คุณตายกมือขยี้ดวงตาที่แดงก่ำ “ตาเป็ห่วงหลานก็เลยมาหายังไงล่ะ หิวไหม ตาเอาโจ๊กมาฝากด้วยนะ”
เซี่ยเฉินเฟิงหันไปมองโต๊ะข้างตัว
เซี่ยโม่คิดว่าป่านนี้โจ๊กน่าจะเย็นหมดแล้ว หากกินเข้าไปจะไม่เป็ผลดีต่อสุขภาพของคนป่วย
เธอเลยหันไปถามคุณปู่ที่พูดชมเฉินเฟิงเมื่อวาน
“คุณปู่คะ ไม่ทราบว่าที่โรงพยาบาลมีที่อุ่นอาหารไหมคะ”
คุณปู่ตอบอย่างมีน้ำใจ “ไปอุ่นอาหารตรงหม้อต้มในห้องกรอกน้ำได้”
เธอถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ เมื่อวานตอนที่ไปกรอกน้ำในห้องนั้น บนหม้อต้มน้ำเหมือนจะมีกล่องอาหารและอาหารแห้งวางอยู่ แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจพวกมัน
“เฉินเฟิง เดี๋ยวพี่ไปอุ่นโจ๊กมาให้ รอเดี๋ยวนะ” เธอหันไปพูดกับน้องชาย
เซี่ยเฉินเฟิงพยักหน้ารับรู้
เด็กสาวเดินถือหม้อเคลือบลายไปที่ห้องกรอกน้ำ บนหม้อต้มสามารถวางหม้อเคลือบลายเพื่ออุ่นอาหารได้จริงๆ ด้วย
จัดแจงวางหม้อลงไป ก่อนจะไปยืนรอด้านข้าง เธอรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน
ภายในห้อง มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกรอกน้ำอยู่ เมื่ออีกฝ่ายเห็นเซี่ยโม่มองก็ส่งยิ้มกว้างมาให้ หลังจากกรอกน้ำเสร็จก็ถือกาต้มน้ำเดินจากไป
ห้องกรอกน้ำอยู่ห่างจากห้องพักของเฉินเฟิงไม่ไกล เธอกลับไปดูน้องชายหน่อยดีกว่า เธอมองว่าที่นี่คือห้องกรอกน้ำของโรงพยาบาล คงไม่มีใครมายุ่งกับหม้อโจ๊กของเธอ
จังหวะเดินออกจากห้อง เซี่ยโม่เห็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมทำท่าลับๆ ล่อๆ อยู่แถวหน้าห้อง อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้สติไม่ปกติหรืออย่างไร
ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินต่อไปอย่างไม่คิดมาก เมื่อเข้าไปในห้องพบว่าคุณตายังไม่ได้กลับบ้าน
“คุณตา รีบกลับเถอะค่ะ” เธออดพูดด้วยความเป็ห่วงไม่ได้ ทว่าชายชรายังไม่อยากกลับ
“ตาไม่รีบ รอพวกหลานกินโจ๊กเสร็จก่อนแล้วตาค่อยกลับ”
“ก็ได้ค่ะ”
เวลานี้เองพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งว่า “อีกเดี๋ยวจะมีหมอเข้ามาตรวจดูอาการคนไข้ รีบเก็บข้าวของในห้องให้เรียบร้อยล่ะ”
เซี่ยโม่เก็บของรอบๆ เตียง ก่อนจะเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปยังห้องกรอกน้ำ เพื่อดูว่าโจ๊กอุ่นได้ที่หรือยัง
หลังออกมาจากห้องพัก เธอเห็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมคนนั้นเดินออกมาจากห้องกรอกน้ำ
เธอคิดในใจ ผู้หญิงคนนั้นเป็ใคร?
ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะเป็คนเดียวกับที่เจอตอนเดินออกจากห้องกรอกน้ำก่อนหน้านี้
เมื่อกลับเข้าไปในห้องกรอกน้ำ เซี่ยโมพบว่าหม้อโจ๊กของตัวเองร่วงไปอยู่บนพื้น โจ๊กหกเลอะเทอะกระจัดกระจายเต็มไปหมด ส่วนบนหม้อต้มน้ำมีกล่องอาหารสองกล่องวางเอาไว้แทน
เธอโกรธจัด รีบเดินออกจากห้องตามผู้หญิงคนนั้นไป
คลื่นลูกเก่ายังไม่ทันผ่านไป คลื่นลูกใหม่ก็มาอีกแล้ว เื่ของน้องชายยังไม่ทันคลี่คลายดีก็มีเกิดปัญหาใหม่ขึ้นอีก
เซี่ยโม่ตามไปทันก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
และแล้วเธอก็นึกออก ผู้หญิงคนนี้คือน้องสาวแท้ๆ ของหวางลี่ลี่ซึ่งแต่งงานกับสามีที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ ชื่อหวางเมิ่งเมิ่ง
หวางเมิ่งเมิ่งเคยไปบ้านตระกูลเซี่ยที่หมู่บ้านเชาหยางสามสี่ครั้ง ทุกครั้งที่ไป หวางลี่ลี่จะพาเข้าไปพูดคุยในห้อง ทั้งสองคนเป็พี่น้องที่สนิทกันมาก ไม่แปลกหากจะมีนิสัยเหมือนกัน นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะบังเอิญได้เจออีกฝ่ายที่โรงพยาบาล
อีกฝ่ายคงเจอเธอั้แ่แรกแล้ว พอเห็นเธอเอาโจ๊กมาอุ่นในห้องกรอกน้ำจึงจงใจกลั่นแกล้ง
ตอนที่เธอจะออกจากห้องกรอกน้ำ บนหม้อต้มมีแค่หม้อโจ๊กของเธอหม้อเดียว ทว่าตอนนี้กลับมีอาหารสองกล่องวางเอาไว้แทน แล้วก็มีพวกอาหารแห้งอีก
บนหม้อต้มน้ำยังมีที่เพียงพอสำหรับอุ่นอาหาร อีกฝ่ายตั้งใจทำแบบนี้
ถึงแม้ไม่อยากมีประเด็นพิพาท แต่เธอก็ไม่กลัวถ้าต้องมีเื่
เธอชักเท้าถีบก้นอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล
“โอ๊ย…” หวางเมิ่งเมิ่งอุทาน ก่อนที่ตัวจะถลาไปข้างหน้าและล้มลงกับพื้นในที่สุด
น้ำร้อนที่ถือมาด้วยหกกระจายเต็มพื้น
เธอมองสภาพน่าอนาถของอีกฝ่ายอย่างสาแก่ใจ ขณะหันหลังทำท่าจะเดินจากไปกลับถูกพยาบาลสองสามคนยืนขวางเอาไว้
“สาวน้อย เธอทำแบบนี้ไม่ใจร้ายไปเหรอ ถีบเขาแล้วก็คิดจะหนีไป”
“ฉันใจร้าย? คุณตาของฉันอายุมากแล้ว แต่ยังอุตส่าห์เดินจากบ้านมาไกลสิบกว่ากิโลเพื่อเอาโจ๊กมาให้น้องชาย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับโยนหม้อโจ๊กของฉันทิ้ง แล้วเอากล่องข้าวของตัวเองไปวางเอาไว้แทน การกระทำของเธอไม่เรียกว่าใจร้ายเหรอ”
หวางเมิ่งเมิ่งหันหน้ามา พอเห็นว่าเป็เธอ แววตาแดงก่ำพยายามทำท่าให้ตัวเองดูน่าสงสาร
“ฉันเปล่า เธอใส่ร้ายฉัน”
หลายวันมานี้เธออยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลแม่สามี วันนี้บังเอิญเห็นเซี่ยโม่เข้าตอนจะไปกรอกน้ำ
พี่สาวเล่าเื่ที่เกิดขึ้นให้เธอฟังหมดแล้ว รวมถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานด้วย เธอเลยคิดอยากจะสั่งสอนนังเด็กนี่
เซี่ยโม่โต้กลับ “ไม่ได้ทำงั้นเหรอ ไม่ยอมรับใช่มั้ย งั้นฉันจะไปแจ้งความให้ตำรวจมาตรวจลายนิ้วมือบนหม้อ ถ้าตรวจแล้วมันมีรอยนิ้วมือของคุณจริงๆ คุณจะอธิบายว่ายังไง”
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ เธอพูดมั่วอะไรของเธอ ฉันจะรีบไปหาหมอให้จ่ายยาให้ เจ็บจริงๆ เลย…” อีกฝ่ายหลบตา
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นดูออกทันทีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังกลัวเลยคิดจะหนี
คนที่ช่วยพูดก่อนหน้านี้เลยไม่อยากจะเข้าไปยุ่งอีก ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดหนี แสดงว่าเื่นี้เป็ฝีมือตัวเองจริงๆ
เวลานี้เอง เด็กสาวที่เธอเจอในห้องกรอกน้ำพูดขึ้นมาว่า “มิน่าทำไมคุณป้าหวางถึงถามว่าหม้อโจ๊กที่อยู่บนเตาเป็ของพี่สาวคนนี้ใช่ไหม”
ประโยคนี้ทำให้เซี่ยโม่รู้ว่า ผู้ป่วยที่เด็กสาวคนนี้ดูแลอยู่ห้องพักฟื้นเดียวกับผู้ป่วยที่หวางเมิ่งเมิ่งดูแล
“ทุกคนได้ยินแล้วใช่ไหม ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจปัดหม้อโจ๊กของฉันตกพื้นจนกินไม่ได้ ฉันถีบเธอถือว่าทำเกินไปเหรอ”
“ไม่เกินไป” เด็กสาวคนเดิมตอบในทันที
สายตาของคนที่อยู่แถวนั้นต่างมองเซี่ยโม่ด้วยความสงสารเห็นใจ ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบถึงเื่ที่เกิดขึ้นกับคนข้างตัว
เซี่ยโม่ไม่สนใจ เดินกลับเข้าไปในห้องกรอกน้ำ แม้โจ๊กจะกินไม่ได้แล้ว แต่หม้อยังนำกลับมาใช้ใหม่ได้อยู่
เธอหยิบหม้อขึ้นมาด้วยความเ็ปใจ สภาพหม้อยังใหม่มาก หากตอนนี้กลับมีทั้งรอยบิ่นและรอยบุบ
คุณยายเคยบอกว่า หม้อแบบมีฝานี้ คุณลุงเป็คนซื้อให้
ที่ผ่านมาคุณตาคุณยายทำใจใช้ไม่ลง จึงเอาไว้ใส่ไข่ไก่ หากเพื่อหลานชาย คุณยายกลับนำมันออกมาใช้
หากเธอเอามันกลับไปที่ห้องพักในสภาพนี้ คุณตาเห็นเข้าจะต้องรู้สึกเสียใจแน่นอน
เธอเลยนึกภาพโกดังสินค้า มองหาหม้อที่หน้าตาเหมือนกับหม้อใบนี้
หาอยู่นานในที่สุดก็เจอ โกดังสินค้าที่ตามเธอกลับมาเกิดใหม่มีขนาดใหญ่ มีของเก็บเอาไว้มากมาย ของหลายอย่างยังไม่ได้ได้จัดเก็บให้เข้าที่เข้าทาง ซึ่งเธอหามันเจอจากตรงกองนั้น
เธอเดินไปมุมลับสายตา นำหม้อที่เหมือนกับหม้อใบนี้ออกมา แล้วใส่หม้อใบเก่าที่บิ่นและบุบเข้าไปในโกดังสินค้าแทน จากนั้นนำหม้อใบใหม่ไปล้าง ขณะที่กำลังจะเดินกลับห้องพักก็นึกขึ้นมาได้ว่า คุณตาอุตส่าห์เดินทางจากบ้านมาไกลเพื่อเอาโจ๊กมาให้น้องชายกับเธอ แต่กลับต้องมาโดนคนนิสัยไม่ดีและเ้าคิดเ้าแค้นอย่างหวางเมิ่งเมิ่งคว่ำโจ๊กทิ้ง หากเธอกลับไปมือเปล่าคงจะไม่ดีแน่
นึกถึงชีวิตก่อน เธอเคยช่วยผู้หญิงคนนั้น ซึ่งเธอเรียกว่าป้ารองเอาไว้ไม่น้อย เพราะเห็นแก่หน้าแม่เลี้ยง
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับทำตัวเป็หมาป่าตาขาว![1]
ขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิดตัวเอง สายตาพลันเห็นพยาบาลหลายคนกำลังถือถาดใส่โจ๊กและกับข้าวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยแต่ละห้อง
เซี่ยโม่ตาเป็ประกาย รีบไปที่โรงอาหารเพื่อซื้อโจ๊ก ทีนี้น้องชายของเธอก็จะได้มีโจ๊กกิน คุณตาเองก็จะได้ไม่เสียใจด้วย
เธอเดินไปโรงอาหาร โชคดีที่ในโรงอาหารมีโจ๊กขาย คุณตามาที่โรงพยาบาลแต่เช้า น่าจะยังไม่ได้กินมื้อเช้า เธอเลยซื้อซาลาเปาไส้ผักสามสี่ลูกกับพวกผักดองติดมือมาด้วย
ไม่กี่นาทีเธอก็เดินมาถึงห้องพักผู้ป่วยที่น้องชายพักอยู่ “คุณตา โจ๊กอุ่นเรียบร้อยแล้วค่ะ เมื่อกี้หนูไปที่โรงอาหารมา ซื้อซาลาเปามาฝากด้วยค่ะ”
-------------------------------
[1] หมาป่าตาขาว หมายถึง คนอกตัญญู ไม่รู้คุณคน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้