เมื่อหน้ากากผีสีขาวถูกถอดออก ใบหน้าที่ปรากฏแก่สายตาฝูงชนทำให้ทุกคนผงะ
อัปลักษณ์!
ใบหน้าเหมือนตือโป๊ยก่าย ดวงตาข้างหนึ่งเล็กข้างหนึ่งใหญ่อยู่ห่างกันมาก ดูน่าอนาถเหลือเกิน ดั้งยุบแต่รูจมูกหงายเหมือนหมู เห็นขนจมูกชัดเจน ปากใหญ่ ฟันสองแถวเป็คราบดำและเหลือง มองเพียงแวบเดียวก็ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ได้
คนที่อยู่ตรงนั้นกล้าสาบานเลยว่าไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกนี้น่าเกลียดยิ่งกว่าเขาอีกแล้ว!ไม่คิดเลยว่าใต้ผืนฟ้าแห่งนี้จะมีผู้ชายอัปลักษณ์ได้ขนาดนี้!
หลินซือฉิงคิ้วขมวดเล็กน้อย แม้เธอไม่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่เมื่อเห็นใบหน้าของชายคนนี้ยังรู้สึกรับไม่ได้ มันเป็ใบหน้าที่ประหลาดมากจริงๆ
สีหน้าของทุกคนทำให้เย่เฟิงลอบยิ้มในใจ รู้จักทักษะอำพรางตาไหม? เป็อย่างที่คิดไว้จริงๆ รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของโม่จิ่วเกอทำให้พวกหลินเต๋อเทียนตกตะลึง นี่เป็เหตุผลที่เมื่อก่อนเย่เฟิงไม่ยอมให้หลงหว่านเอ๋อร์เห็นใบหน้าของโม่จิ่วเกอ...
“อะแฮ่ม เอาล่ะ พาเขาไปโรงพยาบาลก่อน” หลินเต๋อเทียนรีบโบกมือ น้ำเสียงเจือความอึดอัดเล็กน้อย
เขาคิดว่าจุดประสงค์ที่ชายผู้นี้สวมหน้ากากคือ้าปกปิดสถานะบางอย่างของตัวเอง นึกไม่ถึงว่าจะเป็การปกปิดความอัปลักษณ์ อันที่จริงก็ไม่ผิดที่คนเราหน้าตาน่าเกลียด เพียงทำให้ผู้คนหวาดกลัวเท่านั้น ไม่แปลกที่เขาจะชินกับการสวมหน้ากาก นอกจากพึ่งมีดหมอ ไม่เช่นนั้นหลินเต๋อเทียนก็คิดไม่ออกว่าจะมีผู้หญิงคนไหนสนใจเขา แต่ด้วยใบหน้านี้ หากจะศัลยกรรมก็เกรงว่าจะเป็การสร้างความลำบากให้ทีมศัลยแพทย์...
คุณหนูใหญ่ตระกูลหลงไม่ใส่ใจใบหน้าของเขาเลยจริงๆ หรือ? สีหน้าของหลินเต๋อเทียนแสดงออกถึงความแปลกใจ
“สวมหน้ากากเถอะ” หลินซือฉิงทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอคิดว่าทำแบบนี้เป็การหยามเกียรติเย่เฟิงมากเกินไป จึงแย่งหน้ากากผีสีขาวจากมือของทหารนายนั้นแล้วสวมมันให้คนตรงหน้า
เย่เฟิงเห็นอย่างนี้แล้วน้ำตาไหลพราก สาวสวยคนนี้ช่างมีน้ำใจจริงๆ หรือเธอจะรู้ว่าตอนนี้พลังลมปราณของเขาถูกยับยั้ง ทักษะอำพรางตาจึงคงอยู่ได้ไม่นาน?
อย่างไรก็ตามการกระทำนี้ของหลินซือฉิงแสดงให้เห็นแล้วว่า ใบหน้าของโม่จิ่วเกอนั้นอัปลักษณ์เหลือเกิน อภิมหาอัปลักษณ์เลย อีกทั้งไอ้หนุ่มนั่นยังเป็พวกเสเพล เ้าชู้ไปเรื่อย ถ้าท่านอาจารย์ซูเฟยหยิ่งสุดสวยแต่งงานกับมัน คนมากมายต้องใจสลายกันถ้วนหน้าแน่
ขณะนี้เย่เฟิงถูกเ้าหน้าที่ของสำนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติควบคุมตัวไว้ หลินเต๋อเทียนโบกมือให้พาเขาไปก่อน แต่เหลยิที่ยืนอยู่ด้านข้างได้รับรายงานการค้นหาจากลูกน้อง จึงรีบะโขัด
“เดี๋ยวก่อน” เหลยิวัยสามสิบหกปี ผู้ปฏิบัติงานด้วยความรวดเร็วและเฉียบขาด ตวัดสายตามองเย่เฟิงอย่างขึงขัง จากนั้นกล่าวต่อ “อาการาเ็ของเขาดูไม่หนักมาก เรายัง้าคำตอบอีกหลายประเด็น มาทำให้มันชัดเจนที่นี่เลยดีกว่า”
“นายได้เบาะแสอะไรมาเหรอ?” หลินเต๋อเทียนถาม
“ชิ้นส่วนของหน้ากากผีสีขาวครึ่งหน้าเหมือนหน้ากากของเขาทุกอย่างเลยครับ” เหลยิไม่หลบเลี่ยงเย่เฟิง เขาพูดออกมาตามตรง “หน้ากากอันนั้นไม่ได้ถูกทำลายจากบริเวณที่ะเิ เป็ไปได้ว่านักล่าิญญาเตรียมสวมรอยเป็เขาครับ”
“จริงเหรอ?” หลินเต๋อเทียนขมวดคิ้วแน่น พลางหันมองหน้ากากที่อยู่บนหน้าเย่เฟิง
“สหาย สิ่งที่เราปฏิบัติต่อนายล้วนอยู่ภายใต้การพิจารณาด้านความปลอดภัย ขอนายอย่าถือสาเลย” เหลยิหันไปพูดกับเย่เฟิงอีกหนึ่งประโยค “ขอถามนายตอนนี้เลยว่านายคือคนที่ทำร้ายหลินซิวเหวินหรือเปล่า?”
แม้เขาจะขึ้นตรงต่อหลินเต๋อเทียน แต่ก็มีความคิดเป็ของตัวเอง และยังรวบรวมข้อมูลได้มากกว่าหลินเต๋อเทียนเสียอีก จึงเชื่อว่าตัวเองคาดการณ์และตัดสินได้ถูกต้องแม่นยำกว่า
“ไม่ใช่” เย่เฟิงส่ายหัวยืนยันหนักแน่น แม้ตอนนั้นเขาจะทำให้หลินซิวเหวินหมดสติ แต่อีกฝ่ายไม่มีทางกลายเป็คนปัญญาอ่อนเด็ดขาด ต้องเป็ฝีมือคนอื่นแน่นอน
“งั้นในห้องลับที่บ้านพักของไช่เฉ่าหง นายถูกพวกเรายิงต้นขาใช่ไหม?” เหลยิถามต่อ
“ใช่ครับ” เย่เฟิงพยักหน้าแล้วเอ่ยเสียงเบา “ผมเป็คนฆ่าไช่เฉ่าหงเอง ผมจะไม่ปกปิดเื่ที่ตัวเองทำ”
เขาโคจรเคล็ดสุสานดวงดาวเต็มกำลัง ทำให้พลังลมปราณที่ถูกยับยั้งคลายออกอย่างรวดเร็วภายใต้การสลายของพลังชี่ ผลที่ได้รับดีกว่าที่คาด ดูจากแนวโน้มตอนนี้ ขอเวลาเพียงสองชั่วโมง ชายหนุ่มก็จะคืนสู่สภาพสมบูรณ์ตามเดิม! ถึงเวลานั้นหากเขา้าใช้ทักษะล่องหน ใครจะขัดขวางได้? ถึงจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็พูดด้วยความมั่นใจเต็มร้อย
เมื่อเหลยิได้ยินอย่างนั้นก็มองขาของเย่เฟิงด้วยความแปลกใจ โดนปืนเลเซอร์สีฟ้ายิงขนาดนั้นแล้วฟื้นฟูได้เร็วขนาดนั้นเลยหรือ? ดูเหมือนเ้าเด็กนี่จะได้รับการรักษาอย่างดี
เมื่อหลินเต๋อเทียนได้ยินว่าคนตรงหน้าเป็คนฆ่าไช่เฉ่าหงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาอดมองหลินซือฉิงที่อยู่ข้างๆ ไม่ได้ ก่อนจะได้เห็นสีหน้าสับสนของเธอ แต่กลับเดาไม่ออกเลยว่าตอนนี้ลูกสาวของเขาคิดอะไรอยู่ พูดตามความจริง ไช่เฉ่าหงเป็คนดวงใจของเธอ อย่างน้อยข่าวลือก็เป็เช่นนั้น และตอนนี้ฆาตกรสังหารไช่เฉ่าหงก็อยู่ตรงหน้า แล้วจะให้เธอคิดอย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาคือคนที่เพิ่งเสี่ยงชีวิตช่วยเธอไว้
“จากนั้นนายก็กลับไปที่บ้านพัก เผาทำลายหลักฐานและฆ่าคนในทีมพวกเราสามคน นี่เป็ฝีมือนายใช่ไหม?” เหลยิถามอย่างต่อเนื่อง ถ้าคนคนนี้ฆ่าเ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติทั้งสามคนจริง จากกฎข้อบังคับพิเศษ สิ่งที่รอเขาอยู่คงเป็โทษปะาชีวิต! ไม่ว่าไช่เฉ่าหงจะมีความผิดประเภทใดก็ตาม แต่การฆ่าคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็เป็ความผิดเช่นกัน นี่ถือเป็เื่ร้ายแรงขององค์กรแห่งชาติ
“ไม่ใช่ผมครับ” เย่เฟิงส่ายหน้า แล้วตอบเสียงเรียบ “ถ้าเดาไม่ผิด คนนั้นน่าจะเป็นักล่าิญญา”
“โอเค คำถามสุดท้าย คนที่ลักพาตัวเซียวฉี่ใช่นายหรือเปล่า?” สีหน้าเหลยิเคร่งขรึม
“ไม่ใช่ นั่นเป็คนที่มีความแค้นกับไช่เฉ่าหงเหมือนกัน เขาน่าจะพาเธอไปเพื่อปกป้องเธอ” เย่เฟิงส่ายหน้าอีกครั้ง แล้วพูดข้อสันนิษฐานของตัวเอง
“ฉันหวังว่านายจะพูดความจริงและเป็ผู้บริสุทธิ์” เหลยิพยักหน้า เขาพูดพลางหยิบแท็บเล็ตออกมา จากนั้นค้นรูปถ่ายในเครื่องแล้วส่งให้หลินเต๋อเทียนดู
เมื่อหลินเต๋อเทียนเห็น สีหน้าพลันเปลี่ยนไป มันเป็รูปซากโรงงานที่ถูกถ่ายโดยคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ในรูปคือสัตว์ประหลาดขนดกจำนวนมากที่ถูกะเิจนร่างแหลกเหลว แน่นอนว่าการะเิรุนแรงเมื่อครู่ทำให้สัตว์ประหลาดพวกนี้ถูกเผาจนกลายเป็ตอตะโก แม้แต่ขนก็ไม่เหลือ!
พวกนี้ล้วนเป็ผลงานที่ไช่เฉ่าหงช่วยเพ่ยเค่อกรุ๊ปทดลองยาพันธุกรรมในประเทศจีนหรือ?น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเื่ทั้งหมดที่นี่ เื่นี้จะต้องผ่านการสืบสวนแบบเจาะลึก ไม่สามารถฟังคำพูดของชายสวมหน้ากากฝ่ายเดียว
“ฉันหวังว่านายจะช่วยพวกเราหาหลักฐาน” หลินเต๋อเทียนมองเย่เฟิงแล้วเอ่ยเสียงเบา “ฉันเชื่อว่านายไร้เจตนาแอบแฝง ถ้าไม่ได้หลักฐาน พวกเราจะดันนายออกไปให้คำอธิบายกับเพ่ยเค่อกรุ๊ปแน่นอน”
แน่นอนว่าการตัดสินใจของนักการเมืองย่อมยึดตามผลประโยชน์ของชาติเป็หลัก เย่เฟิงไม่กังวล ขอเพียงยืดเวลาไปสักระยะ ท้องฟ้ากว้างใหญ่มีให้นกเหยี่ยวบิน หากเขาใช้ทักษะล่องหนหนีไปแล้วใครจะขวางได้?
ทันใดนั้นเสียงของรถคันหนึ่งก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยามค่ำคืน ไฟสูงแสบตาจากรถคนนั้นดึงความสนใจจากทุกคนได้ทันที
“ซือฉิง ซือฉิง!” น้ำเสียงร่าเริงแฝงความห่วงใยของหญิงสาวดังจากบนรถ
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างดีใจ นี่ไม่ใช่เสียงของเซียวฉี่หรอกหรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้