“ท่านพี่นี่ท่านกำลังข่มขู่ข้างั้นหรือเ้าคะ”
แม่ทัพฟางรู้ดีว่าต่อให้ต้องเลือกนางก็ไม่อยากได้ท่านโหวน้อยที่ดูกะล่อนของสกุลหยวน
“ท่านแม่เ้าคะ ข้าไม่ได้ชอบ "หยวนเสี่ยวผิง" ท่านวางใจได้ข้าไม่มีทางแต่งกับเขาหรอกเ้าค่ะ"
“แต่ว่า…เฮ้อ ช่างเถอะหากว่าเ้าตัดสินใจเช่นนั้นแล้วแม่ก็คงสุดจะห้าม เช่นนั้นแม่จะเขียนจดหมายส่งไปให้ท่านตาเ้า ท่านพี่ท่านเองก็ส่งไปที่กองทัพเพื่อให้หลงเอ๋อร์ด้วย”
“เ้าไม่ต้องห่วงหรอก แม้ว่าท่านอ๋องจะทรงกรำศึกหนักขนาดไหนแต่ข้าเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่ละทิ้งม่านเอ๋อร์ของพวกเรา เ้าอย่าลืมสิว่าหลงเอ๋อร์เป็สหายร่วมศึกของพระองค์”
“ข้าทราบเ้าค่ะ”
หอหงซื่อ
ก่อนเดินทางเพียงสามวันฟางหลีม่านก็ออกมาเดินเล่นและฟังละครที่โรงละครเลื่องชื่อของซีโจวกับสาวใช้ของนางซึ่งพวกนางมาที่นี่เป็ประจำอยู่แล้วแต่วันนี้กลับมีแขกที่นางเองก็ไม่คิดว่าจะพบที่นี่
“หลีม่าน เ้าจะรับหมั้นกับท่านอ๋องจอมโหดผู้นั้นจริงเหรอ”
“ท่านโหวน้อย ท่านมาที่นี่ได้เช่นไรกัน”
“หยวนเสี่ยวผิง” ไม่เพียงเข้ามาแต่เขาเดินมานั่งข้าง ๆ นางอีกด้วย หยวนเสี่ยวผิงชอบพอฟางหลีม่านมานานแล้วนับั้แ่นางเข้าพิธีปักปิ่น เขาก็ลดนิสัยเ้าชู้และตามเกี้ยวนางอยู่ร่วมสองปีแต่หลีม่านดูเหมือนว่าจะไม่ได้คิดอะไรกับเขานอกจากเห็นเขาเป็เพียงสหายเท่านั้น
“ท่านโหวน้อย ข้ารับการหมั้นหมายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน แล้วที่ท่านกล่าวหาอยู่นั้นคือว่าที่คู่หมั้นของข้า เขาเป็ถึงองค์ชายเชียวนะท่านจะมาพูดว่าเขาโเี้เช่นนี้ไม่กลัวตายหรืออย่างไร ต่อให้ตระกูลหยวนทั้งตระกูลมีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัดหรอกนะ”
“เ้าอย่ามาขู่ข้าเลย ได้ข่าวว่าเ้าเตรียมตัวจะเดินทางไปที่เมืองลู่โจวแล้วงั้นหรือ”
“ท่านโหวน้อยช่างจมูกไวเสียจริงเื่นี้ท่านก็ยังรู้”
“เื่ของเ้าไม่ว่าอะไรข้าก็รู้ทั้งนั้น แต่ว่าข้าอยากจะมั่นใจจริง ๆ เ้าจะไปจริงหรือ ที่นั่นมันอยู่ติดกับชายแดนนะ”
“ข้าจะไปที่ใดท่านเกี่ยวอันใดด้วย นี่ท่านโหวน้อยข้าขอเตือนท่านอีกครั้ง ข้ากำลังจะหมั้นหมายแล้วคงไม่เหมาะที่ท่านจะมาพบปะข้าเช่นนี้”
“ตราบใดที่เ้ายังไม่เข้าพิธีแต่งงานข้าก็ยังมีสิทธิ์ ข้าไม่สนหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็ท่านโหวแม่ทัพ หรือท่านอ๋อง”
หลีม่านกลอกตาไปมา แต่ไหนแต่ไรนางก็ไม่เคยเถียงสู้หยวนเสี่ยวผิงผู้นี้ได้อยู่แล้ว และอีกไม่กี่วันนางก็จะไปจากซีโจวคงไม่ต้องพบกันอีก นางจึงเลือกที่จะไม่ถกเถียงกับเขาเมื่ออีกฝ่ายยอมถอยและเดินออกไปเอง
“คุณหนูเ้าคะ ท่านโหวน้อยผู้นี้ช่างน่ารำคาญเสียจริง ๆ เลย ตามตื๊อท่านมาหลายปีแล้ว มาวันนี้ยังไม่ยอมแพ้อีก คนอะไรกันเหตุใดท่านเ้าเมืองจึงไม่สั่งสอนบุตรชายเสียบ้างนะ”
“เอาเถอะ ๆ เจียวจูเ้าก็อย่าได้โมโหไปเลยอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางแล้วคงไม่พบเขาอีกหรอกน่า”
ฟางหลีม่านปลอบเจียวจูที่ยืนไม่พอใจเมื่อท่านโหวหยวนเดินออกจากร้านไป แม้ว่าเขาจะดูเ้าชู้และไม่เอาไหนแต่ก็นับว่าเขาเป็บุรุษหนุ่มรูปงามเปี่ยมไปด้วยความรู้ เพียงแค่ไม่ได้เป็ทหารแต่ก็พอมีวรยุทธ์เพราะเรียนกับสำนักศึกษาอันดับหนึ่งและอันที่จริงแล้วเขานิสัยคล้าย ๆ กับฟางหลีม่านอยู่หลายส่วนไม่ว่าจะเป็เื่การท่องเที่ยว รักสนุกและชอบอิสระ
“คุณหนูเ้าคะ ท่านไม่รีบกลับไปเก็บของหรือเ้าคะ”
“ไม่ล่ะ ข้าพยายามทำตัวให้เป็ปกติอยู่เ้าก็เห็นว่าท่านแม่ข้าพอเห็นว่าข้าเริ่มเก็บของนางก็เอาแต่ร้องไห้ ข้าจะเก็บตอนกลางคืนนางจะได้ไม่ต้องคิดมาก ถึงอย่างไรก็ต้องเห็นใจนางหน่อยเพราะพี่ใหญ่เองก็ไม่เคยกลับซีโจวนับั้แ่….”
“คุณหนู แต่ก็ยังเหลือคุณหนูสามนะเ้าคะ”
“อาหรูยังเด็ก แม้ว่านางจะเป็บุตรสกุลฟางแต่นางก็ยังมีแม่อยู่เ้าอย่าลืมสิ แต่ท่านแม่ของข้า…”
“เช่นนั้นท่านยังจะจากฮูหยินไปได้ลงคออีกหรือเ้าคะ ไม่สู้รอท่านอ๋องอยู่ที่นี่”
“เอาล่ะละครจบแล้วพวกเรากลับกันเถอะ ข้าจะไปเตรียมของสำหรับการเดินทางสักหน่อย”
“เ้าค่ะ”
เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าคนในจวนสกุลฟางคิดเช่นไร รวมถึงคนข้างกายนางอย่างเจียวจูด้วย เพียงแต่นางอยากจะออกท่องเที่ยวบ้างก็เท่านั้น อีกอย่างนางเองก็ไม่ได้พบหน้าพี่ชายคนเดียวของนานหลายปีแล้วนับั้แ่ที่ท่านอ๋องขออาสาออกศึกพี่ใหญ่ของนางก็ร่วมติดตามเขาดุจเงา
สามวันถัดมา วันเดินทาง
“ดูแลตัวเองให้ดี ท่านตาจะรอรับเ้าไปที่จวนของเขาก่อนที่หน้าเมืองลู่โจว จงอย่าลืมว่าอย่าสร้างความลำบากใจให้ท่านตานะเข้าใจหรือไม่”
“ท่านแม่ ท่านบอกลูกครั้งนี้เป็ครั้งที่แปดแล้วนะเ้าคะ ท่านพ่อ ลูกไปก่อนนะเ้าคะ ฝากดูแลท่านแม่ด้วย”
“ไปเถอะ”
“พี่รอง ท่านดูแลตัวเองดี ๆ ข้าทำขนมมาให้ท่านพกติดตัวไปด้วย”
“อาหรู แม่รองข้าฝากดูแลท่านแม่ด้วยนะเ้าคะ”
“ม่านเอ๋อร์ เ้าเดินทางคนเดียวต้องระวังให้มาก ๆ นี่แม่รองให้เ้าเอาไว้ป้องกันตัว อย่าให้ท่านแม่เ้าเห็นนางไม่ชอบอะไรเช่นนี้”
“หลงเยี่ยน” ฮูหยินรองยื่นกริชสีเงินอันเล็กสำหรับให้นางพกติดตัวเอาไว้มาให้ หลีม่านหันไปยิ้มให้แม่รองที่ตอนนี้เริ่มน้ำตาคลอเช่นเดียวกับมารดาของนาง แม้ว่านางจะแต่งเข้าจวนมาทีหลังแต่ทั้งสองฮูหยินก็ไม่เคยมีเื่บาดหมางกัน
สามพี่น้องที่เติบโตมาพร้อมกันก็รักใคร่กันดีไม่เหมือนกับจวนอื่น ๆ ที่มีฮูหยินหลายคน อาจจะเป็เพราะเติบโตในจวนแม่ทัพที่เข้มงวด ลูก ๆ ของในจวนจึงไม่เหมือนจวนอื่น
“ท่านแม่รองท่านเองก็รักษาสุขภาพให้ดี”
“อย่าลืมวิชาที่ข้าสอน เอาไว้ใช้ยามจำเป็นะดูแลตัวเองให้ดี ๆ ไม่ต้องห่วงท่านแม่เ้า แม่รองจะดูแลนางเป็อย่างดี”
“ข้าไปก่อนนะเ้าคะ อาหรูพี่ไปนะ”
“เดินทางปลอดภัยเ้าค่ะ”
รถม้าและขบวนคุ้มกันของจวนแม่ทัพเดินทางออกจากจวนแล้ว เมื่อขบวนออกจากประตูเมืองมาได้ฟางหลีม่านก็เปิดหน้าต่างมองออกไปด้านนอก
“เจียวจูเ้าดูสิ เราออกมานอกเมืองแล้วจริง ๆ”
“คุณหนูท่านอย่าเปิดหน้าต่างเช่นนั้นเ้าค่ะ ไม่งามนะเ้าคะ”
“เจียวจูที่นี่นอกจากต้นไม้และทหารคุ้มกันก็ไม่มีคนอื่นเลยนะ เ้าดูสิ”
เจียวจู สาวใช้ของนางกำลังจัดเก็บของจำเป็อยู่บนรถม้าและค่อย ๆ วางของเพื่อจะมาดูบรรยากาศนอกเมืองที่เต็มไปด้วยป่าเขาและมีถนนเพียงเส้นทางเดียวที่จะพาพวกนางมุ่งไปสู่เมืองลู่โจว
ซึ่งหากนับจากเวลาเดินทางแล้วน่าจะใช้เวลาประมาณสองวันกว่า ๆ ถึงจะถึงเมืองลู่โจวที่ท่านตานางอาศัยอยู่ ส่วนกองทัพของท่านอ๋องและพี่ใหญ่ของนางนั้นอยู่ห่างจากเมืองลู่โจวไปเพียงร้อยลี้เท่านั้น
“คุณหนู นอกเมืองนี่อากาศดีอย่างที่ท่านเคยบอกจริง ๆ เ้าค่ะ”
“ข้าบอกเ้าแล้วว่าเ้าต้องชอบ เอ๊ะนั่นอะไรน่ะ”
รถม้าของคณะสกุลฟางจอดพักที่ศาลาพักม้านอกเมืองเพื่อส่งรายงานให้ยังเ้าหน้าที่เพื่อให้ทราบว่าผู้ใดจะผ่านเข้าเมืองถัดไป เมื่อฟางหลีม่านเดินลงมาจากรถม้า นางกับเจียวจูก็ต้องใแทบจะล้มเมื่อเห็นว่าผู้ใดที่ตามมา
“คุณหนูเ้าคะ นั่น….”
“หยวนเสี่ยวผิง เขามาทำอะไรที่นี่กัน”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้