ที่นี่ก็เหมือนโรงแรมหลายแห่งในชาติก่อน อาหารเช้าคือบุฟเฟต์
ซูอินหยิบไข่ไก่สองฟอง ใช้ตะเกียบคีบผักดองและตักโจ๊กอีกหนึ่งถ้วย ถือถาดอาหารเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามหลินเฉวียน
หลินเฉวียนเงยหน้า “มีธุระอะไรหรือ”
ซูอินเล่าให้เขาฟังเื่ที่เมื่อวานโดนหลิงเมิ่งและเพื่อนๆ เล่นงานโดยใส่สีตีไข่เกินจริงนิดหน่อย จากนั้นพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด
เมื่อปูทางได้ที่แล้ว เธอก็เริ่มเข้าจุดประสงค์หลัก
“ฉันอยากรีบหาเงินค่ะ”
ในที่สุดครั้งนี้ EQ ของหลินเฉวียนก็ทำงาน เมื่อเข้าใจแล้วเขาจึงถอนหายใจ
สำหรับซูอิน ความรู้สึกของหลินเฉวียนคือเื่ซับซ้อน
อันที่จริงเมื่อคราวก่อน เขาทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลของซูอิน ก่อนจะมาทำงานที่พักแห่งนี้ เขาเคยเป็ทหารพรานอยู่่หนึ่ง จึงคุ้นเคยดีกับเื่เล็กน้อยเช่นนี้
และเมื่อได้ฟังทัศนคติเช่นนี้ เขาก็รีบตรวจสอบให้ชัดเจนและนำข้อมูลไปให้ตระกูลฉิน
ไม่คิดว่ามันจะทำให้เกิดหายนะ
จนกระทั่งฉินหล่างพาเขาไปตรวจสอบเื่นี้อีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าความไม่จริงจังของเขาคือสิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่ และเกือบทำร้ายเด็กสาวคนหนึ่ง
ถึงแม้เขาไม่ใช่ต้นเหตุจริงๆ ของความผิดพลาด แต่ในใจของหลินเฉวียนก็รู้สึกละอาย
ดังนั้นเมื่อฉินหล่างต้องไปจากเมืองผิง เนื่องจากทีมสำรวจทางธรณีวิทยาเรียกตัวด่วน จึงขอให้เขาช่วยดูแลเด็กสาวสักระยะหนึ่ง หลินเฉวียนตกลง
ไม่ใช่แค่รับปาก เขายังใช้ความสามารถจัดเตรียมห้องที่ดีที่สุด อีกทั้งดูแลเธอเต็มที่
แต่คิดไม่ถึงว่า สาวน้อยคนนี้จะมีดวงด้านการพนัน
ไม่ ไม่ใช่การพนัน
แม้ในเวลาปกติหลินเฉวียนเล่นไพ่นกกระจอก แต่ไม่เล่นเยอะ การเสพติด เขาคิดว่าการพนันอันตรายที่สุด เพราะเป็หนึ่งในสามสิ่งที่สามารถทำให้คนเราสูญเสียครอบครัวโดยไม่สามารถกลับตัว
แต่เขาเคยสำรวจเื่นี้ด้วยตนเอง เด็กสาวตรงหน้าไม่ใช่พวกผีพนันอย่างแน่นอน
สำหรับคนที่เป็ทหารพรานปลดประจำการมาหลายปี สัญชาตญาณช่างสังเกตของเขาฝังลึกอยู่ในกระดูก
ในขณะที่เด็กสาวบอกว่าทีมเกาหลีใต้จะชนะ เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ใช่ความโง่เขลาของนักพนัน แต่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจได้ขนาดนี้
หลินเฉวียนถามโดยไม่ตั้งใจ “ดูเธอมั่นใจมากว่าทีมเกาหลีใต้จะชนะ”
ซูอินไม่ใช่พยาธิในท้องของหลินเฉวียน จึงไม่ว่าเื้ัมีเื่ซับซ้อนเช่นนี้
อันที่จริงก่อนหน้านี้ที่ขอยืมเงินฉินหล่าง เธอวางแผนหากถูกสอบสวนไว้แล้ว และคิดวิธีตอบโต้ด้วย แต่ไม่คิดว่าเขาจะให้ยืมง่ายๆ เธอจึงไม่ได้ใช้แผนที่เตรียมไว้ ดูเหมือนว่าเวลานี้จะได้ใช้มันแล้ว
“ปกติคุณไม่ได้ดูข่าวหรือ”
“อะไร”
เมื่อเห็นหลินเฉวียนมีท่าทีลังเล ซูอินจึงเริ่มหลอกล่อ “เดิมทีการจัดแข่งฟุตบอลโลกครั้งนี้ญี่ปุ่นเป็เ้าภาพ ต่อมาเกาหลีใต้พยายามขอเป็เ้าภาพร่วม นั่นเป็เพราะอะไรคะ”
“ปัจจัยทางการเมืองหรือ”
เมื่ออีกฝ่ายเสนอชุดความคิดนี้ ซูอินจึงใช้มันหลอกล่อ “หลังวิกฤตการเงินเอเชียปี 1997 เกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งเป็สมาชิกในสี่ัของเอเชียได้รับผลกระทบในระดับต่างกัน แน่นอนว่าประเทศของเราก็เช่นกัน แต่พวกเรามีผืนดินกว้างใหญ่และทรัพยากรมากมาย มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ มีความสามารถมากพอที่จะจัดการ จึงไม่กระทบมาก ส่วนญี่ปุ่นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงระดับโลก จึงดำรงอยู่ได้ มีแค่เกาหลีใต้ ในด้านอาณาเขตก็ไม่ดีเท่าประเทศเรา ด้านเทคโนโลยีก็เทียบไม่ได้กับญี่ปุ่น จึงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก”
หลินเฉวียนพยักหน้า ผู้ชายอย่างเขาค่อนข้างอ่อนไหวกับเื่การทหาร เขารับฟังเหตุผลนี้
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงสำคัญมาก ภายนอกสามารถแสดงให้ประเทศอื่นๆ เห็นความสำเร็จ ภายในสามารถสร้างความมั่นใจให้คนในประเทศ แต่สมมุติฐานนั้น…”
“ต้องทำคะแนนที่น่าทึ่งหรือ”
“ถูกต้อง”
ซูอินพยักหน้า อันที่จริงเธอเป็เพียงเด็กสาวธรรมดา ไม่รู้ประเด็นสำคัญของประเทศเหล่านี้เลย ที่พูดไปล้วนแต่เป็การกล่าวมั่วๆ โดยหยิบยกบทวิเคราะห์ทางการเมืองที่เพิ่งจะทบทวนไปเมื่อไม่นานนี้มาใช้ แต่การหลอกล่อจนถึงตอนนี้ แม้แต่เธอก็เกือบจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพูด
ด้วยแินี้ เธอจึงเรียบเรียงเื่ราวต่อไป “ฟุตบอลโลกเป็งานที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าชะตากรรมของประเทศ เกาหลีใต้เป็เ้าบ้าน หากจะทำอะไรก็คงไม่ทำเื่ง่ายจนเกินไป”
สำหรับคนที่มีประสบการณ์ทางทหาร ั้แ่วันที่เข้ากรม “ผลประโยชน์ของประเทศชาติอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง” ความเชื่อเช่นนี้ฝังลึกในจิติญญา ถึงแม้จะปลดประจำการแล้วหลายปี แต่หลินเฉวียนยังคงยืนหยัดในความเชื่อนั้นเรื่อยมา
เขาตกตะลึงมากกับคำพูดในจุดนี้ของเด็กสาวอายุสิบหกปี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเชื่อมัน
“หากเธอ้าหาเงิน อันที่จริงไม่จำเป็ต้องซื้อลอตเตอรี่”
แววตาของซูอินเป็ประกาย
“ฉันรู้จักที่ที่ดีกว่า แต่มันค่อนข้างวุ่นวาย หากไม่ใช่คนคุ้นเคยจะไม่ยอมอนุญาตให้เข้าไป”
“โชคดีที่ฉันรู้จักกับเถ้าแก่ที่นั่น ไว้เลิกเรียนฉันจะพาไป”
อีกฝ่ายไม่เพียงรับปาก แต่ยังพูดให้เธอรู้สึกแปลกใจมาก
สถานที่ที่หลินเฉวียนบอก ซูอินพอจะเดาได้ แน่นอนว่าต้องเป็ชุมชนใต้ดิน
ที่นั่นต่างหากคือแหล่งทำเงิน
เธออยากไปเสียตอนนี้เลย แต่มันเร็วไป
ในที่สุด หลินเฉวียนก็ไล่เธอให้รีบไปโรงเรียน
อีกสองวันก็จะสอบขึ้นมัธยมปลาย คาบเรียนนี้คือการทบทวนด้วยตนเอง ซูอินจึงทำสรุปโจทย์ข้อสอบเพื่อเป็ “โจทย์สำคัญ” สำหรับสอนสวีเหวินเหวินและอวี๋ฉิงใน่เวลารีบเร่งนี้
การรวมตัวที่แปลกประหลาดของพวกเธอสามคนดึงดูดความสนใจจากผู้คน แน่นอนว่าหลายคนแอบสงสัยว่าพวกเธอคุยอะไรกัน
ซูอินไม่ได้พูดเื่อธิบายโจทย์สำคัญให้แก่สวีเหวินเหวิน เธอบอกแค่ว่ากำลังอธิบายเนื้อหาให้อีกสองคนฟัง
เพื่อนร่วมห้องเหล่านี้ ไม่นับสวีเหวินเหวินที่ใจดีเกินไปจนไม่อยากเข้ามายุ่ง และอวี๋ฉิงที่เย่อหยิ่งจนี้เีจะเอาไปนินทา เมื่อชาติก่อนคนอื่นๆ ในห้องต่างก็ถูกหลิงเมิ่งใช้เงินซื้อ จึงจงใจตีตัวออกห่างหรือเยาะเย้ยเธอเหมือนกับซุนเจี้ยน
เธอรู้ว่านักเรียนมัธยมต้นอายุสิบห้าปีเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้าย ส่วนมากพวกเรามักไหลไปตามกระแส แต่ไม่ได้หมายความว่าการไม่มีเจตนามุ่งร้ายจะไม่เคยเกิดการทำร้ายร่างกาย
ซูอินไม่ใช่คนใจกว้างนัก
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ใช่คนเข้ากับคนง่าย ถึงแม้กลับชาติมาเกิดนิสัยจะร่าเริงขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่คิดจะสนิทสนมกับเพื่อนนักเรียนคนอื่น พวกนั้นไม่เคยช่วยเธอ เป็แค่คนที่พยักหน้าทักทาย เธอจะเปลืองแรงช่วยเพิ่มคะแนนให้ทำไม
เมื่อเห็นซูอินใช้ความนุ่มนวลไล่คนที่สงสัยเ่าั้ สวีเหวินเหวินก็แปลกใจเล็กน้อย ส่วนอวี๋ฉิงพยักหน้าเบาๆ
เพื่อนที่นั่งโต๊ะหน้าของเธอคนนี้เปลี่ยนไปมาก ยิ่งนานวันก็ยิ่งน่าสนใจ เมื่อนึกถึงการ์ดเชิญร่วมงานวันเกิดของตระกูลหลิงที่ส่งมา วันเกิดของซูอินก็น่าจะเป็วันเดียวกับบุตรสาวของตระกูลหลิงที่เพิ่งกลับมา เธอควรเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้สักหน่อย
ซูอินไม่รู้เื่นี้เลย เมื่ออธิบายโจทย์อีกครั้งก็ทำให้เธอเข้าใจโจทย์ข้อสอบขึ้นมัธยมปลายมากขึ้น เลิกเรียนเธอรีบกลับไปที่โรงแรมก็เห็นหลินเฉวียนรออยู่หน้าล็อบบี้
เธอขึ้นไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดเป็เสื้อผ้าธรรมดามากๆ ชุดหนึ่ง แล้วเดินตามหลังหลินเฉวียนออกจากที่พักอย่างสบายใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้