ขั้นตอนในการเคี่ยวยาสมุนไพรจำเป็ต้องมีความพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็ปริมาณน้ำ คุณภาพน้ำ กำลังไฟ และคุณสมบัติของไฟ
ความแตกต่างของประสิทธิภาพอันเล็กน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ หาก้าเคี่ยวสมุนไพรให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจำเป็ต้องพิจารณาสมุนไพรแต่ละชนิดในใบสั่งยาให้ละเอียดถี่ถ้วนอีกด้วย!
ในตอนนั้นท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวคือผู้ที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ทีละเล็กทีละน้อยเหล่านี้ให้กูเฟยเยี่ยน!
ไม่มีใครทราบว่ากูเฟยเยี่ยนต้องพยายามอดกลั้นไว้มากเพียงใดถึงจะสามารถบีบบังคับให้ตนเองขจัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปแล้วจดจ่ออยู่กับการเคี่ยวยาได้ ในขณะนี้ใบหน้าเล็กของนางเต็มไปด้วยความจริงจังและความเข้มงวดกวดขันราวกับไม่มีสิ่งใดสามารถรบกวนนางได้
ท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวยังเคยกล่าวเอาไว้อีกว่าแพทย์ยาจะต้องปฏิบัติต่อใบสั่งยาเหล่านี้เหมือนกับที่แพทย์รักษาปฏิบัติต่อผู้ป่วย พวกเราต้องเคารพยำเกรงชีวิตและห้ามให้เกิดความผิดพลาดใดๆ
กูเฟยเยี่ยนหันไปมองที่ตู้ด้านข้าง ภายในนั้นมีน้ำหลากหลายชนิดวางไว้อยู่ จากนั้นจึงหันไปมองอีกด้านหนึ่ง โดยที่ในด้านนี้เต็มไปด้วยกองวัสดุในการก่อไฟหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็ถ่านไม้ ไม้ ไม้ไผ่ หญ้าหลู หญ้าอ้าย
สายตาของหญิงสาวกวาดมองเตายาที่เรียงรายเป็แถวเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าการวิเคราะห์ของตนเองไม่มีความผิดพลาดจึงเริ่มเติมปริมาณน้ำที่แตกต่างกันลงไปในสมุนไพรต่างๆ ที่จัดเตรียมไว้ ก่อนจะใส่วัสดุในการก่อไฟที่แตกต่างกันเข้าไปใต้เตา
หลังจากที่ทุกสิ่งอย่างถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้วนางจึงเริ่มก่อไฟตามลำดับ
มิอาจทราบได้ว่าผ่านมานานเพียงใด แต่เมื่อกูเฟยเยี่ยนนำน้ำแกงสมุนไพรร้อนๆ ออกมา ไป๋หลี่ิชวนก็นำถ้วยยาออกมาจากห้องเคี่ยวยาด้วยเช่นกัน
เมื่อจวินจิ่วเฉินเห็นเช่นนี้ั์ตาจึงทอประกายความซับซ้อน เขาเคยเห็นทักษะยาสมุนไพรของไป๋หลี่ิชวน ดังนั้นจึงรับรู้ดีว่ากูเฟยเยี่ยนได้พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
แม้ว่านี่จะเป็การแข่งขันในรอบที่สอง ทว่าผลลัพธ์ในรอบแรกก็กำหนดแล้วว่ากูเฟยเยี่ยนจะแพ้หรือชนะ!
แต่บัดนี้ดูเหมือนว่าในแง่ของระยะเวลานั้นทั้งสองคนจะตีเสมอกัน!
แน่นอนว่ากูเฟยเยี่ยนเห็นไป๋หลี่ิชวน นางชำเลืองตามองแวบหนึ่งพลันก้าวเดินไปทางกู้อวิ๋นหย่วนต่อไป หากกล่าวว่าในตอนนี้นางไม่ตื่นเต้นเช่นนั้นคงจะเป็เื่โกหก นางรับรู้ความสามารถของไป๋หลี่ิชวนมากกว่าจวินจิ่วเฉินเสียอีก
ไม่ช้าถ้วยยาร้อนทั้งสองก็ถูกนำมาวางตรงหน้าของกู้อวิ๋นหย่วน หากดูจากสี ความแวววาว ปริมาณและกลิ่นแล้ว ดูเหมือนว่ายาทั้งสองถ้วยนี้จะไม่มีความแตกต่างกันเลย
กู้อวิ๋นหย่วนมองกูเฟยเยี่ยน ก่อนจะมองไปที่ไป๋หลี่ิชวน สุดท้ายสายตาจึงตกไปอยู่ที่ถ้วยยาทั้งสอง
ดูเหมือนว่าเขาจะชอบขมวดคิ้วเพราะเขาขมวดคิ้วอีกครั้งหนึ่งพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ “การที่ทั้งสองท่านรวดเร็วปานเทพเ้าเช่นนี้ทำให้ข้าน้อยนับถือจริงๆ เพียงแต่ในเื่ของทักษะยาสมุนไพรนั้นข้าน้อยมีความรู้ไม่มากนักจึงไม่กล้าแสดงฝีมืออันต่ำต้อยต่อหน้าท่านทั้งสอง เอาเป็ว่าพวกท่านสลับกันลิ้มรสยาแล้วพิจารณาแพ้ชนะกันเอง เป็อย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่แน่ใจว่ากู้อวิ๋นหย่วนไม่มีความรู้ทางด้านทักษะสมุนไพรจริงๆ หรือแกล้งทำเป็ไม่มีความรู้ แต่นางรู้ว่าวิธีการที่เขาพูดถึงนั้นเป็วิธีที่ชาญฉลาดมาก เพราะวิธีนี้ทำให้การแข่งขันในรอบนี้ไม่เพียงแค่ทำการเคี่ยวยาเท่านั้นแต่ยังมีการดื่มยาอีกด้วย!
การดื่มยาก็เป็เทคนิคอย่างหนึ่ง!
ไป๋หลี่ิชวนตกตะลึงครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา “แพทย์กู้ วิธีนี้ของท่านยอดเยี่ยมเสียจริง! ยอดเยี่ยมมาก! ”
ไป๋หลี่ิชวนหันไปมองกูเฟยเยี่ยนพลางกล่าวว่า “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ ปากของเปิ่นหวงจื่อนั้นพิถีพิถันต่ออาหารการกินมากนะ เ้ากลัวหรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนรีบนำถ้วยยาวางหน้าเขาทันที จากนั้นจึงเหลือบตามองด้วยความเ็าพร้อมกับกล่าวว่า “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ไม่ใช่ชื่อที่เ้าจะเรียกได้” นอกเหนือจากคำพูดนี้แล้วนางไม่ได้พูดอะไรต่อสักคำ
ไป๋หลี่ิชวนนำถ้วยยาที่ตนเองเคี่ยวมาวางไว้ด้านหน้าของกูเฟยเยี่ยน เห็นได้ชัดเลยว่าเขาจงใจเพราะเขาเอ่ยออกมาอีกว่า “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เชิญ! ”
กูเฟยเยี่ยนยกถ้วยยาขึ้นมา หลังจากที่ได้เห็นสีและดมกลิ่นแล้วภายในใจก็มีความคิดคร่าวๆ
นางชำเลืองตามองไป๋หลี่ิชวน ไป๋หลี่ิชวนก็มองสีกับดมกลิ่นเช่นกัน นางจึงวางถ้วยยาลงแล้วหยุดชั่วคราว
ไป๋หลี่ิชวนให้ความสนใจกูเฟยเยี่ยนเช่นกัน เพียงแต่เขาไม่ได้หยุด เขาเป่าน้ำแกงสมุนไพรเบาๆ พลางกล่าวว่า “ยาตัวนี้จำเป็ต้องให้เย็นตัวลงสามส่วนก่อนค่อยดื่ม”
สิ่งที่เขาพูดคือสิ่งเดียวกันกับที่กูเฟยเยี่ยนกำลังทำอยู่ กูเฟยเยี่ยนยังคงเงียบ สายตาแอบเมียงมองริมฝีปากของเขาแวบหนึ่ง
หลังจากที่ยาเย็นตัวลงสามส่วนทั้งสองคนจึงเริ่มลิ้มรสกันจริงๆ กูเฟยเยี่ยนมองไปที่ริมฝีปากของไป๋หลี่ิชวนอีกครั้งหนึ่งราวกับกำลังสังเกตอะไรบางอย่าง ทั้งสองคนต่างก็ดื่มเพียงหนึ่งคำเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่ได้จะดื่มต่อไปกู้อวิ๋นหย่วนจึงปริปากพูดออกมา “ทั้งสองท่านได้ข้อสรุปแล้วหรือ? ”
ไป๋หลี่ิชวนเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เ้าจะพูดก่อนหรือให้เปิ่นหวงจื่อพูดก่อน? ”
กูเฟยเยี่ยนยังไม่ทันได้ตอบ กู้อวิ๋นหย่วนก็เอ่ยออกมาด้วยความรีบร้อน “เพื่อความยุติธรรมทั้งสองท่านโปรดเขียนข้อสรุปลงบนกระดาษ”
ผู้ที่เป็ผู้พูดก่อนมักจะจับผิดและเตือนผู้ที่พูดทีหลังได้ไม่มากก็น้อย มันไม่ยุติธรรมจริงๆ !
กูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนล้วนไม่มีความเห็น ทั้งสองคนกลับไปยังห้องโถงรับรองแล้วแยกย้ายไปเขียนข้อสรุปของการลิ้มรสยาจากนั้นจึงมอบให้กับกู้อวิ๋นหย่วน
กู้อวิ๋นหย่วนชำเลืองมองแล้วขมวดคิ้วอีกครั้ง เพียงแต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้ถอนหายใจออกมา เขาเผยรอยยิ้มเบาบางด้วยความอ่อนโยนราวกับนักปราชญ์ที่ใสซื่อ
เขาเอ่ยว่า “ในรอบนี้เกรงว่าจะเสมอกันแล้ว”
เขาแสดงกระดาษทั้งสองแผ่นออก บนกระดาษของกูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนนั้นต่างฝ่ายต่างก็เขียนเหมือนกันทุกประการ ภายในใบสั่งยานี้มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีนามว่า “เยี่ยอวี๋หรง” เป็สมุนไพรที่ให้ความอบอุ่น โดยสมุนไพรชนิดนี้เหมือนกันกับสมุนไพรให้ความอบอุ่นชนิดอื่นคือหาก้าให้ยาสำแดงประสิทธิภาพออกมาเต็มที่ วิธีที่ดีที่สุดคือใช้การใช้ปุ๋ยคอกในการก่อไฟเคี่ยวยา
ภายในห้องเคี่ยวยาไม่มีปุ๋ยคอก กูเฟยเยี่ยนกับไป๋หลี่ิชวนจึงไม่ได้ใช้ปุ๋ยคอกในการก่อไฟ ทางด้านของกูเฟยเยี่ยนนั้นใช้ถ่านไม้ ไป๋หลี่ิชวนใช้ฟืนหม่อน
ไป๋หลี่ิชวนลูบไล้ปลายคางก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “แพทย์กู้ เปิ่นหวงจื่อใช้ฟืนหม่อนที่ให้ผลลัพธ์ในประสิทธิภาพของยาอย่างยอดเยี่ยมเฉกเช่นปุ๋ยคอก เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ใช้ถ่านไม้ พลังของไฟมีความช้า อย่างมากก็ไม่ทำลายประสิทธิภาพของยาก็เท่านั้น”
กู้อวิ๋นหย่วนพูดน้ำเสียงจริงจัง “ข้าน้อยไม่ได้จัดเตรียมปุ๋ยคอกไว้จริงๆ ข้าน้อยเลินเล่อไปแล้ว เพียงแต่ความแตกต่างระหว่างถ่านไม้กับฟืนหม่อนนั้นข้าน้อยจะไม่ถามให้ชัดเจนแล้ว”
เขาหันไปส่งสายตาสอบถามกูเฟยเยี่ยน
กูเฟยเยี่ยนไม่ทราบว่ากู้อวิ๋นหย่วนแสร้งทำเป็เขลาหรือไม่เข้าใจจริงๆ นางทราบเพียงแค่ว่าการที่ตนเองไม่ได้ใช้หวางเป่าติงในการโกงนั้นเป็สิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นแล้วหวางเป่าติงจะต้องใช้คุณสมบัติของปุ๋ยคอกในการก่อไฟเพื่อเคี่ยว “เยี่ยอวี๋หรง” อย่างแน่นอน ถ้าเป็เช่นนั้นนางก็จะไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับข้อสงสัยของกู้อวิ๋นหย่วน กูเฟยเยี่ยนจึงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “สิ่งที่องค์ชายสามกล่าวมานั้นมีเหตุผล”
ไป๋หลี่ิชวนรู้สึกประหลาดใจ เขาคิดไม่ถึงว่ากูเฟยเยี่ยนจะเห็นพ้องต้องกันกับเขาอย่างง่ายดายเพียงนี้ ในส่วนของจวินจิ่วเฉินที่อยู่ด้านข้างนั้นประหลาดใจยิ่งกว่า ต้องทราบไว้ว่านี่ไม่ใช่วิถีของกูเฟยเยี่ยนเลย!
การที่นางยอมรับในคำพูดของไป๋หลี่ิชวนหมายความว่า…ยอมแพ้แล้วหรือ?
กู้อวิ๋นหย่วนรีบเอ่ยถาม “แพทย์หญิงกู คำพูดเช่นนี้คือท่านยอมรับว่ายาของตนเองถ้วยนี้สู้องค์ชายสามไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนพยักหน้าอีกครั้ง “ใช่แล้ว! ในแง่ของประสิทธิภาพของเยี่ยอวี๋หรงนั้นด้อยกว่าจริงๆ ทว่าถึงอย่างไรแล้วข้าก็ชนะ”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนงงงวยมากขึ้นไปอีก
จวินจิ่วเฉินรอคำตอบอย่างเงียบเชียบ กู้อวิ๋นหย่วนหันไปมองไปหลี่ิชวน ไป๋หลี่ิชวนไม่เคยดูถูกคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างกูเฟยเยี่ยนมาก่อน เขาไม่ได้ยิ้มแต่ค่อยๆ หรี่ตาเรียวลงพลางครุ่นคิดอย่างจริงจัง
ท้ายที่สุดเขาก็ยังไม่เข้าใจว่ากูเฟยเยี่ยนจะชนะได้อย่างไร เขาจึงเอ่ยออกมา “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ หากเ้าพูดเหตุผลออกมาไม่ได้ เช่นนั้นก็คงจะไม่น่าสนใจเสียแล้ว! ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้พูดแต่อ้าปากน้อยๆ ของตนเอง…