“อาจารย์ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาข้าฝึกอย่างหนัก การใช้อาวุธลับนั้นก็ก้าวหน้าไปมาก ข้าเชื่อว่าข้าจะไปได้ไกลในศึกหอคอยเลี่ยนถ่านี้แน่นอนขอรับ” ถังเฉินยกมือคำนับแล้วพูด
ิอวี่ทำอะไรเรียบง่ายสุด เพราะเขาไม่รู้ว่าศึกหอคอยเลี่ยนถ่าจะมีอะไรรออยู่ ดังนั้นเขาเลยพูดไปตามความจริงว่า “ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ขอรับ”
ส่วนเิหยูเยียนกลับแค่พยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
ซ่งหยวนหยวนมองไปที่เิหยูเยียนแล้วรู้สึกว่าวันนี้นางดูผิดแปลกไป เพราะสายตาของนางนอกจากความนิ่งก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย แม้แต่ท่าทางตื่นเต้นก็ไม่มี
ไม่แน่ว่านางอาจจะนำพาเื่ประหลาดใจมาให้ข้าก็ได้นะ?
ซ่งหยวนหยวนคิดแบบนี้แล้วก็พูดกับทั้งสามคนว่า “ศึกหอคอยเลี่ยนถ่าในวันนี้ พยายามเต็มที่ก็พอนะ อย่าได้ฝืน ไม่อย่างนั้นอาจเป็การทำร้ายตัวเอง อีกอย่าง เดี๋ยวได้เจอกับศิษย์ชั้นยอดคนอื่นแล้วอย่าได้ทำอะไร ทำใจให้สงบเป็พอ”
พูดจบ ซ่งหยวนหยวนก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นางสั่งให้เ้าวิหคเพลิงบินออกไป
พวกิอวี่นั่งอสูรสัตว์ปีกตามซ่งหยวนหยวนไปติดๆ ตลอดทาง ไม่มีใครพูดคุยกันเลย สายตามองไปที่หุบเขาด้านล่างผ่านอาคารศาลาจำนวนมาก ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ทุกคนก็มองไปด้านหน้าที่ยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง มีหอคอยขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า
ิอวี่จ้องมองไปก็พบว่าหอคอยแห่งนั้นมีทั้งหมดเก้าชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณหนึ่งร้อยเมตรได้!
หอคอยแห่งนี้มีสีแดง รอบๆ อาคารดูธรรมดามาก มีงานแกะสลักที่เรียบง่าย ดูไปแล้วก็เหมือนูเาหลายลูกตั้งอยู่ระหว่างฟ้าดินประหนึ่งกำลังกดดันโลกนี้อยู่
“หอคอยเลี่ยนถ่าดูน่าเกรงขามขนาดนี้เลย แต่ละชั้นสูงถึงร้อยเมตร ด้านในมันจะมีอะไรอยู่บ้างนะ?”
ิอวี่ตะลึงมาก ั้แ่เขามาที่สำนักเทพอัคคีและเข้ามาอยู่ในสายเลี่ยนเหยียน ก็ได้เจออะไรแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยได้พบได้เห็นตลอด อย่างหอคอยที่ดูองอาจแบบนี้เขาแทบไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
เพราะรวมทั้งหมดแล้ว เท่ากับหอคอยแห่งนี้มีความสูงถึงเก้าร้อยเมตร คิดอยากจะสร้างมันขึ้นมาจะต้องมีการลงทุนลงแรงมากแค่ไหน แล้วยังจะต้องร่างอักขระที่ลึกลับเสริมให้มั่นคงอีก ถึงจะสามารถตั้งตระหง่านอยู่แบบนี้ได้
และในความเป็จริง หอคอยเลี่ยนถ่าที่ทรงพลังแห่งนี้ทั้งหมดก็ทำจากหินเหล็กสีแดง มีพลังธาตุไฟสูงมาก แข็งแกร่ง หนาแน่นมาก
เดิมทีหอคอยเลี่ยนถ่าของสำนักเทพอัคคีนั้นมีแค่ที่เดียว แต่หลังจากที่สำนักแห่งนี้พัฒนามากขึ้นและกว้างใหญ่ขึ้นแล้วก็ขยายออกเป็ทั้งหมดเก้าสาย และได้สร้างหอคอยเลี่ยนถ่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
สามสายบนและสามสายกลางมีการก่อสร้างหอคอยเลี่ยนถ่าก่อน ส่วนสามสายล่าง ก็เพิ่งมาสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อประมาณหลายพันปีที่แล้ว หอคอยเลี่ยนถ่าที่อยู่ตรงหน้าแห่งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีได้ทำการก่อสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์เมื่อห้าพันปีก่อน มันละเอียดและแข็งแกร่ง อยู่มาได้ห้าพันปีโดยไม่เคยล้มมาก่อนเลย
และในหอคอยเลี่ยนถ่าก็ยังมีความลึกลับมากมายที่รอคอยให้ปีศาจอัจฉริยะทั้งหลายมาท้าทายและทะลวงมันขึ้นไป!
ในขณะที่ิอวี่กำลังอึ้ง ซ่งหยวนหยวนก็มาถึงหอคอยเลี่ยนถ่าแล้วและหยุดอยู่ที่ยอดเขา
หอคอยสีแดงเข้มที่ราวกับูเาตรงด้านหน้า มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่มาถึงกันก่อนแล้ว
ิอวี่ลองมองไปก็พบว่าผู้าุโใหญ่และศิษย์ชั้นยอดนั้นกำลังรออยู่
สิ่งที่ทำให้เขาตะลึงมากนั่นก็คือ ศิษย์ชั้นยอดส่วนมากจะเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุด มีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งน้อยมาก และิอวี่ยังพบว่ามีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง!
“ถ้านับตามพลังฝีมือ พวกเราสามคนดูเป็รองมากเลย”
ิอวี่ขมวดคิ้วแน่นมาก แต่หลังจากนั้นเขาก็ผ่อนคลาย ต่อให้เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง แต่ว่ากำลังรบของพวกเขาอาจจะไม่สูง เพราะิอวี่นั้นััไม่ถึงลมปราณที่อันตรายจากผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองเลย
เดี๋ยวก่อนนะ ...
ิอวี่มองไปรอบๆ ก็พบว่า ผู้าุโใหญ่แต่ละคนล้วนแต่เป็คนที่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงซ่งหยวนหยวนแล้วก็มีทั้งหมดแปดคน แล้วผู้าุโใหญ่อีกสองคนไปไหนล่ะ?
ระหว่างที่ิอวี่กำลังคิด บนท้องฟ้าอีกด้านหนึ่งก็มีเสียงลมที่รุนแรงดังมา ทุกคนหันไปมองก็พบว่า มีเงาสองคนพร้อมด้วยกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
สองคนที่เป็ผู้นำนั้น คนหนึ่งเป็ชายวัยกลางคน ไว้ผมยาวสีดำประบ่า ใบหน้าหล่อเหลา ผิวออกคล้ำ มีหนวดเคราเล็กน้อย ดวงตาดูล้ำลึก ดูเป็ผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างจะเก็บตัวลึกลับ
คนด้านข้างนั้นเป็ผู้าุโคนหนึ่งที่ผมขาว ถึงแม้จะมีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า แต่ว่าดวงตาของเขานั้นเปล่งประกายมาก ดวงตากว้างไกล หากสบตากันก็จะรู้สึกเหมือนกับถูกเผา!
ด้านหลังชายสองคนนั้น แยกเป็กลุ่มห้าคนและสามคน ทั้งแปดคนล้วนแต่มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองด้วยกันหมด!
ิอวี่รู้สึกหวาดกลัว พลังของทั้งแปดคนให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!
ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ชายสองคนก็บังคับอสูรสัตว์ปีกของพวกเขาลงมาที่หอคอยเลี่ยนถ่า จากนั้นก็ะโลงมายืนบนพื้นอย่างนุ่มนวล
“ในเมื่อมากันครบแล้ว ก็เริ่มศึกหอคอยเลี่ยนถ่าในวันนี้กันเลยเถอะ”
ซ่งหยวนหยวนเอามือกอดอกโตๆ ของนาง แล้วกวาดสายตาไปที่ชายวัยกลางคนด้วยสายตาที่เ็า และมองไปที่หอคอยเลี่ยนถ่า
ชายวัยกลางคนกับชายชราคือผู้าุโใหญ่ที่มีความสามารถแข็งแกร่งอีกสองคน พวกเขาแต่ละคนมีความสามารถไม่เป็รองซ่งหยวนหยวน และศิษย์ที่พวกเขารับมาในรุ่นนี้ก็ล้วนแต่เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สอง
ชายวัยกลางคนคนนั้นมีชื่อว่าฟางหลิงจวิน เขาหันไปมองพวกิอวี่แบบผ่านๆ
หลังจากนั้นฟางหลิงจวินก็หันไปมองซ่งหยวนหยวน เขายิ้มแล้วใช้สายตามองไปทั่วเรือนร่างอันเร่าร้อนของนางแล้วพูดว่า “หยวนหยวน ที่ผ่านมาแต่ละครั้งที่เ้ารับศิษย์ เหมือนจะไม่ดีเท่าที่ควรเลยนะ”
“ข้าจำได้ว่าศิษย์ชั้นยอดรุ่นก่อนเหมือนจะหยุดอยู่ที่ขอบเขตอมฤตขั้นที่สามั้แ่เมื่อหนึ่งปีก่อนแล้วใช่ไหม ศิษย์รุ่นใหม่ในครั้งนี้ ข้ากับท่านเฒ่าอูไม่ได้คิดจะชิงกับเ้าเลยนะ แต่ทำไม เ้าถึงยังเลือกได้ศิษย์แบบนี้มาอีกล่ะเนี่ย?”
ทุกคนฟังออกว่าฟางหลิงจวินนั้นกำลังประชดอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครพูดอะไรเท่านั้น
บางคนถึงแม้อยากจะออกหน้าช่วยซ่งหยวนหยวน แต่ฟางหลิงจวินก็ดันเป็หนึ่งในสามผู้าุโใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาจึงไม่กล้าไปมีเื่ด้วย ส่วนอีกกลุ่มก็รู้สึกดี เช่นซูเยวี่ยที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็รู้สึกสะใจ
เมื่อเดือนก่อน ซ่งหยวนหยวนแย่งิอวี่ที่นางถูกใจไปทำให้ซูเยวี่ยแค้นใจมาก ความสามารถของนางสู้ซ่งหยวนหยวนไม่ได้เลยจำใจต้องฝืนทน ตอนนี้มีคนออกหน้าเล่นงาน นางจึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง
“หรือว่าทุกครั้งที่เจอกัน เ้าต้องให้ข้าลงมือกับเ้า เ้าถึงจะสบายใจ”
ซ่งหยวนหยวนจ้องไปที่ฟางหลิงจวินด้วยสายตาไม่เป็มิตร นางเป็คนอารมณ์ร้อนแบบนี้นี่แหละ พูดไม่ถูกใจก็จะลงมือเลย!
ฟางหลิงจวินส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วพูดว่า “หยวนหยวน อย่าหาว่าข้าพูดมากเลยนะ ที่ข้าพูดแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับสายเลี่ยนเหยียนของเรานะ”
“สามสายล่างของเรา สายเลี่ยนเหยียน สายหรงเหยียน สายจั่วเหยียน ที่ผ่านมามีครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช่พวกเราสายเลี่ยนเหยียนเป็ผู้นำกลุ่ม แต่ั้แ่ร้อยปีที่ผ่านมา สายเลี่ยนเหยียนของเราก็ระส่ำระสาย ค่อยๆ ตกต่ำลง ดังนั้น สายเืใหม่นั้นมันสำคัญมากเลยนะ ข้าในฐานะผู้าุโใหญ่ แน่นอนก็ต้องหวังอยากจะเห็นเ้ารับศิษย์ดีๆ เข้ามา จะได้ไม่เป็การเสียความสามารถในตัวของเ้า เ้าว่าจริงไหม?”
“ข้าจะทำอะไร เ้าไม่ต้องมายุ่ง”
ซ่งหยวนหยวนหน้าแห้ง ฟางหลิงจวินดูถูกศิษย์ของนางแบบนี้ มันเป็การประชดนางชัดๆ
ในเวลานี้ซ่งหยวนหยวนนั้นแทบไม่อยากจะฟังคำพูดของฟางหลิงจวินเลย นางพยายามข่มอารมณ์ ไม่อยากจะพูดคุยกับเขาเลยแม้แต่คำเดียว
ส่วนพวกของิอวี่นั้น อารมณ์ก็ไม่ได้ดีสักเท่าไร
ิอวี่แอบคิดว่านี่เป็อย่างที่คิดไว้เลย ที่เขาเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้นั้นไม่ผิดเลย ถึงแม้ซ่งหยวนหยวนจะมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งมาก แต่ในเื่ของศิษย์ นางกลับไม่มีหน้ามีตาเลย
“เหอะๆ ข้าไม่ไปสนใจหรอกว่าเ้าจะทำอะไร ข้าสนใจแค่ว่า ศิษย์ชั้นยอดที่เรารับเข้ามาก่อน จะสามารถฝ่าได้กี่ด่านในศึกหอคอยเลี่ยนถ่า”
ฟางหลิงจวินพูดจบก็มองไปที่เหล่าศิษย์ชั้นยอด แล้วพูดเสียงเข้มว่า “ศิษย์ชั้นยอดที่เข้าร่วมศึกหอคอยเลี่ยนถ่าในวันนี้ พวกเ้าก็น่าจะเข้าใจดี สำนักเทพอัคคีเป็สถานที่แย่งชิงสำหรับผู้กล้า ผลงานที่พวกเ้าทำได้ในการศึกหอคอยเลี่ยนถ่าในวันนี้ มันไม่ใช่แค่ผลงานของพวกเ้าเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงความรุ่งเรืองของสายเลี่ยนเหยียนของเราด้วย”
“ข้ารู้ดี พวกเ้าล้วนแต่เป็บุคคลที่มีความสามารถ แต่มีเพียงผู้มีความสามารถที่เหนือคนเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิกลายเป็กำลังสำคัญของสายเลี่ยนเหยียนของเราได้ บททดสอบนี้ จะมีผู้ชนะแค่สิบคนเท่านั้นที่จะได้เป็ปลาะโข้ามประตูั”
ถึงแม้คำพูดของฟางหลิงจวินจะไม่ได้เป็การให้กำลังใจ แต่ศิษย์ชั้นยอดได้ยินกันแล้วก็รู้สึกฮึกเหิม
ใครบ้างไม่อยากเป็หนึ่งในสิบคน และกลายเป็คนสำคัญของสายเลี่ยนเหยียนกัน หลังจากนั้น สิบคนนี้ยังจะเป็ตัวแทนของสายเลี่ยนเหยียนในการต่อสู้กับสายอื่นอีก มันถือเป็เกียรติยศอย่างหนึ่ง!
“เอาล่ะ ในเมื่อหลิงจวินได้บอกเป้าหมายของศึกหอคอยเลี่ยนถ่าไปประมาณหนึ่งแล้ว ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะอธิบายกฎระเบียบให้ฟังคร่าวๆ ก็แล้วกันนะ”
ทุกคนได้ยินดังนั้น ก็หันหน้าไปตามเสียง คนที่พูดนั้นก็คือท่านผู้เฒ่าอูที่อยู่ข้างๆ ฟางหลิงจวิน
ผู้เฒ่าอูพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งเล็กน้อยว่า “หอคอยเลี่ยนถ่าที่พวกเ้าจะต้องท้าประลองในครั้งนี้ มีด้วยกันเก้าชั้น ในแต่ละชั้นจะมีระดับความยากที่แตกต่างกันออกไป”
“ก่อนที่จะเข้าหอคอยเลี่ยนถ่า พวกเ้าแต่ละคนจะได้ตราประทับกลีบดอกไม้สีขาวเก้าดอก ตราประทับนี้มันจะตรวจสอบพลังฝีมือของพวกเ้า และตั้งระดับความยากในการท้าประลองตามระดับพลังฝีมือของพวกเ้า ผ่านหนึ่งด่าน กลีบดอกไม้ก็จะส่องแสงสว่างออกมาหนึ่งกลีบ”
“การท้าประลองนั้นเป็แวดล้อมปิด ไม่มีคนดู ดังนั้น เราจะตัดสินระดับความสำเร็จของพวกเ้าจากจำนวนกลีบดอกไม้ที่เปล่งแสงออกมา สิบอันดับแรกที่มีผลงานดีที่สุดก็จะเป็ผู้ชนะ”
ท่านผู้เฒ่าอูพูดอย่างง่ายๆ แล้วทุกคนก็จำกติกาของศึกหอคอยเลี่ยนถ่าในครั้งนี้เอาไว้
มีแค่ิอวี่คนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกแปลกใจ
ศึกหอคอยเลี่ยนถ่ามันจะมีอะไรอยู่บ้างนะ เป็แวดล้อมแบบปิด แม้แต่ผู้าุโใหญ่ก็ไม่สามารถดูได้
