หลังจากที่จางจ้าวฉือพูดจบ สวี่ตี้ที่นอนนิ่งขยับไม่ได้ทางนั้นก็พูดออกมาด้วยความโกรธแต่ไร้เรี่ยวแรงว่า “ท่านแม่ ข้าเองก็อยากกินนะขอรับ”
จางจ้าวฉือหัวเราะแล้วเอ่ยตอบ “เ้าจะกินอะไรเล่า หลายวันนี้เ้าต้องกินอาหารอ่อนๆ คนที่ได้รับาเ็จากภายใน อย่าเพิ่งกินอาหารที่มันเกินไป”
สวี่ตี้กับสวี่เหราคือกลุ่มคนชุดสุดท้ายที่อพยพออกมา ตอนที่วิ่งลงจาก้ากำแพงเมือง เท้าของพวกเขาเหยียบพลาด จึงทำให้ตกลงมาจากกำแพงจนอวัยวะภายในเคลื่อนที่ โชคดีที่ยังรู้จักปกป้องสมอง ตอนที่ตกลงไปกับสวี่ตี้ แต่สวี่เหราแย่กว่าหน่อยที่ศีรษะได้รับการกระแทก และเป็องครักษ์ที่ติดตามไปด้วยยอมเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือ ถึงได้พาคุณชายทั้งสองคนกลับมาได้ มิเช่นนั้น ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะกลายเป็เชลยของคนเป่ยตี้ก็เป็ได้
เื่พวกนี้ไม่กล้าคิดถึงอีก จางจ้าวฉือรู้สึกว่าตอนนี้ทั้งครอบครัวสามารถอยู่ด้วยกันได้ก็ถือว่าเป็เื่ที่โชคดีที่สุดแล้ว เพียงได้รับาเ็ค่อยๆ รักษาก็หายแล้ว ไม่มีเื่อะไรที่ใหญ่เกินไป
สวี่เหราเองก็ตื่นแล้ว แต่ยังไม่กล้าลืมตา เมื่อลืมตาก็รู้สึกว่าโลกมันหมุน ทั้งยังรู้สึกคลื่นไส้ เขารู้ว่าตนเองร่วงลงมาจนสมองได้รับการกระทบกระเทือน จึงหลับตาพลางถามเสียงเบา “จ้าวฉือ เ้าว่าเมื่อไหร่ข้าถึงจะหายดี ทรมานเสียจริง”
จางจ้าวฉือตอบ “ค่อยๆ พักรักษาตัวเถิด ครั้งนี้พวกเ้าน่ะโชคดีที่มีพวกพี่องครักษ์อยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเราก็กลายเป็เด็กกำพร้ากับแม่หม้ายแล้ว บุตรชายที่เพิ่งคลอดของข้าก็เกือบจะไม่มีพ่อกับพี่ชาย เป็พวกเราที่โชคดี ที่ตอนนี้ยังสามารถพักฟื้น อยู่ไฟในกระโจมแห่งนี้ได้”
สวี่เหราเอ่ย “เช่นนั้นเ้าก็จ่ายยามาให้ข้าสิ ข้ากินยาจะได้หายไวๆ น่ะ?”
จางจ้าวฉือเอ่ย “เช่นนั้นเ้าจะต้องรอพักฟื้นให้ดีเสียก่อน ข้าเพิ่งจะคลอดลูก ก่อนจะคลอดลูกก็ยุ่งทั้งวัน ตอนที่คลอดลูกก็เกือบไม่มีแรงเบ่งออกมา ถูกแบกขึ้นหลังต้องลมหนาวตอนมาที่นี่ เหล่าสวี่ เดิมทีข้าก็เป็สตรีอายุเยอะที่คลอดลูกนะ ร่างกายตอนนี้พังยับเยินไปหมดแล้ว”
สวี่เหรารีบร้องขอชีวิต “เอาล่ะๆ ข้าผิดไปแล้วๆ เ้าอย่าพูดเลย ตอนนี้ข้าเวียนหัวหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้ว อยากจะอาเจียน”
ชิงเหมี่ยวได้ยินดังนั้นก็หยิบโถใบหนึ่งออกมาจากใต้เตียง ก่อนจะเอ่ย “คุณชายเ้าคะ ท่านอาเจียนใส่ลงไปในโถนี้ก็ได้เ้าค่ะ”
สวี่เหราทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงเริ่มอาเจียนใส่โถนั้น ผ่านไปสองสามวันแล้วยังไม่ได้รับประทานอาหารดีๆ ในท้องจะมีอะไรให้อาเจียนออกมากัน? สุดท้ายถึงได้อาเจียนน้ำย่อยออกมา รสชาติแสบๆ คอนั้นทรมานมาก
สวี่เหราอาเจียนเสร็จแล้ว ชิงเหมี่ยวก็รีบเอาโถไปทำความสะอาดด้านนอก กระโจมขนาดไม่ใหญ่นี้วางเตียงเอาไว้สามหลัง และพวกเขาอยู่รวมกันหลายคนเช่นนี้ หากไม่ทำความสะอาดของสกปรกให้ทันเวลาก็คงจะไม่สามารถอาศัยอยู่ในกระโจมได้
จนกระทั่งกลางดึก เว่ยหลางถึงได้จัดการกับคนของเป่ยตี้เสร็จ ความจริงแล้วเขาได้รู้จักกับองค์ชายสี่ของเป่ยตี้เป็การส่วนตัว องค์ชายสี่เป็ผู้ที่มีอำนาจอยู่ในราชวังไม่ค่อยมากเท่าใดนัก แต่กลับเป็หนึ่งในห้าองค์ชายที่มีแผนการเ้าเล่ห์ที่สุด เป็คนที่มีความสามารถในการอดทนอดกลั้นเก่งที่สุดผู้หนึ่ง ถึงแม้ครั้งนี้เป่ยตี้จะติดต่อกับคนในเมืองหลวง แต่ว่าเว่ยหลางกลับพึ่งพาการติดต่อเป็การส่วนตัว โดยการนัดเจอกับองค์ชายสี่นามว่าฮาซูล่าตรงพื้นที่ใกล้ๆ กับด่านเยี่ยนเหมิน
มารดาของฮาซูล่าเป็สาวใช้นางหนึ่งในวัง หลังจากถูกจักรพรรดิเป่ยตี้เรียกไปปรนนิบัติยามค่ำคืน ก็มีฮาซูล่าออกมา
ฮาซูล่าไม่เหมือนกับองค์ชายพระองค์อื่น เขาไม่มีครอบครัวอยู่ด้านนอกวังที่แข็งแกร่ง ั้แ่เด็กก็ถูกรังแก แต่ว่าฮาซูล่ากลับค่อยๆ ฝึกฝนจิตใจของตนเองจากการถูกรังแกซ้ำๆ จนกระทั่งเติบโตขึ้นมา บุตรสาวของผู้นำสูงสุดในราชสำนักของเป่ยตี้อยากจะแต่งงานกับเขา หากไม่ใช่เขาก็จะไม่ยอมแต่งให้กับผู้ใด ทั้งยังเอาสินเดิมจำนวนมากมามอบให้กับฮาซูล่า
หลังจากฮาซูล่าแต่งงานไป ถึงได้ค่อยๆ วางแผนให้ตนเองเข้าไปแทนที่คนที่ผู้นำสูงสุดในราชสำนักเป่ยตี้ผู้นั้น พี่น้องคนอื่นๆ ต่อสู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ล้วนเพราะว่ามีครอบครัวฝ่ายมารดาหรือครอบครัวพ่อตาที่มีอำนาจ ถึงแม้พ่อตาของเขาจะยิ่งใหญ่มาก แต่เขากลับแสดงท่าทีนิ่งเฉยมากเช่นกัน ั้แ่ไหนแต่ไรก็เป็คนที่ไม่สะดุดตามาก แต่กลับเข้าตาของเว่ยหลาง
หลังจากติดต่อกับฮาซูล่าได้ เว่ยหลางก็ช่วยขวางอู่ลี่จี๋เอาไว้ด้านในด่านเยี่ยนเหมิน ส่วนราชวงศ์ของเป่ยตี้ เพราะว่าอู่ลี่จี๋ยังมีธานซึ่งเป็พี่ชายใหญ่ของอู่ลี่จี๋ พาหัวกะทิของเป่ยตี้แอบเข้ามาที่ต้าเหลียง ซึ่งเขามักจะถูกคนจากทุกกลุ่มชื่นชมว่าเป็โอรสที่มีอนาคตที่สุดจึงตามมาด้วย โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าจะได้กลับมาอีกหรือไม่ ถ้าหากเพื่อกลุ่มของตนเองแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ต่างไม่มีคำบ่น แต่ครั้งนี้ทุกคนเห็นชัดเจนมากว่า นี่เป็การทำเพื่อองค์ชายห้าล้วนๆ
ฮาซูล่าใช้เื่นี้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง บีบให้องค์จักรพรรดิเป่ยตี้มอบอำนาจทางการเมืองมาให้ ก่อนจะขังพี่ชายทุกคนเอาไว้ ต่อมาก็ประกาศว่าจะต่อรองกับทหารที่ปกป้องต้าเหลียงที่ด่านเยี่ยนเหมิน ให้พวกเขาปล่อยตัวคนเป่ยตี้ที่ถูกจับเอาไว้ออกมา
อัตราการเกิดของคนตอนนี้ไม่สูงนัก บวกกับผลกระทบจากโรคภัยต่างๆ รวมถึงภัยพิบัติ สำหรับเื่ประชากรทุกแคว้นต่างให้ความสำคัญมาก เดิมคิดว่าคนพวกนี้ถูกจับก็หมายความว่าจะต้องตาย ผู้ใดจะรู้ว่ายังสามารถปล่อยตัวออกมาได้อีกครั้ง เื่นี้เป็เื่ที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ อาศัยเื่นี้ ฮาซูล่าก็ได้ใจผู้คนไปมาก
หลังจากเว่ยหลางจัดการเื่นี้เสร็จ ก็มาหาที่กระโจมของครอบครัวสกุลสวี่ เมืองเหอซีถูกอู่ลี่จี๋พาคนมาทำลายจนย่อยยับ ตอนนี้คนที่อพยพมาจากเมืองเหอซีจะพักอาศัยอย่างไรนั้นยังเป็ปัญหาใหญ่
มองสภาพของครอบครัวสวี่แล้ว ในใจของเว่ยหลางก็รู้สึกนับถือมาก “ใต้เท้าสวี่ ข้าจะเขียนสาส์นถึงองค์ฮ่องเต้เพื่อให้พระองค์พระราชทานรางวัลความดีความชอบ ครอบครัวพวกท่านทำเพื่อด่านเยี่ยนเหมินของพวกเรา สร้างผลงานเอาไว้ยิ่งใหญ่มาก”
สวี่เหราโบกมือ อาการสมองกระทบกระเทือนของเขาในตอนนี้ยังสาหัสมาก ตายังไม่อยากที่จะลืมขึ้น
เว่ยหลางเอ่ย “ใต้เท้าสวี่ ข้ามาเพื่ออยากจะปรึกษากับท่านว่าพวกเราจะใช้วิธีในการจัดที่พักอย่างไร ตอนนี้อากาศหนาว จะให้อาศัยอยู่ในกระโจมก็ไม่ใช่ทางแก้ที่ดี ที่บัญชาการก็ไม่พอให้พัก ท่านตรองดูว่าจะเอาอย่างไรดี?”
สวี่เหราหลับตาแล้วชี้ไปทางสวี่ตี้ ทุกคนก็เข้าใจว่าให้เว่ยหลางไปปรึกษากับสวี่ตี้แทน
สวี่ตี้ครุ่นคิดก่อนจะเอ่ย “ซื่อจื่อ จวนแม่ทัพของท่านตอนนี้เป็อย่างไรบ้างขอรับ?”
จวนแม่ทัพเพิ่งจะถูกปรับปรุงจวนในปีนี้ แต่เพราะอยู่ห่างจากประตูทิศตะวันออกค่อนข้างไกล ทหารเป่ยตี้พวกนั้นจึงยังไม่ได้ทำลายไปจนถึงที่นั่น เดิมคิดว่ารอโจมตีด่านเยี่ยนเหมินก่อนแล้วค่อยไปจัดการ ผลสรุปคือพวกนั้นออกจากประตูทิศตะวันตกแล้วก็ไม่มีโอกาสได้กลับเข้าไปอีก
เว่ยหลางกล่าว “จวนแม่ทัพไม่ได้ถูกทำลายรุนแรงมาก แต่ว่าจวนแม่ทัพที่เดียวก็เก็บคนจำนวนมากไม่ได้หรอกนะ”
สวี่ตี้เอ่ยตอบ “ทิศตะวันตกของเมืองยังมีบ้านเรือนที่ยังไม่ได้ถูกทำลายใช่หรือไม่ขอรับ? ในเมื่อตอนนี้เมืองเหอซีเป็เช่นนี้ไปแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็สร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ความคิดของข้าก็คือสร้างเมืองใหม่ตรงที่เดิม แต่ว่าจะต้องสร้างตามที่พวกเราออกแบบ ขอแค่มีบ้านให้พักอาศัย หลังจากสร้างเสร็จพวกเราก็แบ่งบ้านออกเป็ชุดๆ พวกเราสามารถมอบบ้านให้ชาวบ้านไปพักก่อนได้ ทุกเดือนค่อยจ่ายเงินค่าเช่าคืนก็พอแล้วขอรับ”
เว่ยหลางฟังแล้วรู้สึกว่าความคิดนี้แปลกใหม่มาก แต่หากทำจริงขึ้นมาคาดว่าจะต้องมีความยากอยู่ การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งน่ะ หากเจอกับปัญหาก็ต้องหาทางแก้ปัญหาไม่ใช่หรือ ผู้ใดทำสิ่งใดแล้วไม่เจอปัญหาบ้าง
เว่ยหลางตอบ “เช่นนี้ จะต้องเรียกทุกคนมาพูดเื่นี้กันใช่หรือไม่? พวกเ้าวางใจได้ ขอแค่พวกเ้า้าใช้งานคน ทางข้าสามารถหาให้ได้ ต่อไปข้าจะต้องยุ่งกับการแลกตัวประกันกับองค์ชายสี่ของเป่ยตี้ ข้าคุยกับเขาแล้ว ขอแค่คนเป่ยตี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็สามารถใช้แลกของกลับไปได้”
สวี่ตี้เอ่ย “นี่เป็วิธีที่ดีนะขอรับ ตอนนี้พวกเรากำลังขาดแคลนเงิน เช่นนั้นท่านก็ให้พวกเขาเอาเงินทองสมบัติมาแลก พอดีกับที่พวกเขาทำลายเมืองของพวกเรา ก็ต้องจ่ายเงินให้เราสร้างเมืองใหม่ ท่านก็พูดกับพวกเขาว่า ไม่กลัวพวกเขามาทำลายบ้านเมืองของพวกเรา ในเมื่อทำลายไปแล้วพวกเ้าก็จะต้องเอาเงินมาให้พวกเราสร้างใหม่อีกครั้ง”
เว่ยหลางฟังแล้วก็หัวเราะลั่น “เป็เหตุผลเช่นนั้นจริงๆ ได้ ข้าจะบอกกับพวกเขาเช่นนี้ พังของผู้อื่นเขาแล้ว มีหรือจะไม่จ่ายชดเชยให้”
สวี่ตี้เอ่ย “แล้วก็พวกวัวเอย แพะเอย พรมขนสัตว์เอย ที่ขอจำนวนมากได้ก็ขอมานะขอรับ ของพวกนี้สำหรับพวกเขาแล้วไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร แต่พวกเรามีวิธีที่จะทำให้ของพวกนี้มีคุณค่าขึ้นมาได้”
หลังจากเว่ยหลางไปแล้ว จางจ้าวฉือก็ถามสวี่ตี้ “ลูกคิดเื่อะไรขึ้นมาได้อีกหรือ?”
สวี่ตี้เอ่ยตอบมารดา “ข้าจะสร้างเมืองชายแดนขึ้นมาใหม่ขอรับ เมืองนี้ไม่ใช่แค่เมืองบนดินเท่านั้น ข้ายังจะสร้างเมืองใต้ดินด้วย”
จางจ้าวฉือเอ่ย “ลูกรีบพักเถอะ ตอนนี้สร้างบ้านหลังหนึ่งก็ใช้เงินมาก นี่ยังจะสร้างใต้ดินอีก สร้างบ้านดีๆ ไปก็พอแล้ว”
สวี่ตี้เอ่ย “ไอ๊หยา ท่านแม่ของข้า กว่าข้าจะมีโอกาสเช่นนี้ ความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมก็ต้องให้ข้าลองก่อนสิขอรับ อย่างไรตอนนี้พวกเราก็มีเงินในมือแล้ว เหตุใดถึงไม่ทำเสียเลยล่ะขอรับ?”
จางจ้าวฉือเอ่ยขัด “มีเงินที่ไหนกันเล่า ลูกคิดว่าเว่ยหลางเอาคนไปแลกกับเงินทอง พวกเขาก็จะยอมเอาเงินมาแลกงั้นหรือ?”
สวี่ตี้หัวเราะแล้วตอบ “ข้าไม่ได้จับตามองพวกนั้นเฉยๆ หรอกนะขอรับ ยังมีม้าพวกนั้นอีก ท่านคิดว่าม้าพวกนั้นในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว จะสามารถกลับออกไปได้หรือ? นี่มันม้าศึกโตเต็มวัยนะขอรับ ยีนส์ยอดเยี่ยม ตอนนี้อะไรในต้าเหลียงที่มีค่ามากที่สุด ก็ย่อมต้องเป็ม้าศึกย่อมมีค่ามากที่สุด ข้าจะสร้างโรงเลี้ยงม้าสักที่ ไม่ใช่แค่เลี้ยงม้าพวกนี้ ข้าจะฝึกม้าศึกที่ยอดเยี่ยมให้มากกว่านี้อีกด้วย”
จางจ้าวฉือหัวเราะแล้วเอ่ยแซวบุตรชาย “นี่ลูกทำการเกษตรพอแล้วก็เลยเตรียมตัวจะเป็คนฝึกม้าอีกหรือ?”
สวี่ตี้หัวเราะแล้วตอบ “ใช่สิขอรับ โอกาสหาได้ยากนี่นา เหตุใดไม่ลองล่ะ? ข้าตัดสินใจแล้ว จะสร้างลานเลี้ยงม้าเอาไว้ทางทิศตะวันตกของเมืองเหอซี”
จางจ้าวฉือเอ่ย “ลูกตัดสินใจไปแล้วนี่ ไหนมาให้แม่ดูบ่าของเ้าหน่อย าแที่บ่าก่อนหน้านี้แตกอีกแล้วใช่หรือไม่ แล้วก็ขาของเ้า จัดการดีหรือไม่ หากจัดการไม่ดีเ้าจะกลายเป็คนขาเป๋ไปเลยนะ”
สวี่ตี้หัวเราะฮี่ๆ ก่อนจะเอ่ย “ข้าที่เป็ลูกชายของหมอศัลยแพทย์ชื่อดัง ยังไม่รู้อีกหรือว่าาแของข้าจัดการดีหรือไม่ ท่านพักรักษาตัวดีๆ เถิด ข้ารับประกันได้ว่าผ่านไปไม่กี่วันก็จะะโโลดเต้นได้แล้ว เช่นนี้ดีหรือไม่ขอรับ? ไอ๊หยา ข้าจะต้องไปเรียกคนสกุลเหลียงมา หากระดาษกับพู่กันมาข้าจะเขียนเื่ที่จะต้องทำเอาไว้ให้หมด ดูว่าจะต้องจัดการอย่างไรถึงจะดี”
สวี่เหราโบกมือใส่สวี่ตี้ จนคนถูกโบกมือพูดขึ้น “ท่านพ่อ สภาพของท่านในตอนนี้พักฟื้นร่างกายไปดีๆ เถิด ท่านวางใจได้ งานของท่านตอนนี้ข้ารับประกันว่าจะทำให้ดี รับประกันว่าท่านจะไม่ต้องกังวลใจแล้วก็จะมีวิธีที่เป็ไปได้มากที่สุดออกมาให้ท่านได้ชม”
สวี่เหรายังคงโบกมือใส่สวี่ตี้ จนสวี่ตี้หัวเราะแล้วหันไปพูดกับจางจ้าวฉือ “ดูท่านพ่อของข้าสิ สรุปหมายความว่าอย่างไรขอรับ เห็นด้วยกับข้าหรือว่าไม่เห็นด้วยกัน ท่านพ่อ ท่านพักผ่อนไปก่อนเถิด”
สวี่จือมองพี่ชายของตนเองที่ยังพูดหยอกล้อกับท่านพ่อ ก็รีบเข้ามาอยู่ด้านข้างตัวของสวี่เหรา ดึงมือของเขาแล้วพูด “ท่านพ่อเ้าคะ ท่านไม่ต้องร้อนใจนะเ้าคะ ท่านพี่แค่หยอกล้อท่านเล่น รอท่านพักฟื้นหายแล้ว ค่อยไปทำเื่พวกนี้ก็ได้เ้าค่ะ”
ทั้งครอบครัวกำลังหยอกล้อกันเล่น คุณชายน้อยที่เพิ่งเกิดได้หนึ่งวันในห่อผ้าก็ตื่นขึ้นมา แล้วก็ไม่รู้ว่าเพราะหิวหรือว่าอยากปลดทุกข์หนักเบา ปากเล็กเบะออก ก่อนจะร้องไห้ออกมาเสียงดัง
แม่นมลู่รีบเข้าไปอุ้มเขาขึ้นมาแล้วตบก้นเบาๆ “ไอ๊หยา เด็กน้อย เป็อะไรไปหรือ อย่าร้อง อย่าร้อง ไหนให้แม่นมดูซิว่าเ้าฉี่หรือไม่ ฉี่แล้วพวกเรามาเปลี่ยนผ้ากันนะ”
สวี่ตี้ได้ยินเสียงร้องไห้ก็รู้สึกปวดหัว “เ้าเด็กคนนี้ ดื้อจริงๆ ข้าพูดกับเขาแล้วว่าตอนกลางคืนเขาค่อยออกมา เขาก็ยังมาออกระหว่างทาง ทำเอาแม่ข้าเสี่ยงอันตรายขนาดนั้น รอข้าหายดีก่อน ลุกขึ้นได้แล้วข้าจะไปตีก้นเขา”
สวี่จือได้ยื่นหน้าเข้าไปดูแม่นมลู่แกะผ้าที่ห่อออก สรุปว่าเป็ฉี่จริงๆ แม่นมลู่จึงเปลี่ยนผ้าให้ สวี่จือมองผิวแดงๆ ของน้องชายก็ยกนิ้วไปลูบเบาๆ อย่างห้ามใจไม่ได้ ดวงตาวาวขึ้นมา แล้วจึงหันไปพูดกับแม่นมลู่ “แม่นมลู่เ้าคะ นุ่มมากเลยเ้าค่ะ ลูบแล้วเหมือนกับเต้าหู้เลย”
แม่นมลู่ห่อผ้าห่อตัวให้เด็กน้อยไป ปากก็พูดไป “เพิ่งจะเกิดมาได้วันเดียวก็ต้องนิ่มมากมิใช่หรือ รอต่อไปโตขึ้นก็ไม่ได้นุ่มนิ่มเช่นนี้แล้ว”
สวี่เหรากับสวี่ตี้เป็คนกลุ่มสุดท้ายที่อพยพออกมาจากเมือง คืนวันนั้นผู้ช่วยเฉียนก็พาครอบครัวออกมาจากประตูทิศเหนือ ผ่านป่าเขาไปที่ก่านโจว อาลักษณ์หลี่ก็พาคนงาน พนักงานในสำนักงานจัดคนอพยพ เพราะว่าสกุลหลี่อยู่ใกล้กับประตูทิศตะวันตก จึงมาถึงที่นี่เป็กลุ่มแรก หลังมาถึงครอบครัวสกุลหลี่ก็ไม่มีใครว่าง ช่วยปลอบใจประชาชน ช่วยเื่ที่สามารถทำได้ เด็กๆ สกุลหลี่ก็ไม่ได้เลี้ยงมาแบบสบาย ต่างสามารถช่วยจุดเตาไฟตรงด้านนอกที่ว่างๆ เพื่อทำกับข้าวได้
โจ๊กของจางจ้าวฉือก็เป็ฮูหยินหลี่เป็คนช่วยต้มมาให้ สกุลหลี่อยู่ใกล้มาก บวกกับครอบครัวของพวกเขายังมีเด็กเล็ก อาหารละเอียดจึงเอามาเป็จำนวนมาก กลางดึกตอนที่องครักษ์แบกจางจ้าวฉือลงมาจากูเา ฮูหยินหลี่ใจนิญญาแทบจะหลุดออกจากร่าง จากนั้นนางจึงช่วยจัดที่พักให้กับจางจ้าวฉือ ทั้งยังต้มน้ำตาลแดงให้ ทั้งยังต้มโจ๊กเตรียมไว้ให้ รอจนจางจ้าวฉือตื่นขึ้นมานางจึงได้รับประทานโจ๊กร้อนๆ ตอนนี้ในหม้อไม่เพียงแต่ต้มโจ๊ก ฮูหยินหลี่ก็ยังต้มไข่เอาไว้หลายฟองด้วย
ฮูหยินหลี่มองไข่ที่ต้มสุกแล้วก็ตักออกมาวางในถ้วย ก่อนจะพูดกับหลี่เยว่ซีว่า “ซีเอ๋อร์ เ้าเอาเ้านี่ไปให้แม่สามีของเ้าไป”
หลี่เยว่ซีหน้าแดง ยืนขึ้นตบฝุ่นบนตัวของตัวเองเบาๆ แล้วรับถ้วยมาก่อนจะเดินไปที่กระโจมสกุลสวี่ คนที่หมั้นกันแล้วก็สามารถเรียกว่าพ่อสามีแม่สามีได้แล้ว ตอนนี้สวี่ตี้เองก็เรียกอาลักษณ์หลี่กับฮูหยินหลี่ว่าพ่อตาแม่ยาย
หลี่เยว่ซียกไข่เดินเข้าไปในกระโจม ด้านในกระโจมยังคงครึกครื้น สวี่ตี้ได้รับาเ็ที่ขากับบ่า แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางการพูดคุยของเขา เขาหยอกสวี่เหรา แล้วก็หยอกล้อสวี่จือ เถียงกับจางจ้าวฉือ เมื่อห็นหลี่เยว่ซีเข้ามา จางจ้าวฉือก็ยิ้มแล้วเอ่ย “ไอ๊หยา ภรรยาตัวน้อยของสวี่ตี้มาแล้วหรือ เยว่ซี เ้าจะต้องควบคุมปากของสวี่ตี้ดีๆ นะ ให้เขาพูดน้อยๆ หน่อย”
ใบหน้าของหลี่เยว่ซีแดงก่ำ จะเข้ามาก็ไม่เข้า จะไม่เข้าไปก็ไม่ใช่อีก ถือถ้วยหนึ่งยืนยึกยักอยู่ตรงหน้าปากทางเข้ากระโจม
แม่นมลู่ทนต่อไปไม่ไหว จึงรับถ้วยนั้นมา แล้วลากหลี่เยว่ซีเข้ามาด้านใน จากนั้นก็ตำหนิจางจ้าวฉือ “เ้าเป็ผู้ใหญ่เหตุใดถึงดูแลผู้น้อยเช่นนี้ เ้ายังรังเกียจที่คุณชายใหญ่พูดมาก ข้าเห็นว่าเ้าไม่ได้ทำตัวเป็ตัวอย่างที่ดีให้กับคุณชายใหญ่ต่างหากล่ะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้