เวลาที่คุณจดจ่อกับบางสิ่งบางอย่างคุณจะรู้สึกเหมือนว่าเวลานั้นผ่านไปไวราวกับติดปีก ใน่เวลามากกว่า 20 วันฉินโจ้วรู้สึกได้ราวกับแค่ชั่วพริบตา และได้พบว่าระดับเลเวลถูกทิ้งห่างไปไกลโขแล้วในเวลานี้ผู้เล่นอันดับหนึ่งในลำดับรายชื่ออยู่ที่เลเวล 44 ซึ่งมากกว่าฉินโจ้วถึง4 ระดับ หลังจากเลยเลเวล 40 ไปแล้ว เป็การยากมากในการเพิ่มแต่ละระดับค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ในแต่ละเลเวลนั้นมากมายมหาศาลยิ่งนัก เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเ่าั้เพิ่มระดับกันได้อย่างไรถึงได้ไวปานนี้
การเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สามที่เลเวล 60ผู้เล่นที่เปลี่ยนอาชีพเป็คนแรกในครั้งที่สามจะได้รับรางวัลร่ำรวยมากมายฉินโจ้วเองไม่้าที่จะพลาดตำแหน่งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีความแตกต่างของเลเวลอยู่ 4ระดับ หลังจากที่เขาฝึกศิลปะป้องกันตัวสำเร็จเขามีความมั่นใจและรู้ว่ามันไม่ได้ยากมากนักในการเพิ่มระดับ
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่้าก่อนจะเพิ่มระดับนั่นก็คือการฟักไข่นั่นเอง มันนอนอืดอยู่ในแหวนั้แ่ที่เขาได้มันมาแล้วนี่ก็ได้เวลาที่จะออกมายืดเส้นยืดสายกันแล้วระบบขี่สัตว์พาหนะมีส่วนช่วยได้มากเลยทีเดียว มันไม่สูญเปล่าแน่นอนอีกอย่างอัศวินก็ต้องขี่ม้า มีอัศวินที่ไหนไม่ขี่ม้ากันบ้างมองดูก็รู้แล้วว่ามีพลังในการต่อสู้ อีกอย่างนี่เป็ถึงยูนิคอร์นระดับ S เลยนะ ความแข็งแกร่งถ้าไม่อันดับหนึ่งก็ต้องอันดับสองนี่เป็สายพันธุ์ที่อยู่ยอดบนสุดของพีระมิดเลยทั่วทั้งเหยียนหวงอาจจะหาตัวที่สองไม่ได้แล้วก็ได้
ฉินโจ้วกัดไปที่นิ้วชี้ของตนเองเล็กน้อยก่อนจะหยดเืไปที่ไข่ แต่ราวกับว่าเกิดแรงต่อต้านที่เปลือกไข่คล้ายกับว่าไม่เต็มใจจะฟักออกมา ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้ยากฉินโจ้วเองก็รู้สึกประหลาดใจ โชคดีที่ระบบแจ้งเตือนขึ้นได้ทันเวลาเพื่อคลายข้อสงสัยให้กับเขา
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : เนื่องจากผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามเป็นักเวทธาตุความมืดซึ่งขัดแย้งกับยูนิคอร์นที่มีคุณสมบัติธาตุแสงสว่างดังนั้นยูนิคอร์นจึงเกิดการต่อต้าน ถ้าคุณ้าบังคับฟักไข่ค่าสถานะของยูนิคอร์นจะลดลง 50% คุณ้าจะฟักไข่หรือไม่?
อะไรกันเนี่ย...มีเื่แบบนี้ด้วยหรือ เอาแบบนี้เลยหรือ อารมณ์ของฉินโจ้วเริ่มเปลี่ยนไปทันทีระบบไม่คิดว่านี่เป็เื่จริงใช่ไหม ให้รางวัลเป็ไข่ที่ฟักไม่ได้คุณมีความสุขมากไหม? ค่าสถานะหายไปครึ่งหนึ่งมันไม่พิการไปเลยเหรอ ไหนใครที่บอกว่ามันหายากกันหา!
้าให้ยอมแพ้และรู้สึกเสียใจสินะมันคือยูนิคอร์น ซึ่งไม่มีใครเหมือน ถ้า้าให้มันมาเดินบนถนนและให้คุณดึงบังเหียนแล้วก็ควบไป ถ้าเป็แบบนี้กลับไปเอาโรลส์-รอยซ์แฟนทอมมาแทนก็ได้ การลดคุณสมบัติลงครึ่งหนึ่ง นี่มันไม่ต่างจากเวลากำลังกินข้าวแล้วเจอแมลงวันอย่างไรอย่างนั้นเลยช่างน่ารังเกียจสิ้นดี
หลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ฉินโจ้วก็กัดฟันกรอดๆ ก่อนจะยอมแพ้และยัดไข่กลับเข้าไปในแหวนซึ่งแน่นอนว่ามันเป็ของดี แต่ว่าเขาไม่สามารถใช้ได้นั่นเป็เหตุผลที่ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี แต่ถ้ายูนิคอร์นไม่สามารถใช้ได้หรือจะให้เขาเปลี่ยนไปขี่สัตว์ชนิดอื่นดี
ขอโทษเถอะนี่มันระดับ S เลยนะคิดเหรอว่าจะไปหาสัตว์ขี่ระดับสูงได้จากที่ไหนอีก
ทันใดนั้นก็มีข้อความกะพริบขึ้นมาเป็ชูหลิงที่ส่งข้อความมา ก่อนจะบอกว่า ฉินโจ้วถ้ามีเวลาก็ให้ออฟไลน์ไปหาด้วยซึ่งฉินโจ้วในเวลานี้ก็อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เลยทำให้ไม่มีอารมณ์จะไปเพิ่มระดับและอีกอย่างเขาก็ไม่ได้เจอกับอาจารย์หวังมาสักพักหนึ่งแล้ว และก็คิดถึงด้วยดังนั้นเขาจึงออฟไลน์ออกจากเกมไป
"ยอมโผล่หน้าออกมาแล้วเหรอ?"
เมื่อได้เห็นฉินโจ้วน้ำเสียงของชูหลิงนั้นฟังดูไม่ดีเท่าไร หวังโหรวเองก็อยู่ที่นี่ด้วยพวกเธอนั่งอยู่บนโซฟา ดูเหมือนว่ากำลังปรึกษาหารืออะไรบางอย่างกันอยู่ เป็การยากที่จะได้พบทั้งสองคนอยู่ที่บ้านในเวลาเดียวกันปกติแล้วมักจะมีหนึ่งคนอยู่บ้าน และอีกคนอยู่ในเกม
ฉินโจ้วพูดทักทายกับหวังโหรวก่อนหลังจากหาที่นั่งที่ถัดจากชูหลิงแล้วจึงนั่งลง ก่อนจะหันไปหาชูหลิงแล้วถามขึ้นว่า"มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า หรือแค่คิดถึงผม"
"ไปให้ไกลๆเลย เ้าเด็กน้อย ถ้า้าที่จะจีบพี่สาวคนนี้ล่ะก็ รอให้ขนขึ้นก่อนเถอะ"ชูหลิงดูถูกฉินโจ้วเป็อย่างมาก ก่อนที่จะเชิดคางขึ้น
เมื่อทะเลาะกันด้วยคำพูดทีไรฉินโจ้วที่เป็คู่ต่อสู้กับชูหลิงต้องรีบยอมยกธงขาวทันที
"เด็กน้อยพี่สาวคนนี้เหมือนเจอปัญหาขึ้นมาแล้ว ว่าแต่นายเองก็ไม่ใช่พี่ชายคนแรก"ชูหลิงจ้องมองมาที่ฉินโจ้วก่อนจะหัวเราะคิกคัก
ใบหน้าของฉินโจ้วพลันเปลี่ยนเป็สีแดง
ชูหลิงยายผู้หญิงบ้า ท่าจะดุร้ายของจริง เธอคงกล้าพูดได้ทุกสิ่ง
เมื่อได้ยินไม่เพียงแค่ฉินโจ้วเท่านั้น แม้แต่หวังโหรวเองก็ยังรู้สึกหน้าแดงก่อนจะมองไปที่ชูหลิงอย่างเคืองๆ เพื่อนสาวคนนี้ของเธอชักจะมากเกินไปแล้วถึงกับกล้าถามคนอื่นด้วยคำถามแบบนี้ได้ ก่อนจะรีบพูดว่า "เอาล่ะ หลิงหลิงหยุดเล่นได้แล้ว นี่มันเื่สำคัญ"
ชูหลิงจำได้ว่าเขานั้นยังไม่ได้พูดอะไรเธอจึงยิ้มก่อนจะหัวเราะคิกคัก "ไม่ต้องเป็ห่วง ไว้ตอบคราวหน้าก็ได้ ฉันจะรอแต่ว่าตอนนี้ฉันมีบางสิ่งที่ต้องให้นายตัดสินใจ"
"เอ่อ...มีอะไรล่ะ?" ฉินโจ้วเพิ่งพบว่าตอนนี้เขาเริ่มกลัวที่จะพบหน้าชูหลิงเสียแล้ว
"เ้าของบ้านมาเมื่อวานนี้และบอกว่า จะขึ้นค่าเช่าอีก 1,000 หยวนต่อเดือน ฉันได้สอบถามดูแล้ว ชุมชนแถวๆนี้คิดเพิ่มแค่ 800 หยวนเอง มีแต่ของเราที่คิดพิเศษ เห็นได้ชัดว่าชายชรารังแกเราฉันกับโหรวโหรวเลยตัดสินใจที่จะย้ายออก ก็เลยอยากจะถามความคิดเห็นนาย"ชูหลิงจ้องมาที่ฉินโจ้ว ท่าทางแสดงออกชัดเจนออกอย่างนี้จะให้เขากล้าแสดงความคิดเห็นได้อย่างไร
"เื่นี้ผมไม่มีความเห็น"ฉินโจ้วตอบอย่างรวดเร็ว
"ปัญหาในตอนนี้ก็คือหาสถานที่ได้ยาก บ้านดีๆ ก็ราคาแพง บ้านราคาถูกไปก็ไม่ค่อยจะปลอดภัย"ชูหลิงพูดต่อ
"ผมเข้าใจแล้ว"ฉินโจ้วพยักหน้าก่อนจะพูดว่า "อย่างนั้นก็ต้องซื้อบ้าน"
"เลิศมากกำลังรอฟังคำนี้อยู่เลย" ตามมาด้วยเสียงดีดนิ้วจากมือขวาของชูหลิง"ว่าแต่... ใครจะออกเงิน?"
"ถ้าอย่างนั้นผมจ่ายให้เอง"ฉินโจ้วจำได้ว่าในบัตรของเขายังมีเงินอยู่หลายร้อยล้านหยวน ที่ยังไม่ได้ถอนออกมาและเขาเองก็มีความคิดที่จะซื้อบ้านอยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ตัดสินใจไปเพราะความยากจนในวัยเด็กหรือเปล่าแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็เพียงแค่ความรู้สึก ในเวลานี้เขามีเงินแล้วเขาก็ควรจะต้องซื้อบ้านเป็อันดับแรก
"มีน้ำใจดีมาก"ชูหลิงนานๆ จะชมเขาสักที "เวลานี้ก็มีแต่คฤหาสน์เนื้อที่กว้างขวางดีไซน์หรูหรา ทำเลและสภาพแวดล้อมเยี่ยม เหมาะสำหรับรองรับธุรกิจและระบบรักษาความปลอดภัยที่มีชื่อเสียง อยู่ในก้านโจวนี่เอง ราคาน่ะเหรอก็ราวๆ 88 ล้านหยวน ถ้านายตกลงพรุ่งนี้ฉันก็จะไปจ่ายเงิน"
"เอิ่มมมม..."ทันใดนั้นฉินโจ้วรู้สึกเหมือนว่าตัวเองติดกับเข้าให้แล้ว
"นายคิดอย่างไรก็พูดออกมาได้เลยเราคนกันเอง" ชูหลิงยิ้มให้อย่างเป็กันเอง
"ผม...เอ่อ... ก็ได้ ตกลงตามนั้น" ฉินโจ้วพบว่าอย่างน้อยก็เป็เื่ที่ดีชูหลิงจะได้จบปัญหาเื่งานลงได้ ที่เขาต้องทำก็แค่กดรหัสผ่าน มันเป็แค่เื่ง่ายๆ
"เยี่ยม...จะได้แก้ปัญหาเื่นี้ได้สักที"ก่อนที่ท่าทีของชูหลิงจะกลับมาจริงจังอีกครั้ง
"คราวนี้เรามาพูดถึงเื่ธุรกิจกันต่อ"
ฉินโจ้วถึงกับมีเหงื่อเย็นๆไหลท่วมออกมาทันที 88 ล้านหยวน เมื่อสักครู่นี่ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจอีกหรือถ้าธุรกิจนี้ล้มลงจะขนาดไหนกัน หลังจากนั้นเขาจึงมองไปทางหวังโหรว ซึ่งมีท่าทีปกติในใจจึงรู้สึกผ่อนคลายลง ก่อนจะพูดว่า "คุณว่ามาเลย"
ชูหลิงกระแอมขึ้นก่อนจะพูดว่า"เื่นี้เป็ปัญหาหลักเกี่ยวกับธนาคารซึ่งเป็หนึ่งในเสาหลักของฉินหวังกรุ๊ป ก็คือธนาคารฉินหวังหลังจากที่ใช้เวลาพัฒนามาสักระยะหนึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าในเขตเหยียนหวงนั้นต้องเป็ที่หนึ่งอย่างแน่นอนซึ่งอยู่เหนือฉินหวังอุตสาหกรรมเหมืองแร่ กลุ่มลูกค้าของเรามีทั้ง 3 ระดับคือระดับสูง ระดับกลาง และระดับล่าง มีผู้เล่นอยู่ทุกเลเวลที่ฝากเงินรวมกันราว 100ล้านเหรียญทอง ในธนาคารฉินหวัง..."
"100ล้าน?!!!"ฉินโจ้วถึงกับเปลี่ยนท่านั่งหลังตรงขึ้นทันที นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า "มากขนาดนี้เลยหรือ"ถ้าแปลงเป็หยวนก็น่าจะเท่ากับหนึ่งล้านล้านหยวนทำให้เงินที่เขาเห็นก่อนหน้านี้นี่ไม่เล็กน้อยมากเลยหรือท่าทางของเขายังคงตกตะลึงอยู่
"อย่าเพิ่งขัดจังหวะสิตกลงไหม นี่อะไรกัน แค่ 100 ล้านเหรียญทองแค่นี้ ทำตื่นเต้นใไปได้" ชูหลิงถึงกับบ่นอย่างไม่พอใจ
แค่100 ล้านเอง... ฉินโจ้วถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ ผู้หญิงคนนี้ใจใหญ่แค่ไหนกัน ขนาด 100ล้านเหรียญทอง ยังไม่อยู่ในสายตา ก่อนจะนั่งเงียบไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆออกไปอีก
ชูหลิงพูดต่อว่า"ปกติแล้วตลาดจะเป็ตัวกำหนดทิศทาง แต่ถ้าเรายิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นก็สามารถกำหนดทิศทางของตลาดเองได้ซึ่งในเวลานี้ธนาคารฉินหวังก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือน่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ๆการแลกเปลี่ยนเงินในเกมกับเงินหยวนมีแนวโน้มเป็บวกเพิ่มมากขึ้นถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมเหมืองแร่นั้นจะไม่สามารถควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินได้ก็ตามและการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของธนาคารฉินหวัง ก็จะก่อให้เกิดผลกระทบกับตลาดและเป็ผลกระทบที่ใหญ่เสียด้วย ผลประโยชน์ตรงนี้นั้นมีค่ามากมายมหาศาลทำให้ใครบางคนเกิดอาการอิจฉาตาร้อนขึ้นมา ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจะอยู่ที่ 1: 1.115 หยวน ซึ่งเป็ตัวเลขที่ดีที่สุดตามความ้าของตลาดแต่ในเวลากลับกันมีคนบางคนที่อยากจะเพิ่มอัตราแลกเปลี่ยนเป็ 1 : 120"
"เขาเป็ใคร?"ฉินโจ้วมีลางสังหรณ์ว่าธุรกิจของเขากำลังจะมีคู่แข่ง
"ธนาคารแห่งที่สอง"
"ธนาคารทองคำ?!"ฉินโจ้วเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแล้ว
"ใช่ธนาคารทองคำ" หวังโหรวยืนยันอีกครั้ง
"จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีการเพิ่มอัตราแลกเปลี่ยน เราจะเสียหายหรือเปล่า? ฉินโจ้วรู้สึกว่าเขาจำเป็ต้องเข้าใจเื่ความเชื่อมโยงอย่างถ่องแท้เสียก่อน
"ไม่หรอกมันจะทำให้ได้ผลกำไรมากขึ้น แต่ว่า..." ชูหลิงอธิบายถึงจุดที่เปลี่ยนนั่นก็คือ "ชื่อเสียงน่ะสิ ชื่อเสียงของเราจะเสียหายมันจะทำลายชื่อเสียงที่เราสั่งสมมานาน"
"ผมเข้าใจแล้วธนาคารทองคำ้าทำให้ชื่อเสียงของเราเสียหายั้แ่ที่ธนาคารทองคำนั้นกล้าขึ้นมาชนกับเรานั่นก็หมายถึงว่าเขาพร้อมที่จะสู้แล้วพี่หลิงเอ๋อร์ช่วยอธิบายวิธีที่เขาใช้ให้ที" ั์ตาของฉินโจ้วเพ่งมองท่าทางสงบลงอย่างรวดเร็ว และตั้งใจฟังในขณะที่ถาม
หวังโหรวรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะตาฝาดในขณะนั้นฉินโจ้วดูเหมือนจะเปลี่ยนไป
"ได้เลยเพราะว่าธนาคารของเราทำงานทุกประเภทได้อย่างสมบูรณ์แบบทำให้การหาข้อผิดพลาดของฝ่ายเรานั้นไม่ใช่เื่ง่ายจากหลักฐานที่มีทำให้เราคาดเดาได้ วิธีที่ธนาคารทองคำสามารถทำได้นั่นก็คือการฝากเงิน คือการให้คนเข้ามาฝากเงินและถอนออกไปพร้อมๆ กัน หลังจากการตรวจสอบทำให้พิสูจน์ได้ว่าธนาคารทองคำได้ใช้วิธีดังกล่าวเพื่อจัดการกับพวกเราโดยธนาคารทองคำเริ่มแผนการนี้ั้แ่ครึ่งเดือนก่อน โดยให้องค์กรขนาดใหญ่หลายๆ แห่งแอบฝากเงินอย่างลับๆเป็จำนวนมากในธนาคารของเราเป็เพราะว่าฉันมัวแต่มุ่งมั่นสนใจแต่กับการพัฒนาธนาคารทำให้มองข้ามปัญหาที่ถูกซุกซ่อนอยู่ ซึ่งสถานการณ์ในเวลานี้ก็คือ ถ้าเราไม่ยอมปรับพวกเขาจะขอถอนเหรียญทองทั้งหมด" สีหน้าของชูหลิงเต็มไปด้วยความท้อแท้
"ถ้าแค่เหรียญทองไม่กี่ร้อยล้านเหรียญถ้าเขา้าถอนก็ให้เขาถอนไปตามที่เขา้า ถ้าเกมนี้มีขนาดใหญ่จริงเขาก็เป็เพียงแค่ลูกค้าส่วนน้อยเท่านั้นไม่ใช่หรือ?" ฉินโจ้วถอนหายใจอย่างโล่งอกดูเหมือนว่าไม่ได้เป็เื่ใหญ่อะไรนอกจากการถอนเงินออกไป มันเป็เื่ปกติของการฝากและถอนเงินตราบใดที่ไม่ได้ใช้อำนาจกดดันกันมากเกินไป มันก็ยังพอรับได้ในเกมนั้นฉินโจ้วไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อยเขากลัวแค่ว่าธนาคารทองคำในโลกจริงอาจจะเป็เงาของทางการไม่ว่านักธุรกิจจะมีความสามารถมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถรับมือกับพวกเ้าหน้าที่ได้อยู่ดี
"นั่นแหละปัญหาเรามีเหรียญทองไม่พอ" ชูหลิงพูดในขณะที่ยิ้มอย่างขมขื่น
"แล้วมันหายไปไหน?"ฉินโจ้วรู้สึกประหลาดใจ
หวังโหรวพูดต่อว่า"เหรียญทองนั้นไม่ได้อยู่ในธนาคารทั้งหมดแต่มันถูกเอาไปลงทุนต่อเพื่อสร้างผลกำไร คุณอาจเห็นว่าธนาคารฉินหวังนั้นทำธุรกิจจากการฝากเงินอย่างเดียวถ้ารายได้ของธนาคารขึ้นอยู่กับค่าธรรมเนียมอันน้อยนิดนั่นก็เท่ากับว่าคุณวางลำดับความสำคัญไว้สลับกันเสียแล้วในเวลานี้เราให้ความสำคัญไปที่สองส่วนหลักๆ ประการแรกก็คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในเกมกับหยวน นี่เป็การสร้างผลกำไรซึ่งเป็วิธีที่ง่ายที่สุด และเป็วิธีการที่ตรงที่สุดแต่วิธีนี้กำไรที่ได้อาจจะไม่คงที่ โดยจะเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนไปประการที่สองก็คือ การลงทุน จะแบ่งการลงทุนออกเป็ 2 ส่วนก็คือลงทุนในเกมกับลงทุนในโลกจริง โดยการลงทุนในเกมนั้นจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 10%ของการลงทุนทั้งหมด และอีก 90% ของเหรียญทอง จะใช้กับการลงทุนในโลกจริง เช่นที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ เครื่องประดับ การศึกษา และอื่นๆ อีกก็เป็เป้าหมายในการลงทุนของเรา แม้ว่าธนาคารฉินหวังจะอ้างว่ารับฝากเหรียญทองไว้100 ล้านเหรียญทอง แต่ที่จริงแล้วจะมีเพียงแค่ 10ล้านเหรียญทองเท่านั้นที่อยู่ในธนาคาร ส่วนที่เหลือก็จะถูกนำไปลงทุนซึ่งไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ในเวลาอันสั้นดังนั้นหากว่าธนาคารทองคำส่งคนมาถอนเหรียญทองออกไป และมีการพูดยั่วยุผู้เล่นคนอื่นจะทำให้ห่วงโซ่การลงทุนของธนาคารเราถูกทำลายไม่ใช่เฉพาะธนาคารฉินหวังเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ แต่จะเป็ฉินหวังกรุ๊ปทั้งหมดและการลงทุนในโลกแห่งความจริงจะมีความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดเพิ่มขึ้นอีก
นี่แหละบทสรุปที่ว่าเงินไปอยู่ที่ไหน
ฉินโจ้วมองไปที่หวังโหรวก่อนที่จะมองไปที่ชูหลิงและพบว่าขอบตาของทั้งคู่นั้นดำคล้ำแสดงให้เห็นว่าพวกเธอนั้นไม่ค่อยได้หลับอย่างเต็มที่เพราะต้องคอยมาจัดการกับปัญหาดังกล่าวทำให้เขาเองอดรู้สึก่ที่จะไม่ชอบธนาคารทองคำไปด้วย กิลด์ทองคำราตรี เด็กราตรี ตระกูลของพวกเขานั้นมีเงินทองร่ำรวยแล้วทำไมไม่ไปตาม แต่มาลงที่เขา ถึงแม้ว่าเขามีมากกว่าสองล้านเหรียญทองแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอสำหรับสิบล้านเหรียญทอง
หรือจะให้เขาประนีประนอมกับธนาคารทองคำความคิดนี้ไม่จำเป็ต้องเอามาคิดเลยแม้แต่น้อย ฉินโจ้วตัดออกเป็ข้อแรกเพราะปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาฉินโจ้วนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ ถามชูหลิงว่า"สถานการณ์ของการซื้อขายแร่เป็อย่างไรบ้างในตอนนี้"
ชูหลิงรู้สึกว่าฉินโจ้วนั้นจู่ๆก็มีท่าทีจริงจังขึ้นต่างจากก่อนหน้านี้ และมีท่าทางวิตกกังวลมากขึ้น ก่อนจะพูดว่าหลังจากเหมืองของกิลด์วังเทพแห่งตะวันหมดลง ราคาของแร่ก็เพิ่มขึ้นทันทีราว 5%เมืองใหญ่น้อยก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการก่อสร้างและดึงนักขุดแร่ไปจนหมดทำให้แร่ใน่นี้เกิดการขาดตลาด และราคาขยับขึ้นไปอีก 10% เมืองทั้ง 9 เมืองต่างก็มีความ้าแร่เพิ่มขึ้นอีกทำให้ราคาในตอนนี้อยู่ที่ 1.5 เท่าของแต่ก่อนและราคาของอุปกรณ์นั้นก็สูงขึ้นไปด้วยราว 2 เท่าของราคาเก่าทำให้ตอนนี้ขนาดของฉินหวังอุตสาหกรรมเหมืองแร่นั้นขยายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเมื่อสมัยที่งยัร้างอยู่ราวสิบเท่าทำให้รายรับในตอนนี้มากกว่า 90,000 เหรียญทองและคาดว่าไม่น่าเกินครึ่งเดือนก็จะทะลุ 100,000 เหรียญทอง
ฉินโจ้วพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปถามหวังโหรวว่า"ธนาคารทองคำ้าให้เราปรับ เขาให้เวลาเราตัดสินใจนานแค่ไหน?"
"10วัน"
"พอจะประมาณได้ไหมว่าส่วนต่างของเหรียญทองจำนวนแค่ไหนที่เราต้องเจอถ้าเกิดธนาคารทองคำใช้มาตรการขั้นสูงสุด"
"ประมาณ120.015 ล้านเหรียญทอง อีก 20 ล้านเหรียญทองนั้นน่าจะปลอดภัยที่สุดถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด" หวังโหรวตอบหลังจากที่เธอได้รับข่าวผลจากการคำนวณก็ถูกส่งมาเร็วสุดเท่าที่จะเร็วได้แล้ว
ในที่สุดฉินโจ้วก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "อาจารย์หวังผมขอประกาศให้คุณเป็ผู้รับผิดชอบเต็มตัวเกี่ยวกับเื่การเปิดเหมืองที่ป่าเอลฟ์แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องจำไว้ เราไม่สามารถใช้ชื่อของฉินหวังกรุ๊ปได้และเราไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้ว่ากลุ่มของเรานั้นเกี่ยวข้องกับเหมือง พวกกลุ่มของ9 เมืองใหญ่ที่ขาดแคลนแร่ ก็ส่งประกาศแจ้งให้พวกเขาทราบล่วงหน้า ให้พวกเขามาขุดมีแรงขุดเอาออกไปได้เท่าไรก็ขุดไป และอีกอย่างกำหนดเส้นตายไว้ที่ 10 วัน ห้ามเกินบอกพวกเขาด้วยว่า สามารถขุดได้เท่าไร ก็ให้ขายออกไปให้ได้มากที่สุดหัวหน้ากองกำลังกลุ่มนี้ไม่ได้ขาดแคลนเงิน ถึงอย่างไรพวกเขาต้องมาแน่แม้ว่าจะได้เกิน 20 ล้านเหรียญทองแล้ว ก็ให้ขุดได้ไม่เกิน 10 วัน ส่วน ''ราตรียิ่งใหญ่'' นั้นไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าต่อให้เขารวยแค่ไหน ก็ไม่ต้องขายให้เขา ไม่ว่าเขาจะฉลาดแค่ไหนก็คงไม่คิดว่าผมจะมีเหมืองอยู่อีกแห่งหรอก"
"มั่นใจได้ว่าภารกิจสำเร็จแน่นอน"ในฐานะหัวหน้าของฉินหวังกรุ๊ปหวังโหรวไม่มีความเกี่ยงงอนต่อความรับผิดชอบแม้แต่น้อย
"ยังมีเหมืองอีกแห่งอย่างนั้นหรือ?"ชูหลิงถึงกับประหลาดใจเป็อย่างมากเพราะว่าเธอไม่เคยรู้เื่นี้มาก่อนเลย หวังโหรวยิ้มก่อนจะขอโทษเธอเพราะนี่เป็การตัดสินใจของฉินโจ้ว ต่อให้พวกเขาเป็แฟนกันก็บอกไม่ได้
"น้องหลิงเอ๋อร์จากวันนี้ไป ให้อุตสาหกรรมเหมืองแร่เริ่มลดปริมาณการขายลงพยายามทำให้ผู้คนรู้สึกว่าแร่กำลังจะหมด ถ้าจำเป็ก็สามารถปล่อยข่าวออกไปได้ยิ่งสมจริงมากเท่าไรยิ่งดี"
"ภารกิจต้องสำเร็จแน่นอนหัวหน้าวางใจได้เลย" ชูหลิงทำท่าทางเลียนแบบหวังโหรว ท่าทางขึงขังจริงจังแม้ว่ามันจะดูไม่เหมือนแม้แต่น้อย
"การประมูลครั้งต่อไปเริ่มเมื่อไร?"ฉินโจ้วถามอีกครั้ง เขาไม่สนใจที่ชูหลิงทำท่าทางตลก
"คืนพรุ่งนี้"ชูหลิงตอบ เพราะว่าเธอเองนั้นเป็เ้าของงานประมูล
"ผมมีของหลายชิ้นอยู่ที่นี่ผมเก็บมันเอาไว้และอยากจะเอามันออกมาขาย"ในที่สุดฉินโจ้วก็ตัดสินใจได้ว่าจะหาคนมาซื้อไข่ยูนิคอร์น
"ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่คิดค่าธรรมเนียม" ชูหลิงยิ้มกว้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้