หยุนจ่านเผิงจ้องหานรุ่ยด้วยดวงตาที่ร้อนผะแ่ น้ำตาไหลรินไม่รู้ตัว ไม่มีใครรู้หรอกว่า หลายปีที่ผ่านมา เขาผ่านมาอย่างยากเย็นเพียงใด หานรุ่ยเป็เพื่อนสนิทคนเดียวของหยุนจ่านเผิง ทั้งคู่มีภูมิหลังของตระกูลคล้ายคลึงกัน อายุไล่เลี่ยกัน มีความสามารถและมีความสนใจคล้ายกัน กระตือรือร้นในการบำเพ็ญเพียร ในเวลาเดียวกันก็เป็ซวงเอ๋อร์ทั้งคู่ หานรุ่ยมีนิสัยเ็า ส่วนหยุนจ่านเผิงกลับกระตือรือร้นดุจไฟ จะบอกว่าเป็เื่ยากสำหรับคนสองคนที่มีบุคลิกตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ที่จะเป็เพื่อนกันได้ แต่ทว่า มันน่าใที่คนทั้งสองไม่เพียงเป็เพื่อนกัน แต่ยังเป็เพื่อนตายด้วย
ตระกูลหานและตระกูลหยุนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้นเด็กสองคนจึงกลายเป็เพื่อนที่ดีต่อกัน ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความสุขที่เห็นเป็เช่นนี้ เหตุผลที่หานรุ่ยและหยุนจ่านเผิงเป็เพื่อนสนิทกันนั้น ก็เพราะว่าผลจากการใช้ใจแลกใจ ทั้งสองคนปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจ แม้ว่าจะมีสิ่งที่ไม่อาจบอกกล่าวกันและกันได้ แต่คนทั้งสองก็ไม่หลอกลวงกัน พวกเขาจะพูดเพียงว่า พวกเขาไม่อาจบอกเ้าได้ มีอันตรายมากมายบนเส้นทางแห่งการบำเพ็ญเพียร ทั้งสองคนมักจะออกไปหาประสบการณ์ด้วยกันเสมอ พลังปราณของหานรุ่ยนั้นสูงกว่าของหยุนจ่านเผิง เขาเคยช่วยชีวิตของหยุนจ่านเผิงหลายครั้ง และบางครั้งหานรุ่ยก็เอาชีวิตตนเองเข้าแลกเพื่อช่วยหยุนจ่านเผิง หยุนจ่านเผิงเห็นว่าหานรุ่ยเสี่ยงชีวิตเพื่อเขาหลายต่อหลายครั้ง หยุนจ่านเผิงเกลียดความอ่อนแอของตัวเองนัก แต่ทว่า หยุนจ่านเผิงไม่ยอมแพ้ต่อตัวเอง ยังคงบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก พยายามไม่เป็ขาหลังของหานรุ่ย เพื่อนทั้งสองเดินไปตามทางเช่นนี้ ความสัมพันธ์เริ่มลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ หากทั้งคู่มิใช่ซวงเอ๋อร์ คาดว่าผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายคงจับให้พวกเขาคู่กันอย่างแน่นอน อาจกล่าวได้ว่า หากไม่มีหานรุ่ยในวันนี้ ก็จะไม่มีหยุนจ่านเผิงในวันนี้
หยุนจ่านเผิงรู้จักหานรุ่ยดี หานรุ่ยยอมใช้มีดแทงตัวเองเพื่อตระกูลและเพื่อนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของเขาเอง แต่ทว่า หานรุ่ยจะไม่ละทิ้งชีวิตอันมีค่าของเขาเพื่อคนที่ไม่สลักสำคัญอะไร สำหรับหานรุ่ย ถึงแม้องค์ชายสามสุ่ยเย่ว์หรูหวาจะเป็คู่หมั้นของเขา แต่ในสายตาของหานรุ่ย สุ่ยเย่ว์หรูหวาก็แค่คู่หมั้นที่เสมือนคนแปลกหน้า ดังนั้น หยุนจ่านเผิงรู้ว่าหานรุ่ยไม่มีทางช่วยชีวิตสุ่ยเย่ว์หรูหวาจนตัวเองได้รับาเ็แน่ ต่อมา หานรุ่ยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หยุนจ่านเผิงคิดในใจ หานรุ่ยต้องถูกสุ่ยเย่ว์หรูหวาฆ่าตายแน่ เพราะเขาเคยสายตารังเกียจและสายตาที่อยากฆ่าที่มีต่อหานรุ่ยของสุ่ยเย่ว์หรูหวา ด้วยเหตุนี้ หยุนจ่านเผิงจึงต่อต้านโดยไม่เห็นแก่หน้าตระกูล ยืนกรานที่จะหาทางแก้แค้นองค์ชายสามสุ่ยเย่ว์หรูหวา ในที่สุด ตระกูลของเขาจึงส่งเขาไปที่บ้านของท่านอา ที่แต่งงานกับตระกูลเซวียนในจักรวรรดิหั่วเหยียน หยุนจ่านเผิงยังไม่ได้แก้แค้นจึงไม่เต็มใจไป ท้ายที่สุด เพราะคำพูดของพี่รองของหยุนจ่านเผิง...หยุนจ่านเฮ่อ ทำให้เขาจากบ้านมาโดยสมัครใจ
หยุนจ่านเฮ่อพูดกับเขาว่า "ยามนี้เ้ายังอ่อนแอนัก ความเพียรในการแก้แค้นนั้นเท่ากับการตีหินด้วยก้อนกรวด ไม่เพียงแต่มันจะล้มเหลว แต่ยังจะเอาชีวิตของเขาด้วย เ้าก็เห็นแล้ว ตระกูลหานที่ประนีประนอม ตระกูลหยุนของเราก็ไม่ช่วย ตัวเ้าคนเดียวจัดการกับองค์ชายสามไม่ได้หรอก หากเ้าตายไปเช่นนี้ งั้นฆาตกรคงห่างเ้าไปเรื่อยๆ หากข้าเป็เ้า ข้าจะพยายามให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ดังคำโบราณที่ว่า ลูกผู้ชาย 10 ปี ล้างแค้นไม่สาย เมื่อเ้าแข็งแกร่งขึ้น จะล้างแค้นก็ยังไม่สาย บนโลกนี้ ไม่มีอะไรยากไปกว่าความกลัวของมนุษย์ ขอเพียงเ้ามีความมุ่งมั่น ย่อมประสบความสำเร็จแน่ บางทีหานรุ่ยอาจยังไม่ตาย แค่ไปรักษาตัว ดังนั้นเวลานี้เ้าไม่อาจประมาทได้ เ้าแค่ต้องปกป้องตัวเอง ถึงจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ"
หยุนจ่านเผิงฟังคำของหยุนจ่านเฮ่อจึงออกจากบ้าน หลังจากมาอยู่บ้านของท่านอา ก็เริ่มบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก และบางครั้งก็ออกไปฝึกตนกับลูกผู้พี่...เซวียนอี้ ตอนนี้พลังปราณของเขาถึงลมปราณขั้นที่แปด ด้วยอายุของเขา ถือว่าเป็ผู้นำในหมู่คนรุ่นใหม่แล้ว
เซวียนอี้เห็นหยุนจ่านเผิงร้องไห้ รู้สึกเป็ทุกข์ยิ่งนัก หยุนจ่านเผิงเมื่อครู่ยังดีอยู่เลย เซวียนอี้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงร้องไห้
เซวียนอี้มองตามสายตาของหยุนจ่านเผิง พบว่ามีชายหนุ่มรูปงามที่หาได้ยากยิ่งกับชายหนุ่มที่ดูห้าวหาญกำลังนั่งอยู่ เนื่องจากหานรุ่ยก้มศรีษะของเขา เซวียนอี้จึงไม่เห็นสัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยวบนหว่างคิ้วของเขา แต่ก็มองออกว่าหานรุ่ยหล่อเหลามาก เมื่อเห็นชายสองคน จุนตงจุนหนานก็ถูกเพิกเฉยโดยปริยาย เซวียนอี้เต็มไปความรู้สึกไม่สบายใจ เขารู้จักอยู่เสมอว่าหยุนจ่านเผิงต้องมีใครอยู่ในใจ เขาอยากจะควักบุคคลนั้นออกมาจากหัวใจของหยุนจ่านเผิงนัก ทว่าก็ไม่สำเร็จ เซวียนอี้คิดในใจ หนึ่งในสองคนนั้นจะมีคนที่อยู่ในหัวใจของหยุนจ่านเผิงไหม? คิดถึงตรงนี้ เซวียนอี้ก็เกิดความหึง กำกำปั้นของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เซวียนอี้คิดว่า ถ้าเป็อย่างนั้นจริง เขาควรทำยังไง? จะตัดใจหรือสู้ต่อไปดี เมื่อคิดถึงว่าต้องตัดใจจากหยุนจ่านเผิง ในใจของเซวียนอี้ก็รู้สึกเ็ป จะให้ตัดใจจากหยุนจ่านเผิง เขาก็ทำไม่ได้ คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเขาจึงมุ่งมั่นขึ้น ในเมื่อเขาไม่อาจปล่อยมือได้ ถ้าไม่สำเร็จก็จะไม่ถอดใจ เดิมทีเขาคิดว่าคนที่อยู่ในใจของหยุนจ่านเผิงตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาปรากฏตัวขึ้น หมายความว่ายังไม่ตาย เซวียนอี้คิดในใจ แข่งกับคนเป็ดีกว่าแข่งกับคนตาย
สายตาของหยุนจ่านเผิงร้อนผะแ่เหลือเกิน ต่อให้เป็คนตายก็ััได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหานรุ่ยและจุนห่าว จุนห่าวรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังมองภรรยาของเขา เขามองไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก พบว่าเป็ซวงเอ๋อร์คนหนึ่ง ดวงตาของซวงเอ๋อร์คู่นั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข จุนห่าวคิดในใจ เป็ซวงเอ๋อร์ก็ไม่ได้ ดวงตาของเขาร้อนผะแ่เกินไป หากมิไม่ใช่เพราะเขาเป็ซวงเอ๋อร์ จุนห่าวคงคิดว่าซวงเอ๋อร์ผู้นั้น เป็ผู้คลั่งไคล้ภรรยาของเขา เมื่อคิดถึงเื่นี้ จุนห่าวก็จ้องกลับด้วยความไม่พอใจ ้าให้กับสายตาของซวงเอ๋อร์ ทว่าซวงเอ๋อร์กลับมองไม่เห็นเขาสักนิด มีแต่หานรุ่ยอยู่ในสายตาเท่านั้น
หานรุ่ยก็มองกลับไปตามสายตาที่ร้อนผะแ่ เห็นใบหน้าอันคุ้นเคยโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อเห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ความตื่นเต้นและความปิติเกิดขึ้นในดวงตาของเขา หานรุ่ยตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเลยว่า เขาจะได้พบหยุนจ่านเผิงรวดเร็วเพียงนี้ เขาคิดว่าเขาต้องรอจนกว่าเขากลับไปที่เมืองเย่ว์เซียนเป็อย่างน้อย แต่ทว่า หยุนจ่านเผิงกลับปรากฏในสายตาของเขาในทันที หลังจากตะลึงงัน หานรุ่ยเปลี่ยนเป็ปีติยินดี ในดวงตาแฝงทั้งความตื่นเต้นและความปิติ ด้วยดวงตาแดงๆ
ย้อนกลับไปในปีนั้น หลังจากเขาประสบอุบัติเหตุ คนแรกที่เขาคิดถึงก็คือหยุนจ่านเผิง แต่ทว่า หลังจากที่เขาสงบลง เขารู้สึกว่าเขาไม่อาจบอกหยุนจ่านเผิงได้ เขาไม่อาจทำให้หยุนจ่านเผิงต้องมาเดือดร้อนเพราะตัวเอง ด้วยอารมณ์หุนหันพลันแล่นของหยุนจ่านเผิง หากเห็นว่าเขาเป็เช่นนี้ เขาต้องต่อสู้กับองค์ชายสามแน่ ในเวลานั้น หานรุ่ยคิดว่าเขาไม่อาจให้เพื่อนของเขาต้องเดือดร้อน ดังนั้นเขาจึงจากไปอย่างเงียบๆ เขาคิดว่าการที่เขาไม่พูด ไม่ไปพบ หยุนจ่านเผิงคงไม่สอบสวน แต่ทว่า มันเป็เพียงความคิดของเขา หยุนจ่านเผิงเดินเข้าสู่หนทางแห่งการแก้แค้นแล้ว เมื่อเห็นว่าเขามีพลังปราณขั้นที่แปด หานรุ่ยคิดในใจ ่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หยุนจ่านเผิงต้องทนทุกข์ทรมานมาไม่น้อยแน่ ใบหน้าของเขาไม่อ่อนเยาว์เหมือนแต่ก่อน กลายเป็ความแน่วแน่ ยังคงมีอาการซึมเศร้าตรงหว่างคิ้ว หานรุ่ยเข้าใจความรู้สึกของหยุนจ่านเผิง หากเขาเป็หยุนจ่านเผิง เขาก็ต้องล้างแค้นให้หยุนจ่านเผิง เพราะว่า นั่นคือเพื่อนที่ดีที่สุดเพียงคนเดียวของเขา เพื่อนสนิทที่สุดที่นอกเหนือจากคนรัก
เห็นสายตาของหานรุ่ยและหยุนจ่านเผิง เหมือนคนรักที่ไม่ได้พบกันมานาน มีทั้งความตื่นเต้นและความสุข และยังมีความคิดถึง จุนห่าวและเซวียนอี้รู้สึกไม่ดีแล้ว บัดนี้เซวียนอี้หานรุ่ยอย่างชัดเจน รู้ว่าเขาคือซวงเอ๋อร์ ความรู้สึกบีบหัวใจของเขาคลายลง เขาคิดว่าลูกผู้น้องดูไม่เหมือนคนที่ชอบมีคนรักพิเศษ บนแผ่นดินชางหลาน ซวงเอ๋อร์ที่อยู่ด้วยกันก็ถือว่ามี
เซวียนอี้มองหยุนจ่านเผิงที่น้ำตาไหล ค่อยๆ เช็ดน้ำตาให้ยุนจ่านเผิงด้วยแขนเสื้อของเขา และพูดกับหยุนจ่านเผิงอย่างอ่อนโยนว่า "ลูกผู้น้อง เหตุใดเ้าถึงร้องไห้? เห็นเ้าเป็เช่นนี้ ข้าทุกข์ใจนัก" เซวียนอี้ยังอดใจไม่ไหว แล้วก็พูดครึ่งประโยคหลังออกมา
สิ่งนี้เทียบเท่ากับคำสารภาพรักต่อหยุนจ่านเผิง ในความจริง พูดคำเหล่านี้จบ เซวียนอี้รู้สึกประหม่ายิ่งนัก
ทว่าหยุนจ่านเผิง ยังคงตื่นเต้นและดีใจที่ได้เห็นหานรุ่ย จึงเพิกเฉยต่อกระทำและคำพูดของเซวียนอี้โดยปริยาย มื่อได้ยินคำพูดของเซวียนอี้ เขาก็ไม่ละสายตาไปทางหานรุ่ย และพูดว่า "ได้พบกับเพื่อนเก่า ข้าร้องไห้ด้วยความดีใจ"
เมื่อเห็นเซวียนอี้ค่อยๆ เช็ดน้ำตาของหยุนจ่านเผิง พร้อมกับคำสารภาพ หยางเซียนเอ๋อร์โกรธจนหน้าเขียว เหตุใดชายที่เธอชอบถึงมีท่าทีอ่อนโยนต่อหยุนจ่านเผิงเช่นนี้ เธอกัดฟันกรามอยากจะต่อว่าหยุนจ่านเผิง คิดในใจ หยุนจ่านเผิงก็คือนังจิ้งจอก ยึดติดกับคนอื่น ยังจะไม่ปล่อยเซวียนอี้ไป ช่างเป็คนชั่วเสียจริง
เมื่อเห็นสีหน้าของหยางเซียนเอ๋อร์ พี่ชายของหยางเซียนเอ๋อร์ และเป็ของเซวียนอี้...หยางจิ่งไท่ ก็รีบดึงตัวหยางเซียนเอ๋อร์ พลางส่ายหัว สำหรับหยางเซียนเอ๋อร์ หยางจิ่งไท่ก็จนปัญญายิ่งนัก แน่นอนว่าเขาหวังว่าน้องสาวของเขาาจะได้พบตระกูลที่ดี ส่วนตระกูลของเซวียนอี้นับว่าดี ทั้งเป็คนยังโรแมนติกและอ่อนโยน ถือว่ามีความสามารถ พร์ในการบำเพ็ญเพียรก็ดีเช่นกัน สำหรับคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ หยางจิ่งไท่ก็อยากให้น้องสาวของเขาแต่งงานด้วย แม้แต่จะให้เป็อนุของเซวียนอี้ หยางจิ่งไท่ก็เห็นด้วย เขาเคยถามเซวียนอี้ ทว่าเซวียนอี้กล่าวว่า ชาตินี้เขาจะแต่งงานเป็คนๆ คนเดียส และคนนั้นต้องเป็คนที่รักที่สุด เขาไม่ได้รักหยางเซียนเอ๋อร์ นับั้แ่นั้นมา หยางจิ่งไท่หยุดความคิดของเขา และบอกความคิดของเซวียนอี้กับหยางเซียนเอ๋อร์ แต่ทว่า หยางเซียนเอ๋อร์คิกว่าคนเช่นนี้ยิ่งคู่ควรกับความรัก ทำไมหยางเซียนเอ๋อร์ถึงไม่อาจเป็คนที่เซวียนอี้รักที่สุดนะ ั้แ่นั้นมา ก็หาเื่โดยไม่อาจถอยกลับ
เวลานี้ คนที่มีสายตายาวต่างรู้ว่าเซวียนอี้หลงรักหยุนจ่านเผิง หยางจิ่งไท่ไม่เข้าใจว่าหยางเซียนเอ๋อร์จะยังดื้อรั้นไปทำไม เขากลัวจริงๆ ว่าวันหนึ่ง หยางเซียนเอ๋อร์จะไปยั่วยุเซวียนอี้ จนถูกเซวียนอี้ฆ่าตาย สำหรับหยางเซียนเอ๋อร์ หยางจิ่งไท่ยังเข้าใจ คนๆ นี้ใจเหี้ยมนัก เวลานี้ เซวียนอี้ยังเห็นแก่หน้าของเขา จึงไม่ฆ่าหยางเซียนเอ๋อร์ แต่ทว่า หากหยางเซียนเอ๋อร์ทำเช่นนี้ต่อไป วันข้างหน้าคงรับประกันไม่ได้
ความอดทนของมนุษย์มีจำกัด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซวียนอี้ที่เป็บุตรอันเป็ที่รักแห่ง์ หากไม่ใช่ เขาช่วยชีวิตเซวียนอี้ไว้ คาดว่าเซวียนอี้คงลงมือกับหยางเซียนเอ๋อร์ไปนานแล้ว ทุกครั้งที่หยางเซียนเอ๋อร์หาเื่ให้กับเซวียนอี้ หยางจิ่งไท่เห็นสายตาที่คิดที่จะฆ่าหยางเซียนเอ๋อร์ของเซวียนอี้ หยางจิ่งไท่รู้ว่า เซวียนอี้จงใจให้เขาเห็น มิเช่นนั้นคนอย่างเซวียนอี้ที่ชายหยั่งรู้ ทำไมถึงไม่อาจซ่อนเจตนาการฆาตกรรมได้ นี่คือคำเตือนของเขา หยางจิ่งไท่คิดว่า ไม่อาจรู้เห็นเป็ใจกับหยางเซียนเอ๋อร์แล้ว หากเขายังรู้เห็นเป็ใจต่อไป หยางเซียนเอ๋อร์คงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว เห็นทีกลับไปครั้งนี้ เขาต้องหาสามีสักคนให้กับหยางเซียนเอ๋อร์
แม้ว่าเซวียนอี้จะให้ความสำคัญทว่าหยุนจ่านเฮ่อ ทว่ายังเห็นการกระทำของพี่น้องตระกูลหยาง เซวียนอี้คิดในใจ ดูเหมือนว่าหยางจิ่งไท่เป็คนรู้สถานการณ์ปัจจุบัน และเพราะหยางจิ่งไท่เป็คนเดาเหตุการณ์ได้แม่นยำ เข้าใจตัวเองชัดเจน เขาถึงเป็เพื่อนกับหยางจิ่งไท่ ไม่อย่างนั้น ต่อให้หยางจิ่งไท่จะเคยช่วยชีวิตเขา แต่เขาก็จะมีวิธีตอบแทนบุญคุณวิธีอื่น แต่ทว่า น้องสาวหยางจิ่งไท่ก็เป็ปัญหาจริงๆ
