เล่มที่ 1 บทที่ 9
เสียงโง่เง่าคล้ายกับเด็กอายุห้าขวบผสมกับเสียงปรบมือซึ่งดังไม่เป็จังหวะ
มู่หรงฉิงใแต่ดวงตาของซูมู่หานกลับเป็ประกาย
“เอ๋! เ้าดูสิ ที่นี่มีขนมของว่างจำนวนมาก และยังมีขนมฝูหรง[1] ที่ข้าชอบด้วย”
เสียงจากด้านนอกประตูใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อลมพัดมา ชายของผ้าม่านด้านหนึ่งจึงถูกลมพัดปลิว ในจังหวะที่คนอยู่ด้านนอกห้องค้อมตัวหยิบขนมฝูหรง ก็เห็นสถานการณ์ภายในห้องอย่างกระจ่าง ในเวลาเดียวกัน มู่หรงฉิงซึ่งอยู่ภายในบ้านก็มองเห็นใบหน้าของผู้คนที่อยู่ด้านนอกห้องเช่นเดียวกัน
นอกจากเสียงคล้ายเด็กแล้ว ใบหน้าสดใสของผู้ชายคนนั้นนับได้ว่าเป็ชายรูปงามหายากจริงๆ
“เอ๋! กำลังประลองฝีมือกันอยู่หรือ ข้าก็อยากประลองฝีมือเหมือนกัน”
ทันทีที่คนอยู่ด้านนอกเห็นสถานการณ์ภายในห้อง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็เป็ประกายวับ เขาเลิกผ้าม่านขึ้นพร้อมวิ่งพรวดพราดเข้ามาด้วยความว่องไว “ข้าจะประลองฝีมือ ข้าจะประลองฝีมือ”
“คุณชายรอง”
คนที่ชื่อจ้าวจื่อซินเห็นชายคนนั้นวิ่งเข้าไปในห้องก็รีบวิ่งตามเข้าไปด้วย แต่ดวงตาของเขาได้ดำมืดลงทันทีหลังจากเห็นสถานการณ์ภายในห้อง
ดูเหมือนว่าคุณชายจะถูกคนหลอกใช้เสียแล้ว
“หลังจากเ้าชนะนางแล้ว ข้าจะประลองฝีมือกับเ้าต่อ”
ครั้นเห็นว่ามู่หรงฉิงถูกซูมู่หานควบคุมไว้ ชายหนุ่มจึงขยับตัวและมือไม้ไปทางซูมู่หานโดยไม่พูดอะไรอีกต่อไป การเคลื่อนไหวของเขาโเี้และปราศจากความปรานี
เพียงสิบกระบวนท่า ซูมู่หานก็ถูกตบด้วยฝ่ามืออย่างแรงจนต้องถอยกลับไปที่โต๊ะในสภาพสะบักสะบอม
“ท่านนี้คือคุณชายรองของจวนเฉิน?” ซูมู่หานกดเืที่หน้าอกของเขา ยกกำปั้นพุ่งไปทางชายหนุ่มคนนั้น
“เอ๋! จ้าวจื่อซิน เขาจำข้าได้ด้วยล่ะ ถ้าเช่นนั้นก็ดีเลย มาประลองฝีมือกันอีก” เฉินเทียนหยูพูดกับจ้าวจื่อซินอย่างมีความสุข แต่กลับตั้งท่าพร้อมที่จะเคลื่อนไหวไปทางซูมู่หานอีกหน
หลังจากยืนยันสถานะของเฉินเทียนหยู ซูมู่หานก็ได้แต่ถอนหายใจและรีบหลบหลีกหมัดของเฉินเทียนหยูพร้อมพูดอย่างร้อนรนว่า “คุณชายรองเฉินได้โปรดเมตตา ทักษะการต่อสู้ของผู้น้อยไม่อาจเทียบกับคุณหนูมู่หรงได้ คุณชายรองเฉินประลองฝีมือกับคุณหนูมู่หรงหลายๆ กระบวนท่าจะเป็การดีกว่า”
ระหว่างพูด ชายหนุ่มได้รีบแก้จุดเซวียของมู่หรงฉิง จากนั้นกระโจนออกไปทางนอกหน้าต่างและหายวับไป
มู่หรงฉิงรีบสาวเท้าออกจากประตูทันทีหลังได้รับการคลายจุดเซวีย ทว่าหมัดของเฉินเทียนหยูก็มาพร้อมกับเสียงลม
จ้าวจื่อซินที่อยู่ด้านข้างเห็นซูมู่หานกำลังหลบหนี จึงคิดจะเข้าไปขวาง แต่เนื่องจากเห็นเฉินเทียนหยูใช้แรงสิบส่วนพุ่งไปทางมู่หรงฉิง เขาถึงทำได้เพียงปล่อยซูมู่หาน ก่อนวิ่งไปยังตรงหน้ามู่หรงฉิงทันทีเพื่อยับยั้งกำปั้นของเฉินเทียนหยู “คุณชายรองเวลาค่ำแล้ว เกรงว่าฮูหยินน่าจะกำลังตามหาคุณชายรองอยู่”
เสียงเ็าอะไรเช่นนี้
นี่เป็ความรู้สึกเดียวของมู่หรงฉิง เมื่อนางได้ยินเสียงของจ้าวจื่อซิน
“ไม่เอา ข้าจะประลองฝีมือกับนาง คนคนนั้นบอกว่านางเก่งกาจมาก” เฉินเทียนหยูะโโลดเต้นอย่างไม่เชื่อฟัง “จ้าวจื่อซิน เ้าหลีกไปให้พ้น มิเช่นนั้นข้าจะให้งูกัดเ้า”
ระหว่างพูด ชายหนุ่มหยิบงูเขียวตัวเล็กๆ ออกมาจากแขนเสื้อของตน ก่อนที่จะขว้างไปทางจ้าวจื่อซินอย่างไร้ความปรานี
งูเขียวใบไผ่
มู่หรงฉิงตะลึงพรึงเพริด รีบผลักจ้าวจื่อซินออกไป เมื่อครู่ก่อนโชคดีที่จ้าวจื่อซินเคลื่อนไหวได้ทันท่วงที นางถึงได้รอดพ้นจากหมัดของชายหนุ่มผู้นั้น แต่นั่นมันงูพิษชัดๆ นางไม่อาจปล่อยให้จ้าวจื่อซินได้รับาเ็
แต่เดิมมู่หรงฉิงก็อ่อนแออยู่แล้ว นางย่อมผลักจ้าวจื่อซินออกไปไม่ได้ อย่างไรก็ดีจ้าวจื่อซินกลับยกมือขึ้นจับงูพิษได้อย่างง่ายดาย ถึงกระนั้นเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวในระหว่างจ้าวจื่อซินรับงูพิษ เฉินเทียนหยูก็โผเข้าหามู่หรงฉิง
ขาของมู่หรงฉิงอ่อนแรงั้แ่ก่อนหน้าแล้ว ครั้นเฉินเทียนหยูชายซึ่งเป็ชายหนุ่มร่างสูงโผเข้าหา นางจึงล้มลงบนพื้น ในเวลาเดียวกันเฉินเทียนหยูก็ล้มลงบนร่างของมู่หรงฉิง ขณะที่ทั้งคู่ล้มลง ได้ดึงผ้าม่านประตูลงมา เฉินเทียนหยูทับอยู่บนร่างกายของมู่หรงฉิงก่อนทั้งสองจะกลิ้งลงไปนอนในลานสนามหญ้า
“อ๊า…”
เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วอากาศ มู่หรงฉิงกะพริบตา นางเห็นยวี้เอ๋อร์ออกอาการตื่นตระหนก กุมปาก หยาดน้ำตาคลอเบ้าตาทั้งสองข้าง
ดี! ดีมาก ยวี้เอ๋อร์เ้าตัวดี
-------------------------------
[1] ขนมฝูหรง เป็ขนมทำจากแป้งห่อถั่วแดง ตัดแต่งคล้ายพายกรอบ โดยทำเป็รูปดอกฝูหรง