เ้ากบสีเขียวไม่รู้โผล่มาจากไหนมันะโขึ้นเหยียบตรงหลังคอของเ้ากบดำ ที่มีกริชปักอยู่เ้ากบดำร้องลั่น พร้อมทรุดตัวลงกลายร่างเป็ตัวเล็กเท่าฝ่ามือนอนแน่นิ่ง
หลิวซิงวิ่งมาด้วยความไวใช้กระบี่ท้อแดงฟันเข้าไปที่กบดำ โทษฐานที่ทำให้พี่ใหญ่พี่ต้องเจ็บตัว กบดำนอนแน่นิ่งหงายท้องพร้อมลมหายใจโรยริน
“พี่ใหญ่เป็ยังไงบ้างเ้าค่ะพี่รองาเ็นิดหน่อย ตอนนี้นั่งรอท่านพี่อยู่ใต้ต้นไม้ที่มีเถาวัลย์ห้อยระโยงระยางต้นโน้นเ้าค่ะ”
ซีซีมองไปตามที่น้องเล็กชี้แล้วเดินก้มมาเก็บกริชที่ตกอยู่บนพื้น เดินทางไปหาน้องรองด้วยความเป็ห่วง ตรวจอาการให้หลิวหยางแล้ว ไม่ได้เป็อะไรมากจนต้องกังวล เจ็บตอนโดนเหวี่ยงทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนฉีกขาด และก็เสียพลังปราณไปเยอะ ซีซีให้กินยาฟื้นฟูพลังและยาเสริมพลังปราณ แล้วให้นั่งโคจรพลัง โดยนางและน้องเล็กนั่งเฝ้า
ซีซีรู้สึกว่ามีบางอย่างแอบมองอยู่ จึงมองหาแล้วก็เจอดวงตาใสๆ ของเ้ากบสีเขียวมองนางด้วยตาเหมือนจะขอบคุณมันมองหน้านาง ทำตาพริบๆ เหมือนเรียกร้องความสนใจ มากกว่ามองดูดีๆ มันก็น่ารักแปลกๆ เหมือนกัน
“เ้าไม่ต้องมองข้าแบบนั้นหลอก ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไปช่วยเ้ากำจัดคู่ต่อสู้หรอก ถ้าบังเอิญเ้าไม่วิ่งพาความซวย มาหาพวกข้า เ้าจะไปไหนก็ไปเลยว่าข้าไม่ชอบกินกบย่าง”
“ข้าไม่ได้จะมาเอาตัวเองให้เ้าย่างสักหน่อย ข้าแค่จะมาขอบคุณพวกเ้าเท่านั้น ถ้าไม่ถูกรบกวนจากเ้ากบปีศาจนั่นปานนี้ ข้าคงเป็อสูรระดับสี่สามารถสื่อสารกับพวกมนุษย์ได้แล้ว คิดแล้วมันน่าเสียดายจริง แต่เวลาเข้าใกล้มนุษย์พวกนี้ รู้สึกว่าพลังปราณในตัวเพิ่มขึ้นกว่าจำศีลอีก ไม่ได้การข้าต้องติดตามพวกนางไปให้ได้ ”เ้ากบคิดได้ดังนั้นมันจึงเดินไปที่สระน้ำแล้วะโลงไปในสระทันที
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วยามหลิวอย่างโคจรพลังเสร็จ ซีซีพาน้องทั้งสองคนมาพักอีกที่หนึ่งดูแล้วน่าจะปลอดภัยกว่าและมีพื้นที่โล่งให้นางได้ ตั้งกระโจมอักขระเพื่อที่จะเข้าไปพักผ่อน นางเองก็ต้องโคจรพลังเหมือนกันเพราะรู้สึกเจ็บหน้าอกแต่นางไม่ได้บอกน้องๆ กลัวทั้งสองจะเป็ห่วง น่าจะเป็ตอนที่ไปกระแทกกับต้นไม้ ถึงกินยาฟื้นฟูพลัง เข้าไปแต่ก็ยังมีอาการอยู่
หลังจากได้ยินเสียงหายใจเบาๆ สม่ำเสมอของน้องทั้งสอง “พวกเขาน่าจะหลับสนิทแล้วด้วยความอ่อนเพลียและใกับเหตุการณ์ ”ซีซีมองดูสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ไร้เสียงสัตว์อสูรมีแต่เสียงสัตว์ธรรมดา ซึ่งไม่สามารถเข้ามาใกล้ ใน รัศมี ยี่สิบเมตรที่นางวางค่ายกลไว้ จึงนั่งหลับตาโคจรพลังทันที
ผ่านไปสักพักหนึ่งนางได้ยินเสียงแปลกๆ อยู่นอกกระโจมจึงลืมตาขึ้นมา และลุกไปดูว่ามีอะไรที่สามารถผ่านค่ายกลเข้ามาได้ พร้อมถือกริชในมือสิ่งที่นางเห็นคือ
เ้ากบตัวเขียวพร้อมคาบของพะรุงพะรังเต็มปากนาง แปลกใจมากทำไมเ้ากบถึงผ่านค่ายกลเข้ามาได้ หรือว่ามันเป็ สัตว์อสูรกบระดับสูง แต่ทำไมมันถึงสู้เ้ากบดำปีศาจนั้นไม่ได้
“เ้าเข้ามาได้ยังไงเ้ากบ และขนของอะไรมาเยอะแยะไม่ใช่เ้ากลับลงทะเลสาบไปแล้วรึ”
เ้ากบได้ยินเสียงนางพูด มันรีบคายของในปากออกทั้งหมด ใช้เท้าหน้าผลักสิ่งของทั้งหมดไปให้นาง
“เ้าเอามาให้ข้ารึ ข้าก็บอกเ้าแล้วไงว่าพวกข้าไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเ้ามันเป็เื่บังเอิญเท่านั้น เ้ากลับไปได้แล้ว ข้าจะพักผ่อน”
พูดแล้วกำลังจะเดินกลับ แต่เ้ากบะโงับชายกระโปรงของนางไว้พร้อมส่ายหน้าไม่ยินยอม นางจึงก้มลงมา เพื่อจะเก็บสิ่งของพวกนั้นไว้ เ้ากบจะได้ไปสักที
ของกองอยู่กับพื้น มีหนังสือเก่าหนังเล่มลูกแก้วสีทองคทาเก่าเล็กขึ้นสนิม แหวนเก่าๆ อีกหนึ่งวง แล้วแผ่นหนังเหมือนแผนที่อีกหนึ่งแผ่น นางจึงเปิดหนังสือดูไม่มีอะไรอยู่ข้างในเป็หนังสือเก่ากระดาษออกเหลืองไม่มีข้อความ
“นี่หมายความว่ายังไงเ้ากบ หนังสือเอาให้ข้าไปจุดไฟหึ มีแต่หน้ากระดาษ ไม่เห็นมีตัวหนังสือ”
“เ้ามนุษย์น้อย เ้าไม่รู้เหรอว่านี่คือหนังสือพิเศษจากโบราณกาลต้องหยดเื ลงไปถึงจะอ่านได้มันเป็หนังสือ ตกทอดมาหลายพันปี เ้าจะเอามาจุดไฟเล่นรึเ้ามนุษย์หน้าโง่นี้ ” มันเริ่มหงุดหงิดที่พูดกับนางไม่ได้
เ้ากบมองหน้าซีซีอย่างไม่สบอารมณ์ มันไม่รู้จะสื่อสารอย่างไรถึงใช้พิธีะโใช้ ปลายเล็บอันแหลมคมของมัน สะกิดที่นิ้วมือนางเบาๆ
ซีซีใชักมือกลับพร้อมกับหนังสือที่ติดมือมาด้วย เืหยดลงบนหนังสือดำเก่าเล่มนั้น ปรากฏแสงสว่างจ้าขึ้นมาหนังสือที่ดำเก่า จนหน้ากระดาษเป็สีเหลือง กับมีข้อความและรูปภาพปรากฏขึ้น นางใอ้าปากค้าง
“นี้…นี้! หนังสืออักขระโบราณ ระดับสูงซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่เคยเจอมีแต่ระดับต่ำธรรมดา เ้ากบเ้าเอามาจากไหน”
“มันแน่นอนอยู่แล้วของตกทอดมาั้แ่บรรพบุรุษหลายพันปี เ้าอายุน้อยนิดจะเคยเห็นมันได้ยังไง ”มันมองซีซีแล้วทำท่าส่ายหัวเหมือนเอือมระอา
ซีซีคิดได้ ดังนั้นจึงบีบแผลที่นิ้วมือให้เืหยดออกมาใส่คทาขึ้นสนิม ปรากฏว่าคทานั้นมีแสงสว่างออกมาทันที สนิมหายไปในพริบตา นางไม่รอช้าลูกแก้วแหวนแผ่นหนังนางหยดเืใส่ทั้งหมด นางจะได้ทำแผลทีเดียว ลูกแก้วกลายเป็ลูกแก้วสายรุ้ง
“เก็บไว้ก่อนไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้ ของสวยๆ งามๆ แบบนี้ต้องเก็บ แผนที่มีแสงสว่างส่งมามีข้อความปรากฏเป็ภาพเหมือนท้องฟ้ามีเกาะลอยมีก้อนเมฆ ไม่เข้าใจว่ามันคือแผนที่อะไรเก็บไว้ก่อนแล้วกัน ถ้าใช้ไม่ได้ก็เอาไว้ติดข้างฝา”
“หนอยแน่เ้ามนุษย์นี่คิดจะเอาแผนที่์ ที่บันดาลเซียนทั้งหลาย้าเอาไปติดฝาบ้าน เ้ารู้ไหมว่าคนทั้งใต้หล้าตามหามันอยู่ ”เ้ากบได้ส่ายหัว
ซีซีเห็นมันน่ารักตาแวววาวกลมโต นางจึงลูบหัวมันเพื่อขอบคุณที่เอาของล้ำค่ามาให้ แต่เืที่มือโดนหัวเ้ากบทำให้ทั้งสองคนมีแสงล้อมรอบ ใช่ทั้งสองโดนทำพันธสัญญาโดยไม่รู้ตัว
นี่เกิดอะไรขึ้นอย่าบอกนะว่า “ไม่ๆๆ ข้าไม่ชอบกบ!”
“แต่ข้าชอบเด็กน้อยตัวหอม ข้าพร้อมจะติดตามและปกป้องเ้า” มีเสียงดังขึ้นในกระแสจิต
“โอ้! ข้าเคยเห็นแต่คนที่มีสัตว์อสูรในพันธสัญญา สวยงามทั้งนั้นัหงส์ฟ้าหรือสัตว์เทพอย่างเต่า เสือขาวสิงโตทั้งหมดเก่งกาจทั้งนั้น แต่นี่กบตัวเขียวตัวหนึ่ง ข้าถอนพันธสัญญาตอนนี้ทันไหม ”นางคร่ำครวญอยู่สักพักหนึ่ง แล้วนั่งเงียบสงบสติอารมณ์
“ เ้าไม่ต้องเสียใจไปหรอกสักวันหนึ่งเมื่อข้าบรรลุถึงสัตว์อสูรระดับแปด ข้าจะกลายเป็สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทันที รูปร่าง ก็จะเปลี่ยนไปดูดีกว่านี้แน่นอน ”
“จะว่าไปก็แปลกทำไมข้าไม่ได้ยินเสียงเ้าร้องโอ๊บๆ เลยทั้งที่เ้าเป็กบ”
“ข้าร้องไม่ได้ ถ้าข้าร้องแล้วฝนจะตกไม่หยุดไปหลายวันเลยล่ะ ไว้ข้า้าน้ำมากๆ จึงจะร้องออกมา”
“นอกจากนี้แล้วเ้ายังมีความสามารถอะไรอีก ที่พอจะให้ข้าคิดว่ามันชดเชยกันได้”
“ข้าสามารถพ่นเมือกพิษและขับกล่อมให้ต้นไม้หรือพืชผักเติบโตได้ไวขึ้น และกลายเป็ผักที่มีพลังิญญา เ้าพอใจหรือไม่ แต่ถึงเ้าไม่พอใจก็ทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะข้าจะติดหนึบอยู่กับเ้าเช่นนี้ตลอดไป จนกว่าิญญาจะแตกดับ”
“เฮ้อ.. เ้ามีชื่อว่ากระไรข้าเรียกเ้าข้าว่ากบเขียวก็แล้วกัน เ้าทำไมเ้าถึงเข้ามาในเขตค่ายกลของข้าได้โดยที่ข้าไม่รู้”
“ค่ายกลแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เ้าไม่ลองศึกษาหนังสืออักขระเวทค่ายกลในหนังสือโบราณเล่มนั้นดู”
ซีซีเปิดหนังสือดูอีกครั้งแล้วนางก็จมดิ่งไปกับหนังสือค่ายกล จนลืมว่ายังมีเ้าเขียวอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้เ้ากบน่ามองตาปิ๊บๆ
“ถ้าเ้าเรียนบทแรกไม่ผ่านเ้าไม่สามารถเรียนบทที่สองได้ ” เ้ากบพูดไปเมื่อมองเห็นนางพลิกหน้าต่อไป
“ข้าอยากเรียนค่ายกลก่อนเคลื่อนย้าย เพราะข้า้าตามท่านพ่อท่านแม่ ให้ข้าเรียนเรียกน้ำเรียกฝน มันยังไม่มีประโยชน์ต่อข้าในตอนนี้”
“เ้าก็เอาแค่ผ่านก่อนไม่ต้องให้เก่งมากก็ได้เ้าจะได้เรียน บทต่อๆ ไปอาจมีสิ่งที่เ้าชอบอยู่ในนั้น”
ซีซีนั่งศึกษาค่ายกลตลอดทั้งคืนจนถึงเวลาเช้า น้องทั้งสองตื่นขึ้นมาหลังจากนอนหลับพักผ่อนเต็มที่แล้วเพราะพี่ใหญ่แอบเอายาบำรุงร่างกายให้กิน ทั้งสองหลับสนิทมากแต่ก็ฟื้นฟูพลังให้เต็มที่
ซีซีจึงเล่าเื่ราวทั้งหมดให้น้องทั้งสองฟัง ทั้งสองทำหน้าจะหัวเราะก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง เพราะจากรูปลักษณ์ของพี่ใหญ่เป็หญิงสาวในอนาคตคงสวยล่มบ้านล่มเมือง ไปไหนก็แต่งตัวด้วยชุดสีขาวเหมือนนางเซียนที่สูงส่งไม่มีกิเลสและมลทิน แต่มีดันมีเ้ากบตัวสีเขียวเดินตามต่อยๆ มันช่างขัดแย้งกันยิ่งนัก แต่คิดไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วมีแต่ยอมรับในโชคชะตาเท่านั้น ไม่แน่มันอาจเป็โชคชะตาก็ได้
“เออ! เ้ากบเขียวแล้วกบสีดำ มีความแย้งอะไรกัน”ซีซีถามกบ
“มันเป็ปีศาจกบจากที่อื่น เหมือนมันจะมารอใครอยู่ที่นี่ข้าสังเกตมานาน เลยเข้าไปพูดกับมันดีๆ แต่มันไม่ยอมคุยด้วยแล้วใช้่เวลาที่ข้ากำลังจำศีลเพื่อที่จะเลื่อนขั้นสี่ ที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ มันก็จู่โจมต่อสู้กับข้าทันที เป็อย่างที่พวกเ้าเห็นนั่นแหละ”
“เ้าทั้งสองเตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวเราจะเดินทางไปพื้นที่โล่ง ต้นไม้ไม่เยอะข้าจะใช้อาวุธเวทอักขระพรมบินเดินทางแล้ว สมุนไพรเอาไว้หาทีหลังต้องเดินทางออกจากป่าก่อน”
เ้ากบย่อตัวแล้วเข้าไปอยู่ในกระเป๋าสะพายของซีซี เพราะว่านางมีพลังปราณอยู่แค่ระดับสาม ยังสร้างมิติจิตให้มันไปอาศัยอยู่ไม่ได้ มันต้องกลายเป็กบกระเป๋าไปก่อน
ซีซีบังคับพรมบินออกมาป่ามาได้ก็หมดแรง แม้จะป้อนยาเพิ่มพลังเข้าปากไปหลายเม็ดก็ยังอ่อนล้าอยู่ จึงหยุดอยู่แค่ชายป่า นางจำเป็ต้องโคจรพลังเพื่อรวบรวมพลังปราณก่อนจะเดินทางออกเดินทางต่อ
ชายป่านี้มีชาวบ้าน อาศัยอยู่หลายครอบครัว ที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียว มีร้านค้าอยู่ข้างทางขายอาหารทั่วไปเพราะเส้นทางนี้ เป็เส้นทางที่สามารถเดินผ่านไปยังแค้วนอวิ่นจิงได้
ถึงหนทางจะไม่สะดวกเท่าไหร่แต่ก็มีคนอยู่ไม่น้อย ที่ผ่านมาทางนี้ทำให้กิจการร้านค้าคึกคัก ใน่ที่มีกลุ่มคาราวานเดินทาง แม้เส้นทางไม่สะดวกและมีการปล้น มีสัตว์ป่าบางครั้งโชคร้ายหน่อย เจอสัตว์อสูรทำให้ต้องรวมกลุ่มการเดินทางเพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
ซีซียังไม่ต้องเดินทางไปยังเมืองอวิ่นจิง นางต้องเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพายุหมุนตามหาร่องรอยพ่อแม่ก่อน นางซื้อเสบียงเก็บไว้ใน มิติเวทก้อนดำซึ่งตอนนี้นางสามารถทำให้มันคงสภาพได้แล้วหนึ่งเดือน ของที่พวกเขาซื้อมีไม่มากมีอาหารที่ ไม่ได้ปรุงจากเนื้อสัตว์และขนมไว้ให้น้องเล็กทานผลไม้บางส่วน
ทั้งสามได้เข้าพักในโรงเตี๊ยมขนาดเล็ก มีไว้สำหรับให้พ่อค้าแม่ค้าเดินทางผ่านมาได้พักผ่อน
มีห้องว่างแค่หนึ่งห้องพวกเขาจำเป็ต้องอยู่รวมกัน ในห้องมีเตียงหนึ่งหลังโต๊ะสำหรับนั่งทาน ชาและขนมสองพี่น้องนั่งทานของว่างและเฝ้าพี่ใหญ่โคจรพลังปราณ โดยมีเ้ากบสีเขียวนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำที่ซีซีนำมาจากมิติ ขอน้ำเพิ่มจากเสี่ยวเอ้อ
ผ่านไปหนึ่งชั่วยามซีซีโคจรพลังปราณเสร็จ นางรู้สึกว่าพลังของนางเพิ่มขึ้นอีกแล้วข้อดีของการใช้พลังให้เหลือน้อยที่สุดจะได้พลังเพิ่มเยอะที่สุดเช่นกัน
ทั้งสามคนแยกกันพักผ่อน ห้องมีขนาดเล็กให้น้องรองนอนที่บนเตียงส่วนนางและน้องเล็ก ใช้ผ้าปูเวทอักขระที่ใช้ประจำอยู่ในกระโจมอักขระนอนหลับ โดยมีเ้ากบอาสาเป็เวรยามเฝ้าให้ ถึงอย่างนั้นนางก็ยังกลางอักขระค่ายกลป้องกันการโจมตีไว้รอบห้อง
ทั้งสามคนรีบออกจากโรงเตี๊ยมั้แ่เช้ามืด เดินทางย้อนกลับยังจุดเกิดเหตุลมหมุน ต้องเดินผ่านอีกหลายหมู่บ้านฟังข่าวจากหมู่บ้านต่างๆ ว่ามีใครพูดถึงหรือไม่ ไม่มีใครรู้เื่ลมหมุนแล้วพัดคนกระจายชาวบ้านไม่รู้ข่าวว่าเหตุเกิดที่ไหน
หลิวหยางจำได้แค่ว่าเหตุเกิดตอนกลางคืนมืดมากได้ยินเสียงต่อสู้ และท่านพ่อท่านแม่บอกให้พวกเขาอยู่เงียบๆ แล้วจับน้องรองน้องเล็กมามัดติดกัน โดยจะมัดซีซีทีหลังเหมือนพวกเขาจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่ทันมัดก็เกิดลมหมุนขึ้นเสียก่อนจึงให้ทำหมดกระจายแยกจากกัน มีแต่พวกเด็กเท่านั้นที่ไปตกอยู่มิติของท่านผู้เฒ่า แต่สองสามีภรรยาไม่รู้ไปตกที่ไหน
