ซ่งฉิงซูนำศิษย์สำนักซ่งเจี่ยสี่สิบคน มายังพื้นที่โล่งแห่งหนึ่ง
ศิษย์ระดับสูงได้ล้วงหยิบผงผลึกสีฟ้า ออกมาจากห่อหนึ่งกำมือ
ฟู่!
เมื่อผงนั้นถูกโรยออกไป ก็มีประกายสีฟ้าระยิบระยับส่องออกมา เมื่อมันตกลงบนพื้น แสงสีฟ้าก็ปกคลุมทุกสิ่งบนพื้นดิน ทันใดนั้นรอยเท้าสามคู่ก็ปรากฏขึ้น ท่ามกลางแสง
"อาจารย์ลุง ผงสื่อชี่ที่โปรยออกไป ทำให้เรารู้ถึงเส้นทางของพวกเขา รอยเท้าทั้งสามคู่นี้เพิ่งผ่านไปเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงยังมีพลังหลงเหลืออยู่มาก ทำให้แสงของผงสื่อชี่หายไป พวกมันไม่อาจหนีเราพ้นแน่ขอรับ!" ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยผู้หนึ่งกล่าวอย่างตื่นเต้น
"หึ! หนีหรือ? ดูสิว่า จะหนีไปไหนได้ พวกมันสามคน กับเราสี่สิบคน หากตามพบ จงสังหารทันที อย่าได้ปรานี!" ซ่งฉิงซูกล่าว สีหน้าเ็า
“อาจารย์ลุง จำเป็ต้องฆ่าด้วยหรือขอรับ?”
"หึ! นี่เป็คำสั่งจากท่านหัวหน้าสำนัก เหตุผลที่ข้าไม่ได้สังหารพวกมันก่อนหน้านี้ เพราะมีคนอยู่ที่นั่นเป็จำนวนมาก จึงไม่อาจเปิดเผยจุดประสงค์ได้
แต่ตอนนี้ไม่มีคนนอกอยู่ เราควรล้างแค้นให้ผางเทียนหลง ผู้ใดก็ตามที่ฆ่ากู่ไห่ได้ ข้าจะขอให้หัวหน้าสำนักมอบ 'ยาทะลวงจินตัน' ให้หนึ่งเม็ด ส่วนคนอื่นๆ จะได้รับหินิญญาระดับต่ำ คนละยี่สิบก้อน" ซ่งฉิงซูกล่าวเสียงเคร่ง
"ขอรับ! พวกมันสามคน อย่าหวังจะรอดไปได้แม้แต่คนเดียว… ไม่! ยังมีปีศาจงูนั่นอีก" กลุ่มศิษย์สำนักซ่งเจี่ย ั์ตาพลันแดงก่ำ
“แต่อาจารย์ลุง เราต้องรีบลงมือโดยเร็ว เพราะร่องรอยของเราอาจถูกเปิดเผยไปแล้วก็เป็ได้!” ชายผู้โปรยผงสื่อชี่กล่าว พร้อมคิ้วที่ขมวดมุ่น
“เอ๊ะ!”
"ที่ริมทะเลสาบก่อนหน้านี้ ข้าเห็นกองข้าวฟ่าง และมีนกบางส่วนกำลังกินอาหารนั่นอยู่ ตอนที่เราไปถึง นกพวกนั้นก็ใบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนหน้านี้ ข้าไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่ตอนนี้ เมื่อลองตรองดู ก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ข้าวฟ่าง? จะมีข้าวฟ่างอยู่ในที่แบบนั้นได้อย่างไร?"
"แย่ละ! พวกเราถูกพบเข้าแล้ว! ตาม... รีบไปตามล่าพวกมันเร็ว!" ซ่งฉิงซูสั่งการ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
"ขอรับ!"
ศิษย์สี่สิบคนของสำนักซ่งเจี่ย ทะยานเข้าป่าอย่างรวดเร็ว โดยไม่กังวลว่าจะหลงทาง เพราะมีผงสื่อชี่อยู่ พวกเขาไล่ตามกลุ่มกู่ไห่อย่างกระตือรือร้น
...
กู่ไห่สั่งให้เกาเซียนจือขุดหลุมขนาดใหญ่หนึ่งหลุมโดยเร็ว
“ท่านหัวหน้า นี่ใช้เพื่อทำสิ่งใด? หรือที่ท่านให้ขุดหลุม ก็เพื่อดักซ่งฉิงซูและพวกให้ตกลงไป? แต่หลุมนี่ตื้นเกินไปหรือไม่ขอรับ?” เฉินเทียนซานถามด้วยสีหน้างุนงง
วูบ!
กู่ไห่กลับยื่นมือออกไป และดึงโลงศพออกมาจากช่องมิติ
“เอ๋?” เฉินเทียนซานและเกาเซียนจือ แสดงสีหน้างุนงง
จะใช้โลงศพนี่จัดการกับซ่งฉิงซูและพรรคพวก? ล้อกันเล่นใช่หรือไม่?
กู่ไห่วางโลงศพลงไปในหลุมอย่างระมัดระวัง และเปิดฝาโลงออก
“นี่มัน... ถ่าน ดินประสิว และกำมะถัน? ยิ่งกว่านั้น คุณภาพยังดีมาก!” เกาเซียนจือกล่าว พลางครุ่นคิด
กู่ไห่ไม่ได้สนใจ เพียงหยิบเอาลวดจุดชนวนออกมา และเชื่อมปลายด้านหนึ่งเข้ากับถ่าน ดินประสิวและกำมะถัน จากนั้นก็ค่อยๆ วางลงไปอย่างระมัดระวังในทุกขั้นตอน
และสุดท้ายก็เชื่อมปลายอีกด้านเข้ากับหินเหล็กไฟ[1] กู่ไห่หยิบไม้จากบริเวณใกล้เคียงขึ้นมา และสอดเข้าไปคั่นกลางระหว่างหินเหล็กไฟก่อนที่จะวางลงในโลง
เขาค่อยๆ นำดินมากลบฝังอย่างระมัดระวัง ดูเผินๆ ไม่ต่างจากหลุมศพเลย บนหลุมศพนั่น ยังมีป้ายไม้ว่างเปล่าตั้งไว้ด้วย
"นี่คือ?" เกาเซียนจือเอ่ยถามด้วยความสงสัย
กู่ไห่ถอนหายใจ และยื่นมือไปหยิบพู่กันกับหมึกออกมา
เขาจุ่มพู่กันลงในหมึก และเริ่มเขียนข้อความบนป้ายหลุมศพ
"ซ่งฉิงซู ข้า ในนามหัวหน้าสังกัด ขอสั่งให้เ้าไสหัวกลับไปเสียแต่บัดนี้ อย่าได้ตามเรามา มิฉะนั้นหลุมศพนี้ จะใช้เป็ที่ฝังร่างเ้า!"
ดวงตาของเฉินเทียนซานที่อยู่ใกล้ๆ เบิกกว้าง พลางกล่าว "นี่!... ทำแค่นี้ก็พอแล้วหรือ? มันจะได้ผลจริงหรือขอรับ?"
ขณะพูด ก็ทำท่าจะเข้าไปตรวจสอบดู
“อย่าแตะ!” กู่ไห่ะโห้าม
"เอ๋?" เฉินเทียนซานมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง
"เกาเซียนจือ โรยข้าวฟ่างรอบๆ แล้วออกเดินทางกันต่อ!" กู่ไห่ส่ายหน้า และไม่ได้อธิบายอันใด
"ขอรับ!"
ผ่านไปสองชั่วยาม กู่ไห่และพรรคพวกก็ขึ้นมาถึงกลางูเาแล้ว
"ผู้มีพระคุณ ดูสิๆ นกกำลังบินขึ้นฟ้า พวกนั้นไล่ตามเราขึ้นมาถึงตรงนั้นแล้ว!"
“โอ้!” ทั้งสามหยุด และหันไปมอง
พวกเขาดููเาที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งตอนนี้มีนกบินขึ้นฟ้า
"มากันแล้ว?" ดวงตาของเกาเซียนจือทอประกาย
แม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่กู่ไห่ทำก่อนหน้านี้ แต่เชื่อว่า ต้องเกินความคาดหมายของตนแน่
"พวกมันไล่ตามเรามาแล้ว แต่หลุมศพนั่น ใช้ทำสิ่งใดกัน? หรือแค่ขู่ให้ใ?" เฉินเทียนซานถาม สีหน้าแคลงใจ
....
พื้นที่ตรงหุบเขา
"อาจารย์ลุง ดูสิ! มีข้าวฟ่างกระจายอยู่ทั่ว เป็พวกมันวางเอาไว้ไม่ผิดแน่ขอรับ หนีมาทางนี้กันจริงๆ!" ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยกล่าว น้ำเสียงตื่นเต้น
"คิดว่าฝูงนกเหล่านี้ จะช่วยพวกเ้าได้เช่นนั้นหรือ? หึ! ช่างไร้เดียงสานัก ถึงตรงนี้ พวกเ้าจะตายเมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว!" ซ่งฉิงซูกล่าวด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
"อาจารย์ลุง รีบไล่ตามพวกมันไป เร็วเถอะขอรับ!" กลุ่มศิษย์สำนักซ่งเจี่ยะโอย่างตื่นเต้น
รางวัลใหญ่นั้นช่างดึงดูดใจยิ่งนัก แค่ตามล่าผู้ฝึกตนระดับก่อ์ขั้นต้นผู้หนึ่งได้ ก็จะได้รับยาทะลวงจินตัน ผู้ใดล่ะจะไม่อยากได้?
‘ยาทะลวงจินตัน’ คือสิ่งใด? มันก็คือยาที่สามารถช่วยให้ผู้ฝึกตนระดับก่อ์ขั้นปลาย ได้บรรลุไปสู่ระดับแก่นทองคำ หรือระดับจินตันได้ เป็ยาระดับสามอันล้ำค่า ดวงตาศิษย์หลายคนกลายเป็สีแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
"อาจารย์ลุง มีหลุมศพอยู่ตรงนี้... เอ๊ะ? เป็กู่ไห่สร้างมันขึ้นมาให้ท่าน!" สีหน้าศิษย์สำนักซ่งเจี่ยไม่สู้ดีนัก ตอนพูด
“หา?” ใบหน้าของซ่งฉิงซูดำคล้ำ เดินไปดูทันที
ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยสี่สิบคนก็ตามไปเช่นกัน ทุกคนล้วนมีสีหน้าประหลาดใจ
"ซ่งฉิงซู ข้า ในนามหัวหน้าสังกัด ขอสั่งให้เ้าไสหัวกลับไปเสียแต่บัดนี้ อย่าได้ตามเรามา มิฉะนั้นหลุมศพนี้ จะใช้เป็ที่ฝังร่างเ้า!"
เมื่อได้เห็นถ้อยคำที่เขียนบนป้ายหลุมฝังศพ ทุกคนก็เบิกตากว้าง
"กู่ไห่บ้าไปแล้ว! คิดว่าหลุมฝังศพนี่ จะขู่เราได้ อย่างนั้นหรือ?" ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยเอ่ย พลางกระตุกยิ้มเย็น
"กู่ไห่หรือ? ก็ไม่เท่าไรนี่ หากเขาคิดจะล้อเล่น เหตุใดไม่ไสหัวกลับมาให้เราฝังเสียเองล่ะ?"
"มันบังอาจด่าอาจารย์ลุง!"
ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยต่างแค่นหัวเราะ ด้วยท่าทีเหยียดหยาม
แต่คำที่เขียนอยู่บนป้ายนั้น กลับทำให้ใบหน้าซ่งฉิงซูเคียดแค้น
"หัวหน้าสังกัด? ยังจะทำตัวเป็หัวหน้าสังกัดอยู่อีก เ้าคิดว่าตัวเองเป็ใคร?" ซ่งฉิงซูเดินไปที่หลุมฝังศพนั้น ด้วยสีหน้าไม่พอใจ พลัน ฟาดฝ่ามือใส่ เพื่อทำลายมันด้วยโทสะ
ปัง!
หลุมฝังศพแตกกระจายเป็เสี่ยงๆ และเมื่อมันถูกทำลาย ก็เกิดเสียง ‘คลิก’ จากในหลุมศพ เป็เสียงหินเหล็กไฟที่จุดชนวนะเิขึ้นนั่นเอง
…
กลางทางขึ้นเขา บนเนินอันห่างไกล
"ท่านหัวหน้า ของที่อยู่ในโลงศพนั่น คือสิ่งใดหรือขอรับ?" เกาเซียนจือถามด้วยความใคร่รู้
"ใช่! ผู้มีพระคุณ กำมะถัน ดินประสิว และถ่านที่อยู่ในโลงนั่น ใช้ทำสิ่งใดหรือเ้าคะ?" เสี่ยวโหรวก็ถามอย่างสนใจเช่นกัน
"นั่นคือดินปืน!" กู่ไห่ตอบพร้อมยกยิ้ม
"ดินปืน? มันมีประโยชน์อันใด?" เฉินเทียนซานกล่าวเสียงหยัน ในความคิดเขา สิ่งเหล่านี้ ก็เป็แค่ของสามัญ การแยกหรือรวมพวกมันเข้าด้วยกัน มีอันใดแตกต่าง?
"มันใช้ทำะเิได้!" กู่ไห่กล่าวยิ้มๆ
"ะเิ?" เฉินเทียนซานมองด้วยสายตาข้องใจ
ตูม!
เสียงะเิดังขึ้นจากหุบเขาที่อยู่ไกลออกไป
แม้จะอยู่ห่าง ทว่าเฉินเทียนซานก็ยังรับรู้ได้ถึงแรงสั่นะเืบนพื้นดิน
เมื่อหันไปมอง ก็เห็นฝุ่นและควันพวยพุ่งขึ้นจากหุบเขา ทั้งยังมีฝุ่นและเปลวไฟปกคลุมต้นไม้ที่หักโค่น ส่วนศิษย์สำนักซ่งเจี่ย ก็ถูกแรงะเิอัดลอยขึ้นฟ้าทันที
อ๊าก! อ๊าก!
เสียงร้องโหยหวนดังกึกก้อง
แม้เฉินเทียนซาน เกาเซียนจือ และเสี่ยวโหรว จะไม่ได้ยินเสียงเ่าั้ แต่การะเิในครั้งนี้ ก็ทำให้ร่างศิษย์สำนักซ่งเจี่ยถูกะเิเป็ชิ้นๆ
พวกเขาสามารถมองเห็นแขนขา และชิ้นส่วนต่างๆ ของร่างกาย ที่ถูกะเิได้อย่างชัดเจน มันลอยกระเด็นไปทั่ว ท่ามกลางฝุ่นควัน
เฉินเทียนซานตะลึงงันทันที ขณะเดียวกัน หลังก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นๆ
ฉากที่เขาพยายามจะััหลุมฝังศพ ปรากฏขึ้นในสมอง ถ้าตอนนั้นตนเองััมันเข้า จะเป็อย่างไร? เมื่อมองไปยังชิ้นส่วนต่างๆ ของร่างกาย ที่กระจัดกระจายไปทุกหนแห่งนั้น เฉินเทียนซานก็ขนลุกซู่ หันไปมองกู่ไห่ แล้วอดรู้สึกหนาวสั่นในใจไม่ได้
“ะเิ? ช่างน่ากลัวยิ่ง!” เกาเซียนจือกล่าวอย่างตื่นตะลึง จ้องมองตาแทบถลน
“ผลลัพธ์ดีกว่าที่คิด!” รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้น บนริมฝีปากกู่ไห่
"เอ๋?" เสี่ยวโหรวอุทานด้วยความประหลาดใจ
"ระดับก่อ์นั้น สามารถปกป้องร่างกายได้ด้วยพลังชี่ แต่พวกเขาประมาทเกินไป ผู้ใดจะคาดเล่าว่าจะเกิดะเิขึ้น คิดจะใช้พลังชี่มาเป็เกราะป้องกันตัว ก็สายไปเสียแล้ว
เดาว่าเวลานั้น พวกเขาคงกำลังด่าข้าอยู่ ทำให้คลายความระมัดระวัง แม้จะรอดชีวิตมาได้ ก็คงมีสภาพไม่สู้ดีนัก" กู่หากล่าวยิ้มๆ
ไกลออกไป มีควันพุ่งโขมง เปลวเพลิงปกคลุมทั่วหุบเขา ทุกอย่างแลดูยุ่งเหยิง
"ไปกันเถอะ!" กู่ไห่สั่ง
"ขอรับ!" เกาเซียนจืออดไม่ได้ ที่จะจับจ้องการะเิอันยอดเยี่ยมที่เห็นอยู่ลิบๆ นั่น
ดวงตาของเสี่ยวโหรวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่มองกู่ไห่
เฉินเทียนซานกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อมองดูเงาหลังของกู่ไห่ รอยยิ้มขื่นก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก ก่อนจะตามหลังไป
...
ณ หุบเขาซึ่งเกิดเหตุะเิ
ท่ามกลางเปลวไฟและควันที่ลอยโขมงทั่วฟ้า ชิ้นส่วนร่างกายตกลงมา พริบตา ทั้งร่างของซ่งฉิงซูก็ไหม้เกรียม แต่เพราะรากฐานค่อนข้างมั่นคง จึงรอดชีวิตจากการะเิมาได้
แต่ผลกระทบของการะเิครั้งใหญ่นั้น ทำให้กระดูกทั้งหมดในร่างหัก อวัยวะกลวงทั้งห้าและตันทั้งหกได้รับาเ็สาหัส นอกจากนี้ ในโลงยังมีเศษเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นขณะที่เกิดการะเิ เศษเหล็กเ่าั้จึงพุ่งกระจายไปทุกทิศทาง ทั้งแทงทะลุและสร้างรอยแผลนับไม่ถ้วนบนร่างพวกเขา เืสาดกระเซ็นทั่วสารทิศ าแลึกถึงกระดูก ศพไหม้เกรียม น่าสยดสยองยิ่งนัก
"อึก! แค่กๆๆ!"
ท่ามกลางเปลวเพลิง ซ่งฉิงซูกระอักเื ร่างสั่นสะท้านเมื่อมองไปทั่วหุบเขาที่ถูกทำลาย
"อ๊าก!"
"ช่วยด้วย!"
“อาจารย์ลุง!”
“ข้ายังไม่อยากตาย!”
ศิษย์สำนักซ่งเจี่ยที่ยังมีชีวิตอยู่โดยรอบ ต่างพากันคร่ำครวญ
บัดนี้ ผู้ที่ยังสามารถส่งเสียงได้ มีไม่ถึงสิบคน อีกทั้งส่วนใหญ่ก็สูญเสียแขนขาจากการะเิ สภาพพวกเขา ชวนสังเวชและหวาดผวากว่าซ่งฉิงซูมาก
บนพื้นเต็มไปด้วยซากศพ กองเนื้อและโลหิต
ซ่งฉิงซูหันไปมองรอบๆ อย่างอ่อนแรง
พวกเขาเกือบทั้งหมดถูกทำลาย มีทั้งตายและพิการ!
วิ้ง!
เสียงนี้ดังขึ้นในหูของซ่งฉิงซู ไม่ได้ยินสรรพเสียงอื่นใดแม้แต่น้อย
ซ่งฉิงซูมองไปยังทิศทางที่พวกเขากำลังจะไล่ตามไป
ยังอยากจะตามล่ากู่ไห่? เพียงแค่อุบายเดียวของอีกฝ่าย ก็ทำลายพวกเขาทั้งกลุ่มไปหมดสิ้น... คนผู้นี้คือปีศาจ!
"เ้าปีศาจแซ่กู่!" ซ่งฉิงซูมองไปยังทิศที่พวกกู่ไห่จากไป ด้วยความกังวล
...
ไม่ไกลจากหุบเขา
ชายร่างใหญ่ผู้มีเคราพร้อมพวก มองดูการะเิในหุบเขาที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างอย่างใ
"ท่านหัวหน้าสังกัด ดูเหมือนว่ากู่ไห่จะรู้เื่ซ่งฉิงซูกับพวกแล้ว" สมุนผู้หนึ่งกล่าวด้วยสีหน้าย่ำแย่
ชายร่างใหญ่ผู้มีเคราเงยหน้า ขมวดคิ้ว และมองไปเบื้องหน้า ก่อนตอบ "ข้าประเมินกู่ไห่ต่ำไป!"
"ท่านหัวหน้าสังกัด เราจะไปช่วยกลุ่มของซ่งฉิงซูหรือไม่ขอรับ?"
ชายร่างใหญ่ผู้มีเคราหรี่ตามอง พลางตอบกลับ "เก็บพวกมันไว้ก่อน แม้จะโง่ แต่ก็ยังพอมีค่าอยู่!"
"ขอรับ!"
--------------------------------------------
[1] หินเหล็กไฟ คือ หินที่ใช้เคาะกัน หรืออาจใช้เหล็กตี เพื่อให้เกิดประกายไฟ ใช้สำหรับจุดไฟในสมัยโบราณ
หินที่จะใช้เป็หินเหล็กไฟได้ ต้องมีแร่ซิลิก้ามากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ มีอยู่หลายสี ั้แ่สีขาว ดำ เทา น้ำเงิน และสีแดงสนิม ซึ่งจะต้องเป็หินที่เมื่อแตกแล้วรอยแตกจะเรียบลื่นคล้ายแก้ว ไม่สาก ไม่หยาบ เป็หินที่มีความแข็งสูง แต่บางครั้งดูภายนอกอาจจะไม่รู้ เพราะเนื้อหินเหล็กไฟอาจถูกเคลือบด้วยหินปูน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้