ูเาด้านหลังตระกูลเย่ เมืองชาง
เย่ไป๋หู่ยื่นจดหมายข่าวที่เขียนด้วยลายมือของเย่เทียนหลงที่ส่งมาจากเมืองัไปให้เย่ชิงหนิว เย่เทียนหลงเขียนบอกเพียงคร่าวๆ ถึงผลสรุปของการพูดคุยระหว่างเขากับหลงผี่ฟู พร้อมทั้งสั่งการให้เย่ไป๋หู่นำพาผู้าุโครึ่งหนึ่งของตระกูลไปยังเมืองัเพื่อรอพิจารณาตัดสินโทษของตระกูลเสว่ จากนั้นค่อยออกเดินไปยังเขตปกครองเทพปีศาจ
“ในเมื่อท่านหัวหน้าตระกูลส่งข่าวมาแล้วเ้าก็นำคนไปเถอะเดี๋ยวข้าจะนั่งรักษาการณ์อยู่ที่นี่เอง!” เย่ชิงหนิวอ่านจดหมายจบอย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยขึ้น
“แล้ว...พี่หนิวอาการาเ็ของท่านยังไม่หายดี อีกอย่างนางหนูคนนั้นก็ยังไม่ทันตื่นขึ้นมา ถ้าข้าพาคนออกไปเช่นนี้หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น?” เย่ไป๋หู่มองไปยังหอที่อยู่ข้างๆ ด้วยความห่วงกังวล เย่ชิงอวี่เมื่อหลายวันก่อนหลังจากที่ร่างกายดูดผลึกเทวะเข้าไปเองสีหน้าอาการแม้จะดูดีขึ้นมาเรื่อยๆ แต่พวกเขาทั้งสองไม่สามารถที่จะตรวจสอบดูสภาพอาการิญญาของนางได้ แม้กระทั่งตัวยาหล่อเลี้ยงิญญาที่เคยใช้มาตลอดก็ไม่มีผลต่อนางอีก ดังนั้นเย่ไป๋หู่จึงเป็ห่วงกังวล
เย่ชิงหนิวรู้ว่าเย่ไป๋หู่คิดอะไรอยู่จึงพูดอธิบายออกมาว่า “วางใจเถอะ ในเมื่อท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษไม่ได้พูดอะไรมากก็แสดงว่ารู้อาการของเย่ชิงอวี่เป็อย่างดี พูดเพียงแค่ว่าให้ปกป้องคุ้มครองนางให้ดีก็พอที่เหลือพวกเราคงไม่จำเป็ต้องทำอะไรมากไปกว่านี้แล้วละ อาการาเ็ของข้าอีกครึ่งเดือนก็น่าจะหายดีแล้ว มีข้าอยู่ที่นี่เ้าไปได้อย่างวางใจไม่ต้องห่วงกังวลใดๆ!”
“ตกลง! ท่านอยู่ก็ดูให้ดีๆ ด้วยล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปเมืองัก่อนจากนั้นค่อยร่วมกันกับพี่หลงบุกไปยังเขตปกครองเทพปีศาจช่วยเอาคืนให้ท่าน!” เย่ไป๋หู่พยักหน้าตอบรับออกมา จากนั้นพูดขึ้นอย่างจำใจ
.................................
วันรุ่งขึ้นรถม้าที่เร็วที่สุดของตระกูลเย่หลายสิบคันเคลื่อนตัวออกจากเมืองชางมุ่งหน้าสู่เมืองัโดยมีเย่ไป๋หู่และเหล่าผู้าุโอีกสิบกว่าคนร่วมเดินทางไปด้วย ส่วนพวกเฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า และหลงไซ้หนานก็ออกเดินทางมาพร้อมกัน เย่ชิงหานไม่อยู่ส่วนเย่ชิงอวี่ก็ได้เห็นแล้วแม้พวกเขาจะนึกสงสัยอยู่ว่าทำไมเย่ไป๋หู่ไม่ช่วยเย่ชิงอวี่ให้ฟื้นก่อนที่จะไปยังเมืองั แต่ก็อย่างว่ามันเป็เื่ภายในตระกูลของพวกเขาพวกตนเองก็ไม่อยากที่จะซักถามอะไรมากจะดูเสียมารยาทจนเกินไป ส่วนข่าวที่ส่งมาจากเมืองัพวกเขาได้ดูแล้วและจำเป็จะต้องไปเป็พยาน ดังนั้นทุกคนจึงปรึกษากันว่ารีบออกเดินทางไปพร้อมกับเย่ไป๋หู่เพื่อไปให้ถึงเมืองัจะดีที่สุด
รถม้าหรูหราโอ่อ่าใหญ่โตเดินทางติดต่อกันทั้งกลางวันกลางคืนเป็เวลาสิบสองวันจึงมาถึงยังเมืองั รวดเร็วยิ่งกว่าเมื่อตอนที่เย่ชิงหานที่ใช้เวลาเดินทางเกือบสองเดือนกว่าจะมาถึงไม่รู้กี่เท่าตัว แต่ในตอนนั้นพวกเย่ชิงหานไม่ได้รีบเร่งเดินทางและยังแวะไปที่เมืองเซียนหุนอีกหลายวันเลยทำให้ช้าไปมาก
เมื่อพวกเขามาถึงเมืองัก็พบว่าคนของตระกูลเฟิง ตระกูลฮวา ตระกูลเยว่ และจ้าวเมืองทั้งหลายล้วนมาถึงกันก่อนหน้าเกือบจะทุกคนแล้ว พวกเขาเหล่านี้อย่างต่ำสุดล้วนเป็ผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิด้วยกันทั้งนั้น ต่างใช้การเหาะลอยมาดังนั้นถ้าจะมาถึงรวดเร็วกว่าจึงไม่ใช่เื่แปลกอะไร
หลายวันมานี้เมืองัคึกคักขึ้นมากเป็พิเศษ หลายร้อยปีมานี้เพิ่งจะมีการใช้ป้ายคำสั่งโลหิตเทพาเป็ครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีเื่การพิจารณาตัดสินโทษของตระกูลเสว่หนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ ทั้งสองเื่ถือว่าเป็เื่ใหญ่ที่สั่นะเืไปทั่วทั้งเขตปกครองเทพา เหล่ายอดฝีมือจากทั่วสารทิศย่อมไม่พลาดงานชุมนุมใหญ่เช่นนี้แน่ แม้กระทั่งยอดฝีมือที่หลีกเร้นกายไปไม่สนใจต่อเื่ราวโลกภายนอกยังเดินทางมาเข้าร่วมงานชุมนุมในครั้งนี้
ตระกูลเสว่ถือเป็จ้าวผู้ปกครองของเมืองเพียวเสว่ซึ่งเป็หนึ่งในหกเมืองหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมียี่สิบหัวเมืองใหญ่และร้อยหัวเมืองเล็กในอาณาเขตใกล้เคียงเป็บริวาร ครั้งนี้ถ้าหากตระกูลเสว่ล้มลงอำนาจในการปกครองเมืองเพียวเสว่ที่เป็ดั่งเค้กก้อนโตถ้าตกเป็ของตระกูลใด ไม่แน่ว่าอีกร้อยปีข้างหน้าตระกูลนั้นอาจจะขึ้นมามีอำนาจเหมือนกับตระกูลเสว่ก็เป็ได้
ดังนั้นหลายวันมานี้คลื่นใต้น้ำที่เมืองัไหลเชี่ยวเป็อย่างมาก ผู้ที่แวะเวียนมาพูดคุยเยี่ยมเยียนยังจวนจ้าวเขตปกครองและมาหาคนของสี่ตระกูลมีมากมายอย่างไม่ขาดสาย ทุกคนต่างคันไม้คันมือรอหลังจากการพิจารณาตัดสินเสร็จแล้วจัดการพังตระกูลเสว่ให้ล้มลงอย่างแท้จริง จากนั้นทุกคนแบ่งเค้กจากเมืองเพียวเสว่กันคนละชิ้นสองชิ้น
.................................
เย่เทียนหลงในตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจความเป็ตายของตระกูลเสว่แล้ว เขาคิดว่าสำหรับตระกูลเสว่ที่สร้างความโกรธแค้นร่วมให้มวลชนเช่นนี้ผลลัพธ์ไม่จำเป็ต้องเป็ห่วงใดๆ อีก เมื่อป้ายคำสั่งโลหิตเทพาถูกใช้ออกไป ยอดฝีมือระดับสูงมารวมตัวกันที่เมืองั พิจารณาตัดสินโทษของตระกูลเสว่เสร็จ จากนั้นบุกไปที่เขตปกครองเทพปีศาจก็คงไม่มีอุปสรรคอะไรมาก ที่ทำให้เขาเป็กังวลในตอนนี้คือข่าวของเย่ชิงอวี่ที่เย่ไป๋หู่นำมาบอกเขา เมื่อได้ฟังถึงกับทำให้เขาตกตะลึงหน้ามืดไปเหมือนกัน
ของที่เขาขอแลกเปลี่ยนมาจากเ้าเกาะแห่งเกาะเร้นลับกลับไม่ใช่ยาิญญาเทวะ? แต่เป็ผลึกเทวะ? ผลึกเทวะคืออะไรเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เย่รั่วสุ่ยถึงกับบอกว่าขายทั้งตระกูลเย่ทิ้งไปก็ยังแลกเอามาไม่ได้ อย่างนี้ก็แสดงว่าเป็ของล้ำค่าชนิดที่ประเมินราคามูลค่าไม่ได้ สามารถทำให้เย่ชิงอวี่ที่ไม่เคยฝึกฝนพลังยุทธ์เลยสามารถกลายเป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพได้
มีอยู่เื่หนึ่งที่ทำให้เขาไม่เข้าใจ หนึ่งปีก่อนตอนที่เขาไปขอแลกยาิญญาเทวะที่ทะเลตะวันออก ความจริงแล้วจ้าวเกาะเร้นลับไม่ได้นำยามาแลกเปลี่ยนกับเขาทันที แต่ตอบกลับมาเพียงแค่ว่าตอนนี้ยังไม่มีแล้วบอกกับเขาว่าเดี๋ยวค่อยมาใหม่ แต่ในขณะที่เขากำลังเดินทางกลับมาตระกูลเย่อย่างจำใจนั้น เมื่อกำลังจะกลับมาถึงเมืองชางจ้าวเกาะเร้นลับพลันเคลื่อนย้ายในพริบตามาโผล่อยู่ตรงหน้าของเขาและทำการแลกยาิญญาเทวะให้กับเขาในทันที จากนั้นแม้แต่ของล้ำค่าที่เขานำมาแลกยังไม่เปิดดูแม้แต่น้อย ท่าทีของจ้าวเกาะเร้นลับแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับดิน ตอนนี้ที่สำคัญคือจ้าวเกาะเร้นลับไม่ได้ให้ยาิญญาเทวะแก่เขา แต่กลับมอบผลึกเทวะที่วิเศษล้ำค่ามากกว่ายาิญญาเทวะเป็หมื่นๆ เท่า?
การกระทำเช่นนี้มันแอบแฝงความลับอันใดอยู่ข้างใน? ทำไมท่าทีของจ้าวเกาะเร้นลับครั้งแรกกลับครั้งหลังถึงได้แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน? ทำไมถึงต้องมอบของที่วิเศษล้ำค่าเช่นนั้นให้แก่เขาซึ่งไม่ต่างจากการให้เปล่าเสียด้วยซ้ำ? แล้วผลึกเทวะมันคืออะไรกัน? ทำไมเย่รั่วสุ่ยถึงได้พูดว่าอีกสิบปีข้างหน้าเย่ชิงอวี่จะกลายเป็เทพ?
เพียงแต่ต่อให้เขาคิดเท่าไร คิดจนสมองะเิก็คิดไม่ออก ความล้ำลึกที่อยู่ข้างในเื่ราวเหล่านี้มันอยู่เกินขอบเขตที่เขาจะสามารถรู้และเข้าใจได้...ทำได้เพียงคาดหวังว่าหลังจากเย่รั่วสุ่ยไปยังทะเลตะวันออกกลับมาจะสามารถคลี่คลายปริศนาเหล่านี้ให้เขาเข้าใจได้
ใช้สมองครุ่นคิดอยู่ทั้งคืนก็ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างสุดท้ายจึงดึงอารมณ์ความคิดกลับมา ภายนอกหน้าต่างเริ่มปรากฏแสงแดดในยามเช้าสาดส่องไปทั่วผืนปฐี วันนี้เป็วันพิจารณาตัดสินโทษของตระกูลเสว่ และเป็วันปกปักษ์รักษาชื่อเสียงเกียรติภูมิของตระกูลเย่อีกด้วย
เดินออกจากประตูห้องไปเย่เทียนหลงจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วพยักหน้าให้เย่ไป๋หู่และเหล่าผู้าุโทั้งหลายของตระกูลที่ต่างมานั่งรอเขาในห้องโถงให้ั้แ่ก่อนหน้า จากนั้นจึงเดินออกจากห้องโถงใหญ่เป็คนแรกบ่ายหน้าไปทางลานกว้างของจวนจ้าวเขตปกครอง
บริเวณลานกว้างจวนจ้าวเขตปกครองในตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมืดฟ้ามัวดินที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศของเขตปกครองเทพาต่างยืนเบียดเสียดกันอยู่อย่างแน่นขนัด ผู้คนที่มาในครั้งนี้มากมายกว่าตอนที่มาตอนงานประลองาระหว่างเขตปกครองเมื่อหนึ่งปีก่อนที่ผ่านมาอย่างไม่สามารถนำมาเทียบได้ แต่คนส่วนมากที่มาก็เพื่อมาดูเอาสนุกเพียงเท่านั้น
ชอบความสนุกครื้นเครง ชอบดูเื่สนุกตื่นเต้นถือเป็นิสัยปกติเคยชินของเผ่ามนุษย์มาั้แ่ไหนแต่ไร
คนของตระกูลฮวามากันครบแล้วล้วนอยู่ในชุดสีดำพร้อมกับใบหน้าที่เ็าไร้ความรู้สึก ยืนกันอยู่ด้านข้างของจวนจ้าวเขตปกครอง
คนของตระกูลเฟิงก็ล้วนมากันครบแล้ว ดาบยาวสะพายอยู่ด้านหลังทั้งหมดอยู่ในชุดสีขาวดูราวกับเซียนกระบี่
หญิงสาวของตระกูลเยว่ก็มากันแล้ว ใบหน้าล้วนคาดผ้าปิดหน้าสีขาว รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร ลักษณะท่าทางราวกับเทพธิดา
คนของทั้งสามตระกูลล้วนยืนกันอยู่ด้านหน้าประตูจวนจ้าวเขตปกครองด้วยสีหน้าทระนงองอาจห้าวหาญ
เย่เทียนหลงพยักหน้าไปทางด้านหลังแล้วเดินตรงไปยังที่ที่ทั้งสามตระกูลยืนกันอยู่ จากนั้นพยักหน้าให้แก่เหล่าหัวหน้าตระกูลทั้งหลายทีละคนสีหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกขอบคุณ แม้ว่าครั้งนี้ตระกูลเสว่จะทำให้มวลชนโกรธแค้นและเสว่อู๋เหินเกือบทำให้นายน้อยและคุณหนูของตระกูลทั้งหลายเกือบตายไปด้วย แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร พวกเขาทำการแสดงออกมาอย่างเปิดเผยมายืนอยู่เช่นนี้ถือว่าเป็การช่วยตระกูลเย่ได้มากเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าเย่เทียนหลงไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักขอบคุณคน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้