กล้าที่จะฉกฉวยของจากหลงเฟยเยี่ย สตรีในชุดขาวผู้นี้คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ
ในขณะที่หานอวิ๋นซีกำลังคิด จู่ๆ ก็เห็นพิษสีขาวถูกพ่นออกมาจากป่า จนเกือบจะพุ่งเข้าหาสตรีนางนั้น
“ระวัง มันมีพิษ!”
ทันใดนั้น หลงเฟยเยี่ยก็อุทานออกมา เพียงพริบตาร่างของเขาก็พุ่งลงไปอย่างรวดเร็ว!
เอ่อ…
เขาจะไปหยุดนางหรือจะไปช่วยชีวิตนางกันนะ?
ด้วยนิสัยของเขาแล้ว คงไม่ตะคอกว่า “สมน้ำหน้า” หรือ “ไปตายเสีย” หรอกใช่หรือไม่?
หานอวิ๋นซีตกตะลึง มองอย่างเหลือเชื่อ ในไม่ช้านางก็มั่นใจว่านางคิดไม่ผิดและดูเหมือนเมื่อครู่จะได้ยินคำอุทาน และนางคงได้ยินไม่ผิด ไม่ว่าอย่างไรนางก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าหลงเฟยเยี่ยจะรีบร้อน
สตรีในชุดขาวผู้นั้นคือใคร?
ความเร็วของหลงเฟยเยี่ยนั้นเร็วมากจนสายตามนุษย์มองไม่ทัน มีเพียงเงาดำแวบผ่านไป ในตอนที่เห็นเขาอีกครั้ง เขาก็เหาะหกไปที่ต้นไม้ฝั่งตรงข้ามโดยมีสตรีชุดขาวอยู่ในอ้อมแขนแล้ว
เมื่อมองไปยังร่างทั้งสองที่ใกล้ชิดกัน ใจของหานอวิ๋นซีก็กระตุกอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ก็เพิกเฉยมันอย่างรวดเร็ว
พิษสีขาวสลายไปในพุ่มไม้ ป่าก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง ไม่มีใครรู้ว่างูตัวนั้นตายหรือไม่
หานอวิ๋นซีมองไปที่ฝั่งตรงข้ามจากระยะไกล เห็นแค่เพียงหลงเฟยเยี่ยกำลังคุยกับสตรีผู้นั้น แต่น่าเสียดายที่ระยะทางนั้นไกลเกินไป นางไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของสตรีผู้นั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงเสียงของพวกเขาด้วย
สตรีผู้นั้นคือใคร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับหลงเฟยเยี่ย?
ในขณะที่หานอวิ๋นซีกำลังสงสัย จู่ๆ ก็มีการสั่นะเืของหุบเขา และเห็นงูเหลือมั์พิษที่อยู่ในป่ากำลังพลิกตัว ในขณะที่ร่างของมันม้วนตัว หางงูขนาดใหญ่ก็ฟาดตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่หานอวิ๋นซีอยู่
เมื่อเห็นหางงูขนาดใหญ่ใกล้เข้ามา หานอวิ๋นซีก็ทำอะไรไม่ถูกและมองไปที่หลงเฟยเยี่ยโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกับที่หลงเฟยเยี่ยกำลังจะเข้ามา แต่ใครจะรู้ว่าสตรีในชุดขาวผู้นั้นก็เหาะลงมาอีกครั้ง และตรงไปที่หัวของงูเหลือมั์
“กลับมา!”
หลงเฟยเยี่ยะโ ทว่าสตรีในชุดขาวมองกลับมาด้วยั์ตายั่วยุ กลับกันยิ่งเพิ่มความเร็วและเหาะลงไป
ในขณะเดียวกัน หางของงูปาดเข้าที่ลำต้นของต้นไม้ใหญ่ที่หานอวิ๋นซีอยู่อย่างแรง จนมีเสียง “ตึง” ดังขึ้น
“อ๊าย…”
หานอวิ๋นซีใอย่างมาก ความสูงมากกว่าสิบเมตร นางจะไม่ะโก็ตาย ะโลงไปก็ตายเหมือนกัน นางจึงกอดลำต้นของต้นไม้ไว้ตามสัญชาตญาณ โดยหวังว่าต้นไม้จะค่อยๆ ล้มลง
โดยไม่คาดคิด หางงูขนาดใหญ่ของงูเหลือมั์พิษก็เหวี่ยงมาอีกครั้ง “ตูม!”
“อ๊าย…”
แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะกอดลำต้นของต้นไม้ไว้แน่น แต่แรงกระแทกนั้นแรงมากจนนางไม่แม้แต่จะกอดได้ และปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว ร่างทั้งร่างก็ร่วงลงพื้นทันที
ฉากนี้ หลงเฟยเยี่ยกำลังเฝ้าดูทุกอย่าง สายตาของเขาดูซับซ้อน ทว่าก็กลับหันหลังกลับไล่ตามสตรีในชุดขาวไป
หานอวิ๋นซีที่ล้มหน้าคะมำอยู่ นางไม่เห็นฉากที่หลงเฟยเยี่ยหันหลังกลับไป แต่ในใจของนางก็รู้ดีว่าด้วยความเร็วของเขา หากเขาเลือกที่จะช่วยนาง ก็คงจะช่วยตั้งนานแล้ว!
แต่เขาไม่มา ไม่เฉียดมาเลยแม้แต่นิด!
และไม่รู้ว่านางร่วงลงไปั้แ่เมื่อไร ตอนที่ร่วงลงถึงพื้นแล้วจะเจ็บหรือไม่ก็ไม่รู้ หานอวิ๋นซีทำได้เพียงหลับตาลง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวว่า “หลงเฟยเยี่ย ท่านมันสารเลว! ข้าเกลียดท่านที่สุด!”
หานอวิ๋นซีร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว หลงเฟยเยี่ยที่ตามสตรีในชุดขาวไปทัน ก็เตะนางให้ออกห่างจากงูเหลือมั์พิษอย่างแรง แล้วพูดอย่างเ็าว่า “ตวนมู่เหยา เ้ามีสติหน่อยได้หรือไม่!”
“ข้าคิดว่าพี่เฟยเยี่ยแต่งงานแล้ว จะไม่สนใจความเป็ความตายของเหยาเหยาแล้วเสียอีก” ตวนมู่เหยาที่สวมเสื้อผ้าสีขาว ดูสวยงามราวกับนางฟ้าใน์ชั้นเก้า
นางคือองค์หญิงแห่งอาณาจักรซีโจวพันธมิตรของอาณาจักรเทียนหนิง และเป็ศิษย์น้องของหลงเฟยเยี่ย
“ข้าจะพูดเป็ครั้งสุดท้าย ออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นอย่ามาหาว่าข้าใจร้าย!” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า สายตาเหลือบมองไปทางขวาก็เห็นหานอวิ๋นซีกำลังจะร่วงลงสู่พื้น
ตวนมู่เหยาเลิกคิ้วและมองไป “พี่เฟยเยี่ย พี่คิดว่าชีวิตของข้าหรือชีวิตหวังเฟยของพี่สำคัญกว่าล่ะ?”
ขณะที่นางพูด นางอยากจะเหาะเข้าไปที่หัวของงูเหลือมพิษอีกครั้ง
นี่เป็การเอาชีวิตมาข่มขู่หลงเฟยเยี่ยอย่างชัดเจน!
ความโกรธที่ท่วมท้นฉายชัดในดวงตาของหลงเฟยเยี่ย และพูดด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “หากรนหาที่ตายละก็ หลังจากเ้าอายุสิบแปด ข้าจะทำให้เ้าสมปรารถนาเอง!”
ขณะที่เขาพูด ก็เตะตวนมู่เหยาด้วยขาข้างหนึ่งอย่างแรง ในแง่หนึ่งคือเขาเตะนางเข้าไปในป่าไกลๆ ในอีกแง่หนึ่งคือเขายืมพละกำลังจากนางเพื่อเร่งความเร็วและบินไปหาหานอวิ๋นซี
หานอวิ๋นซีที่สิ้นหวังไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะปิดตาและหันหลังลงพื้น แต่นางก็รู้สึกมั่นใจว่าอีกเดี๋ยวต้องตกลงพื้นจริงๆ
คนที่ะโตึก รู้สึกแบบนี้ใช่หรือไม่?
ในไม่ช้า ด้านหลังศีรษะของนางก็กระแทกพื้นอย่างแรง สมองเหมือนจะะเิออกมา แขนขาของนางทั้งหมดจะแตกเป็ผุยผงหรือไม่นะ?
เป็ใครกันที่เคยบอกว่ามีเขาอยู่แล้วไม่ต้องกลัว?
เป็ใครกันที่เคยบอกว่าจะไม่มีภัยร้ายเกิดขึ้นแน่นอน?
น้ำตาร่วงหล่นจากหางตานางอย่างเงียบๆ นางกัดฟันและลืมตา แม้ว่าจะตาย ก็อยากมองโลกใบนี้เป็ครั้งสุดท้าย
แต่ใครจะไปรู้ว่าทันทีที่นางลืมตา สิ่งที่อยู่ตรงหน้านางกลับเป็ใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้ทุกคนโกรธ เ็าราวกับน้ำแข็งรูปปั้นแกะสลัก
ั์ตาของเขาลึกราวกับสระน้ำเย็น ริมฝีปากของเขาก็บางราวกับปีกจักจั่น
คุ้นเคยมาก แต่ก็แปลกมากเหมือนกัน...หลงเฟยเยี่ย!
หานอวิ๋นซีหัวเราะโดยไม่รู้ตัว นี่เป็ภาพหลอนก่อนที่นางจะตายอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงว่านางจะเพ้อฝันว่าเขามาช่วย
หลงเฟยเยี่ยโน้มตัวลงมาจับเอวของหานอวิ๋นซี และพานางหมุนตัวลงอย่างช้าๆ
หานอวิ๋นซีรู้สึกเพียงว่าภาพลวงตานี้เหมือนจริงมาก แต่มันก็สวยงามราวกับความฝัน ทุกสิ่งในโลกดูเหมือนจะหายไป เหลือเพียงนางและเขาเท่านั้น
นางลืมความกลัว ลืมความเกลียดชังและจมอยู่ในดวงตาของเขาที่ลึกราวกับทะเล ยื่นมือไปลูบแก้มของเขาเบาๆ โดยไม่รู้ตัว
แต่ใครจะคิดว่าในขณะเดียวกัน คิ้วที่หล่อเหลาของหลงเฟยเยี่ยก็ขมวดคิ้วทันที ดวงตาที่เ็าอยู่แล้วก็เ็าอีกครั้ง
เวลานี้ หานอวิ๋นซีจึงสะดุ้งตื่น!
ชายผู้นี้ขมวดคิ้วได้...นี่มันตัวจริงชัดๆ!
นางตกตะลึงอ้าปากค้าง มือของนางค้างอยู่บนใบหน้าของเขา และทันทีที่เขาพานางลงมาถึงพื้น ก็ปล่อยมือแล้วปัดมือของนางที่แตะแก้มออกด้วยความขยะแขยง
หานอวิ๋นซีที่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ขาทั้งสองก็อ่อนแรงและทรุดลงทันที ในที่สุดนางก็ได้สติกลับคืนมา
เมื่อนึกถึงมารยาทของนางในตอนนี้ หานอวิ๋นซีหน้าแดงทันทีและอายมากจนนางลืมที่จะลุกขึ้น
หลงเฟยเยี่ยมองลงมาด้วยใบหน้าที่มืดมน ทว่าสุดท้ายก็กลับเอื้อมมือไปดึงนางไว้
ใบหน้าของหานอวิ๋นซีแดงก่ำ เมื่อมองไปที่มือหนาของเขา นางก็รู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะยื่นมือออกไป ทว่าหลงเฟยเยี่ยกลับพูดอย่างเ็าว่า “ตัวปัญหา”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา มือของหานอวิ๋นซีก็แข็งค้าง และดึงมือกลับมาอย่างรวดเร็ว
ความผิดหวังฉายชัดในดวงตา แล้วก็ตามมาด้วยความโกรธเกรี้ยว!
นางไม่ได้บอกว่าจะตามมาด้วย เป็เขาต่างหากที่บังคับให้นางมาล้างพิษงู
นางที่ใกลัวมาก จนไม่แม้แต่จะตำหนิเขาสักประโยคเดียว แต่เขาก็กลับมารังเกียจนางไปก่อน
ต้องขอบคุณหัวใจที่อบอุ่นของนาง ตอนนี้ดูเหมือนว่าทั้งหมดจะเป็ความคิดของนางเพียงฝ่ายเดียว เมื่อครู่เป็่เวลาความเป็ความตายของนาง แต่เขาก็เลือกคนอื่น โดยที่ไม่ได้สนว่านางจะเป็หรือตายก็ตาม และการที่เข้ามาช่วยนางอย่างรีบร้อยในตอนนี้ เดาว่าเขาคงกลัวว่าตอนกลับไปจะลำบากที่จะอธิบายกับฮ่องเต้เทียนฮุย
หานอวิ๋นซีวางมือลงบนพื้นเพื่อที่จะออกแรงดันตัวลุกขึ้นยืน จากนั้นก็จ้องมองไปที่หลงเฟยเยี่ย “ชีวิตของข้ามันไม่มีค่า ข้ามันตัวปัญหา แล้วปัญหาก็เป็ท่านที่หามันด้วยตัวเอง! พาข้าออกมาอย่างไร ก็พาข้ากลับไปเช่นนั้นเลยนะ! ถ้าผมหลุดไปสักเส้น ข้าก็ไม่มีทางรักษาไท่จื่อให้หายได้!”
สีหน้ารังเกียจของหลงเฟยเยี่ยแข็งทื่อเล็กน้อย และพูดอย่างเ็าว่า “อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย เ้าก็ยังมีชีวิตอยู่นี่”
ในขณะที่เขาพูด ก็หลีกเลี่ยงการจ้องมองด้วยความโกรธของหานอวิ๋นซี เขาหันกลับมาและมองไปที่งูเหลือมั์พิษที่ยังคงดิ้นรนอยู่ ก็เห็นว่างูเหลือมั์พิษยังคงพ่นพิษสีขาวออกมา เพียงแต่ไม่ได้มากเท่าก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเป็ลมหายใจสุดท้ายของมัน
หานอวิ๋นซีพูดไม่ออก ลังเลที่จะพูด ท้ายที่สุดก็ไม่พูดอะไรออกมา
นางสงสัยว่าตอนนี้สตรีในชุดขาวอยู่ที่ไหน? ออกไปแล้วหรือยัง?
สตรีผู้นั้นไปที่หัวงูอย่างตั้งใจ ดูเหมือนว่าไม่ได้มาเพื่อเอาจินตานงู เช่นนั้นนางมาที่นี่เพื่ออะไรกัน?
นางกับหลงเฟยเยี่ยรู้จักกัน เมื่อครู่ก็เห็นได้ชัดว่าหลงเฟยเยี่ยกลัวนางจะโดนพิษเลยเข้าไปช่วย
หานอวิ๋นซีที่สงสัยก็ยิ่งสงสัย แต่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น หลงเฟยเยี่ยไม่รู้หรือไรว่า หากเขาช้าไปเพียงก้าวเดียว นางต้องตายแน่ๆ!
ท้ายที่สุดโชคดีที่เขามาพานางไป เขาเห็นชีวิตของนางเป็แค่ขี้หมูราขี้หมาแห้งสินะ?
หลงเฟยเยี่ยรอให้งูเหลือมั์พิษตาย ขณะที่หานอวิ๋นซีก็นั่งไขว่ห้างโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ถ้าไม่ใช่เพราะพิษของงูเหลือมั์พิษนั่น ด้วยความสามารถของหลงเฟยเยี่ย เขาคงได้รับจินตานงูไปนานแล้ว จนถึงตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงรอให้งูเหลือมั์พิษหมดลมหายใจ
อย่างไรก็ตาม ผ่านไปไม่นาน หลงเฟยเยี่ยก็หมดความอดทน
เขาะโขึ้นไปบนต้นไม้เล็กๆ ข้างเขา หยิบธนูออกมา เล็งไปยังตำแหน่งที่พิษสีขาวโผล่ออกมา และเริ่มการโจมตีอีกครั้ง
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
ลูกธนูที่แหลมคมหลายดอกพุ่งลงไป นอกจากจะไม่อ่อนแรงแล้ว ก็ยังแข็งแกร่งกว่าเดิมอีกด้วย เห็นเพียงเืที่สาดกระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
หานอวิ๋นซีรู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองสิ่งนี้ ตอนนั้นเองนางจึงจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังโกรธ เขาอารมณ์เสียมากและเห็นได้ชัดว่าเป็การระบายความโกรธของเขา!
ถ้านางไม่มีประโยชน์ต่อเขา เดาว่าคงจะกลายเป็เป้าหมายของการระบายความโกรธของเขาไปแล้ว?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็ตัวสั่นขึ้นมา
นางคิดว่า ความขัดแย้งของนางเมื่อครู่คงไม่ได้ทำให้ชายผู้นี้โกรธ อย่างไรนางก็ไม่ได้มีค่าในสายตาเขาอยู่แล้ว
คงจะเป็สตรีในชุดขาวผู้นั้นที่ยั่วโมโหเขาสินะ
เห็นได้ชัดว่าหานอวิ๋นซีไม่ได้อยากรู้อยากเห็นมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม นางเริ่มสงสัยอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
แม้จะรู้ว่าเขาไม่คงไม่พูด แต่ก็ยังอยากที่จะถาม
หานอวิ๋นซีตบตีกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เอาเถอะ ตอนนี้นางยังโกรธอยู่ เล่นาเย็นกับเขา! ไม่ถาม!
แม้ว่าการโจมตีของหลงเฟยเยี่ยจะรุนแรงมากขนาดไหน แต่งูเหลือมั์พิษตัวนี้ก็เป็งูที่มีอายุหลายปี ดังนั้นมันไม่ง่ายเลยที่จะตาย
หางงูขนาดใหญ่ยังคงแกว่งไปมาอย่างดุเดือด แม้แต่หัวงูเปื้อนเืก็ชูขึ้นหลายครั้ง พ่นพิษสีขาวเป็วงกลมรอบๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลงเฟยเยี่ยก็เริ่มหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อยๆ เขาะโลงจากต้นไม้และเดินไปข้างหน้าเพื่อหาตำแหน่งที่ดีกว่าในการโจมตี
หานอวิ๋นซีมองไปที่แผ่นหลังของเขาด้วยใบหน้าที่มืดมน โดยที่ไม่พูดอะไร คิดในใจว่า ท่านจะไปก็ไปเถอะ ไปให้ไกลๆ ปล่อยนางไว้ที่นี่คนเดียว หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในภายหลัง เขาต้องรับผิดชอบ!
โดยไม่คาดคิด หลงเฟยเยี่ยที่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว ก็หันกลับมามองหานอวิ๋นซีแล้วสั่งว่า “ลุกขึ้น”
“ทำไม?” หานอวิ๋นซีถามอย่างไม่แยแส
หลงเฟยเยี่ยที่ไม่ตอบนาง ทว่าจู่ๆ ก็ดึงนางให้ลุกขึ้น โอบนางไว้แน่นแล้วเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า เหาะไปที่ด้านข้างของต้นไม้ที่มีความสูงเจ็ดหรือแปดเมตร
“อ๊าย...” หานอวิ๋นซีะโอยู่บนยอดต้นไม้ เมื่อครู่นางเกือบจะตกลงไปตาย ดีไม่ดีในอนาคตนางคงไม่กล้าปีนต้นไม้ไปอีกหนึ่งปี!
หลงเฟยเยี่ยตะคอกอย่างหมดความอดทน “จะร้องทำบ้าอะไร?”
หานอวิ๋นซีหันกลับมา ฝังศีรษะไว้ในอ้อมแขนของเขา สองมือโอบเขาไว้แน่น ด้วยความรู้สึกทั้งกลัวทั้งโกรธ “หลงเฟยเยี่ย ข้าเตือนท่านไว้เลยนะ ถ้าท่านปล่อยให้ข้าอยู่คนเดียวบนต้นไม้อีกครั้ง ข้าจะไม่...ข้าจะไม่มีวัน...”
หลงเฟยเยี่ยที่กำลังรออยู่
อย่างไรก็ตาม ความคิดของหานอวิ๋นซีที่กำลังปั่นป่วน ครู่หนึ่งจึงจะได้พูดออกมาว่า “ข้าจะไม่มีวันปล่อยท่านไป!”
หลงเฟยเยี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง และก้มลงมองคนในอ้อมแขนของเขาที่ตัวกำลังสั่นเทา พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัว
คงไม่มีใครเคยบอกเขาว่า เวลาที่เขายิ้มโลกทั้งใบจะมืดมนไปในทันที เพราะไม่มีใครเคยเห็นรอยยิ้มอันบริสุทธิ์เช่นนี้จากเขา
ปล่อยให้หานอวิ๋นซีกอดเขาแน่น หลงเฟยเยี่ยถือคันธนูไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและเล็งไปที่ปากของงูที่กำลังอ้ากว้างอยู่
“ฟิ้ว...” ลูกธนูปักเข้าไปในปาก!