เหยาเหยี่ยนมองไปทางเส้นทางที่อีกฝ่ายเปิดให้อย่างหยิ่งผยอง เขาก็สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าไม่มีใครตามหลังเขามาเลยแม้แต่คนเดียว!
ไม่ว่าจะเป็หลิงหาน หลู่กวนิหรือแม้แต่หลิงอีเยว่ยังคงยืนอยู่กับหลงอวี้เหมือนเดิม!
“พวกเ้ายังไม่ตามมาอีก?”
เหยาเหยี่ยนขมวดคิ้วขึ้นพูดเสียงเรียบ
“สหายหลงไม่ไป ข้าก็ไม่ไป ถ้าจะไป เ้าไปเองเถิด”
หลู่กวนิมีสีหน้าเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว เขาเองก็เริ่มเรียกว่า สหายหลง ตามหลิงหานแล้ว
มันทำให้หลงอวี้รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย แต่ก็ตามใจอีกฝ่ายไป ก็แค่คำเรียกเท่านั้น ไม่จำเป็ต้องใส่ใจ!
เขาหันหลังกลับไปมองทางหลิงเทียนป้า เอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจอยากรู้ว่า
“เ้าแน่ใจเหรอว่าจะขวางทางข้า?”
“เ้ามันปัญญาอ่อนหรือเปล่า?”
หลิงเทียนป้ามองดูหลงอวี้ราวกับกำลังมองดูคนโง่อยู่ก็ไม่ปาน
“แม้เ้าจะแข็งแกร่ง แต่ก็มีระดับแค่วิถียุทธ์ขั้นเก้าเท่านั้น คิดหรือว่าตระกูลหลิงข้าจะขวางเ้าไว้ไม่ได้!”
“งั้นก็เชิญเ้าลองได้เลย!”
หลงอวี้หัวเราะเบาๆ ยืนหลังตรงเอามือไพล่หลังไว้ แม้แต่หอกยาวที่อยู่บนหลังก็ไม่ได้ดึงลงมาถือเลย!
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำให้หลิงอีเยว่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ตาเป็ประกาย เ้าหลงอวี้ดูจะมั่นใจมากเหมือนกันนะ!
เหยาเหยี่ยนกระแทกเสียง ไม่ได้ถอยไปไหน เพียงแค่ดีดตัวะโขึ้นไปอยู่บนกำแพงของบ้านพักเพื่อรอชมดูเื่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เขาก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ถ้าไม่มีเขาแล้ว พวกหลิงหานจะออกจากที่นี่ไปได้อย่างไร!
“ลือกันว่าหลงอวี้เ้าสามารถฆ่ายอดฝีมือระดับิญญาแท้ได้ อย่างนั้นเ้าก็แสดงฝีมือให้พวกเราได้ชมดูหน่อยเถิด”
เหยาเหยี่ยนหัวเราะและเอ่ยพูดอย่างดูถูก
“หึหึ สหายหลงฆ่าพวกิญญาแท้ ข้าผู้แซ่หลู่เห็นกับตามานานแล้ว!”
หลู่กวนิฟาดฝีปากกลับไปทันที เผยสีหน้าดูถูกเหยาเหยี่ยน
ชายหน้าบึ้งผู้นี้เป็คนตรงไปตรงมา พูดในสิ่งที่คิดอย่างเถรตรง แม้จะนับว่าเป็คนจริงใจ แต่ก็มีเื่กับผู้อื่นได้ง่ายเช่นกัน!
ตอนนี้ ในดวงตาของเหยาเหยี่ยนมีประกายอำมหิตปรากฏแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาแค้นหลู่กวนิ
หลู่กวนิมั่นใจในตัวหลงอวี้มากเกินพอ หลิงหานและหลิงอีเยว่เองก็ย่อมไม่ไปไหนอยู่แล้วเช่นกัน เพียงยืนรอด้วยความคาดหวัง อยากจะได้เห็นความแข็งแกร่งของหลงอวี้ในตอนนี้
แต่หากหลงอวี้ตกอยู่ในอันตราย พวกเขาก็ย่อมต้องลงมือช่วยเหลืออยู่แล้ว
“ตอนอยู่ในป่าโสมโบราณของราชวงศ์น่ะ สหายหลงเพิ่งจะวิถียุทธ์ขั้นหก แต่กลับสามารถเอาชนะยอดฝีมือวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดได้ หลังจากก้าวขึ้นสู่ขั้นเจ็ด ก็สามารถต่อสู้แบบหนึ่งต่อสาม ฆ่าฮวาชิงฮวาอวิ๋นและถานเจียนสามคนลงได้ด้วยตัวคนเดียว!”
หลิงหานที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้นก็ตาเป็ประกายคาดหวัง
“ตอนนี้ สหายหลงสามารถก้าวขึ้นสู่วิถียุทธ์ขั้นเก้าได้แล้ว ความเร็วในการพัฒนาสูงมากจริงๆ! แล้วตัวเขาที่วิถียุทธ์ขั้นเก้าแล้ว สามารถเอาชนะระดับิญญาแท้ได้จริงหรือ”
เื่นี้มันทำให้หลิงหานประหลาดใจในตัวหลงอวี้มากขึ้น!
หลิงเทียนป้ากระแทกเสียงเ็า หลงอวี้คิดจะลองดีกับเขา เขาก็ย่อมไม่มีทางนิ่งเฉยอยู่แล้ว!
“ไปจัดการมันเสีย!”
หลิงเทียนป้าออกคำสั่งอย่างเ็า พริบตานั้นก็ได้มีเหล่าลูกหลานตระกูลหลิงที่วิถียุทธ์ขั้นเจ็ดข้างๆ ตัวเขาพากันใช้วิทยายุทธ์ที่ปล่อยลมปราณออกสู่ภายนอกเข้าใส่หลงอวี้ทันที!
เ้าหลิงเทียนป้าคิดจะใช้จำนวนคนเข้าข่ม!
“ไร้ยางอาย! บังอาจรุม!”
หลิงอีเยว่ส่งเสียงด้วยความตะลึง!
แต่กระนั้น หลงอวี้ที่เผชิญหน้ากับคลื่นพลังลมปราณที่ซัดเข้ามาจากรอบทิศทางกลับสงบเยือกเย็นและหนักแน่นไม่ไหวติง
“ม่านเหล็กพิชิตมาร!”
บนผิวนอกของหลงอวี้ได้มีประกายแสงสีทองอ่อนๆ สว่างขึ้นมา ตัวเขายังคงยืนตระหง่านอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว
ต่อจากนั้น ลมปราณจำนวนนับไม่ถ้วนได้ซัดมาโดนตัวเขา ะเิเป็ประกายแสงสีทองสาดส่องไปทั่ว แต่กระนั้นมันกลับไม่สามารถทำให้เขาขยับได้เลยแม้แต่ครึ่งก้าว อย่าว่าแต่จะทำให้เขาาเ็ได้เลย!
หลิงอีเยว่ที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกวางใจ
ดูท่าการโจมตีของวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดสำหรับหลงอวี้แล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเกาอย่างสิ้นเชิง!
“ทองกรสะกดเทพ!”
ในจังหวะนั้นเองก็ได้มีกำไลข้อมือห้าสีชิ้นหนึ่งได้ลอยออกมาจากมุมอับสายตา จากนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะรัดตัวหลงอวี้ไว้!
“นั่นมันยุทธภัณฑ์ของหลิงเลี่ย มันลอบโจมตี!”
หลงอวี้ไม่ได้ประหลาดใจกับทองกรสะกดเทพ เพราะเขาเคยต่อกรกับมันมาก่อนั้แ่ตอนที่เจอกับหลิงเลี่ยในเมืองอวี้กวนแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่เขาแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“แหลกไปเสีย!”
ตันเถียนของหลงอวี้เต้นขึ้นมา พริบตานั้นลมปราณทั่วร่างก็พลันเดือดพล่าน ชีพจรที่ถูกทองกรสะกดเทพผนึกไว้ได้ถูกลมปราณอันเชี่ยวกรากพุ่งทะลวงจนไหลผ่านได้อีกครั้ง ไม่ได้รับผลกระทบจากทองกรสะกดเทพเลยแม้แต่น้อย
“ย้ากก!”
ในจังหวะนั้นเอง ในที่สุดหลิงเทียนป้าก็ได้ชักดาบยาวเล่มหนึ่ง ใช้ออกด้วยวิชาดาบที่สืบทอดกันในตระกูลหลิง ฟาดฟันเข้าใส่หลงอวี้จาก้า!
การโจมตีนี้มันได้รวบรวมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของหลิงเทียนป้าไว้ ประกายแสงดาบส่องสว่าง หมายจะหั่นหลงอวี้ให้ขาดเป็สองท่อน!
“เงาหอกกระหน่ำแทง!”
ในที่สุดหลงอวี้ก็ได้ดึงหอกัปรภพมาถือไว้ในมือแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้กระตุ้นพลังของสัญลักษณ์ัปรภพกับลายเส้นปรภพบนตัวหอกขึ้นมา เพียงใช้วิชาเคล็ดหอกสยบฟ้าที่บรรลุขั้นสูงไปตรงๆ เงาหอกมากมายได้เข้าต้านรับดาบอันดุดันป่าเถื่อนของหลิงเทียนป้า!
หลังจากเกิดเสียงะเิดังกระหึ่ม หลิงเทียนป้าได้กระเด็นตัวลอยไปทางด้านหลังทันที ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นอย่างรุนแรง!
ส่วนทองกรที่รัดหลงอวี้ไว้นั้นก็ได้ถูกหอกที่บรรจุมหาพลังสยบฟ้าไว้บดขยี้จนแหลกเละ!
เมื่อมหาพลังฟ้าดินถูกใช้ออก ลูกหลานตระกูลหลิงทั้งหมดก็พลันถูกสะกดไว้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะหลิงเลี่ยกับหลิงเทียนป้าที่บุกนำหน้าเข้ามานั้นก็พลันรู้สึกราวกับถูกูเาเขาไท่ซานกดทับไว้ทันที แม้แต่การหายใจก็ยังยากลำบาก
พ่ายแพ้ราบคาบ!
แม้คนของตระกูลหลิงจะมีมาก แต่กลับไม่อาจต้านทานหลังของหลงอวี้แค่คนเดียวได้เลย!
“ฮ่าฮ่า สหายหลงร้ายกาจจริงๆ!”
หลู่กวนิหัวเราะ บนใบหน้าบึ้งตึงได้ปรากฏสีหน้าตื่นเต้นอย่างเต็มเปี่ยม
“เป็พวกมันต่างหากที่อ่อนแอเกินไป”
หลงอวี้แย้มยิ้มบางๆ เก็บหอกัปรภพกลับไป
เขามองดูพวกคนของตระกูลหลิงที่พ่ายแพ้ราบคาบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปยังด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลหลิง
หลู่กวนิ หลิงหาน หลิงอีเยว่ก็ย่อมต้องตามไปด้วยอยู่แล้ว ส่วนเหยาเหยี่ยนที่ตอนแรกคิดจะรอชมเื่สนุกนั้นก็อึ้งตะลึงจนอยู่กับที่ไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าหลงอวี้จะแข็งแกร่งมากขนาดนี้
“มหาพลังสยบฟ้า!”
มหาพลังสยบฟ้าของเคล็ดสยบฟ้า แม้แต่เขาเหยาเหยี่ยนก็ยังไม่สามารถบรรลุได้ แต่กลับถูกเ้าหลงอวี้บรรลุได้แล้ว!
“หรือว่า เ้าหลงอวี้จะสามารถต่อกรกับระดับิญญาแท้ได้จริงๆ? ไม่ เป็ไปไม่ได้ ทันทีที่ิญญาแท้ปรากฏก็สยบทั่วบริเวณ แค่วิถียุทธ์ขั้นเก้าจะไปต่อกรกับิญญาแท้ได้อย่างไร!”
เหยาเหยี่ยนคิดในใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อยากจะเชื่อเลย!
เขาะโลงจากกำแพงแล้วไล่ตามหลิงอีเยว่ไป
“ศิษย์น้องอีเยว่ รอข้าด้วยสิ เมื่อครู่นี้ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ดูท่าทางแล้วเ้าหลงอวี้นี่จะก็มีค่าพอที่จะร่วมทางกับข้าเหยาเยว่ได้อยู่เหมือนกันนะ”
ที่เขาพูดแบบนี้ก็เพื่อที่จะเอาใจหลิงอีเยว่เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าหลิงอีเยว่นั้นไม่มีความรู้สึกดีกับเขาอยู่เลยแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว
ดูหลงอวี้สิ นอกจากจะแข็งแกร่งแล้วยังไม่โอหังอวดเก่งน่ารังเกียจเหมือนเ้าเหยาเหยี่ยนอีก อ่อนน้อมเป็มิตรกับสหาย ดุดันอำมหิตกับศัตรู!
ส่วนเ้าเหยาเหยี่ยนนั้นแค่มีฝีมือหน่อยก็เหิมเกริมอวดดี อวดอ้างบารมีไปทั่ว ทำอย่างกับว่า้าให้ทุกคนในใต้หล้ารู้จักมันเหยาเหยี่ยน
คนแบบนี้ ใครจะอยากไปร่วมทางด้วย?
เพียงแต่ว่าการเดินทางครั้งนี้มีภัยอันตรายต่างๆ มากมาย การมีคนที่อยู่ในระดับิญญาแท้ร่วมทางเพิ่มไปด้วยหนึ่งคนก็เท่ากับว่ามีเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นหนึ่งชั้น
หลิงอีเยว่จึงได้แต่ต้องใจรับมันเข้ามาแล้วคอยควบคุมไว้ให้ดีเท่านั้น
เมื่อทั้งห้าเริ่มออกเดินทางแล้ว ก็พากันขึ้นขี่ม้ากันไปคนละตัวอย่างรวดเร็ว ออกเดินทางจากหมู่บ้านูเาตระกูลหลิง ควบม้าวิ่งตะบึงไปยังเทือกเขาทรงวงแหวน
......
หลังจากที่พวกหลงอวี้ออกมาแล้ว เพียงไม่นานก็ได้มีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางมาูเา มาถึงยังคฤหาสน์ตระกูลหลิง
คนกลุ่มนี้ก็คือพวกหวังเทียนจั๋วแห่งตระกูลหวังนั่นเอง เขามาพร้อมกับองครักษ์ระดับิญญาแท้สองคนและลูกสมุนหลิ่วิเฉิงอีกหนึ่งคน!
หวังเทียนจั๋วนั้นสวมชุดผ้าไหมสีทองอันหรูหรา ยืนตระหง่านอยู่ที่ด้านหน้าของคฤหาสน์ตระกูลหลิง
ในตอนที่เขากำลังยกเท้าขึ้นเพื่อจะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหลิง ที่ด้านหลังก็มีเสียงม้าพยศร้องขึ้นพอดี!
“ศิษย์น้องเฟิงเหยามาแล้ว”
หลิ่วิเฉิงหันกลับไปมองก่อนจะรีบพูดทักขึ้น
“ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องเฟิงเหยา ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอกันอีกครั้งแล้ว!”
หวังเทียนจั๋วส่งเสียงหัวเราะดัง พอหันกลับไปมองก็พบกับเฟิงเหยาที่กำลังขี่ม้ามาทางนี้จริงๆ หญิงสาวในชุดสีเขียวอ่อนผู้มีใบหน้าสะสวยงดงามและมีโครงหน้ารูปไข่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อเลย!
แต่กระนั้น สีหน้าของเฟิงเหยาในตอนนี้กลับไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก
“เ้านัดให้ข้ามาพบที่คฤหาสน์ตระกูลหลิง ข้าก็มาพบตามสัญญาแล้ว อย่าคิดจะทำอะไรบิดาของข้าอีก”
เฟิงหยาที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็ได้กล่าวเสียงเรียบ
“ฮ่าฮ่า นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ในเมื่อศิษย์น้องเฟิงเหยาเ้ามาแล้ว นั่นก็หมายความว่าเ้ายอมรับในตัวข้าหวังเทียนจั๋วแล้ว”
หวังเทียนจั๋วฉีกยิ้ม
“แล้วข้าหวังเทียนจั๋วจะไปทำร้ายว่าที่พ่อตาของข้าได้อย่างไร?”
“ไม่ต้องพูดมาก เ้านัดข้ามาที่นี่คิดจะทำอะไรกันแน่?”
เฟิงเหยาอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก จึงเอ่ยถามอย่างเ็า
“ที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะ่ชิงเศษชิ้นส่วนจันทราแล้วมอบให้ศิษย์น้องเฟิงเหยาเป็ของขวัญอย่างไรล่ะ”
หวังเทียนจั๋วหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง
“นอกจากนี้ ข้าคิดจะตามล่าไอ้เ้าหลงอวี้นั่นเพื่อจะได้กำจัดทิ้งไปด้วยเลย”
“หลงอวี้? มันก็มาหรือ?”
เฟิงเหยาขมวดคิ้ว
“ข้าได้ข่าวมาเช่นนั้น คงไม่น่าจะผิดหรอก”
หวังเทียนจั๋วเอ่ยพูดขึ้น
“เทียบกับเ้าหลงอวี้แล้ว ข้ากลับอยากให้เ้ากำจัดอีกคนหนึ่งทิ้งให้ข้ามากกว่า”
เฟิงเหยากล่าวขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้ว
“หืม? มันผู้นั้นเป็ใครกัน? บังอาจกล้ามายั่วโมโหศิษย์น้องเฟิงเหยาของเราเช่นนี้?”
หวังเทียนจั๋วรู้สึกประหลาดใจ
“หลิ่วยวน!”
เฟิงเหยาเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา ทำให้ทั้งหวังเทียนจั๋วและหลิ่วิเฉิงต่างก็เปลี่ยนสีหน้าไปทันที
หลิ่วยวนแห่งหอโฉมสะคราญ!
“หลิ่วยวน ก็มาด้วยหรือ”
หลิ่วิเฉิงถามอย่างอดไม่ได้
“น้องสาว เ้าได้เจอกับนางหรือ”
“บังเอิญเจอระหว่างทางเมื่อครู่นี้”
เฟิงเหยากล่าวขึ้นเสียงเรียบ
“แต่ตอนนี้นางได้มุ่งหน้าไปที่แหล่งแร่ก่อนแล้ว”
“คุณชายหวัง หลิ่วยวนเป็อัจฉริยะที่มีพร์มากที่สุดของตระกูลหลิ่วเรา นางได้เข้าร่วมกับหอโฉมสะคราญั้แ่เล็กๆ ตอนนี้ได้เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่สาม มีพลังระดับิญญาแท้ขั้นที่สองแล้ว!”
หลิ่วิเฉิงแอบกระซิบบอกให้หวังเทียนจั๋วฟัง
สีหน้าของหวังเทียนจั๋วก็ย่ำแย่ลงไปเล็กน้อย เขาเองก็ย่อมเคยได้ยินเื่ของหลิ่วยวนมาอยู่บ้าง นั่นมันไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ เลยนะ
“ศิษย์น้องเฟิงเหยา เ้ามีปัญหาอะไรกับนางหรือ มารดาของเ้าเองก็เป็คนจองตระกูลหลิ่วไม่ใช่หรือ”
หวังเทียนจั๋วเอ่ยถาม
“สมัยเด็กนางชอบมารังแกและเหยียดหยามข้า”
เฟิงเหยากล่าวเสียงขึ้นเสียงเรียบ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นจ้อมเขม็งไปทางหวังเทียนจั๋ว
“เ้าหวังเทียนจั๋ว ในฐานะที่เป็ว่าที่สามีข้าในอนาคต คงไม่ได้หวาดกลัวหลิ่วยวนหรอกนะ ใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า จะเป็ไปได้อย่างไรกัน?”
หวังเทียนจั๋วหัวเราะ เหลือบมองไปทางองครักษ์ระดับิญญาแท้ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลัง กล่าวขึ้นด้วยความมั่นใจ
“เ้าวางใจเถิด หากครั้งนี้ได้เจอกับหลิ่วยวนนั่นเข้าล่ะก็ ข้าหวังเทียนจั๋วจะต้องทำให้นางอับอายแน่นอน!”
“อย่างนั้นก็ดี”
เฟิงเหยาถึงได้ลงจากม้ามา เดินมาอยู่ข้างหวังเทียนจั๋วพร้อมกับกระบี่โบราณปิ่งถงที่เหน็บอยู่ข้างเอว
ตัวนางในตอนนี้ยังอ่อนมากเกินไป ระดับพลังเองก็แค่วิถียุทธ์ขั้นแปดเท่านั้น หากเผชิญหน้ากับหลิ่วยวนล่ะก็ นางไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้แค่ให้เ้าหวังเทียนจั๋วไปก่อกวนหลิ่วยวนสักหน่อยก็นับว่าดีมากแล้ว ถึงอย่างไรมันก็เป็การยืมดาบฆ่าคน ตัวนางเองก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว!
ทั้งห้าคนจึงได้พากันเ้าไปภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิงอีกครั้ง แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของพวกเขานั้นกลับเป็ภาพของผู้คนที่มีสภาพสะบักสะบอมยับเยินกันไปหมด
“นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้นเนี่ย? พวกเ้าเป็คนของตระกูลหลิงหรือเปล่า?”
หวังเทียนจั๋วขมวดคิ้วะโถามเสียงดัง
หลิงเทียนป้าที่อยู่พิงกำแพงอยู่นั้น เขาถูกท่าเงาหอกกระหน่ำแทงของหลงอวี้ทำร้ายจนเืลมไหลเวียนไม่สะดวก จำเป็ต้องพักฟื้นสักพัก
พอเขามองเห็นหวังเทียนจั๋วในชุดผ้าไหมสีทองอันหรูหรากำลังเดินมาแล้วก็พลันตื่นตะลึงไปทันที รีบอดทนกับอาการาเ็ของตัวเองแล้วเข้าไปต้อนรับทันที
เป็อย่างที่คิดจริงๆ การปรากฏตัวของเศษชิ้นส่วนจันทรามาดึงดูดยอดฝีมือระดับิญญาแท้มาได้มากมายจริงๆ!
สำหรับหลิงเทียนป้าแล้ว เขาย่อมไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้เลยแม้แต่น้อย ไม่อย่างนั้นเกรงว่าอาจจะตายโดยไม่รู้ตัวเลยก็เป็ได้
