บทที่ 4 ตบ!!เพื่อให้พวกเ้ารู้ฐานะของตัวเอง.
กู้ชิงอวิ๋นก้าวออกจากเรือนโทรมๆ ของตนเอง ทิ้งสาวใช้ผู้โชคร้ายให้คุกเข่าตัวสั่นอยู่เื้ั อาหนิงรีบวิ่งตามมาด้วยสีหน้ากังวล
"คุณหนูใหญ่เ้าคะ! จะไปที่ครัวใหญ่จริงๆ หรือเ้าคะ? ป้าจางหัวหน้าแม่ครัวเป็คนของฮูหยินรอง และคนในครัวก็เป็คนของนางทั้งหมดเลยเ้าค่ะ ทั้งยังปากร้ายและวางอำนาจที่สุดเลยนะเ้าคะ"
กู้ชิงอวิ๋นปรายตามองสาวใช้ผู้ภักดีแล้วยิ้มบางๆ
"คนที่ภักดีต่อฮูหยินรอง...ยิ่งดี ข้าจะได้สั่งสอนให้รู้เสียทีว่าเ้าบ้านที่แท้จริงของจวนแห่งนี้คือใคร"
คำพูดอันเ็าและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจทำให้อาหนิงถึงกับพูดไม่ออก นางทำได้เพียงเดินตามหลังคุณหนูของนางไปอย่างเงียบๆ แต่ในใจกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด...คุณหนูใหญ่ของนาง...เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
ข่าวที่คุณหนูใหญ่ลุกขึ้นมาต่อต้านฮูหยินรองนั้นแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงข่าวที่นางจัดการลงโทษให้สาวใช้ที่นำมาอาหารมาส่งที่ถูกลงโทษอยู่ด้วย และตอนนี้นางกำลังมุ่งหน้าไปที่ครัวใหญ่พร้อมชามอาหารชามนั้นด้วย..
เมื่อร่างผอมบางของกู้ชิงอวิ๋นปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูครัวใหญ่ เหล่าบ่าวไพร่และแม่ครัวที่กำลังทำงานอยู่ต่างก็พากันหยุดชะงักแล้วหันมามองเป็ตาเดียว พวกเขามองนางด้วยสายตาประหลาดใจ ระคนไปกับความดูถูกและความขบขัน
หัวหน้าแม่ครัวร่างอ้วนใหญ่ที่ทุกคนเรียกว่า ป้าจาง เดินเท้าสะเอวออกมา นางมองกู้ชิงอวิ๋นั้แ่หัวจรดเท้าแล้วแค่นเสียงหัวเราะ
"อะไรกันนี่? ลมอะไรหอบคุณหนูใหญ่มาถึงครัวได้เ้าคะ...ที่นี่มันสกปรก ไม่ใช่ที่ที่ท่านควรจะเหยียบย่างเข้ามานะเ้าคะ"
กู้ชิงอวิ๋นไม่สนใจคำพูดจิกกัดนั้น เธอยกชามข้าวบูดที่สาวใช้คนก่อนนำไปให้ขึ้นตรงหน้าป้าจาง
"ข้า้าคำอธิบาย"
ป้าจางเหลือบมองชามข้าวแล้วหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม
"โอ๊ย! ก็แค่อาหารเหลือธรรมดาๆ ที่ข้าทำส่งให้ท่านนี่เ้าคะ มีอะไรผิดปกติเช่นนั้นรึ ท่านก็กินแบบนี้มาตั้งนานหรือว่าท่านคิดว่าตัวเองยังเป็คุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่อีกรึ? ฮูหยินรองสั่งไว้ ให้ดูแลคุณหนูใหญ่ตามสมควร"
นางจงใจเน้นคำว่า "ตามสมควร" พร้อมกับส่งสายตาเยาะเย้ย เป็การประกาศอย่างชัดเจนว่าทั้งหมดนี้คือคำสั่งของฮูหยินรอง และในจวนแห่งนี้ ไม่มีใครคุ้มครองนาง!
กู้ชิงอวิ๋นกลับไม่ยิ้มเยาะอย่างที่เคย นางนิ่งไป...ความเงียบที่เยียบเย็นของนางทำให้เสียงหัวเราะค่อยๆ จางหายไป บรรยากาศในครัวพลันหนักอึ้งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
นางวางชามข้าวบูดลงบนโต๊ะใกล้ๆ อย่างแ่เบา ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาป้าจางอย่างช้าๆ แต่ทุกย่างก้าวกลับมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยแรงกดดัน
"นี่คือสิ่งที่บ่าวอย่างพวกเ้าทำให้คุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพกินมาตลอดเช่นนั้นรึ
ป้าจางที่เห็นนางเดินเข้ามาใกล้ก็ยังคงเชิดหน้ายิ้มเยาะ
"ก็ใช่นะสิ พวกข้าทำอาหารเช่นนี้ให้ท่านมาตลอด ก็ไม่เห็นท่านจะว่าอะไร เห็นส่งไปทีไรก็กินจนหมดไม่เหลือ อะไรกันคุณหนูใหญ่! นี่อย่าบอกนะว่าที่ท่านมาที่นี่คิดจะมาขอกับข้าวดีๆ จากข้ารึ? ฝันไปเถอะ หากว่าไม่มีคำสั่งจากฮูหยินรอง ข้าไม่มีทางที่จะเปลี่ยนอาหารให้ท่านหรอก!"
พูดเสร็จพลางมองนางด้วยหางตาและเชิดหน้าอย่างท้าทาย กู้ชิงอวิ๋นมองท่าทางของนางก่อนจะเดินช้าๆ เช้าไปหา และยกฝ่ามือขึ้นและฟาดอย่างแรงไปที่ใบหน้าของป้าจาง
เพี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือที่กระทบใบหน้าอวบอูมของป้าจางดังสนั่นไปทั่วทั้งครัว!มันเป็เสียงที่ทรงพลังและเด็ดขาดจนทุกคนนิ่งอึ้งเป็รูปสลัก! ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณหนูใหญ่ร่างผอมบางที่ดูเหมือนลมพัดก็จะปลิว จะมีแรงมากถึงเพียงนี้!
ป้าจางหน้าสะบัดไปตามแรงตบ นางยกมือขึ้นกุมแก้มที่ร้อนผ่าวและแดงเป็รอยฝ่ามืออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา "นะ...นัง...เ้ากล้าตบข้ารึ!"
กู้ชิงอวิ๋นไม่พูดอะไรต่อ นางเพียงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและความสับสนของป้าจาง และเพราะแรงที่ตบไปทำให้ป้าจางล้มลงกับพื้น กู้ชิงอวิ๋น จ้องมองใบหน้าของนางและค่อยๆ เดินเข้าไปหาอีกครั้ง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบราวน้ำแข็ง ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
"ข้าคือใคร?"
คำถามสั้นๆ แต่กลับหนักอึ้งราวกับูเาถล่มทับ! ป้าจางที่กำลังจะอ้าปากด่ากลับไปถึงกับชะงักงัน นางจ้องมองดวงตาคู่นั้น...มันไม่ใช่ดวงตาของเด็กสาวโง่เขลาที่นางเคยรู้จัก แต่มันลึกล้ำและน่ากลัวจนทำให้นางขนลุกซู่!
ด้วยความหยิ่งทะนงและความเคยชิน นางยังคงปากแข็ง
"เ้าก็คือนังเด็กอัปมงคล เป็ขยะของจวนแห่งนี้..."
เพี๊ยะ!!!
ฝ่ามือข้างเดิมฟาดลงบนใบหน้าซีกเดิมของป้าจางอีกครั้ง ครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิมจนนางถึงกับเซถลาไปอีกและมีเืซิบที่มุมปาก! เหล่าบ่าวไพร่ที่มุงดูอยู่ถึงกับผวาถอยหลังไปหลายก้าว ความขบขันในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็ความตื่นตระหนก และบัดนี้...มันกำลังจะกลายเป็ความหวาดกลัว!
กู้ชิงอวิ๋นก้าวตามเข้าไปอีกหนึ่งก้าว ยืนค้ำหัวป้าจางที่กำลังมึนงงและเ็ป แล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบเสียงเดิม
"ข้าถามอีกครั้ง...ข้าคือใคร?"
คราวนี้...หัวใจของป้าจางหล่นวูบนางตระหนักได้ในที่สุดว่าคุณหนูใหญ่ตรงหน้านี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป อำนาจที่เคยค้ำจุนนางจากฮูหยินรองดูเหมือนจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิงต่อหน้าความอำมหิตนี้ นางก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูใหญ่ที่พวกนางรุมรังแกกันมาหลายปี เหตุใดนางถึงไม่เหมือนเดิมอีกต่่อไป เมื่อนางมองเห็นมือของคุณหนูใหญ่ยกขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ นางทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นอย่างหมดสิ้นความหยิ่งผยอง
"ทะ...ท่าน...ท่านคือ...คุณหนูใหญ่เ้าค่ะ...ท่านคือคุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพตระกูลกู้เ้าค่ะ บ่าวจำได้แล้ว ตอนนี้จำขึ้นใจแล้วเ้าค่ะ อย่าตบอีกเลยฟันจะร่วงแล้ว..."
กู้ชิงอวิ๋นสะบัดมือเล็กน้อยราวกับเพิ่งปัดฝุ่น สบตาป้าจางด้วยแววตาที่เย็นเยียบราวน้ำแข็งขั้วโลก
"การตบครั้งนี้" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ก้องกังวาน
"คือการสั่งสอนบ่าวชั่วที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง...การดูิ่นายเหนือหัว โทษตามกฎของจวนคือการโบยจนตาย...ข้าแค่ตบหน้าเ้า...ถือว่าเมตตาแล้ว"
นางกวาดสายตาไปมองบ่าวคนอื่นๆ ที่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว "หรือพวกเ้า...มีใครอยากจะลองดีกับข้าอีกหรือไม่?"
"แล้วพวกเ้าเล่า...รู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร?"
คำถามนั้นดุจหอกน้ำแข็งที่พุ่งเข้าใส่ทุกคน บรรยากาศในครัวเงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง พวกเขามองหน้ากันเลิ่กลั่ก ในใจเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง
จะให้คุกเข่าให้นังเด็กนี่น่ะรึ? คนที่ฮูหยินรองบอกว่าเป็แค่ขยะที่รอวันกำจัดทิ้ง?
หลายปีที่ผ่านมา พวกเขาดูถูกและรังแกคุณหนูใหญ่ผู้นี้ตามคำสั่งของฮูหยินรองมาโดยตลอด เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่านางเป็เพียงคุณหนูใหญ่ในนามเท่านั้น ท่านแม่ทัพไม่เคยเหลียวแล นางไม่มีที่พึ่งใดๆ พื้นที่ในจวนนี้ของนางนั้นเหลืออยู่เพียงกะผีกเดียวเท่านั้น การเอาใจฮูหยินรองต่างหากคือหนทางเอาตัวรอดในจวนแห่งนี้
แต่...แต่นางในตอนนี้น่ากลัวเกินไป! สายตาคู่นั้น...มันไม่ใช่สายตาของเด็กสาวที่อ่อนแออีกต่อไปแล้ว เอาอย่างไรดีเหล่า หากว่าจะแข็งขืน พวกเขากลัวจะตัดสินใจผิด!
ความลังเลฉายชัดบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากำลังชั่งน้ำหนักระหว่างความกลัวที่มีต่ออำนาจเก่าของฮูหยินรอง กับความหวาดหวั่นต่ออำนาจใหม่ที่น่าสะพรึงกลัวของกู้ชิงอวิ๋น
กู้ชิงอวิ๋นมองเห็นความสองจิตสองใจนั้นได้อย่างชัดเจน นางแค่นเสียงเ็า
"ข้าให้เวลาพวกเ้าสามลมหายใจ...เพื่อเลือกว่าจะภักดีกับข้าที่เป็ คุณหนูใหญ่ของจวนนี้ที่แท้จริง...หรือจะจงรักภักดีกับ ‘อนุภรรยา’ ที่อีกไม่นานข้าจะจัดการให้หมดอำนาจลง"
ถ้อยคำที่เอ่ยด้วยความมั่นใจของคุณหนูใหญ่และคำว่า 'อนุภรรยา' แทงใจดำของทุกคนมันคือการประกาศากับฮูหยินรองอย่างเปิดเผย และยังเป็การบ่งบอกว่านางมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถโค่นอำนาจของหลิวซื่อลงได้!
"หนึ่ง..."
เสียงนับเลขที่เย็นเยียบและไร้ความรู้สึกของนาง คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความลังเลของทุกคนพังทลายลง! ความกลัวต่ออันตรายที่อยู่ตรงหน้า เอาชนะความกลัวต่ออำนาจที่มองไม่เห็นได้อย่างง่ายดาย!
พรึ่บ!
ราวกับเป็สัญญาณ ทุกคนในครัวก็พร้อมใจกันทรุดตัวลงคุกเข่าหมอบกราบกับพื้นทันทีไม่มีใครกล้าแม้แต่จะสบตานางตรงๆ!
"พวกบ่าวทราบแล้วเ้าค่ะ! ท่านคือคุณหนูใหญ่!"
เสียงตอบที่ดังระงมนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดหัวใจ
บัดนี้...ทุกคนในครัวต่างเข้าใจแล้วว่า...ยุคสมัยที่พวกเขาสามารถเหยียบย่ำคุณหนูใหญ่ผู้นี้ได้ตามใจชอบ...มันได้จบสิ้นลงแล้ว
"ดี" กู้ชิงอวิ๋นกล่าวอย่างพึงพอใจ
"ในเมื่อตอนนี้พวกเ้ารู้แล้วว่าใครคือผู้ที่พวกเ้าควรจะยำเกรง...ก็จงจำไว้"
นางกวาดสายตาเ็าไปทั่วร่างของบ่าวไพร่ที่ยังคงคุกเข่าหมอบอยู่กับพื้น
"นับจากนี้ไป อาหารของข้าต้องมีเนื้อหนึ่งอย่าง ปลาหนึ่งอย่าง ผักสดสองอย่าง และแกงบำรุงหนึ่งถ้วย ข้าวต้องเป็ข้าวขาวหุงใหม่ วัตถุดิบทุกอย่างต้องสดสะอาดที่สุด ส่งไปที่เรือนของข้าให้ตรงเวลา...หากมีอะไรผิดพลาดแม้แต่อย่างเดียว ข้าไม่รับประกันว่าความปลอดภัยของผู้ใด"
คำขู่ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังนั้นทำให้ทุกคนตัวสั่นสะท้านยิ่งกว่าเดิม!
"ไปจัดการได้แล้ว!"
คำขู่ที่เย็นเยียบนั้นทำให้ทุกคนตัวสั่นสะท้าน แต่แทนที่จะรีบลนลานลุกขึ้นไปทำงาน บรรดาบ่าวไพร่กลับมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลำบากใจและความหวาดกลัวระคนกัน
ป้าจางที่ยังคงคุกเข่าอยู่ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองกู้ชิงอวิ๋นอย่างกล้าๆ กลัวๆ นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
"คุณหนูใหญ่...บะ...บ่าวมิได้ขัดคำสั่งนะเ้าคะ แต่ว่า..."
กู้ชิงอวิ๋นหรี่ตามอง
"แต่อะไรรึ?"
"คือ...คือว่า..." ป้าจางก้มหน้างุด เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
"ใน...ในครัวตอนนี้ปลาเลยเ้าค่ะ เนื้อวัวหรือเนื้อแกะก็ไม่ได้สั่งเข้ามาหลายเดือนแล้ว ส่วนกุ้งแม่น้ำอาหารทะเลแพงๆ..ยิ่งไม่มีเลยเ้าค่ะ แม้แต่น้ำมันหมูชั้นดีก็ต้องใช้อย่างประหยัด...เครื่องเทศบางอย่างก็หมดไปนานแล้วเ้าค่ะ ส่วนข้าว ..เออ เพราะทั้งจวนคนมาก ตอนนี้ทั้งจวนต้องกินข้าวผสมเ้าค่ะ"
สิ้นเสียงของนาง ความเงียบก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งครัวอีกครั้งคำตอบของป้าจางยืนยันข้อสงสัยที่เพิ่งผุดขึ้นในใจของกู้ชิงอวิ๋นได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
นางนิ่งไปครู่หนึ่ง สายตาที่เคยกดดันและเ็า บัดนี้กลับเปลี่ยนเป็สายตาแห่งการวิเคราะห์และครุ่นคิด นางกวาดตามองสภาพของบ่าวไพร่และสภาพของครัวอีกครั้ง...ทุกอย่างสอดคล้องกัน
จวนแห่งนี้...ยากจนจริงๆ!
นางเข้าใจในทันทีว่าเหตุใดฮูหยินหลิวจึงกล้าส่งเศษอาหารไปให้นาง...มันไม่ใช่แค่การกลั่นแกล้ง แต่เพราะนางรู้ดีว่าในครัวนั้นแทบจะไม่มีวัตถุดิบดีๆ เหลืออยู่แล้ว!
กู้ชิงอวิ๋นถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบเฉย
"เช่นนั้นรึ...ถ้าอย่างนั้น ในครัวนี้มีอะไรที่ดีที่สุดอยู่บ้าง? เอาทั้งหมดนั่นมาทำให้ข้า"
เมื่อได้รับคำสั่งใหม่ ป้าจางก็มีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย นางรีบสั่งให้บ่าวคนอื่นๆ ไปนำวัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ออกมา ขณะนั้นเองนางก็หันไปเห็นอาหารที่ถูกจัดเป็สำรับเอาไว้แล้วก่อนจะถามว่า
"นี่ของผู้ใด"
"เออ เป็ของฮูหยินรองและคุณหนูรอง ส่วนที่เป็น้ำแกงจางๆนั้นเป็ของฮูหยินผู้เฒ่าเ้าค่ะ ฮูหยินรองบอกว่านางชราแล้วไม่ต้องใส่เนื้อสัตว์ลงในอาหารมากนัก"
กู้ชิงอวิ๋นเพ่งมองที่สำรับอาหารทั้งสองสำรัยและนั่นคือตอนที่กู้ชิงอวิ๋นได้เห็นภาพที่ทำให้นางต้องเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ...วัตถุดิบ ที่ดีที่สุด นั้น เป็เพียงผัดผักสองอย่าง และมีเนื้อหมูอยู่เพียงชิ้นเล็กๆ ที่ป้าจางกำลังพยายามแล่ให้บางที่สุดเพื่อที่มันจะได้ดูเยอะขึ้น ส่วนในหม้อนั้นก็เป็น้ำแกงผักกาดขาวธรรมดา...
นี่คืออาหารของฮูหยินผู้กุมอำนาจในจวน...ช่างดูสมถะและยากจนเกินไป มันชัดเจนมากจริงๆ !
กู้ชิงอวิ๋นหรี่ตาลง...
จวนแม่ทัพแห่งนี้...ไม่ได้แค่เน่าเฟะจากภายใน...แต่ดูเหมือนว่ามันกำลังจะ...ล่มสลายเพราะความยากจนด้วยงั้นรึ? เื่ราว...ดูเหมือนจะซับซ้อนกว่าที่ข้าคิดไว้
**** จนเนาะ หมูยังแล่บางๆ ให้ดูเยอะเลย ****
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้