บทที่ 123 หวั่นไหวโดยไม่ตั้งใจ
มันเป็่ปลายฤดูใบไม้ผลิต้นฤดูร้อน หญิงชราป่วยขึ้นมาอีกครั้งแบบไม่มีสาเหตุ คราวนี้หนักกว่าครั้งก่อน
กลางดึกหญิงชราเริ่มมีไข้ แต่เพราะไม่มีใครนอนด้วยกันเลยไม่มีใครรู้ พอรู้ตัวหญิงชราไม่แค่มีไข้ แต่ยังอาเจียนด้วย จะไปเรียกจางซินเสิ่ง แต่บังเอิญ่นั้นเกิดเื่ขึ้น
หมู่บ้านข้างๆ มีคนป่วย จางซินเสิ่งถูกเรียกตัวไปั้แ่เช้ามืดเพื่อดูอาการ กว่าจะตามหาจางซินเสิ่งกลับมาได้ หญิงชราอาเจียนจนเป็น้ำสีเหลืองแล้ว
จางซินเสิ่งใช้ทุกวิถีทาง ฝังเข็มเพื่อหยุดอาการอาเจียนก่อน แต่หลังจากวุ่นวายกันไป หญิงชราก็ต้องพึ่งน้ำเกลือเพื่อประคองลมหายใจ
ยิ่งไปกว่านั้นปีนั้นแปลกมาก เมืองฉินเผชิญกับอากาศร้อนจัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หญิงชราเดิมทีก็ทนหน้าร้อนไม่ค่อยได้ สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว เสียชีวิตใน่ที่ร้อนที่สุดของปี
แน่นอนว่านี่เป็แค่ความฝันของสวี่จือจือ
เธอเหมือนถูกผีอำถูกภาพเหล่านี้รบกวนต่อเนื่อง ฉากเหล่านี้ไม่มีเธออยู่ เธอเหมือนเป็แค่คนนอกที่มองดู แต่ลุกขึ้นไม่ได้
หูได้ยินเหมือนมีเสียงลู่จิ่งซาน เป็น้ำเสียงตื่นตระหนกที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน จนกระทั่งเธอเห็นเหอเสวี่ยฉิน เห็นรอยยิ้มสะใจของผู้หญิงคนนั้น และคำพูดที่เธอพูดตอนหญิงชราใกล้ตาย ‘ตายซะเถอะ ยายแก่ มีแค่แกตาย ความลับพวกนั้นถึงจะฝังไปกับแกตลอดกาล’
สวี่จือจือโกรธจนแทบตาย กำลังจะเข้าไปฉีกกระชากเหอเสวี่ยฉิน ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บแปล๊บ
เธอลืมตาขึ้นมาเจอกับดวงตาของลู่จิ่งซานที่เต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว
ลู่จิ่งซานนอนหลับตื้นมาโดยตลอด ตอนแรกคิดว่าเธอแค่ฝัน ไม่ได้ตั้งใจจะปลุก แต่สักพักเขาก็รู้สึกว่าไม่ปกติ สวี่จือจือดูทรมานมาก เขาเรียกอยู่หลายครั้งก็ปลุกไม่ตื่น
“คุณทำอะไรน่ะ?” สวี่จือจือจ้องเขาด้วยดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความโกรธ “ทำไมต้องหยิกฉันด้วย?”
แถมยังเป็ตอนสำคัญอีก!!!
เธอกำลังจะฉีกกระชากนังแพศยาเหอเสวี่ยฉินนั่น และเื่ที่หญิงชราป่วยหนักครั้งหลังเกิดจากอะไร ข้อมูลสำคัญพวกนี้เธอยังไม่รู้เลย จะตื่นได้ยังไง?
“ผมเห็นคุณเหมือนฝันร้าย เรียกยังไงก็ไม่ตื่น” ลู่จิ่งซานดูงุนงง
“ถ้างั้นก็อย่าเรียกสิ” สวี่จือจือจ้องเขา “รู้ไหมว่าฉันกำลังฝันเื่สำคัญมาก”
เขาจะรู้ได้ยังไง? ฝันยังมีสำคัญไม่สำคัญอีกเหรอ?
ลู่จิ่งซานรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
“ขอโทษนะ” สวี่จือจือตอนนี้สงบลงแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะดุคุณจริงๆ แค่ฝันเมื่อกี้มัน…”
“ฝันอะไรเหรอ?” ลู่จิ่งซานถาม
สวี่จือจือกัดริมฝีปาก ลังเลว่าจะบอกเขาดีไหม ยังไงซะมันก็แค่ฝัน จะเอามาคิดเป็จริงเป็จังได้ยังไง?
แต่เธอก็รู้สึกว่าฝันนี้เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ธรรมดา เหมือนเป็ลางบอกเหตุ
แต่จะบอกลู่จิ่งซานยังไง?
เขาจะเชื่อหรือไม่ก็ช่าง เขาจะไม่สงสัยเธอเหรอ?
ด้วยความระแวดระวังของเขา เขาน่าจะสงสัยเธอมานานแล้วมั้ง!
“ผมเชื่อคุณ” ลู่จิ่งซานพูดอย่างหนักแน่น
สวี่จือจือเงยหน้าประหลาดใจ สบกับดวงตาลุ่มลึกของลู่จิ่งซาน
“ฉันฝันว่าคุณย่าป่วยอีก” เธอมองตาเขา “แถมครั้งนั้นหนักกว่าครั้งนี้อีก…”
เธอหยุดไปครู่หนึ่ง พลางนึกถึงสิ่งที่เห็นในฝันอย่างละเอียด พอพูดต่อ สายตาก็แน่วแน่
สวี่จือจือได้ยินเสียงตัวเองพูดว่า “ลู่จิ่งซาน คุณไม่เคยสงสัยเลยเหรอ? แม่…ของคุณ” เธอหยุดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ “แม่ของคุณตายเพราะคลอดเสี่ยวอวี่จริงๆ เหรอ?”
“ฉันได้ยินว่าถ้าเป็ลูกคนแรกหรือท่าเด็กผิดปกติถึงจะคลอดยาก แต่ตอนนั้นเสี่ยวอวี่ไม่ได้ผิดปกตินี่”
มือที่จับขอบเตียงของลู่จิ่งซานกำแน่น
“คุณฝันเห็นอะไร?” เขาถามแล้วพูดต่อ “สวี่จือจือ ผมไม่ใช่ไม่เคยสงสัย”
แค่หลายเื่ขาดตอนที่หญิงชรา
เขาเคยถาม แต่สิ่งที่ได้คือหญิงชราดูเศร้าและเสียใจ มีครั้งหนึ่งเขาพูดแรงไป หญิงชราถึงขั้นลมป่วย ร้องไห้วิงวอนให้เขาเลิกสืบเื่นี้
แล้วเขาจะทำยังไงได้?
“ฉันฝันว่าหญิงชราถูกเหอเสวี่ยฉินฆ่า เธอบอกว่าถ้าหญิงชราตาย สาเหตุที่แม่ของคุณตายจะฝังอยู่ใต้ดินตลอดกาล ไม่มีใครรู้” สวี่จือจือพูด
แววตาของลู่จิ่งซานฉายความเ็าและเจตนาฆ่าผ่านไปวูบหนึ่ง
แต่สวี่จือจือกล้าพูด แน่นอนว่าไม่กลัว
“แน่นอน บางทีมันอาจจะเป็แค่ความฝัน” เธอพูด “คิดซะว่าฉันไม่ได้พูดก็ได้”
“ผมรู้แล้ว” ลู่จิ่งซานพูด
สวี่จือจือไม่พูดอะไรต่อ มองเขาแวบหนึ่ง “งั้นคุณออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนชุดลุกขึ้นแล้ว”
“อืม” ลู่จิ่งซานเข็นรถเข็นออกไปเงียบๆ
“ว่าแต่คุณ” พอถึงประตู เขาหยุดแล้วพูด “ได้ฝันถึงผมบ้างไหม?”
“มีสิ” สวี่จือจือพูด
“ในฝันของคุณ ผมเป็คนยังไง?” เธอได้ยินเขาพูด
สวี่จือจือถึงรู้ว่าคำว่าฝันที่เขาพูด กับฝันที่เธอคิดไม่ใช่เื่เดียวกัน ในใจดีใจลึกๆ ยังดีที่ลู่จิ่งซานไม่ใช่คนที่เธอต้องรับมือ
ไม่อย่างนั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตายยังไง
“เป็คนที่น่ายกย่องมาก” สวี่จือจือพูดอย่างจริงจัง
“ลู่จิ่งซาน” ดวงตากลมโตของเธอมองเขาทีละคำ “คุณเป็คนที่น่าเคารพและน่ายกย่องมากจริงๆ ”
“ถ้าอย่างนั้น” ชายหนุ่มหันมามองเธอแล้วพูด “ในบรรดาคนพวกนั้น รวมถึงคุณด้วยไหม?”
สวี่จือจือ “…”
เธอถูกลู่จิ่งซานวางกับดักอีกแล้วเหรอ?
จริงๆ เลย…ถ้าชายหนุ่มจะยั่วคนขึ้นมาก็รับไม่ไหวจริงๆ แต่เธอเป็คนกล้ารักกล้าเกลียดอยู่แล้ว จึงพยักหน้า
“แน่นอน” เด็กสาวยิ้มหวานแล้วพูด “ไม่อย่างนั้นตอนนั้นฉันจะยอมคบกับคุณได้ยังไง?”
เพราะความชื่นชม พอเขาบอกอยากคบเธอก็ยินดีรับ แต่ใครจะคิดว่ารักแรกที่กำลังจะเริ่มของเธอ ยังไม่ทันได้เริ่มก็ถูกคนคนนี้ดับมันซะแล้ว
ลู่จิ่งซานยกมุมปาก “งั้นก็ดี”
ถึงตอนแรกจะผิดพลาด แต่เขาเป็สหายที่รู้ตัวแล้วแก้ไขได้เสมอ เพราะงั้นสวี่จือจือรอรับมือไว้เลย
ส่วนเื่ที่เธอกังวล ลู่จิ่งซานมองไปข้างหน้าด้วยสายตาแน่วแน่
สมัยก่อนเขาก็หลบเลี่ยงอยู่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ตอนนี้เขามีคนที่อยากปกป้อง จะไม่ยอมให้ใครมาก่อกวนอีก ยิ่งไปกว่านั้นการถอยจะยิ่งทำให้คนคนนั้นยิ่งกร่างและบ้าคลั่ง
“สวี่จือจือ” ชายหนุ่มเรียก “ผมจะดีกับคุณ”
ภายในห้อง สวี่จือจือได้ยินคำพูดเขาแน่นอน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่จิ่งซานพูดแบบนี้ แต่ทุกครั้งมันทำให้หน้าแดงและหวานในใจ
ผู้ชายร้ายกาจนี่ชอบมาทำให้เธอหวั่นไหวโดยไม่ตั้งใจ!
.............................