บุรุษผู้นั้นทำให้ผู้คนเคารพยกย่องอย่างแท้จริง ทว่าเขาตายไปแล้ว สุดท้ายเขานั้นตายไปแล้ว!
"แม่ทัพหลวง..." จ้าวเยี่ยนพึมพำ
ครั้นนึกถึงแผนการของเสด็จแม่ในวันนี้ จ้าวเยี่ยนพลันเลิกคิ้ว จากนี้ต่อไป เป่ยฉีแห่งนี้จะเป็แผ่นดินของข้า ‘จ้าวเยี่ยน’ ผู้นี้เท่านั้น!
เมื่อคิดเช่นนี้ ในใจของจ้าวเยี่ยนแทบจะทนรอไม่ไหว เขามองดูเวลา พลางโห่ร้องกู่ก้องในใจ ถึงแล้ว ใกล้มาถึงแล้ว...
ผ่านไปไม่นานนัก มีเสียงเอะอะเสียงหนึ่งดังขึ้น บรรดาฮูหยินและเหล่าคุณหนูในสวนยวี่ฮวาทุกคนต่างก้มศีรษะลงทันที มองไปยังทิศทางที่มาของเสียงอย่างเคารพ ห่างออกไปไกล จึงเห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง
ฮองเฮาอวี่เหวินเดินนำหน้า ด้านข้างมีฉางไทเฮาและองค์หญิงใหญ่ชิงเหอเดินมาด้วยกัน
รัศมีน่าเกรงขามอันยิ่งใหญ่ของฮองเฮาอวี่เหวิน... ความเรียบร้อยและสง่างามของฉางไทเฮา... ความอ่อนหวานงดงามเพียบพร้อมขององค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ยามหันไปมอง ใบหน้าของทุกคนต่างแย้มยิ้มสดใส เป็ภาพที่เข้ากันอย่างยิ่ง
ก่อนที่ทั้งสามจะเดินเข้ามา บรรดาฮูหยินและเหล่าคุณหนูในสวนต่างคุกเข่าลงกับพื้นกันแล้ว จนกระทั่งนางกำนัลสามคนที่คอยติดตามเดินมาใกล้ พวกนางเห็นไม้เท้าของคนผู้หนึ่งั้แ่คราแรกพร้อมกัน จึงคุกเข่าให้ฮูหยินผู้เฒ่าผู้โอ่อ่านางนั้นอย่างนอบน้อม
ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง...
แม้ตัวเอกซึ่งสำคัญที่สุดในวันนี้จะเป็ฉางไทเฮา ทว่าฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงเองก็เป็แขกผู้มีเกียรติที่สมน้ำสมเนื้อเช่นกัน!
“ทุกท่านมิจำเป็ต้องมากพิธี กล่าวกันอย่างจริงจังแล้ว วันนี้เป็งานเลี้ยงครอบครัว ทุกคนทำตัวตามอัธยาศัยเถิด” ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสเสียงดัง น้ำเสียงผ่อนคลาย ราวกับอารมณ์ดี ถึงกระทั่งที่เดินไปตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงด้วยตัวพระนางเอง และประคองฮูหยินผู้เฒ่าให้ลุกขึ้น “ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ท่านอายุมากแล้ว มิจำเป็ต้องมากพิธีนักหรอก”
ฮองเฮาอวี่เหวินดูแลนางเป็พิเศษ ทว่าฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงกลับรู้สึกหวาดหวั่นเล็กน้อย
"ขอบพระทัยที่พระนางทรงเอาใจใส่เพคะ ทว่าธรรมเนียมมารยาทระหว่างราชวงศ์กับราษฎร หม่อมฉันมิอาจเลิกได้เพคะ" ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงน้อมคารวะให้อีกครั้ง รักษาธรรมเนียมและกิริยาอย่างระมัดระวัง
ในสายตาของทุกคน ฮองเฮาอวี่เหวินแย้มพระสรวลโดยมิได้เอ่ยสิ่งใด พระเนตรของฉางไทเฮาพาดผ่านประกายลึกลับ จ้องมองหนานกงฉี่ผู้ซึ่งติดตามอยู่ข้างกายฮูหยินผู้เฒ่าหนานกง ั์ตาแฝงนัยล้ำลึก
ในชั่วขณะนั้น ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นความแปลกประหลาดนี้
เหล่าญาติสตรีลุกขึ้นยืน เปิดทางให้ฮองเฮาอวี่เหวินประทับลงบนพระที่นั่งสูงสุด ฉางไทเฮากับองค์หญิงใหญ่ชิงเหอต่างแยกย้ายประทับลงตรงด้านข้าง
ฉางไทเฮายังคงไร้ความปรารถนาและไร้แววแก่งแย่งเช่นวันวาน ประทับอยู่ด้านข้างอย่างสงบนิ่ง พลางนับลูกประคำในพระหัตถ์ ท่าทีสง่างามเรียบเฉย
“วันนี้เป็งานเลี้ยงส่งการเดินทางที่จัดขึ้นแด่ฉางไทเฮา เดิมทีควรจัดงานให้ยิ่งใหญ่ ทว่าด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน่ที่ผ่านมา เหล่าทหารนับหมื่นนับพันนายในค่ายเสินเช่อและท่านแม่ทัพหลวงต้องสละชีพของตนเอง เพราะเช่นนั้น เปิ่นกงจึงรู้สึกใกับการเสียชีวิตของเหล่าพลทหาร จึงทำให้เสด็จพี่ไทเฮาต้องรู้สึกน้อยใจอย่างไม่มีทางเลือกเสียแล้ว” ทุกคนเพิ่งทยอยนั่งลงประจำที่นั่ง ฮองเฮาอวี่เหวินกลับพุ่งตรงไปยังปัญหาหลัก เผยท่าทีน่าเกรงขามของผู้เป็นายหญิงแห่งวังหลังอย่างเต็มที่
“ถ้อยคำใดที่ฮองเฮาตรัสนั้นเป็เื่สำคัญของบ้านเมือง เป็เื่ที่ถูกต้อง ส่วนเลี้ยงส่งการเดินทางอะไรเ่าั้ มิได้สลักสำคัญนัก น้ำพระทัยของฮองเฮา ข้าเข้าใจ การกลับมาครานี้ ข้าสร้างความลำบากให้ฮองเฮาและฝ่าาไม่น้อย ช่างเป็บาปกรรมอย่างแท้จริง” ฉางไทเฮากล่าวอย่างอ่อนโยน ทุกถ้อยคำกล่าวอย่างเหมาะสม น้ำเสียงเนิบนาบราวกับมีมนตร์สะกด ทำให้จิตใจผู้คนสงบนิ่ง
ผู้คนจ้องมองฉางไทเฮา เห็นนางขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถ้อยคำที่กล่าวว่า ‘ลำบาก’ และประโยคที่กล่าวว่า ‘บาปกรรม’ นางกล่าวออกมาดูไม่ชัดเจนนัก ทำให้ผู้คนอดคิดถึงข่าวลือที่ได้ยินขึ้นมาไม่ได้
ยิ่งภายใต้สถานการณ์ในยามนี้ ฮองเฮาอวี่เหวินกลับยังคงจัดงานเลี้ยงส่งเดินทาง คิดดูแล้ว พระนางคงไม่้าให้ฉางไทเฮาอยู่ในวังหลวงอย่างแท้จริง
ฮองเฮาอวี่เหวินทนฉางไทเฮาไม่ไหว เื่นี้มิใช่เื่เท็จอย่างที่คาดคิด!
ในใจของผู้คนต่างครุ่นคิด ทว่าฮองเฮาอวี่เหวินกลับขมวดคิ้วโดยไม่เป็ที่สังเกต นางพูดจาคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ ข้าจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?
นางคิดไม่ถึงเลยว่า ฉางไทเฮาจะทนรอสร้างเื่ให้นางพบเื่ยากลำบากไม่ไหว นางกำลังจะเอ่ยบางสิ่ง ฮ่องเต้หยวนเต๋อกลับเดินนำเหล่าข้าราชบริพารมาทางนี้เสียก่อน ฮองเฮาอวี่เหวินยกยิ้มมุมปาก ลุกขึ้นไปต้อนรับด้วยตัวเอง จนกระทั่งฮ่องเต้หยวนเต๋อและเหล่าข้าราชบริพารนั่งประจำที่ ฮองเฮาอวี่เหวินเหลือบมองไป ครั้นเห็นที่นั่งสามที่ว่างเปล่า จึงหวนนึกถึงข่าวที่อวี่เหวินหรูเยียนเพิ่งนำมาบอก รอยแย้มยิ้มในดวงตาแกร่งกล้าขึ้นเล็กน้อย
“เหตุใดไม่เห็นอูเสียนอ๋องกับองค์หญิงหงเยียนแห่งแคว้นหนานเยวี่ยเลยเล่า วันนี้งานเลี้ยงส่งไทเฮา พวกเขาเป็คนครอบครัวเดียวกัน ทั้งยังอยู่ในรายชื่อได้รับเชิญ ทว่าเหตุใด...”
ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยปาก พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นจึงกล่าวถามต่อไปว่า “นี่พวกเขาดูถูกเป่ยฉีของข้า หรือไม่เห็นฉางไทเฮาอยู่ในสายตากันแน่?”
ฮองเฮาอวี่เหวินดูมีโทสะเล็กน้อย ทุกคนจึงหันไปสนใจที่นั่งอันว่างเปล่า ฉางไทเฮาย่นคิ้ว ดูถูกเป่ยฉี? ฮองเฮาอวี่เหวินคิดจะเอาเื่นี้มายั่วยุงั้นหรือ? ข้าจะปล่อยให้นางสมหวังได้อย่างไร?
ข้าจะไม่ให้โอกาสนี้กับนางแน่!
ฉางไทเฮาครุ่นคิดบางสิ่ง ฝืนยกยิ้มมุมปาก พร้อมกับกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “อาจจะเกิดเื่อันใดทำให้ต้องล่าช้าเป็ได้ ฝ่าา ฮองเฮา พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปยังชิงโหยวกว่านบนเขาฉีชานแล้ว ทว่าครั้นนึกถึงเหล่าพลทหารนับหมื่นนับพันนายที่เสียชีวิตลงในค่ายเสินเช่อเมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ ในใจกลับยังคงปล่อยวางไม่ได้ มักจะคิดอยู่ตลอดว่าควรจะทำอันใดสักอย่างเพื่อพวกเขา เพราะเช่นนั้น วันก่อนข้าจึงให้เยี่ยนเอ๋อร์ไปเขาฉีชาน เชิญปรมาจารย์เฉิงกวังมาโปรดดวงิญญาของเหล่าพลทหารค่ายเสินเช่อโดยเฉพาะ”
ปรมาจารย์เฉิงกวังเป็พระสมณศักดิ์สูงส่ง มีชื่อเสียงลือเลื่องในเป่ยฉี หากเชิญเขามาโปรดดวงิญญาให้ นั่นย่อมเป็เื่ดีอย่างยิ่ง ทันใดนั้น แม้แต่ฮ่องเต้หยวนเต๋อยังประหลาดใจ ยากจะปกปิดความกระตือรือร้น “ดียิ่ง ลำบากให้เสด็จพี่สะใภ้ต้องเป็ห่วงเสียแล้ว ปรมาจารย์เฉิงกวังเล่า? หาได้มัวเฉยเมยอยู่”
ท่าทีตอบสนองของฮ่องเต้หยวนเต๋ออยู่ในสายตาของฮองเฮาอวี่เหวิน ั้แ่ไหนแต่ไรมา ฉางไทเฮาไม่เคยยุ่งเื่ผู้อื่นมากนัก ทว่ากลับต้องลำบากยุ่งยากถึงเพียงนี้เพื่อเชิญปรมาจารย์เฉิงกวังมาจากเขาฉีชาน ดูผิดปกติเกินไป เขามาเพื่อโปรดดวงิญญาของเหล่าทหารค่ายเสินเช่อจริงหรือ?
ฮองเฮาอวี่เหวินลอบชำเลืองมองฉางไทเฮา รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเล็กน้อย
ทันทีที่ฮ่องเต้หยวนเต๋อตรัสจบ ฉางไทเฮาขยิบตาส่งสัญญาณบอกจ้าวเยี่ยน จ้าวเยี่ยนก้าวถอยหลัง เพียงครู่เดียว ชายหนุ่มรูปโฉมงดงามในชุดสีขาวทั้งตัว จึงเดินนำพระผู้เฒ่ามาทางนี้
ยังไม่ทันเดินมาถึง ฮ่องเต้หยวนเต๋อกลับเป็คนเดินนำเข้าไปทักทายก่อน
ฮ่องเต้หยวนเต๋อให้ความสำคัญกับพระผู้เฒ่าสมณศักดิ์มาั้แ่ไหนแต่ไร หลังจากก้าวไปทักทายไม่กี่คำ ปรมาจารย์เฉิงกวังจึงนำผู้คนให้เตรียมสวดมนต์
ในสวนยวี่ฮวาทางนี้ งานเลี้ยงส่งเดินทางยังคงดำเนินต่อไป
ฮ่องเต้หยวนเต๋อนำเหล่าข้าราชบริพารที่เดินตามเขามาเมื่อครู่นี้ออกไปพร้อมกับท่านปรมาจารย์เฉิงกวัง ทุกอย่างดูสงบนิ่งเป็ปกติ ทว่าความปั่นป่วนของคลื่นใต้น้ำ รวมถึงแผนการลับหลังเ่าั้ได้ดำเนินการขึ้นแล้ว
“ฮองเฮา...”
ทันใดนั้นท่ามกลางความสมัครสมาน ฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปยังใจกลางฝูงชน คำนับฮองเฮาอวี่เหวินอย่างเคารพ ใบหน้าสงบนิ่ง ทว่ากลับแฝงแววกังวลเล็กน้อย ผู้คนรู้สึกประหลาดใจว่านาง้าจะทำสิ่งใด ส่วนฮองเฮาอวี่เหวินเพียงเหลือบมองฮูหยินผู้เฒ่าผู้นั้น คาดเดาถึงจุดประสงค์ของนางได้แล้ว
เหนียนอีหลาน...
เหนียนอีหลานพักอยู่ในวังหลวงมาหลายวันแล้ว เกรงว่าตระกูลหนานกงคงจะครุ่นคิดมาโดยตลอด การที่วันนี้นางเอ่ยถึงเหนียนอีหลานอยู่ในความคาดหมายของนางอย่างสมบูรณ์
อย่างที่คิด ยามที่ฮองเฮาอวี่เหวินขมวดคิ้ว เสียงของฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงดังขึ้นต่อไป น้ำเสียงนั้นยากจะปกปิดความกังวลและไต่ถาม “อีหลานเข้าไปพักฟื้นในวังหลวง ได้รับความเมตตาดูแลจากฮองเฮา ทว่าผ่านมาหลายวันแล้ว หม่อมฉันผู้เฒ่าสูงอายุผู้นี้มักจะครุ่นคิดถึงนางตลอด มิรู้ว่าวันนี้ หม่อมฉันจะขอพบอีหลานได้หรือไม่เพคะ?”