กลิ่นสะระแหน่เย็นโชยเข้าจมูก ใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษอยู่ใกล้เพียงเอื้อม
ไป๋เซี่ยเหอรู้สึกว่าหากตนเองกะพริบตา ขนตาของนางจะปัดโดยปลายจมูกของเขา
การกระทำนี้อุกอาจเกินไป...
ไม่อาจยับยั้งหัวใจที่เต้นรัวได้ ขนาดคนเยือกเย็นอย่างไป๋เซี่ยเหอ พวงแก้มยังขึ้นริ้วสีแดงอย่างไม่อาจต้านทานได้
“ท่าน...ปล่อยข้านะ”
แม้แต่น้ำเสียงที่เย็นเยียบเสมอมายังแฝงด้วยความเขินอายอย่างหาได้ยาก
ฮั่วเยี่ยนไหวยกมุมปากเป็รอยยิ้มพึงพอใจที่มีความหมายลึกซึ้ง “ได้!”
ขณะที่ไป๋เซี่ยเหอกำลังประหลาดใจที่ฮั่วเยี่ยนไหวรับปากอย่างรวดเร็วและไม่อิดออดอยู่นั้น
จู่ๆ หัวสมองของนางพลันว่างเปล่า เพราะร่างถูกฮั่วเยี่ยนไหวอุ้มขึ้นมา
นี่คือท่าอุ้มเ้าหญิงในตำนาน!
ไป๋เซี่ยเหอยื่นมือไปโอบรอบคอของฮั่วเยี่ยนไหวตามสัญชาตญาณ ทำให้ระยะห่างของทั้งสองคนลดน้อยลงกว่าเดิม
แม้แต่เสียงหัวใจเต้นของเขา นางยังได้ยินอย่างชัดเจน
“์ เซ่อเจิ้งอ๋องไม่เพียงแต่ไม่ตำหนิคุณหนูใหญ่สกุลไป๋ ยังอุ้มนางอีก”
“นางได้รับความโปรดปรานมากเกินไปแล้วกระมัง น่าอิจฉายิ่งนัก”
ขณะเดียวกันก็มีถ้อยคำเหน็บแนมปนอยู่ในนั้น
“กลางวันแสกๆ ไม่รู้จักอายเลยจริงๆ!”
ทว่าพวกที่เอาแต่ก่นด่า ในใจกลับปรารถนาเซ่อเจิ้งอ๋องยิ่งกว่าผู้ใด
กระทั่งรถม้าแล่นจากไปไกลแล้ว ไป๋หว่านหนิงยังคงยืนอยู่ที่เดิมในท่ายอบกายทำความเคารพ
หากเซ่อเจิ้งอ๋องไม่ให้นางลุกขึ้น นางก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาเอง
กระทั่งรถม้าที่ทั้งสองคนนั่งจากไปแล้ว ส่วนผู้คนก็ต่างแยกย้าย นางจึงค่อยๆ ยืดตัวตรง
ถึงแม้บริเวณน่องจะเ็ปเหลือทน ทว่าก็เทียบไม่ได้กับอารมณ์ของนางในตอนนี้ ราวกับหัวใจถูกควักออกมาแล้วโยนเข้าไปในไหที่เต็มไปด้วยน้ำส้มสายชู นางรู้สึกหน่วงที่ใจจนกระทั่งแปรเปลี่ยนเป็ความเ็ป
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่พี่ไป๋หรอกหรือ? ต้องโทษที่ข้าไม่ทันระวังจนขาแพลง ไท่จื่อไม่วางพระทัยจึงต้องพาข้าไปตรวจ ทำให้พี่สาวรอนานเสียแล้ว”
รถม้าสีเหลืองสว่างจอดลงตรงหน้า ก่อนที่น้ำเสียงอันไพเราะและจริงใจจะดังขึ้นเหนือศีรษะ
เหล่าสตรีจากตระกูลใหญ่ที่ยังไม่จากไปไหนล้วนอดไม่ได้ที่จะกระซิบกระซาบกัน
หากเป็ไปได้ ไป๋หว่านหนิงปรารถนาจะกลับเข้าจวนประเดี๋ยวนี้ แล้วไม่ออกมาอีกเลย
ความน้อยเนื้อต่ำใจและความขุ่นเคืองถาโถมเข้ามาในหัวใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
น้ำตาแห่งความผิดหวังไหลริน
“เหตุใดพี่สาวถึงร้องไห้เล่า? เป็เพราะข้าทำให้ท่านรอนานใช่หรือไม่? หากเป็เช่นนั้นพี่สาวก็ลงโทษข้าเถิด”
หลิวอวิ๋นตั่วใเมื่อเห็นไป๋หว่านหนิงร้องไห้ออกมาอย่างกะทันหัน นางะโลงมานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของไป๋หว่านหนิงด้วยท่าทีจริงใจ
ก่อนออกเรือนท่านพ่อกำชับไว้ว่า เมื่อไท่จื่อมีว่าที่พระชายา นางจะต้องปรนนิบัติอีกฝ่ายให้ดี ทว่ากลับเกิดเื่ผิดพลาดเช่นนี้ขึ้น ครั้งแรกที่พบหน้ากันนางก็ทำว่าที่พระชายาร้องไห้ ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว!
บุรุษในรถม้ามุ่นคิ้วเล็กน้อย สีหน้าดูกระอักกระอ่วน แม้ว่าการฉลองเทศกาลด้วยกันสามคนจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก ทว่าหลิวอวิ๋นตั่วไม่ได้ออกจากจวนมานานมากแล้ว
เมื่อสบกับดวงตาที่สว่างไสวและจริงใจของนาง เขาก็ใจอ่อนไปชั่วขณะ
นอกจากนี้ หว่านหนิงคือว่าที่พระชายา นางจึงควรมีความเอื้ออารี ทว่าตอนนี้มีเพียงอวิ๋นตั่วเท่านั้น นางกลับยืนร้องไห้บนถนนใหญ่ทำให้เขาขายหน้าเสียแล้ว
วันหน้าหากเขาได้ขึ้นครองราชย์เป็ฮ่องเต้ มีสามตำหนักหกเรือนเจ็ดสิบสองพระสนม นางจะไม่เชือดคอตนเองที่กำแพงเมืองหรือ?
ตอนนี้สีหน้าของฮั่วิเชินแปรเปลี่ยนเป็อัปลักษณ์
“จะไปหรือไม่? หากไม่ไปก็แยกย้ายกันไปทำอะไรที่ควรทำ”
เสียงร่ำไห้เงียบลงทันที
หลิวอวิ๋นตั่วยื่นมือไปประคองไป๋หว่านหนิงเพื่อแสดงความขอโทษอย่างจริงใจ “พี่ไป๋ ข้าประคองท่านขึ้นรถม้าก็แล้วกัน”
ไป๋หว่านหนิงสะบัดมือหลิวอวิ๋นตั่วทิ้งโดยไม่ชายตามอง ก่อนจะตรงขึ้นรถม้าไปแล้วนั่งลงข้างๆ ฮั่วิเชิน
ภายในรถม้าที่งดงามและหรูหรา
กระถางธูปขนาดกระทัดรัดตรงมุมยังคงจุดกำยานกลิ่นสะระแหน่ ทั่วทั้งรถม้าเต็มไปด้วยกลิ่นหอมเย็นสดชื่น
ฮั่วเยี่ยนไหวนั่งอยู่บนที่นั่งด้านในสุด ส่วนไป๋เซี่ยเหอนั่งอยู่ข้างเขา ทว่าช่องว่างตรงกลางระหว่างทั้งสองคน ต่อให้มีคนนั่งอีกสามคนก็ยังกว้างอยู่ดี
“เหตุใดเ้าถึงนั่งห่างข้าขนาดนั้น?”
เขาตั้งใจเว้นที่ข้างกายไว้ให้นาง
“ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัว”
น้ำเสียงของไป๋เซี่ยเหอสงบนิ่งดุจสายน้ำ
“เกรงว่าชายารักจะลืมไปแล้วว่าเมื่อครู่ตนเองขึ้นมาได้อย่างไร”
บุรุษที่เ็าเสมอมาถึงกับเรียนรู้ที่จะทำตัวเป็อันธพาล เขายกมุมปากขึ้นด้วยท่าทีเ้าเล่ห์
ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดไป๋เซี่ยเหอถึงไม่รู้สึกรังเกียจ
หัวใจของนางหยุดเต้นไปหนึ่งจังหวะ นางไม่รู้ว่าตนเองมีความรู้สึกเช่นไร “ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะเรียกว่า ‘ชายารัก’ กระมัง”
จู่ๆ ฮั่วเยี่ยนไหวก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
แรงมหาศาลฉุดร่างของนางไปโดยที่นางไม่ทันได้ป้องกัน ทำให้นางขยับไปนั่งอยู่ข้างกายของฮั่วเยี่ยนไหวในที่สุด
“ไป๋เซี่ยเหอ เ้าเลิกวางแผนการได้เลย ในเมื่อฝ่าาพระราชทานสมรสให้เ้ากับข้าแล้ว...”
“เ้าอยู่ก็เป็คนของข้า ตายก็เป็ผีของข้า!”
มือของเขาที่กำลังบีบกรามของนางเอาไว้นั้นร้อนระอุและทรงพลัง ให้ความรู้สึกราวกับถูกบีบบังคับ
ไป๋เซี่ยเหอมองเขาด้วยแววตาสงบนิ่ง
เวลาผ่านไปนาน
ประกายซับซ้อนในแววตาของนางหายไป “วันนี้จู่ๆ เหตุใดท่านถึงมาที่จวนสกุลไป๋?”
ฮั่วเยี่ยนไหวเอนกายพิงหมอนอิงด้วยท่าทีเอ้อระเหย สาบเสื้อตรงอกแหวกออกเล็กน้อยเพราะการกระทำเมื่อครู่ มือที่มีข้อนิ้วเด่นชัดถือถ้วยกระเบื้องไว้ในมือก่อนจะเขย่ามันเบาๆ ท่าทางนั้นดูเย้ายวนมาก
“หากข้าไม่ไปปล่อยโคมดอกไม้กับเ้าในเทศกาลดอกไม้ จะยิ่งเป็การยืนยันข่าวลือที่ว่าเ้าสูญเสียความโปรดปรานไม่ใช่หรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอเพียงหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงอันเรียบเฉยแฝงด้วยความเยือกเย็นที่ราวกับมีมาแต่กำเนิด “ในเมื่อข้าไม่ได้รับความโปรดปราน แล้วข้าจะสูญเสียมันได้อย่างไร?”
“นอกจากนี้ท่านอ๋องยังบอกแล้วว่าเื่เ่าั้เป็เพียงข่าวลือ เหตุใดต้องสนใจด้วยเล่า?”
“เ้าไม่สนใจแต่ข้าสนใจ”
ฮั่วเยี่ยนไหวดึงสาบเสื้อของตนเอง แววตาแผ่ความเย็นะเืราวกับคมมีด “ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายเพียงใดที่หัวเราะเยาะ ซ้ำเติม และรังแกเ้าเพราะเื่นี้”
“ข้า้าให้พวกเขามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไป๋เซี่ยเหอมีข้าเป็ที่พึ่งพิงอยู่เสมอ”
“การรังแกเ้าถือเป็การทำให้ข้าอารมณ์เสีย”
หัวใจที่ว่างเปล่าของไป๋เซี่ยเหอรู้สึกราวกับถูกเทด้วยน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิราวยี่สิบห้าองศาอย่างกะทันหัน
อุณหภูมิที่สบายที่สุดสำหรับมนุษย์กำลังแล่นไปทั่วร่างของนางด้วยความเร็วแสง
จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปในหัวใจอีกครา
ไป๋เซี่ยเหองอนิ้วเล็กน้อย ก่อนหน้านี้นางถูกทรยศความเชื่อใจ แล้วนางจะปล่อยวางง่ายๆ ปานนั้นได้อย่างไร?
“หากท่านอ๋องเพียงระบายโทสะแทนข้า เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณท่านอ๋อง ในเมื่อตอนนี้ระบายโทสะเสร็จสิ้นแล้ว ขอท่านอ๋องโปรดปล่อยข้าลงจากรถม้าด้วย”
ฮั่วเยี่ยนไหวยิ้มขื่นในใจ หากเปลี่ยนเป็ผู้อื่น เขาคงถีบลงจากรถม้าไปนานแล้ว
อีกฝ่ายดันเป็ไป๋เซี่ยเหอเสียนี่
บนร่างของสตรีนางนี้มีกลิ่นอายบางอย่างที่ดึงดูดเขาอย่างลึกล้ำ
“หากข้าบอกว่าไม่เล่า?”
“ลองบอกเหตุผลสักข้อสิ เหตุผลที่ข้าต้องอยู่บนรถม้าของท่านต่อ”
ฮั่วเยี่ยนไหวยกมุมปากขึ้น ั์ตาเหยี่ยวทอประกายฉลาดเฉลียว
“จิ้งจอกน้อยไม่ได้มาที่จวนอ๋องนานแล้ว มันคงอยู่กับเ้ากระมัง”
“...”
การไม่ตอบนับว่ายอมรับโดยปริยาย
จู่ๆ ไป๋เซี่ยเหอก็รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างอธิบายไม่ได้ นางจึงไม่ทันเห็นความพึงพอใจที่ปรากฏอยู่ในแววตาสีรัตติกาล และมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยอย่างมีความสุขของฮั่วเยี่ยนไหว
“สัตว์เลี้ยงของข้าอยู่กับเ้านานปานนี้ เช่นนั้นเ้าต้องอยู่กับข้าหนึ่งวัน จะได้เท่าเทียม!”
------------------------