เมื่อได้ฟังหานรุ่ยแล้ว จุนห่าวก็คลายคิ้วที่ขมวดลง พร้อมกล่าวกับหานรุ่ยว่า “วิธีของเ้าไม่เลวเลย เพราะเราไม่อาจต่อสู้ซึ่ง ๆ หน้าได้ ถ้าเลือกใช้แผนต่อสู้ทางอ้อมก็ไม่เลว การเข้าพบเซ่าเจี้ยนหลิ่นไม่ใช่เื่ง่าย ส่วนการเข้าพบภรรยาเอกของเขายิ่งไม่ต้องพูดเลย”
“สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ง่าย แต่สำหรับเราถือว่าง่ายดายมาก” หานรุ่ยเอ่ยกับจุนห่าวพร้อมรอยยิ้มลึกลับ
“ทำไมถึงง่ายดายล่ะ?” พอได้เห็นรอยยิ้มของหานรุ่ย จุนห่าวก็ใจเต้นระรัว พร้อมเอ่ยถามพลางเลิกคิ้วสงสัย เขาชอบรอยยิ้มของหานรุ่ย เขาหวังว่า หานรุ่ยจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดไป
“เ้าลืมแล้วหรือว่า ข้าแซ่อะไร และเป็คนเมืองใด” หานรุ่ยถามกลับด้วยรอยยิ้ม
“แซ่หาน และเป็คนเมืองเย่ว์เซียน ถึงข้าจะลืมแซ่ของข้า แต่ข้าจะไม่มีวันลืมแซ่ของเ้า และเื่ที่เ้าเป็คนเมืองใด ข้าก็ยิ่งจำได้เป็อย่างดีเลย” จุนห่าวพูดติดตลก หานรุ่ยหันขวับ เมื่อได้ยินจุนห่าวพูดหยอกล้อเขาเช่นนี้ จุนห่าวรู้สึกสนุกที่ได้หยอกล้อ เขายินดีที่จะให้ความร่วมมือหานรุ่ย
“ข้าเป็หนึ่งในสมาชิกของตระกูลหาน 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่ของเมืองเย่ว์เซียน ส่วนภรรยาเอกของท่านเ้าเมืองเซ่าเกิดในตระกูลหยุน... ซึ่งตระกูลหยุนนี้ ก็เป็ 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่ของเมืองเย่ว์เซียนเช่นกัน เพราะเขาเป็ลูกหลานของตระกูลหยุน และตระกูลหานกับตระกูลหยุนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ข้ายังเรียกเขาว่า ‘ท่านลุง’ ในฐานะที่เขาเป็ผู้าุโอยู่เลย การที่ข้าจะไปคารวะท่านลุงในฐานะหลานชาย ยังถือว่าไม่ง่ายดายอีกหรือ?” หานรุ่ยพูดกับจุนห่าว เพราะเขาเคยมีความสัมพันธ์อันดีกับลูกหลานของตระกูลหยุน เพื่อนคนเดียวของเขาก็คือคนในตระกูลหยุน ผู้เป็ซวงเอ๋อร์ที่ฉลาดหลักแหลมและมีรูปโฉมงดงาม
“จริงด้วย ทำไมข้าถึงลืมไปว่า ภรรยาของข้ามีชาติกำเนิดที่ดีได้ล่ะเนี่ย? เห็นเ้าไม่ค่อยเล่าเื่ตระกูลหานให้ข้าฟัง ข้าเลยคิดว่า ......” จุนห่าวไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เขาทราบดีว่า หานรุ่ยยังมีปมในใจกับตระกูลหานอยู่ แค่เขาไม่พูดถึงเท่านั้น ในความเป็จริงแล้ว ที่หานรุ่ยแต่งงานกับร่างเดิม ก็เพื่อตบตาเื่ที่เขาถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลหาน
“เ้าคิดว่า ข้าจะแก้แค้นตระกูลหานอย่างนั้นหรือ? ตอนที่ข้าสูญสิ้นพลังปราณจนหมดหนทางบำเพ็ญเพียร พวกท่านปู่ก็ยังดีต่อข้า แถมท่านปู่ยังพยายามวางแผนอนาคตให้ข้าด้วย จริง ๆ แล้วข้ารู้สึกขอบคุณท่านปู่มาก มิเช่นนั้นข้าคงไม่ได้รู้จักกับเ้า” หานรุ่ยกล่าว “แม้จะดูเหมือนว่า ข้าถูกเนรเทศออกมา แต่ข้ายังไม่ได้ถูกถอดชื่อออกจากวงศ์ตระกูล ข้ายังคงเป็นายน้อยห้าของตระกูลหาน และผู้คนยังต้องให้เกียรติข้าอยู่ ความจริงแล้ว เริ่มแรกข้าแค้นเคืองต่อตระกูลหานก็จริง แต่หลังจากที่ข้าได้พบเ้า ความแค้นเคืองนั้นได้มลายหายไปหมดแล้ว ข้ารู้ดีว่า ท่านปู่พยายามหาทางออกให้ข้า ข้าก็ไม่ได้ยินดีเท่าไหร่หรอก ที่จะใช้ประโยชน์จากตระกูลหาน แต่ทว่าเมื่อมีเหตุจำเป็ ประจวบกับที่ข้าได้รู้ว่า ‘หยุนจิ่น’ คือ ภรรยาเอกของเ้าเมืองเซ่า ด้วยความสัมพันธ์อันดีที่เคยมีมาก่อนนี้ ย่อมช่วยจัดการเื่นี้ได้ง่ายขึ้น เราค่อยเป็ค่อยไปก็ได้ ค่อย ๆ วางแผนกันไป แต่สถานการณ์ของจางหนิงตอนนี้ พวกเรารอช้าไม่ได้แล้ว จางหนิงอยู่ในคฤหาสน์ของเ้าเมืองมาหลายวัน หากเขาต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปอีก บางทีเซ่าหานอี้อาจจะอารมณ์ไม่ดี จนลงมือฆ่าจางหนิงทิ้งเสียก็เป็ได้ ข้าไม่อยากพาจางหนิงแบบเป็ร่างไร้ิญญากลับไปหรอกนะ”
จุนห่าวไม่อยากก้าวก่ายเื่ของตระกูลหานกับหานรุ่ย เขาไม่อาจพูดได้ว่า วิธีของท่านปู่ของหานรุ่ยโดยเริ่มแรกนั้น เป็วิธีที่ผิดและเขาไม่เห็นด้วยเลย จุนห่าวอยากเห็นหานรุ่ยมีความสุข ถ้าหานรุ่ยยินดีที่จะทำเช่นนี้ เขาก็สนับสนุน “ถ้าอย่างนั้นวันรุ่งขึ้นเราต้องไปหาท่านลุงผู้นั้นกันใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นเราต้องเตรียมของขวัญติดไม้ติดมือไปสักอย่าง ไปคฤหาสน์ของท่านเ้าเมืองทั้งที จะทำตัวต๊อกต๋อยไม่ได้”
“แค่ยาิญญาก็พอแล้ว ไม่ว่าผู้บำเพ็ญเพียรคนไหนก็ชอบสิ่งนี้กันทั้งนั้น” หานรุ่ยกล่าว ยาิญญาที่จุนห่าวปรุงขึ้น ล้วนมีคุณภาพสูงและถือเป็สมบัติล้ำค่าทั้งนั้น คงเป็เพราะว่า จุนห่าวเห็นมันมามากแล้ว จึงไม่ได้คิดว่า ยาิญญานั้นสำคัญเท่าไร
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่เ้าบอกแล้วกัน เรามียาิญญาและสมุนไพรอยู่มากมายเลย” จุนห่าวกล่าว เขาคิดในใจว่า ‘วิธีนี้ช่วยประหยัดเงินได้มาก อย่างที่หานรุ่ยบอก ถ้าพอประหยัดอะไรได้ ก็ควรที่จะประหยัดไว้’
