เมื่อเผชิญหน้ากับใบหน้าอันเ็าของหลิงเฉินริมฝีปากสีชมพูคล้ายกับกลีบดอกไม้ของนางก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็เรียบตรงแม้จะเป็การแสดงออกเพียงเล็กน้อย แต่ก็เผยให้เห็นถึงความรู้สึกคับข้องใจลึกๆที่ทำให้ผู้คนอดรู้สึกสงสารนางไม่ได้ “ข้าเรียกท่านว่านายน้อยแล้วนะแต่ท่านก็ยังแสดงท่าทางดุร้ายใส่ข้า ถ้านายน้อยยังไม่อยากให้อภัยข้ากับคำพูดที่ข้าทำให้ท่านขุ่นเคืองก่อนหน้านี้อย่างเลวร้ายที่สุด ข้าจะให้ท่านจับก้นของข้าเบาๆ สักสองสามครั้ง”
เสียงพูดของนางนุ่มนวลน่าหลงใหล แต่กระนั้นน้ำเสียงของนางก็เหมือนกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ขี้งอนแต่ดูมีเสน่ห์หลังพูดจบเธอก็บิดเอวและแอ่นก้นของเธอขึ้นเล็กน้อยซึ่งดูเหมือนกับพระจันทร์เต็มดวงในมุมโค้งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกร้อนรุ่ม
น้ำเสียง ท่าทางตำแหน่งเช่นนี้แม้แต่จิตใจของคนเืเย็นก็ยังสับสนวุ่นวายสายตาของหลิงเฉินจับจ้องไปที่ก้นอันดูมีชีวิตชีวาของเธออย่างควบคุมไม่ได้หยุดอยู่ที่นั่น่หนึ่งก่อนจะถอนสายตาออกมาอย่างยากลำบากและไม่กล้ามองนางอีก พร้อมทั้งแอบแช่งในใจ “นางแม่มด”
แน่นอนว่านี่คือหญิงสาวที่บุรุษทั้งหลายไม่อาจปล่อยไปได้แม้พวกเขารู้ดีว่าชีวิตของพวกเขาจะต้องสั้นลง
ท่าทางเศร้าโศกเล็กๆ บนใบหน้าของหลิงเฉินทำให้มุมปากของหญิงสาวทรงเสน่ห์ขยับยกเล็กน้อยเธอขยับตัวพร้อมกับก้าวเดินอย่างสละสลวยไปยังเบื้องหน้าของหลิงเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก“นายน้อย ทำไมท่านถึงหยุดพูดล่ะ? ถ้าท่านจะไม่พูดอะไรแล้วงั้นข้าจะถือว่าท่านให้อภัยข้าแล้วนะ!”
เมื่อนางใกล้เข้ามา หลิงเฉินก็ราวกับจะได้กลิ่นอันหอมหวนจากริมฝีปากของเธอชั่วขณะนั้นความรู้สึกร้อนผ่าวเริ่มแผ่กระจายจากส่วนล่างของร่างกายไปทั่วทั้งร่างกายของเขาภายในชั่วพริบตาหลิงเฉินกัดฟันเบาๆใช้ความมุ่นมั่นตั้งใจอย่างมหาศาลระงับความรู้สึกเร่าร้อนอย่างเต็มที่ เขาพูดโดยใช้น้ำเสียงอันเ็า“เ้าเป็ใครกันแน่ทำไมเ้าถึงเรียกข้าว่านายน้อย!”
“เพราะท่านกำราบข้าได้ตอนนี้ข้าต้องเชื่อฟังท่านเท่านั้น และให้ท่านเป็นายน้อยของข้า”
หลิงเฉิน “...”
ความรู้สึกเ็ปราวกับถูกทิ่มแทงเบาๆยังคงอยู่ในหัวของเขาพร้อมกับความรู้สึกเหนื่อยล้าในส่วนลึกเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แวบเข้ามาในความคิดของเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็วหากไม่ใช่เพราะความกังวลและเป็ห่วงที่มีต่อสุ่ยรั่วคอยช่วยฉุดรั้งเขาไว้ก็มีหลายครั้งที่จิตใจของเขาเกือบแตกสลายไปจากการทำลายล้างของ ‘จันทร์ต้องสาป’และความเย้ายวนใจของหญิงสาวทรงเสน่ห์แต่ด้วยความแข็งแกร่งของจิติญญาอันน่ากลัวไร้ที่สิ้นสุดของเขาก็ทำให้เขาเป็ฝ่ายชนะ และในทางตรงกันข้ามพลังนั้นซึ่งตั้งใจจะกลืนกินจิติญญาก็พ่ายแพ้ให้กับจิตใจที่ไม่ย่อท้อของเขาท้ายที่สุดจุดกำเนิดของพลังจิติญญานั้นซึ่งหญิงสาวทรงเสน่ห์เรียกว่า ‘จันทร์ต้องสาป’กลับถูกจิตใจของเขาบุกรุกจนมันต้องตกอยู่ภายใต้คำสั่งและการควบคุมของเขาเสียเอง
ความรู้สึกที่สามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระเช่นนี้ไม่ได้เป็ของปลอมหลิงเฉินยื่นมือขวาของเขาออกไปจับจันทร์เสี้ยวสีดำบนข้อมือซ้ายของเขา นี่คือ ‘จันทร์ต้องสาป’ ซึ่งหญิงสาวทรงเสน่ห์ผู้นั้นกล่าวถึงงั้นเหรอ?ไอเทมชิ้นนี้คืออะไรกันแน่ ทำไมมันถึงเรียกชื่อแบบนี้? อีกทั้งหญิงสาวคนนี้ที่จู่ๆก็เริ่มเรียกเราว่า “นายน้อย” มันอาจจะเป็เพราะว่า...
“บอกความจริงข้ามาก่อน เ้าเป็ใคร!ทำไมเ้าถึงเรียกข้าว่านายน้อย” หลิงเฉินถามในขณะที่เขาก้มหัวลงต่ำตอนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวหน่อยๆ ที่จะเงยหัวขึ้นและมองไปที่หญิงสาวแต่จากท่าทางและกิริยาของเธอ เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็ศัตรูหรืออันตรายใดๆ
“มันง่ายมาก เพราะท่านกำราบ ‘จันทร์ต้องสาป’ ได้ และข้าเป็สิ่งมีชีวิตที่ผูกมัดอยู่กับ ‘จันทร์ต้องสาป’ การกำราบมันได้ก็คือการกำราบข้าได้ด้วยเช่นกันตอนนี้ท่านเป็เ้านายของมัน ท่านก็ย่อมเป็นายของข้าด้วย”เสียงพูดซึ่งออกมาระหว่างริมฝีปากที่ห่อเล็กของหญิงสาวยังคงทำให้หลิงเฉินรู้สึกเหมือนจิติญญาของเขาค่อยๆมึนงง เขารู้ว่าหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้จงใจทำให้หลงเสน่ห์มันเป็เพียงแค่ลักษณะโดยธรรมชาติของเธอเพราะการแสดงสิ่งเย้ายวนใจอย่างจงใจจะไม่สามารถทำให้ผู้คนลุ่มหลงได้ถึงขนาดนี้หลิงเฉินปรับการหายใจของเขาอีกหลายหนก่อนที่จะทำให้ความรู้สึกแปลกๆในร่างกายของเขาค่อยๆ หายไป แค่เพียงเสียงพูดของเธอก็เพียงพอที่จะทำให้คนอย่างเขาที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าเกิดความปรารถนาอยากฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอออกจนหมดสิ้นถ้าหากเป็คนธรรมดาทั่วไปแล้วล่ะก็คงไม่มีใครสามารถรักษาเหตุผลและสติของพวกเขาเอาไว้ได้ภายใต้เสียงพูดของเธอ
“เ้าเป็จิติญญาไอเทมงั้นหรือ?”หลิงเฉินกล่าว ไอเทมซึ่งมีความแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่งจะมีโอกาสให้กำเนิดจิติญญาไอเทมจิติญญาไอเทมเป็การดำรงอยู่ของจิติญญาประเภทหนึ่งพูดให้ตรงกว่านี้ก็คือมันเป็จิตสำนึกซึ่งเติบโตขึ้นมาจากไอเทมเมื่อจิตสำนึกนี้เติบโตเต็มที่ มันจะได้รับกายทิพย์ กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือภาพลวงตาเมื่อกายทิพย์เติบโตจนถึงระดับหนึ่ง หรือประสบกับโอกาสบางอย่างมันจะวิวัฒนาการไปสู่การมีกายหยาบหญิงสาวผู้นี้กล่าวว่าเธอเป็สิ่งมีชีวิตที่ผูกมัดอยู่กับ‘จันทร์ต้องสาป’หรือว่าเธอจะเป็จิติญญาไอเทมจากตำนาน? ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็จิติญญาไอเทมที่มีกายเนื้อ นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะหมดสติตอนนั้นเขาได้จับหน้าอกของเธอ ความรู้สึกลื่นๆ นุ่มนิ่มและอบอุ่นยังคงอยู่ในหัวของเขาและไม่อาจกำจัดออกไปได้ไม่ว่าอย่างไรความรู้สึกนั้นก็ไม่ใช่ของปลอม
“จิติญญาไอเทม?หือนายน้อยจะคิดเช่นนั้นก็ได้ นายน้อยผ่อนคลายได้จากนี้ไปข้าจะเชื่อฟังคำพูดของนายน้อยโดยไม่มีข้อแม้ ตกลงไหม?”ระลอกคลื่นของความอ่อนโยนปรากฏขึ้นในดวงตาของหญิงสาวเสียงพูดที่เหมือนกับเด็กสาวใจง่ายมีเสน่ห์อย่างเป็ธรรมชาติซึ่งทำให้เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของคนผู้หนึ่งอ่อนยวบลงหลิงเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวด้วยท่าทางเ็า “หยุดการกระทำของเ้าซะ!เหตุผลที่เ้าแสดงท่าทางต่ำต้อยเช่นนั้นต่อหน้าข้าก็เพราะเ้าเป็ผู้แพ้อยากจะกลืนกินจิตใจของข้าแต่กลับล้มเหลวและตกอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า ถ้าหากคนที่ล้มเหลวคือข้าจิตใจของข้าคงถูกทำลายจนสิ้นซาก ร่างกายของข้าคงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเ้าอย่างสมบูรณ์และกลายเป็หุ่นเชิดอย่างแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้นข้าจะไม่ลืมความเ็ปซึ่งข้าได้รับว่ามันเป็เช่นไร!! ถ้าข้าไม่อาจควบคุมและเปลี่ยน ‘จันทร์ต้องสาป’ ให้เป็ของข้าได้ข้าก็จะใช้ทุกวิถีทางทำลายมัน และฆ่าเ้าซะ!!”
หญิงสาว “...”
ความรู้สึกที่จิติญญาของเขาถูกทำลายและกลืนกินก่อนหน้านี้รุนแรงและสมจริงมากๆจนกระทั่งสามารถนำเอาความทรงจำที่เขาไม่้าจดจำออกมาได้เขาเชื่อมั่นว่าถ้าไม่ใช่เพราะความดื้อรั้นของเขาจิติญญาของเขาคงจะถูกทำลายไปแล้วอย่างแน่นอน ในขณะที่ทนกับความเ็ปแสนสาหัสจิติญญาทั้งหมดของเขาต่างต่อต้านและดิ้นรนต่อสู้จนเขาลืมเลือนการมีอยู่ของร่างกายตนเองไปแล้วในเวลานี้หลังจากที่สมองเริ่มปลอดโปร่งความคิดของเขาก็ยังคงสับสนและสงสัยอยู่เห็นได้ชัดว่านี่คือโลกเกมเสมือนจริงทำไมการทำลายจิติญญาซึ่งสมจริงขนาดนี้ถึงมีอยู่!
ไม่มีทางที่หลิงเฉินจะเป็คนดีตรงกันข้ามเขาเป็คนที่ไม่ปล่อยอะไรไป สิ่งที่ ‘จันทร์ต้องสาป’ มอบให้เขาคือความเป็ศัตรูจากความพยายามที่จะยึดครองจิติญญาของเขาและหญิงสาวคนนี้คือผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยนิสัยของเขาความขับข้องใจแบบนี้จะต้องชดใช้เป็ร้อยเท่า ทว่า ‘จันทร์ต้องสาป’กลับถูกกำราบโดยเขาทำให้เขาไม่สามารถระบายความเกลียดชังนี้ได้ ‘จันทร์ต้องสาป’นี้จะต้องไม่ใช่ไอเทมธรรมดาอย่างแน่นอน มันสามารถให้กำเนิดจิติญญาไอเทมมันอาจจะเป็ไอเทมระดับเทพลึกลับหรือแม้แต่ผู้พิฆาตนักบุญ!ตอนนี้ถึงแม้คุณจะอ้อนวอนเขา เขาก็ไม่มีทางทำลายมันแน่นอน
สำหรับหญิงสาวผู้นี้หญิงสาวผู้มีเสน่ห์อันมากล้นซึ่งสามารถยึดครองจิติญญาของผู้คนได้อย่างง่ายดายเขายอมรับว่าจริงๆแล้วมันเป็เื่ยากนิดหน่อยหรือจะพูดให้ถูกกว่านี้ก็คือเขาไม่ค่อยเต็มใจนักหากจะต้องวางมือลงบนร่างกายของเธออีกทั้งที่เธอยังเป็เพียงแค่จิติญญาไอเทมของ‘จันทร์ต้องสาป’ เท่านั้น
หญิงสาวเม้มปากแน่นเหมือนเด็กสาวที่ทำผิดอย่างมหันต์และกำลังจะร้องไห้ “เร็วๆ เข้านายน้อยข้ารู้ว่าข้าผิดถ้าท่านยังโกรธข้าอยู่ก็ตีก้นข้าแรงๆ อย่าใจแคบกับข้าเลยตกลงนะข้าจะเชื่อฟังคำพูดของท่าน และจะทำทุกอย่างตามที่นายน้อย้าให้ข้าทำแม้กระทั่งนายน้อยจะให้ข้าถอดเสื้อผ้าและนอนกับนายน้อย ข้าก็จะทำ...”
“เ้าชื่อของเ้าคืออะไร!”หลิงเฉินรู้สึกว่าเืของเขาแข็งตัว เขาขัดจังหวะเธอทันทีเขากลัวว่าหากหญิงสาวคนนี้ยังคงพูดต่อไป ความมุ่งมั่นตั้งใจของเขาคงจะถูกทำลายลง
“นายน้อยงอนข้าเหรอ?”หญิงสาวกระพริบตาที่คลุมเครือ และพูดอย่างน่าสงสาร
“บอกชื่อของเ้ามาแล้วข้าจะไม่โกรธ”
หลังจากพูดประโยคนี้จบหลิงเฉินเองก็สะดุ้งไปชั่วครู่เขาพบว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าของหญิงสาวคนนี้ความโกรธและความเป็ศัตรูของเขาซึ่งสกัดกั้นไว้ในจิตใจหายไปอย่างไม่เหลือซากความเกลียดของการนำเอาจิติญญาของใครไปนั้นรุนแรงยิ่งกว่าการเอาชีวิตของใครคนหนึ่งไปความเ็ปซึ่งเขาได้รับก่อนหน้านี้ยังคงแจ่มชัดอยู่ในจิตใจของเขาแต่ต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้ เขาไม่แม้แต่จะรวบรวมเศษเสี้ยวของความเป็ศัตรูขึ้นมา กลับกันสิ่งที่เขารู้สึกต่อเธอนั้นเป็คลื่นของความปรารถนาซึ่งเขากำลังระงับไว้อย่างหัวชนฝา
หญิงสาวน่าหวาดกลัวผู้นี้...
เธอเป็จิติญญาไอเทมของ ‘จันทร์ต้องสาป’ถ้าหากเราพก ‘จันทร์ต้องสาป’ไปกับเราตลอดเวลา นั่นก็หมายความว่าเราต้องพาหญิงสาวคนนี้ไปด้วยทุกวัน คิดถึงตรงนี้แล้วความสับสนวุ่นวายเล็กๆก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาการใช้เวลายาวนานอยู่กับหญิงสาวคนนี้ซึ่งมีเสน่ห์มากล้นน่าหวาดกลัวต่อบุรุษทั้งหลายเขาไม่รู้ว่าถ้าวันหนึ่งที่เขาไม่สามารถต่อต้านเธอได้และไม่อาจควบคุมตัวเองได้...
เกี่ยวกับหญิงสาวผู้นี้เขาค้นพบว่าแท้ที่จริงแล้วเขาไม่มีความมั่นใจใดๆ เลย
ชื่อของข้าคือ ชีเยว่ชีหมายถึงความงดงามอันเ็ป และเยว่หมายถึงจันทร์เสี้ยว อย่าลืมมันล่ะนายน้อย”หลังจากะโชื่อของตัวเองออกไปท่าทางไม่พอใจอันน่าสงสารของหญิงสาวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย และถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่งดงามจนน่าตกตะลึง“ข้าพูดชื่อของข้าออกไปแล้ว นายน้อยต้องรักษาคำพูดของนายน้อยและไม่งอนข้าอีกนะ!”
หลิงเฉินถอนหายใจออกมายาวๆเขาพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้ดวงตาของเขาสบกับดวงตาของเธอเขายกแขนซ้ายของเขาขึ้นมา ก่อนพูด “บอกข้ามา ‘จันทร์ต้องสาป’ มันคืออะไร?”
ชีเยว่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวด้วยท่าทางที่สง่างามพร้อมกับอากาศอันหอมหวนที่น่าเบิกบานใจซึ่งะเืการรับรู้กลิ่นและจิติญญาของเขาดวงตาอันมีเสน่ห์ของเธอมองไปที่หลิงเฉินพร้อมกับริมฝีปากสีชมพูซึ่งอ่อนโยนเหมือนกับผ้าไหมนุ่มที่เปิดอ้าเล็กน้อยก่อนเปล่งเสียงที่มีเสน่ห์และคลุมเครือออกมา “ตอนนี้นายน้อยเป็เ้านายของ ‘จันทร์ต้องสาป’” ถ้านายน้อย้ารู้ข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับมัน ก็สามารถทำได้ง่ายมากๆ”
ก่อนหน้านี้ตอนที่หลิงเฉินตรวจสอบข้อมูลของมันสิ่งที่เขารู้คือ “????”เมื่อได้ฟังคำพูดของชีเยว่ หลิงเฉินก็รู้สึกกระจ่างแจ้งเขายกข้อมือซ้ายของเขาขึ้นมาที่ตาและตรวจสอบมันอีกครั้งทันใดนั้นข้อมูลของจันทร์เสี้ยวสีดำก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาอย่างชัดเจน
[จันทร์ต้องสาป]: ประเภท: สร้อยจันทราระดับ: ไม่ทราบ เงื่อนไขในการสวมใส่: พิเศษเฉพาะ“หลิงเทียน” ไม่สามารถถอดไม่สามารถดรอป ไม่สามารถลบทิ้ง ไม่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน และไม่สามารถขโมยได้ไอเทมโบราณของปีศาจหลอมโดยเทพจันทราระดับสูงสุดในสมัยโบราณโดยการรวบรวมความเกลียดชัง ความแค้นกลิ่นอายของความตาย กลิ่นอายของเืและพลังที่เหลือจากเทพเ้า ปีศาจ มนุษย์ อสูรและจิติญญาที่ตายในาของเทพเ้าและปีศาจ ใช้ความความพยายาม 10,000 ปีเพื่อรวบรวมความผิดบาปนับไม่ถ้วน ความเกลียดชัง ความกระหายเืและความโเี้ให้เป็หนึ่งซึ่งเป็การหลอมรวมด้านลบอันไร้ที่สิ้นสุดในวันที่มันหลอมเสร็จโลกทั้งใบตกอยู่ในความมืดมิด เมฆทะมึนปกคลุมทั่วทั้งทวีปหลงลืมเทพจันทราสูงสุดเริ่มอยากจะชำระล้างพลังของมันและควบคุมมันแต่เขากลับได้รับาเ็จากการกลืนกินของมัน ร่างกายและจิติญญาของเขาถูกทำลายและหายไปในวินาทีนั้น พลังที่ประกอบ ‘จันทร์ต้องสาป’ ขึ้นมานั้นทำให้มันกลายเป็สิ่งที่ผู้คนเกลียดชังมากที่สุดในโลกเป็สิ่งของที่เป็ลางร้ายที่สุดทั้งยังกลายเป็ไอเทมซึ่งเผ่าเทพจันทราจะหยุดยั้งไม่ทำลายมันไม่ได้การคงอยู่ของมันทุกวินาทีเป็การต่อต้านการลงทันณ์ของ์จนกระทั่งวันที่แกนพลังของมันทั้งหมดกระจัดกระจายนับั้แ่นั้นก็ไม่มีข่าวคราวของมันให้ได้ยินอีกเลยนอกจากนี้ทวีปหลงลืมก็ลืมเื่ราวของตำนานที่เกี่ยวข้องกับมันไปแล้วหลังจากเวลาล่วงเลยไปนาน
หลิงเฉิน “...”