ภายในห้องโถงใหญ่ ทุกคนต่างเบิกตามองหวังเค่อพูดจ้ออย่างลื่นไหล บรรยากาศตื่นเต้นร้อนแรงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็พิลึกพิลั่น
พูดวกวนอ้อมโลกอยู่นานสองนาน สรุปหวังเค่อก็แค่ขายของ?
“ทุกท่าน พวกท่านบางคนคงกำลังคิดว่าเื่แบบนี้ไม่ใช่ควรให้เปล่าสิท่า?” หวังเค่อมองดูทุกคน
ทุกคนพากันใ
“จริงอยู่ การมอบศิลาิญญาหนึ่งล้านชั่งให้ครอบครัวผู้สละชีพผดุงธรรมสามารถทำได้ แต่หนึ่งร้อยผู้สละชีพผดุงธรรม? หนึ่งหมื่นผู้สละชีพผดุงธรรมเล่า? พวกท่านพรรคสำนักไหนสามารถจ่ายได้บ้าง? ข้าไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีพรรคสำนักเซียนใดกล้าตบอกพูดว่า ‘ข้าจัดการเอง!’ อยู่ ไม่มีองค์กรใดกล้าทำเื่เช่นนี้ ใช่หรือไม่?” หวังเค่อกวาดตามองทุกคน
ภายในห้องโถงกลายเป็เงียบสนิท
“ศิลาิญญาห้าพันชั่งมากมายหรือไม่? สำหรับเหล่าผู้าุโทารกแกนิญญา บางทีอาจเทียบได้กับเงินค่าเสื้อผ้า! สำหรับยอดฝีมือขั้นดวงธาตุทองคำ บางทีอาจเป็เงินค่ากินเลี้ยง ส่วนสำหรับขั้นเซียนเทียน ก็อาจเป็เงินจำนวนมากหน่อย แต่ก็ไม่ได้เกินความสามารถใช่หรือไม่? สหายนักพรตหญิงชุดชมพู ข้าพูดถูกไหม?” หวังเค่อถาม
ทั่วห้องโถงใหญ่เงียบสนิท ถงอันอันบีบเสียงตอบ “ถูก!”
หวังเค่อเหลือบมองสาวชุดชมพู ช่างเป็ตัวเสริมที่ประเสริฐอะไรปานนี้ ประสานงานได้เยี่ยมเหลือเกิน
“เงินก้อนนี้หากใส่ไว้ในกำไลมิติก็เป็เพียงของตาย แต่เงินก้อนนี้สามารถช่วยเหลือครอบครัวได้! ศิษย์พี่ศิษย์น้องขั้นเซียนเทียนทั้งหลาย พวกท่านเคยคิดบ้างหรือไม่? ทุกครั้งที่ธรรมะอธรรมเปิดศึก ใครล้มตายมากที่สุด? ท่านไง เซียนเทียนอย่างพวกเราไง! พวกเราเป็แค่ทหารเบี้ยหมากใช้แล้วทิ้ง! ท่านไม่เคยสนใจเลยหรือ? ดวงธาตุทองคำกับทารกแกนิญญาไม่เคยสน แต่ท่านไม่สนได้หรือ? ท่านไม่รู้สึกถึงอันตรายหรือไร? ท่านไม่รู้สึกถึงสายตาสิ้นหวังของลูกเมียบ้างเลยหรือ? หากท่านจากไป บิดามารดา ภรรยา และลูกๆ ท่านจะทำอย่างไร? ทำอย่างไร?” หวังเค่อะโใส่ฝูงชนมากมายในห้องโถง
ห้องโถงใหญ่กลายเป็เงียบสนิทชั่วครู่ ศิษย์ขั้นเซียนเทียนมากมายต่างพากันกระวนกระวาย
“ข้าจะบอกท่านเองว่าต้องทำอย่างไร! หากพวกท่านจากไป ประกันจะจ่ายให้เอง! ท่านเข้าใจที่ข้าจะสื่อหรือไม่? ประกันจะจ่ายให้เอง! ท่านแบกรับความรับผิดชอบในฐานะเสาหลักของครอบครัว แล้วประกันจะจ่ายให้เอง!” หวังเค่อแหกปาก
ประกันจะจ่ายให้เอง?
บางทีอาจพูดโดนเื่อ่อนไหวของใครบางคนเข้า จึงมีคนะโทันที “ข้าอยากซื้อ!”
เมื่อมีเสียงะโนี้ ทุกคนในห้องโถงพากันส่งสายตาใคร่รู้มองดู หลายคนรู้สึกหวั่นไหวในใจเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะกล้าส่งเสียงออกมา
หวังเค่อเหลือบมองผู้ะโ เป็หน้าม้าที่มันจัดแจงเอาไว้เอง น่าเสียดาย ไฟใกล้จุดติดแล้ว คงต้องสุมเพลิงต่อไป!
“แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ต้องกังวลไป ข้ารู้ว่าเซียนเทียนจำต้องเป็ห่วงเื่ส่วนตัวมากกว่า ข้าเข้าใจดี แต่ข้ายังมีเื่อยากพูดอยู่ พี่น้องดวงธาตุทองคำทุกท่าน! ศิลาิญญาห้าพันชั่งสำหรับท่านเทียบได้กับเงินค่ากินเลี้ยงใช่หรือไม่? ท่านไม่จำเป็ต้องพึ่งประกันอุบัติเหตุบริษัทเสินหวังใช่หรือไม่? ส่วนสำหรับเหล่าผู้าุโทารกแกนิญญา เงินเท่านี้เทียบได้กับเงินค่าเสื้อผ้าเท่านั้น! ตัวท่านอาจมองว่าไม่จำเป็ แต่คนรักของพวกท่านเล่า? หากยามเดินทางคนรักพวกท่านต้องเผชิญอันตรายทุกแห่งหน มีใครบ้างจะไม่เหนื่อย ท่านไม่คิดให้รางวัลพวกเขาบ้างหรือ? ไหนจะสานุศิษย์ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่สำนัก ซื้อประกันให้พวกมันจะไม่ประเสริฐกว่าหรือไร? ในฐานะผู้ดูแลพรรคสำนัก สิ่งนี้จะช่วยทำให้ศิษย์เชื่อมั่นในสำนักเต็มร้อย มีความรู้สึกเป็ส่วนหนึ่งของพรรค คลายความกังวลใจทั้งปวง นี่เป็สิ่งที่ทุกพรรคสำนักสมควรมี! พวกท่านยินดีช่วยเหลือสานุศิษย์ตนเองหรือไม่?” หวังเค่อมองดูทุกคนในห้องโถง
ภายในโถงใหญ่กลายเป็เงียบงัน แต่เริ่มมีบางคนครุ่นคิด
สาวชุดชมพูถงอันอันทนดูหวังเค่อโกงเงินผู้คนต่อไปไม่ได้ มันกัดฟันยอมเสี่ยงโดนเปิดโปง ก่อนบีบเสียงกล่าว
“ถ้างั้น บริษัทเสินหวังเ้าจะเอาอะไรมารับรองเื่การจ่ายเงิน? หากตอนนั้นมีศิษย์พวกเราตายขึ้นมา พอมาเบิกจ่ายแล้วเ้ากลับไม่ยอมจะทำอย่างไร? แล้วเ้ามีเงินเยอะขนาดจ่ายไหวรึ?”
“ถามได้ดี! สหายนักพรตหญิงชุดชมพูท่านนี้ถามได้ประเสริฐนัก!” หวังเค่อพลันตื่นเต้นยินดีขึ้นมา
อย่างไรเสีย แขกทั้งหมดในวันนี้ก็ล้วนเป็ศิษย์พรรคสำนักเซียน หน้าม้าที่หวังเค่อวางไว้ย่อมไม่กล้าเอ่ยปากมากความด้วยกลัวจะถูกสงสัย แม่สาวชุดชมพูนี่จะยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว
“ทุกท่าน ทำไมถึงซื้อหนึ่งจ่ายยี่สิบ? ท่านสังเกตเห็นหรือไม่? นี่ไม่ใช่ว่าบริษัทเสินหวังเป็คนจ่ายเงินประกันให้พวกท่าน แต่เป็ผู้ซื้อประกันอีกสิบเก้าท่านที่ยังมีชีวิตอยู่รวบรวมเงินจ่ายให้ท่านต่างหาก นี่เป็แผนการเงินเพื่อครอบครัวของเหล่ายอดคนผู้สละชีพผดุงธรรม บริษัทเสินหวังเราไม่ได้เงินสักแดง! เงินทั้งหมดที่ขายประกันอุบัติเหตุได้จะถูกเก็บเข้ากองทุนประกัน เตรียมนำไปใช้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่เหล่าผู้พลีชีพผดุงธรรมในอนาคต! พวกเราทำไปเพื่อความถูกต้อง พวกเราเพียง้าทำอะไรเพื่อทุกคนเท่านั้นเอง!” หวังเค่ออธิบาย
“โอ้!” หลายคนในห้องโถงใหญ่พากันพยักหน้า
ก่อนหน้านี้ข้าก็สงสัยว่าเงินประกันมากมายจะไปเอามาจากไหน ที่แท้เป็เงินที่พวกเราซื้อประกันอุบัติเหตุนี่เอง เมื่อกี้นึกว่าหวังเค่อเป็พ่อค้าใจดำอำมหิต ที่จริงล้วนทำไปเพื่อเหล่าผู้สละชีพผดุงธรรม!
พวกเราเข้าใจบริษัทเสินหวังผิดมาตลอด!
เพียงไม่นาน สายตาของทุกคนภายในห้องโถงที่มองหวังเค่อก็นุ่มนวลลง
มีเพียงถงอันอันที่ตะลึงงัน มันอยากให้หวังเค่อต้องอับอายขายขี้หน้า ไหงกลายเป็หวังเค่อชนะใจทุกคนแทน?
“ไม่สิ หากพวกเราซื้อ《ประกันอุบัติเหตุ》แล้วจะพิสูจน์ได้อย่างไร?” ถงอันอันบีบเสียงถาม
“พวกเราลงชื่อในสัญญาที่ออกโดยบริษัทเสินหวังเราแต่เพียงผู้เดียว มีเอกสารหลักฐานชัดเจน ไม่มีทางผิดพลาด!” หวังเค่อตอบอย่างพอใจ
แม่สาวชุดชมพูนี่ร้ายกาจจนข้าไม่ต้องออกปากอธิบายด้วยซ้ำ ขอเพียงเ้าถามมา ก็ได้ผลดีกว่าข้าพูดเองแล้ว
“มีเอกสารหลักฐานชัดเจน? จะปลอมแปลงไม่ได้เลยเชียวหรือ? ถ้าหากมีคนทำเอกสารปลอมหลอกเอาเงินประกันเล่า? บริษัทเสินหวังเ้าจะโดนโกงเงินไปเท่าไหร่?” ถงอันอันบีบเสียงถาม
ถงอันอันคิดว่าอุบายต้มตุ๋นของหวังเค่อต้องโดนเปิดโปงแน่แล้ว ดังนั้นจึงเผยสีหน้าตื่นเต้นออกมา
“ถามได้ดี!” หวังเค่อรับไม้อย่างยินดี
ถามได้ดีอีกแล้ว? ถงอันอันหน้าแข็งค้าง ทำไมกลายเป็ข้าช่วยเ้า?
“ทุกท่านเชิญชม!” หวังเค่อว่า
“ฟุ่บ!”
ทันใดนั้นเอง ตราประทับขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในมือหวังเค่อ ลงลักษณ์สี่ด้านคล้ายตราหยกแผ่นดิน
“หือ?” ทุกคนพากันฉงน
จากนั้น พวกมันก็เห็นหวังเค่อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมากางบนโต๊ะ ก่อนจะประทับตราลงไป
“หึ่ง!”
พริบตาที่ตราประทับแนบสนิท ก็คล้ายปรากฏแสงสีแดงเรืองรองออกมารอบตราประทับดุจัแดงแหวกนภา ก่อนจะแทรกซึมเข้าสู่กระดาษขาว
เมื่อดึงตราประทับกลับ ก็เห็นคำว่า ‘เสินหวัง’ ประทับเอาไว้
บนตัวอักษร ‘เสินหวัง’ สีแดงขนาดใหญ่บนกระดาษ มีรอยสีแดงคล้ายัเลือนลางแหวกว่ายเวียนวนอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนค่อยซึมหายไปในกระดาษ
“พวกท่านเห็นหรือไม่?” หวังเค่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“หยกวิถีิญญา?” โม่ซันซันบนชั้นสองอุทานออกมาทันที
“หยกวิถีิญญา?” ผู้คนภายในห้องโถงล้วนต่างแปลกใจ
เฉินเทียนหยวนเองก็เผยสีหน้าตกตะลึง ่ไม่กี่เดือนมานี้หวังเค่อไปหาหยกวิถีิญญามาจากไหน?
“หยกวิถีิญญา วัตถุหายาก แม้แต่สำนักเซียนหรือราชอาณาจักรแห่งสิบหมื่นมหาบรรพตยังยากจะมีไว้ใช้เป็ตราหยกแผ่นดิน แล้วมันหามาจากไหน?”
“หยกวิถีิญญา สมบัติล้ำค่าหาใดเปรียบ บริษัทเสินหวังมีหยกวิถีิญญาได้อย่างไร?”
“บริษัทเสินหวังคงต้องมีปูมหลังลึกล้ำสุดหยั่งแน่ ไม่เช่นนั้น ไหนเลยจะมีสมบัติหายากในตำนานได้?”
“เมื่อครู่ข้ายังกังขาในกำลังของบริษัทเสินหวัง แต่ตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่าตนเองสายตาตื้นเขินนัก!”
.........
.........
......
......
...
...
ทันทีที่หยกวิถีิญญาเผยโฉม ทุกคนในห้องโถงใหญ่ก็พากันซุบซิบหารือ พวกมันยิ่งมายิ่งแปลกใจกับฐานะของหวังเค่อขึ้นไปทุกที
จางหลี่เอ๋อร์จ้องหยกวิถีิญญาเขม็ง ดวงตาของนางสาดประกายหงุดหงิด
“ท่านพี่ ทำหน้าอะไรของท่าน?” จางเสินซวีถามอย่างสงสัย
“เ้าตัวบัดซบ หยกวิถีิญญา มันกลับหลอมหยกวิถีิญญาให้กลายเป็ตราประทับ ‘เสินหวัง’ ทำไมถึงได้เสียของขนาดนี้!” จางเสินซวีเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด
“เสียของ?”
“เ้าไม่รู้รึ? หยกวิถีิญญาสามารถหลอมสกัดได้เพียงครั้งเดียว เมื่อเสร็จแล้วจะไม่อาจเปลี่ยนรูปร่างได้อีก! หรือก็คือ มันสามารถเป็ได้เพียงตราประทับเสินหวังนั่นตลอดไป ต่อให้ชิงมาได้ ก็ไม่อาจหลอมเป็รูปทรงอื่น บัดซบ บัดซบ!” จางหลี่เอ๋อร์สบถแ่เบา
“ท่านพี่ ท่านคิดอยากขโมยหยกวิถีิญญาของมันด้วย?” จางเสินซวีถามเสียงแ่อย่างใ
“หุบปาก ตั้งใจฟัง!” จางหลี่เอ๋อร์ถลึงตาใส่น้องชาย
จางเสินซวี “…!”
“ทุกท่าน ข้าคงไม่จำเป็ต้องอธิบายถึงคุณสมบัติของหยกวิถีิญญา ตราประทับเสินหวังนี้มีเพียงหนึ่งเดียว เอกสารสัญญาประกันอุบัติเหตุทุกฉบับจะถูกประทับด้วยตราประทับเสินหวัง จะไม่มีผู้ใดสามารถปลอมแปลงโกงเงินไปได้เป็อันขาด!” หวังเค่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
บางคนอาจไม่เข้าใจ แต่ก็มีพวกที่เข้าใจอยู่ด้วยเช่นกัน ทุกคนในห้องโถงต่างพากันปรึกษาหารือ ขณะเดียวกัน ทุกคนต่างยิ่งประหลาดใจกับปูมหลังของหวังเค่อยิ่งขึ้นกว่าเดิม
มีเพียงถงอันอันที่หดหู่ ทำไมคนอื่นถึงได้เชื่อใจหวังเค่อกัน?
“ถ้าเกิดพวกเราซื้อประกันแล้วบริษัทเสินหวังเชิดเงินหนีไปเล่า? ไม่ใช่พวกเราโดนโกงเงินแล้ว?” สาวชุดชมพูถามอย่างดุดัน
ทั้งห้องโถงกลายเป็เงียบสงัด
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” หวังเค่อหัวเราะลั่น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” แขกในห้องโถงจำนวนมากเองก็หัวเราะตาม
ถงอันอันมองไปรอบด้าน พวกเ้าหัวเราะอะไร? พวกเ้าหัวเราะอะไร? หวังเค่อมันหัวเราะ พวกเ้าเลยหัวเราะตาม? บิดาเคยโดนหวังเค่อหัวเราะหลอกให้วางใจ เสร็จแล้วโดนมันต้มซะไม่เหลือ พวกเ้ายังจะหัวเราะอีก?
“สหายนักพรตหญิงชุดชมพู ท่านเห็นทุกคนหัวเราะแล้วหรือไม่? ข้าไม่จำเป็ต้องอธิบายคำถามนี้ แต่ในเมื่อท่านถามมา ข้าก็ขอตอบสักหน่อย!” หวังเค่อหัวเราะ
“อย่างแรก ท่านเห็นตราประทับเสินหวังของข้าหรือยัง? หยกวิถีิญญาสมบัติที่ไม่อาจประเมินค่า ข้าลงทุนหลอมมันเป็ตราประทับเสินหวัง ทั้งหมดเพื่อหลอกเอาศิลาิญญาห้าพันชั่งของท่านรึ? ขายทีเดียวจบ? ฮ่าฮ่าฮ่า!” หวังเค่อหัวเราะลั่น
หลายคนในห้องโถงหัวเราะตาม ใช้หยกวิถีิญญาเพื่อหลอกเอาเงินห้าพันชั่ง โลกนี้คงไม่มีไอ้หน้าโง่ที่ไหนทำเช่นนี้
“ข้าพูดแบบนี้ดีกว่า ไม่ต้องไปมองบรรดาผู้าุโพรรคเทพหมาป่า์และพรรคอีกาทองคำ วันนี้ข้าตัดริบบิ้นเปิดบริษัทเสินหวัง ได้โปรดอย่าคิดว่าบริษัทเสินหวังเป็บริษัทที่สองยอดสำนักเซียนเปิด ถึงตัวข้าจะมีความเกี่ยวพันกับสองสำนักเซียนอย่างลึกซึ้ง แต่บริษัทเสินหวังไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสองยอดสำนักเซียน ไม่เลยสักนิดเดียว!” หวังเค่ออธิบายด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลายคนหัวเราะตาม
หวังเค่อ เ้าล้อเล่นใช่ไหม? เห็นๆ กันอยู่ว่าพรรคเทพหมาป่า์กับพรรคอีกาทองคำหนุนหลังเ้า ไม่อย่างนั้นมีหรือพวกมันจะมาตัดริบบิ้นให้เ้า? ทุกคนเพียงนึกว่าหวังเค่อหยอกล้อจึงไม่ได้คิดยึดถือจริงจัง
ในเมื่อมีพรรคเทพหมาป่า์และพรรคอีกาทองคำหนุนหลัง พวกเราย่อมไม่กลัวบริษัทเสินหวังเชิดเงินหนี ต่อให้เ้าหนี นักบวชก็ขนวัดหนีไปด้วยไม่ได้!
“อย่างที่สอง ท่านคิดว่าบริษัทเสินหวังจบเพียงเท่านี้? เปล่าเลย ข้าขอบอกท่าน นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น นี่คืออาคารเสินหวังแห่งแรก และจะมีแห่งที่สอง ที่สาม และมากขึ้นอีกในอนาคต อาคารเสินหวังจะก่อตั้งขึ้นอยู่ทุกหัวระแหงทั่วสิบหมื่นมหาบรรพต! ท่านรอก่อน แล้วท่านจะได้เห็นอาคารเสินหวังรออยู่หน้าประตูบ้าน! ท่านสามารถซื้อประกันอุบัติเหตุได้ถึงหน้าบ้าน รับเงินได้ถึงหน้าบ้าน!” หวังเค่อกล่าว
ทันทีที่หวังเค่อเอ่ยคำ ยอดฝีมือทั้งหลายต่างกลายเป็เคร่งเครียด เ้าคิดเปิดอาคารเสินหวังจำนวนมาก? คิดยึดครองสิบหมื่นมหาบรรพตหรือไร?
“ทุกท่าน บริษัทเสินหวังไม่มีส่วนร่วมในข้อวิวาทระหว่างพรรคสำนัก พวกเราเป็เพียงบริษัทการค้าที่ทำธุรกิจเท่านั้น ได้โปรดอย่ากังวลว่าพวกเราจะเป็ภัยคุกคาม หากท่านไม่เชื่อ ท่านก็มาถล่มสำนักงานใหญ่เสินหวังได้ทุกเวลา! ข้าหวังเค่อพูดคำไหนคำนั้น!” หวังเค่อรับปากอย่างจริงจัง
แค่ทำธุรกิจหรอกรึ? เหล่ายอดฝีมือประจำพรรคสำนักเซียนในห้องโถงพากันโล่งอก
“เ้าบอกว่าอาคารเสินหวังจะก่อตั้งขึ้นเต็มสิบหมื่นมหาบรรพต? เ้าคิดว่ากำลังหลอกใครอยู่? พวกข้าเป็ฝ่ายธรรมะเลยยอมให้เ้าสร้างอาคาร แต่พวกฝ่ายอธรรมมีหรือจะยอม? หากพวกลัทธิมารทราบเื่ประกันอุบัติเหตุที่บริษัทเสินหวังเ้าขาย พวกมันจะต้องทุ่มกำลังทำลายให้สิ้นซากถูกหรือไม่?” ถงอันอันแค่นเสียงแหลม
แน่นอนว่าในเมื่อประกันช่วยคลายความกังวลใจให้ศิษย์ฝ่ายธรรมะ ขวัญกำลังใจฝ่ายธรรมะยิ่งต้องพุ่งสูงเทียมฟ้า แล้วฝ่ายอธรรมมีหรือจะยอม?
“สหายนักพรตหญิงชุดชมพูท่านนี้ ถามได้ดี!” หวังเค่อรับคำอย่างยินดี
ถงอันอัน “…!”
แม่งเอ๊ย ถามได้ดีอีกแล้ว?
“ทุกท่าน อย่างที่ข้าบอก บริษัทเสินหวังเป็เพียงบริษัทการค้า ประกันอุบัติเหตุนี้ก็เป็เพียงธุรกิจเท่านั้น สหายนักพรตหญิงชุดชมพูคิดว่าข้าจะกลัวสินะ? แต่ข้าขอบอกเลยว่าข้าไม่กลัวสักนิด! เพราะพวกเราค้าขายอย่างบริสุทธิ์ใจ! พรรคฝ่ายอธรรมแล้วอย่างไร? อีกไม่นาน บริษัทเสินหวังก็จะเปิดตัวใกล้ลัทธิมารทุกสาขา แม้แต่ฐานหลักลัทธิมารพวกเราก็เปิด! ขนาดข้ายังไม่กลัว แล้วท่านจะกลัวอะไร?” หวังเค่อหัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อหวังเค่อหัวเราะนำ คนที่เหลือก็หัวเราะตาม
ทุกคนล้วนต่างคิดว่าหวังเค่อกล่าวด้วยหัวใจบริสุทธิ์เที่ยงธรรม ที่บอกว่าจะเปิดอาคารในสาขาลัทธิมาร ก็คือให้ฝ่ายธรรมะขจัดกวาดล้างสาขาฝ่ายอธรรม พอพรรคสาขาฝ่ายอธรรมไหนล่มสลาย อาคารเสินหวังก็จะเข้าไปยึดที่เปิดแทน เป็การสร้างขวัญกำลังใจแก่ฝ่ายธรรมะ!
ถงอันอันกวาดตามองเหล่ายอดฝีมือรอบด้านอย่างเหม่อลอย
พวกเ้าโง่หรือไง? หวังเค่อมันแค่โม้ พวกเ้าดูไม่ออกเรอะ? ไอ้บริษัทเสินหวังเส็งเคร็งนี่มีหรือจะกล้าเข้าไปเปิดลึกถึงลัทธิมาร? ไม่กลัวถูกศิษย์ลัทธิมารรุมสับเป็พันท่อนหรือไร?
“ข้าคิดว่าพวกท่านคงหมดห่วงเื่ความน่าเชื่อถือของบริษัทเสินหวังเราแล้ว ตอนนี้กลับมาถึงคำถามเดิม อีกไม่ช้า งานชุมนุมประตูัจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ทุกท่าน พวกท่านมีใครบ้างที่จะเข้าร่วมงานชุมนุมประตูั?” หวังเค่อมองดูรอบด้าน
ห้องโถงพลันเงียบลงอีกครั้ง
“งานชุมนุมประตูัยังเป็่เวลาสำคัญที่ฝ่ายธรรมะและอธรรมปะทะกัน ข้าทราบว่าพวกท่านล้วนแต่กล้าหาญ! พวกท่านพร้อมหลั่งเืหลั่งน้ำตา! แต่ครอบครัวพวกท่านเล่า? บางทีอาจมีคนที่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ ศิษย์พี่ศิษย์น้องท่านที่จะไปงานชุมนุมประตูั ท่านอยากจะทำประกันอุบัติเหตุให้พวกเขาหรือไม่? นี่ไม่ใช่ประกัน แต่คือมิตรภาพ!” หวังเค่อตะล่อม
ภายในห้องโถงยังเงียบสนิท
“ผู้าุโประจำพรรคทุกท่าน สานุศิษย์ท่านเสี่ยงชีวิตออกไปผดุงธรรม ท่านจะเอาเงินไปกินเลี้ยง ซื้อเสื้อผ้า หรือยอมจ่ายเพื่อช่วยเหลือพวกเขา?”
“ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลาย ช่วยเหลือผู้อื่นประเสริฐกว่าช่วยเหลือตนเอง มีเพียงวางแผนให้รอบคอบรัดกุม ครอบครัวเราถึงจะมีความสุขกว่าเดิม!”
“ท่านลืมความคาดหวังที่บิดามารดามีให้ไปแล้วหรือ? ท่านได้สนใจสายตาลูกเมียตนเองบ้างหรือไม่? ประกันนี้จะช่วยให้พวกเขามีอนาคตที่สดใส!”
“ความรักและความเที่ยงธรรมมีค่าดุจทองพันชั่ง ท่านคิดอยากซื้อประกันสักชุดฝากพี่น้องหรือไม่?”
“ถ้าหากไม่ใช่ว่าข้าเป็คนขายประกัน ข้าก็คงซื้อให้ตัวเองไปแล้ว!”
“ทุกท่าน《ประกันอุบัติเหตุ》นี้ เป็ของที่ท่านต้องซื้อในชีวิต!”
“ชีวิตที่ไม่มีประกัน คือชีวิตที่ไม่มีความสุข!”
