“ โอ๊ะ! นี่มันหนังสือตำราสมุนไพรนี่นา พอดีเลยเราอยู่ในดงสมุนไพรแต่ไม่รู้จักชื่อ และสรรพคุณต้องวาดรูปลงไปดู ถ้าจดแต่ชื่อก็จำไม่ได้”ชิ่วอิง คัดลอกหนังจนดึก ถึงได้ดับเทียนนอน
รุ่งเช้ามาก็ตื่นแต่เช้านำสมุดที่วาดภาพสมุนไพร และสรรพคุณเดินเข้าไปยังป่าสมุนไพรเทียบรูป ลักษณะต้นของสมุนไพรและสรรพคุณว่าตรงกับสมุนไพรตัวไหน
่สายมีคนงานเข้ามาดูแลสวนสมุนไพรชิ่วอิงกลับมาที่กระท่อม มาคัดลอกหนังสือ อีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่เสร็จเพราะกว่าอาจาย์เลิกสอนก็เป็่บ่าย
ต้องเย็นชิ่วอิงเอาหนังสือ สมุนไพรไปให้อาจารย์รอง และรับหนังสืออักขระค่ายกลจากอาจารย์ใหญ่ ต้องเอาไปคืนห้องสมุดและ ต้องยืมอีกหนังสืออีกเล่ม
ชิ่วอิงไปที่ห้องสมุด นำหนังสือไปคืนหนึ่งเล่มและยืมหนึ่งเล่ม แวะเอากับข้าวและขนมจากแม่ครัว เด็กน้อยได้กินข้าววันละสองมื้อเท่านั้นคือ่สายกับ่เย็น
“ เด็กน้อยตอนเช้าถ้าเ้าหิวก็เดินมาที่โรงครัวได้แต่ต้องหลบซ่อนหน่อยเพราะแม่ครัวอยู่ในห้องเยอะ หรือไม่เ้าก็เอาขนมหรือผลไม้กินรองท้องไปก่อน”
“ สำนักเรามีแต่สวนสมุนไพรหรือเ้าคะ หรือว่ามีสวนผลไม้ที่ไหนอีก”
“ มีสิเด็กน้อยแต่ว่าสวนผลไม้อยู่ไกลออกไป เ้าต้องเดินทะลุจากสวนสมุนไพรไปถึงจะเจอสวนผลไม้ แต่เวลาเก็บต้องระวังอย่าให้ใครเห็น”
“ เ้าค่ะ ข้าไปแล้วถ้าตำลึงหมดเมื่อไหร่ก็บอกข้าก็แล้วกันเ้าค่ะ”ชิ่วอิงรีบหิ้วอาหารกลับที่พัก
“ ดูเหมือนอาจารย์ใหญ่กำลังศึกษาเื่ อักขระค่ายกลเล่มนี้ต่อจากเล่มเมื่อวานนี้ แต่ถ้าเอามาต่อกัน ดูง่ายกว่าอ่านทีละเล่ม ต้องรีบไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะได้กลับมาคัดลอกหนังสือต่อ เสื้อผ้าเรามีแค่ชุดเดียวลืมไปเลย”ชิ่วอิงรีบไปห้องแม่บ้าน
“ ท่านแม่บ้านพรุ่งนี้ฝากซื้อชุดเอาสีที่มันเปื้อนยากให้ข้าสองชุดเ้าค่ะ”ชิ่วอิงยืนตำลึงให้แล้วรีบกลับ
“วันนี้ต้องทนใส่ไปก่อน ตอนที่หนีภัยแล้งยังอยู่ได้ตั้งหลายวันใส่ชุดไม่ได้ซัก”
“ พรุ่งนี้ต้องไปหาก้อนหิน มาลองสร้างค่ายกลตามที่ได้หนังสือนี้เขียนไว้ รวมกับหนังสือที่ได้มาจากในถ้ำ และที่เราจดมาจากใต้ต้นไม้อีกล่ะ ”ชิ่วอิงดับเทียนนอน ร่างกายนี้ยังเด็กต้องพักผ่อนไม่นอนดึกเหมือนวันก่อน
“ แม่บ้านบอกว่าผลไม้อยู่เลยไปจากสวนสมุนไพร เทียบสมุนไพรสองสามต้นนี้เสร็จเราแอบไปดูดีกว่า”ชิ่วอิงนำรูปวาดมากดูคู่กับของจริงกับต้นสมุนไพร
“ โอ้!”มีผลไม้อยู่เต็มเลย เช้าขนาดนี้คนสวนน่าจะยังไม่มา เสียดายไม่ได้เอามาใส่ ชายกระโปรงนี้แหละ วันนี้เอาแค่ส้มไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”ชิ่วอิงเก็บส้มไปสิบห้าลูกก็รีบกลับกระท่อม
“ ไม่เข้าใจจริงๆให้ข้ามีหน้าที่แค่ยืมหนังสือแค่นี้เองรึ ช่างเถอะจะได้มีเวลาเรียนวิชาที่ชอบ”ชิ่วอิงคัดลอกหนังสือค่ายกลต่อ จนสายจึงเข้าไปให้ห้องครัว ไปแวะรับอาหารและเสื้อผ้าที่ฝากซื้อแล้วรีบกลับกระท่อม
ชิ่วอิงทำหน้าที่วิ่งยืมหนังสืออยู่แบบนี้ผ่านมาเจ็ดวัน “ ดูเหมือนอาจารย์ใหญ่จะยืมหนังสือวนเวียนแต่อักขระค่ายกล ส่วนอาจารย์รองก็เป็หนังสือการปรุงยา หนังสือพวกนี้เราคัดลอกหมดแล้วทำยังไงถึงจะเอาหนังสือและเล่มอื่นมาอ่านได้”
จากการมายืมหนังสือทุกวัน และเวลาอาจารย์เฝ้าห้องหนังสือมีอะไรมาเสนอขาย ชิ่วอิงก็จะซื้อแทบทุกอย่างยกเว้นใช้ไม่ได้จริงๆอย่าง แป้งเครื่องสำอางนางยังไม่จำเป็ต้องใช้ ทำให้เริ่มสนิทกันขึ้น
ชิ่วอิงเห็น ซูลี่อาจารย์เฝ้าห้องหนังสือ ที่ตอนนี้รู้จักชื่อแล้วยืนปัดฝุ่นอยู่ เด็กน้อยเลยอาสาไปช่วย
“ เ้าช่วยได้แต่ห้ามนำหนังสือออกไปนะช่วย อาจารย์ปัดฝุ่นอย่างเดียวก็พอเ้าตัวเล็กปัดกวาดชั้นล่างส่วนตรงที่สูง เดี๋ยวอาจารย์จะปัดฝุ่นทำความสะอาดเอง” เพราะหนังสือดีของทางสำนักอยู่ที่ชั้นบนเลยไม่ให้ชิ่วอิงช่วย
มีหนังสือเล่มเล็กบางสีออกเหลืออยู่ชั้นล่างสุด เป็หนังสือเกี่ยวกับการปรุงยา ชิ่วอิงแอบอ่านให้ได้มากที่สุด จะได้จำแล้วเอาไปจดลงในสมุด
“ วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ถ้าเ้าอยากช่วยก็ให้มาแต่เช้า ตอนที่ห้องสมุดเปิด”ชิ่วอิงยืนคิด “ข้าอยากจะขโมยหนังสือเล่มนี้ไปจดจังเลยจำก็ยากกี่วันถึงจะจำได้หมดทั้งเล่ม”นางได้แต่เดินบ่นไประหว่างเดินกลับกระท่อม
“ เ้าดำ? เ้ามาได้ยังไง บ้านกับที่นี่ก็อยู่กันตั้งไกล แต่!ดีจังข้าจะได้มีเพื่อน”ชิ่วอิงอุ้มแมวดำที่ยืนรออยู่หน้าประตูกระท่อม
“ หิวไหมเ้ากินอะไรมาหรือยัง กับข้าวข้ายังมีอีกเยอะมากินก่อนเถอะ”
“ เมี้ยว” แมวดำร้องตอบมันไม่หิวแต่พูดไม่ได้ “ เ้ากินเยอะๆเลยข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก”
“ ต้องรีบจด การปรุงโอสถลงในกระดาษก่อนเดี๋ยวจะลืมพรุ่งนี้ก็ต้องไปอ่านใหม่ จะจำได้กี่คำกันนะ เล่มสีเหลืองอยู่ชั้นล่างสุด จะขโมยมาก็ไม่กล้ากลัวโดนจับได้”ชิ่วอิงนั่งบ่นมือก็จดไป
“ ระหว่างรอทำ ตำราการปรุงยาเอาอักขระเวทค่ายกลมาต่อกันดู ก้อนหินก็เก็บมาตั้งนานแล้ว ไม่ได้วางเสียที”ชิ่วอิงเอาก้อนหินต่อค่ายกลจนเริ่มมืด เทียนถูกจุดไว้สองเล่มแสงสว่างไม่พอ
“เมี้ยว!” เสียงแมวร้องทำให้ชิ่วอิงหันไปมอง ก็ต้องใเบิกตาค้างเพราะสิ่งที่เ้าแมวดำคาบมาคือหนังสือเล่มสีเหลืองที่นาง้าและนั่งบ่นตอน เ้าแมวดำกินข้าวแล้วมันก็วิ่งหายไป
“ เ้าแมวดำเ้ารู้ได้ยังไงว่าข้า้าหนังสือเล่มนี้แค่ข้าบ่นให้เ้าฟังตอนเย็น เ้าก็รู้แล้วรึโอ้! เ้าช่างเป็แมวแสนรู้เสียจริง ข้าจะรีบจดแล้วจะเอาไปเก็บไว้ที่เดิมนะเข้าใจหรือไม่”
ชิ่วอิงรีบคัดลอก หนังสือการปรุงโอสถจนดึกก็เสร็จ “โอ๊ย!ปวดแขนไปทั้งง่วงนอน เ้าดำเอาหนังสือไปคืนเถอะข้าจะนอนหลับแล้ว”แมวดำเดินมาคาบหนังสือ แล้วะโหายไปในความมืด
ชิ่วอิง ตื่นแต่เช้าเข้าสวนสมุนไพรไปสวนผลไม้ และมาช่วยอาจารย์ซูลี่ ทำความสะอาดห้องหนังสือ รอบนี้จะไม่เปิดอ่านทีละเล่มให้เสียเวลาใช้สายตามอง จากหน้าห้องให้หนังสือเป็สมบัติมีค่า และจดจำตำแหน่งที่วางสีของหนังสือเล่มหนาบางอยู่ชั้นไหน ไว้เท่านั้น
“ แสดงว่าหนังสือเป็สิ่งมีค่ามองออกไปเหมือนกันหมด โดยเฉพาะหนังสือที่อยู่แถวบนสุด อาจารย์ซูลี่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ด้วยสิ”
“ เอ๊ะ! ชั้นบนสุดมีหนังสือเล่มสีเทามีประกายออกมาด้วยหรือว่าเป็หนังสือที่มีค่า ไม่ได้คืนนี้ต้องให้เ้าดำแอบมาขโมยไปคัดลอก จะว่าไปก็แปลกเราอ่านและเขียนได้นิดหน่อย ที่ท่านพ่อสอนไปพร้อมกับพี่ใหญ่พี่รอง ทำไมตอนนี้เราถึงอ่านและเขียนได้คล่องขึ้นกันละ”
แม้ชิ่วอิง จะมาช่วยทำงานปัดฝุ่นหนังสือแต่อาจารย์ซูลี่ ไม่เคยจะเลี้ยงขนมหรือข้าวสักครั้ง วันนี้พอมีเล่มที่หมายตาแล้วชิ่วอิงจึงขอตัวและไปหาแม่บ้านหรือป้าลู่
“ เด็กน้อยพรุ่งนี้เ้าอย่าลืมว่าเป็วันที่หนึ่ง ตีนเขาจะมีร้านค้ามาขายของมากมาย เ้าเตรียมตัวไว้ด้วย เราจะลงไปกัน่สาย เพราะตอนเช้างานเยอะถ้าพร้อมก็แวะมาหาข้าได้”
“เ้าค่ะท่านป้า นี้ข้ามาอยู่ตรงนี้ครบหนึ่งเดือนแล้วหรือเ้าคะ ข้าจำได้ว่าตอนมาสอบคัดเลือกวันที่หนึ่ง”ชิ่วอิงหิ้วอาหารไปกินที่กระท่อม กับแมวดำ
“ เ้าดำคืนนี้เ้าอย่าลืมนะหนังสือชั้นบนสุดเล่มสีเทา ข้ามองเห็นมีประกายออกมา แต่ไม่รู้ว่ามันคือหนังสืออะไร”แมวดำ ตั้งใจฟังคำพูดของชิ่วอิง มันนอนปัดหางไปมาเบาๆ
“ พรุ่งนี้ต้องไปซื้อของตีนเขา หนังสือสมุนไพรกับการปรุงยาก็อ่านจนเข้าใจแล้วหรือว่าจะลองหาซื้อหม้อ แอบเอามาศึกษาและปรุงยาเอง”ชิ่วอิงจดสิ่งของที่้าจะซื้อ คำนวณตำลึงและเตรียมของมีค่าที่เจอในสำนักแห่งนี้ไปขาย
“เมี้ยว” เสียงเ้าดำดังขึ้นพร้อมกับหนังสือเล่มสีเทาในปาก
“ โอ้!เ้ามาแล้วรึึ เ้าสมกับเป็แมวขโมย ตัวจริงเลยนะแต่ข้าก็ชอบเ้าหากไม่มีเ้า ข้าก็ไม่สามารถนำหนังสือออกมาได้”ชิ่วอิงรีบเอาหนังสือจากเ้าดำมาเปิดดูข้างใน
“ เป็หนังสือ เกี่ยวกับการนั่งบำเพ็ญเพียรงั้นรึ จะทำให้อายุยืนยาวร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยและ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ ไม่น่าล่ะพวกอาจารย์อายุห้าสิบยังดูไม่แก่เลย ต้องจดและศึกษาจะได้นำไปบอกพ่อแม่ท่านปู่ท่านย่าแล้ว”
“ ไม่สอนข้าก็เรียนเองได้ สักวันหนึ่งข้าต้องเก่งกว่าพวกท่าน ข้าจะจดจำบุญคุณของพวกท่านไว้ หนังสือไม่ให้เรียนที่พักก็ให้อยู่ในกระท่อมข้างสวน อาหารก็ให้กินของเหลือ เสื้อผ้าไม่มีให้ใส่ข้าจะจำไว้ไม่มีวันลืม”
ชิ่วอิงคัดลอกหนังสือ ที่ส่วนมากจะเป็ภาพประกอบมากกว่า คำอธิบายอยู่ไม่กี่คำเท่านั้น และรีบให้เ้าดำเอาไปคืน
“ขอเวลาข้าแค่ปีเดียวเท่านั้น ข้าจะทำให้ตัวเองเป็ทุกอย่างที่คัดลอกมาทั้งหมด ไม่แน่ถ้าเกิดเราขยันและเข้าใจในสิ่งที่คัดลอกมาอาจจะเรียนรู้ไม่ถึงปีก็ได้”
“ป้าลู่ ข้าพร้อมแล้วเ้าค่ะเราเดินไปซื้อของที่ตีนเขากันเถอะ”
ทั้งสองเดินลงเขา เจอลูกศิษย์ที่มาซื้อของกันหลายคน เพราะชุดของสำนักที่สวยงาม หนึ่งเดือนที่ผ่านมาทำให้ลูกศิษย์ที่อายุ สิบสี่สิบห้าดูสาวและสวยขึ้น มาถึงตอนนี้พวกเขามองชิ่วอิงจากผู้ร่วมสอบคัดเลือกกลายเป็แค่เด็กรับใช้ขั้นต่ำคนหนึ่งเท่านั้น
แน่นอนว่าหากเป็พวกนางจะเลือกกลับไปอยู่บ้าน ไม่ยอมมาเป็คนรับใช้ที่ต้อยต่ำแบบนี้เป็แน่
ตีนเขา มีร้านค้ามาเปิดขายของหลายร้าน ส่วนมากจะเป็อาหารกินเล่นขนม เครื่องประดับเสื้อผ้าและเครื่องบำรุงผิว เพราะสำนักนี้มีแต่ผู้หญิง แต่มีร้านที่ตั้งประจำอยู่แล้วเป็พวกเกี่ยวกับเครื่องเขียน
“ป้าลู่ ข้า้าต้องซื้อของหลายรายการ แต่กลัวตำลึงไม่พอจึงเอาของที่ ท่านย่ากับท่านแม่ให้มาไปขายข้างล่างนี้มีร้านรับซื้อไหมเ้าค่ะ”
“ มีสิชิ่วอิง ร้านอยู่อีกด้านหนึ่งเดี๋ยวข้าจะพาเ้าไป เพราะว่าทุกคนที่มาเรียนต่างเป็คุณหนู มีสมบัติติดตัวมาอยู่แล้วหาก้าสิ่งของก็จะเอาสมบัติไปขายเหมือนกัน”
ชิ่วอิง ขายเครื่องประดับที่ตกหล่นอยู่ในสำนักได้หลายตำลึงทอง แบ่งให้ป้าลู่ ไปหลายตำลึงเงินแต่ป้าลู่รับไปแค่ตำลึงเดียวเท่านั้น
“ทุกวันนี้ป้าก็กินอาหารที่ชิ่วอิงให้ตำลึงซื้อมาทั้งนั้น ตอนนี้ขาดหนึ่งตำลึงคือป้าจะ ซื้อเสื้อผ้าส่งไปให้ท่านแม่เท่านั้น”ชิ่วอิงก็ไม่ได้ถามต่อเขาไม่้าก็ไม่ยัดเยียดให้
ชิ่วอิงเดินหาซื้อสิ่งของที่จดมาได้เกือบครบแล้วขาดแต่หม้อปรุงยา
“ป้าลู่ หม้อปรุงยาขายอยู่ตรงไหนรึข้ามองหาจนทั่วแล้วหาไม่เจอ”
“ แถวนี้ไม่น่ามีอย่างนั้นเราลองไปดูร้านขายของเก่าไหม มีอยู่ร้านหนึ่งอยู่ตรงหัวมุมถนน”ชิ่วอิงพยักหน้า
“ เถ้าแก่ ร้านเ้ามีหม้อปรุงยาไหม ถ้ามีเอามาให้ข้าดูหน่อย”ป้าลู่ออกหน้าซื้อให้ แกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กน้อยจะซื้อไปทำไม
“มีๆ ร้านข้ามีทุกอย่าง มีอยู่สองสามใบเ้าตามข้ามาเลือกเลยว่าจะเอาแบบไหน”
“ชิ่วอิงเ้าชอบใบไหน มีหลายใบป้าก็เลือกไม่ถูก ไม่เคยใช้ไม่รู้ว่าแบบไหนดี”ชิ่วอิง เพิ่งเคยเห็นของจริงครั้งแรกเหมือนกันเคยเห็นแต่ในหนังสือ
(ค่าเงินที่ใช้ หนึ่งตำลึงทอง=10ตำลึงเงิน หนึ่งตำลึงเงิน=1,000อีแปะ)