หั่วอี้หันมองพ่อบ้านหวัง “เื่นี้พ่อบ้านหวังสอบถามความเห็นของฮูหยินผู้เฒ่าแล้วหรือไม่”
พ่อบ้านหวังส่ายหน้า “เรียนท่านแม่ทัพยังไม่ได้สอบถามฮูหยินผู้เฒ่าขอรับ บ่าวคิดว่าจะมาหารือกับฮูหยินเสียก่อนเมื่อได้ความคิดโดยคร่าวจึงค่อยไปสอบถามฮูหยินผู้เฒ่าขอรับ”
หั่วอี้มิได้เอ่ยต่อ ทันใดนั้นก็ไม่มีคนพูดอะไรอีก บรรยากาศในห้องพลันชอบกลขึ้นมา
หลิ่วจิ้งช้อนตาขึ้นมองหั่วอี้และพ่อบ้านหวังสองคนเื่เช่นนี้หากท่านแม่ทัพไม่ออกปาก นางก็จะไม่ไปออกความเห็นใดๆ ทั้งสิ้นหนำซ้ำฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ได้ชื่นชอบนาง
หากเช้าวันนี้นางไม่ได้ยินข่าวจากอาหนูว่าท่านแม่ทัพจะยกฮูหยินใหญ่ให้เป็เอกนางก็ยังคงเชื่อคำสัญญาที่ท่านแม่ทัพเคยบอกว่าจะสมรสกับนางเพื่อรับนางเข้าจวนอย่างออกหน้าออกตาและนางก็จะเป็คนเสนอตัวรับงานในครั้งนี้เพื่อประกาศให้ผู้คนรู้ถึงสิทธิ์และอำนาจของนางในจวนแห่งนี้ด้วย
แต่เมื่อนางรู้แล้วว่าอาศัยเพียงคำพูดของท่านแม่ทัพว่าจะให้ตำแหน่งฮูหยินแก่นางนั้นไม่อาจเชื่อถือได้นางก็จะไม่ไปออกหน้าในเื่ใดๆ หรือวางท่าเป็ฮูหยินอีก เพราะรังแต่จะทำให้ผู้อื่นเห็นแล้วนินทากันสนุกปาก
หลิ่วจิ้งมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นนกที่ไม่รู้ชื่อคอยโผจากต้นไม้มาที่หน้าต่างบ่อยครั้ง นางคิดว่าตนเองก็เหมือนนกตัวนี้นางอยากออกไปก็ออกไม่ได้ นกอยากเข้ามาก็เข้าไม่ได้
อิ๋งเหอมองทุกคนด้วยความอึดอัดใจ ไข่ตุ๋นดอกเก๊กฮวยที่เพิ่งนึ่งเสร็จร้อนๆถึงยามนี้หากยังไม่กินก็จะเย็นชืดหมดแล้วที่นางอุตส่าห์ตั้งใจทำมากว่าครึ่งชั่วยามจะไม่เป็การเสียเปล่าหรอกหรือ
“พ่อบ้านหวัง เช่นนั้นก็ไปสอบถามความเห็นของฮูหยินผู้เฒ่าดูก่อนจึงค่อยตัดสินใจเถิด”ที่สุดหั่วอี้ก็ออกปาก
“ขอรับๆๆ บ่าวจะไปเรียนถามความเห็นของฮูหยินผู้เฒ่าขอรับ”เมื่อท่านแม่ทัพเอ่ยปาก พ่อบ้านหวังเองก็โล่งอก บรรยากาศภายในห้องนี้พิกลเหลือทน
“ไม่ต้องหรอก พ่อบ้านหวังเ้ากลับไปก่อนเื่นี้ไม่จำเป็ต้องให้เ้าไปขอคำชี้แนะกับฮูหยินผู้เฒ่าเ้ารอจัดการเป็พอแล้ว เื่นี้ข้าจะเป็คนตัดสินใจเอง”หั่วอี้รั้งตัวพ่อบ้านหวังเอาไว้
“ขอรับ บ่าวเข้าใจแล้ว เช่นนั้นจะกลับไปรอฟังข่าวจากท่านแม่ทัพบ่าวขอตัวลากลับก่อนนะขอรับ” พ่อบ้านหวังคารวะท่านแม่ทัพกับฮูหยินอีกครั้งก่อนจากไป
“ท่านแม่ทัพเ้าคะ ของว่างจะเย็นหมดแล้วให้ฮูหยินรับของว่างก่อนเถิดเ้าค่ะ” อิ๋งเหออาศัยจังหวะที่พ่อบ้านหวังออกไปรีบเอ่ยปากบอก
หั่วอี้มองไปทางอิ๋งเหอด้วยสายตาชื่นชมสาวใช้ผู้นี้รู้จักดูแลเ้านาย เมื่อครู่อิ๋งเหอคอยมองหลิ่วจิ้งสลับกับของว่างบนโต๊ะอย่างร้อนใจเขาล้วนมองเห็นอยู่ในสายตา
“อิ๋งเหอ ไปบอกที่ห้องครัวว่าข้าจะรับอาหารกับฮูหยินที่นี่”ไม่บ่อยนักที่หั่วอี้จะมีรอยยิ้มให้บ่าว อิ๋งเหอมองจนเหม่อพักหนึ่งจึงได้สติกลับมา ตอบรับว่า “เ้าค่ะ” ก่อนจะรีบออกไปบอกที่ห้องครัวหลัง
“เหตุใดท่านแม่ทัพจึงอยู่ทานอาหารที่นี่เล่า ประเดี๋ยวทางฮูหยินผู้เฒ่าก็เอาหมวกนางจิ้งจอกยั่วสวาทมาสวมให้ข้าอีกหรอกเ้าค่ะ”หลิ่วจิ้งมองท่านแม่ทัพอย่างไม่พอใจ
แต่ไรมายามเที่ยงหั่วอี้จะทานอาหารที่เรือนฮูหยินผู้เฒ่าเป็ประจำจู่ๆ มาเปลี่ยนแปลงดังนี้ด้วยความไม่พอใจที่ฮูหยินผู้เฒ่ามีต่อหลิ่วจิ้งอยู่แต่เดิมหากบอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะปล่อยนางไป นางไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด
“ข้ามีธุระจะหารือกับท่านเมื่อถึงเวลาข้าจะไปอธิบายกับทางฮูหยินผู้เฒ่าเอง นางย่อมเข้าใจและให้อภัยฮูหยินไม่จำเป็ต้องเก็บมาใส่ใจ”
หั่วอี้เอื้อมมือไปเคาะหน้าผากหลิ่วจิ้ง “อีกประการ ข้ากลับอยากให้ท่านเป็นางจิ้งจอกยั่วสวาทสักหน่อยเป็ดีท่านน่ะเ็าเกินไป แม้มีใจอยากชิดเชยท่านกลับต้องห่วงว่าจะถูกท่านให้ชื่อว่าเป็สัตว์เดรัจฉานทำเอาข้ามีใจปรารถนาแต่กลับไม่มีความกล้า”
“อะเฮอะๆๆ…” หลิ่วจิ้งไม่เคยคิดมาก่อนว่าหั่วอี้จะพูดจาเปิดเผยเช่นนี้ทำเอานางหายใจไม่ทั่วท้องจนสำลักเบาๆ ออกมาหลายครั้งกว่าจะทุเลาลง
หั่วอี้ตะลึง ฮูหยินถึงกับมีท่าทีตอบรับรุนแรงขนาดนี้เชียวหรือ? เดิมทีเื่บุรุษเชยชิดสตรีก็เป็เื่ปกติธรรมดานี่
เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับของหลิ่วจิ้ง เขาเองก็รู้สึกไม่เข้าใจความคิดของตนเช่นกันเพราะองค์หญิงเป็คนแรกที่เขาอยากจะร่วมทำเื่สำราญใจเช่นนั้นกับนางแต่้าเคารพต่อการตัดสินใจของนางเสียก่อน
นี่เป็เื่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อคิดถึงสตรีที่ติดตามเขามา จะมีใครไม่หวังให้เขาคอยมาเคาะประตูหาพวกนางทุกเวลามีเพียงองค์หญิงที่จนบัดนี้ก็ยังคงปฏิเสธเขาอยู่ทุกทาง และเขาก็ยอมปล่อยตามใจนางเสียด้วยจนยามนี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกไม่เข้าใจจิตใจของตนขึ้นมาแล้ว
เมื่อเห็นว่าหลิ่วจิ้งถูกเขาทำให้ใคิ้วเรียวของเขาพลันเลิกขึ้นมาน้อยๆ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ความไม่สะทกสะท้านครั้งฮูหยินเผชิญหน้ากับพวกโจรในวันนั้นไปอยู่เสียที่ใดแล้วเหตุใดคำพูดไม่กี่คำของสามีจึงทำให้ฮูหยินตื่นตระหนกเพียงนี้”
หลิ่วจิ้งจับจ้องนิ่งไปที่ตัวหั่วอี้นางเองก็รู้สึกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานิสัยของนางเปลี่ยนไป จากแต่เดิมที่เป็คนเปิดเผยชัดเจนจนตอนนี้ที่กลายเป็คนเก็บงำขี้ระแวงนางก็ยังไม่รู้ว่าการที่นางเป็เช่นนี้ถูกต้องหรือไม่
ดีที่ตอนนี้อิ๋งเหอกลับมาจากไปแจ้งเื่อาหารแล้วจากนั้นก็มีเด็กรับใช้ทยอยยกอาหารเข้ามาและขัดจังหวะการไล่เรียงซักถามระหว่างหั่วอี้กับหลิ่วจิ้งไปชั่วขณะ
หลิ่วจิ้งได้กลิ่นหอมโชยมาเป็ระยะท้องนางก็เรียกร้องให้นางรีบไปเสพสุขกับอาหารรสเลิศเสียที
“ท่านแม่ทัพเชิญเ้าค่ะ คิดว่าท่านแม่ทัพก็คงหิวแล้วเช่นกัน”หลิ่วจิ้งพูดไป แต่ตนเองกลับเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะก่อน
หั่วอี้มีสีหน้าผ่อนคลายลงยามมองหลิ่วจิ้งมานั่งรอที่โต๊ะอาหารจึงตามไปนั่งข้างๆ นาง
“ฮูหยิน สามีมีเื่จะหารือกับท่าน”หั่วอี้พูดพลางช่วยคีบเอ็นขาหมูที่ตุ๋นจนเปื่อยให้หลิ่วจิ้งชิ้นหนึ่ง
“ท่านแม่ทัพเคยเอ่ยคำอ้ำอึ้งไม่ตรงไปตรงมาเช่นนี้แต่เมื่อใดมีเื่ใดก็โปรดเอ่ยออกมาเถิดเ้าค่ะ”
หลิ่วจิ้งยิ้ม ลงมือกับอาหารรสเลิศที่นางหมายตาไว้ต่อไป
“ก็คือเื่ที่พ่อบ้านหวังเอ่ยเมื่อครู่นี้”ถึงตรงนี้หั่วอี้ก็หยุดพูด เขาสังเกตท่าทีของหลิ่วจิ้ง คล้าย้าค้นหาบางสิ่งจากสีหน้าของนาง
“อ้อ ท่านแม่ทัพอยากพูดกับข้าเื่วันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าหรือเ้าคะ?” หลิ่วจิ้งทานไข่ตุ๋นดอกเก๊กฮวยไปช้อนโต นึกชมอยู่ในใจยกใหญ่ว่าฝีมือของอิ๋งเหอนี้นับวันจะชำนาญขึ้นเรื่อยๆส่วนคำถามของหั่วอี้นางกลับไม่ได้เก็บมาใส่ใจเท่าใดนัก
ต่อให้หั่วอี้ไม่พูด นางก็รู้ว่านางสวมหมวกเครื่องยศของฮูหยินอยู่เื่ที่ควรจัดการก็ยังจำเป็ต้องให้นางจัดการอยู่ดี
คงเพราะหั่วอี้รู้ว่านางเพิ่งเข้าจวนมาเป็ห่วงว่านางยังมีเื่ที่ไม่คุ้นเคยอีกมากจึงอยากชี้แนะบางเื่แก่นางกระมัง
นางแอบยิ้มอยู่ในใจ หั่วอี้ก็ประเมินนางต่ำเกินไปแล้วเื่เล็กน้อยเหล่านี้ยังกลัวว่านางจะทำไม่ได้อีกหรือ?
หั่วอี้จ้องนิ่งไปยังหลิ่วจิ้งที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยที่สุดก็ตัดสินใจเฉียบขาดเอ่ยไปชัดเจนว่า “ฮูหยิน สามีคิดว่าก่อนนี้เคยบอกกล่าวกับบ่าวไพร่ทั้งหมดในจวนว่าท่านเป็ฮูหยินให้ทุกคนล้วนทำตามคำสั่งของท่าน”
“หืม อย่างไรหรือท่านแม่ทัพ มีสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือเ้าคะ?” หลิ่วจิ้งหันหน้ามองหั่วอี้
วันนี้หั่วอี้มีท่าทีอ้ำๆ อึ้งๆ จะพูดก็ไม่พูดอยู่หลายครา หากนางยังไม่รู้สึกว่าเกิดเื่ใดขึ้นก็เสียแรงที่นางเป็สตรีปราดเปรื่องผู้หนึ่งแล้ว
“อืม เป็เช่นนี้ฮูหยิน งานวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าปีก่อนๆล้วนเป็ฮูหยินใหญ่จัดการดูแลมาทุกปีประการแรกเพราะนางอยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่ามานาน เข้าใจความคุ้นเคยต่างๆในชีวิตประจำวันของฮูหยินผู้เฒ่าเป็อย่างดี จึงไม่ค่อยเกิดเื่ผิดพลาดประการที่สอง เื่ที่เกิดขึ้นคราก่อนฮูหยินผู้เฒ่ายังคงโกรธเคืองท่านเป็ฟืนเป็ไฟ ฉะนั้นสามีใคร่ครวญดีแล้วคิดว่าเื่งานวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าในปีนี้ก็ยังคงให้ฮูหยินใหญ่เป็คนจัดการเช่นเดิมส่วนฮูหยินท่านก็ไปคอยช่วยเหลือเป็เช่นใด?”
หั่วอี้รวบรวมความกล้าเอ่ยความคิดของเขาออกไปรวดเดียวรู้สึกโล่งใจราวกับทำภารกิจสำเร็จเสร็จสิ้น เขาจับจ้องหลิ่วจิ้งด้วยสายตาเฝ้ารอ
ตะเกียบในมือของหลิ่วจิ้งชะงัก นางมองท่าทีอ้ำอึ้งของหั่วอี้ออกแต่กลับเดาไม่ออกว่าที่เขาอ้ำอึ้งนั้นจะเป็เพราะเื่การจัดสรรคนเป็แม่งานมิน่าเล่าตอนที่พ่อบ้านหวังมาหารือกับนางเื่งานวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่าหั่วอี้จึงให้พ่อบ้านหวังไปเสียที่แท้เพราะเขามีความคิดจะให้นางจ้าวรับงานนี้ไปทำอยู่แล้วนี่เอง
“ใต้เท้าแม่ทัพใหญ่ ท่านจะให้ข้าได้กินอาหารดีๆ หรือไม่เื่เล็กน้อยเพียงนี้ ท่านแม่ทัพกลับพูดจาขึงขังอย่างกับเป็เื่ใหญ่โตทำเอาข้าหลงนึกว่าเป็เื่ใหญ่อันใดเสียอีก ความคิดที่ท่านแม่ทัพเสนอมาดียิ่งนักเดิมทีต่อให้ท่านไม่เสนอเช่นนี้ ข้าเองก็แอบี้เีอยากผลักภาระให้พ้นตัวอยู่แล้วข้าเพิ่งเข้าจวนมากี่วันเท่านั้น ไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมของแคว้นชางอี้ต่อให้ท่านแม่ทัพคิดจะใช้สอยข้าก็ต้องรอให้ข้าคุ้นเคยกับที่นี่เสียก่อนค่อยใช้ข้าก็ยังไม่สาย ใช่หรือไม่เ้าคะ?”
หลิ่วจิ้งพูดจบก็ยิ้มมองหั่วอี้ราวกับรู้สึกโล่งอกนักหนาคล้ายว่านางดีใจที่ได้รับความเอาใจใส่จากเขา
“จริงหรือ ฮูหยินเองก็คิดเช่นนี้หรือ”หั่วอี้กุมมือของหลิ่วจิ้งไว้ทันใด นับว่าเขาวางใจได้จริงๆ เสียที
“จริงสิเ้าคะท่านแม่ทัพ ข้าคิดเช่นนี้จริงๆเวลานี้ท่านแม่ทัพก็วางใจได้แล้ว เช่นนั้นข้าก็ทานต่อได้แล้วใช่หรือไม่เ้าคะ”
“ฮูหยินรีบทานๆ อยากทานสิ่งใด สามีจะคีบให้ท่าน”หั่วอี้พูดพลางคีบอาหารให้หลิ่วจิ้งอีกหลายชิ้นด้วยท่าทีเอาอกเอาใจ
_____________________________
