ไม่มีประกายใในความงามเหมือนตอนบุรุษคนอื่นมองนางแม้แต่น้อย
นางสวมใส่อะไร เขาไม่ได้สนใจสักนิด
กู้ซินเยว่รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักยิ่งนางรู้สึกอึดอัดใจ ก็ยิ่งรู้สึกแค้นสตรีที่เมื่อครู่นี้ญาติผู้พี่มองแล้วยิ้ม
เซี่ยยวี่หลัวทำงานในมือเสร็จแล้วหันกลับมาเช็ดมือจนสะอาด มองไปทางฮูหยินเฒ่ากู้ เพียงแวบเดียว เซี่ยยวี่หลัวก็จำสองคนนี้ได้แล้ว
นี่คือลูกค้าพิเศษสองคนที่ฮวาเหนียงไปต้อนรับในครั้งแรกที่นางไปฮวาหม่านยีไม่ใช่หรือ? คิดไม่ถึงว่าจะเป็คนในครอบครัวของท่านซ่ง
กู้ซินเยว่จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อนางหันมา มองเพียงแวบเดียว ก็ตกอยู่ในภวังค์เหม่อลอยทันที
ตอนเซี่ยยวี่หลัวจะมา นางเปลี่ยนชุดกระโปรงสีเทาที่ใส่ในบ้านออกสวมใส่เสื้อคอจีนสีเหลืองอ่อนและกระโปรงสีแดงเข้ม ขับให้ใบหน้าเล็กดูงดงามยิ่งขึ้นดวงตาคู่โตสีดำดุจน้ำหมึก ราวกับจะสื่อสารเป็ถ้อยคำได้อย่างไรอย่างนั้น สันจมูกโด่งริมฝีปากเล็กได้รูปเป็สีแดงโดยไม่ต้องแต่งแต้ม ผิวขาวรูปงาม เอวบางประหนึ่งกิ่งหลิวราวกับว่าแค่บีบก็อาจหักได้
งดงามเหลือเกิน!
สตรีผู้นี้ หน้าตาดูดีเกินไปแล้ว!
เมื่อเห็นใบหน้าของเซี่ยยวี่หลัวกู้ซินเยว่ััได้ถึงภัยคุกคามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
คนจากครอบครัวท่านซ่งมาอย่างน้อยก็ต้องกล่าวทักทาย
เซี่ยยวี่หลัวไม่มีท่าทีอิดออดแม้แต่น้อยเดินขึ้นหน้าสองก้าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ย่อตัวคำนับด้วยท่าทางมีมารยาท “คารวะฮูหยินเฒ่า...”
กิริยาท่าทางเหมาะสม ไม่มีท่าทีประจบเอาใจฮูหยินเฒ่ากู้เกินงามเพียงเพราะซ่งฉางชิงเป็ผู้ให้เงินนางนางมีแต่ความเคารพต่อฮูหยินเฒ่ากู้
ฮูหยินเฒ่ากู้เห็นเซี่ยยวี่หลัวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คนผู้นี้คือ...”
กู้ซินเยว่ก็รีบหันมองไปทางซ่งฉางชิงที่อยู่ข้างๆแววตาแฝงความนัยบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้
สตรีผู้นี้ เป็ใครกัน?
ซ่งฉางชิงแนะนำ “ท่านแม่นางคือคนที่นำอาหารชนิดใหม่มาให้แก่เซียนจวีโหลว! ”
เขาไม่ได้บอกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็คนส่งผักตี้เอ่อมาให้
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกขอบคุณยิ่งนัก
เมื่อฮูหยินเฒ่ากู้ได้ยินว่าแม่นางน้อยคนนี้รู้เื่การทำอาหารก็รู้สึกประหลาดใจ “เ้าทำอาหารเป็ด้วย? ”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างฉะฉาน“ฮูหยินเฒ่ากล่าวชมเกินไป ข้าทำเป็แต่เพียงงานบ้านงานเรือนทั่วไปเท่านั้น ไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้เ้าค่ะ!”
ไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้?
ั้แ่นางส่งผักตี้เอ่อมากำไรแต่ละวันของเซียนจวีโหลวก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมสามส่วน นอกจากนาง ไม่มีใครมีความสามารถเช่นนี้อีก!
นางช่างเข้าใจพูดจาเฉไฉทั้งยังพูดเสียเป็เื่เป็ราว
ซ่งฉางชิงที่อยู่ข้างๆตวัดมุมปากเล็กน้อย เหมือนกำลังยิ้ม จากนั้นรีบใช้มือปิดปาก ก่อนจะกลับสู่ความเ็าดังเดิม
กู้ซินเยว่ที่จ้องซ่งฉางชิงอยู่ตลอดแทบยืนไม่ติด
เมื่อครู่เขากำลังยิ้มอยู่ชัดๆ!
ญาติผู้พี่กำลังยิ้ม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้