เสียงสายกีตาร์ของเซนะยังดังก้องในหัวรินะ แม้ซ้อมจะเลิกไปแล้วก็ตาม เธอนั่งเงียบอยู่หลังห้องพักศิลปินที่ไฟสลัว เหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผมเริ่มเย็นจนหนาว แต่หัวใจยังเต้นแรงเหมือนเพิ่งเสร็จจากเวทีจริง
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน การปะทะระหว่างยูกะกับเซนะทำให้ห้องซ้อมแทบแตก โคโตะที่ปกติคึกคักกลับเงียบกว่าที่เคย มิยูเอาแต่กอดตุ๊กตาไม่พูดอะไร ส่วนยูกะเองหลังจากเถียงกับเซนะก็นั่งนิ่งไม่สบตาใคร รินะมองภาพทั้งหมดแล้วรู้สึกเหมือนแบกูเาทั้งลูกอยู่บนบ่า
“รินะ กลับห้องกันเถอะ”
เสียงผู้จัดการดังขึ้นเื้ั
เธอสะดุ้งเบา ๆ ก่อนยิ้มกลบเกลื่อน “ค่ะ เดี๋ยวตามไป”
ห้องพักโรงแรม
ไฟห้องพักติดขึ้น ร่างทั้งห้าทรุดลงกับโซฟาเหมือนตุ๊กตาที่โดนปล่อยลม
“เหนื่อยว่ะ…”
โคโตะบ่นพร้อมทิ้งตัวลงไปนอนราบ ยกขาโยกไปมาอย่างหมดแรง
มิยูนั่งเบียดมุมโซฟา เงียบและก้มหน้ากอดตุ๊กตา รินะยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบา ๆ
“ไม่เป็ไรนะ พรุ่งนี้จะดีกว่านี้”
มิยูพยักเบา ๆ แต่ไม่กล้าสบตา
ยูกะนั่งตรงข้าม เธอวางไมค์ลงบนโต๊ะแล้วถอนหายใจแรง
“เราต้องจริงจังกว่านี้ ไม่งั้นคอนเสิร์ตใหญ่จะพังแน่”
เซนะที่นั่งใกล้ ๆ สวนทันที
“อย่าคิดว่าทุกอย่างอยู่ที่เธอคนเดียวสิ พวกเราก็มีมาตรฐานของตัวเอง”
บรรยากาศเงียบลงทันที รินะรีบเอื้อมมือไปวางบนเข่าของเซนะ
“พอแล้ว วันนี้เราทุกคนเหนื่อยมากแล้ว อย่าทะเลาะกันเลยนะ”
เซนะเม้มปาก หันหน้าไปอีกทาง ยูกะก็ก้มลงหยิบขวดน้ำขึ้นดื่มโดยไม่พูดต่อ
รินะยิ้มบาง แต่ในใจเหมือนถูกบีบ เธอรู้ว่าถ้าปล่อยแบบนี้ไป วงอาจจะไม่เหลืออะไรเลย
กลางดึก
ห้องมืดสงัด เสียงกรนเบา ๆ ของโคโตะดังมาจากอีกมุม เสียงหายใจสม่ำเสมอของมิยูสื่อว่าเธอหลับสนิทแล้ว รินะลุกขึ้นนั่งกลางความมืด ลมหายใจสั่น
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความแฟนคลับ
“รินะคือพี่สาวของพวกเรา”
“ถ้าไม่มีรินะ วงคงไม่มั่นคงแบบนี้แน่ ๆ”
“ดูแลทุกคนนะ รินะคือเสาหลักจริง ๆ”
น้ำตาเอ่อขึ้นมาทันทีโดยไม่รู้ตัว เธอกัดปากแน่น พึมพำกับตัวเอง
“แล้วใครจะดูแลฉันล่ะ…”
เธอลุกขึ้นเบา ๆ เดินไปที่ห้องน้ำ เปิดไฟนีออนสีขาวซีด ภาพเธอสะท้อนในกระจก ผมสีน้ำตาลไวน์เปียกชื้น ดวงตาบวมแดงจากน้ำตา รอยยิ้มอบอุ่นที่แฟน ๆ รู้จักไม่มีเหลือ
รินะพิงอ่างล้างหน้า หายใจหอบ มือกุมอกเหมือนจะกดความเจ็บแน่นไว้
“ฉัน…จะต้องเข้มแข็งไปถึงเมื่อไหร่”
น้ำตาไหลพรากลงมากับแก้ม เธอปล่อยเสียงสะอื้นที่ไม่เคยให้ใครได้ยิน เสียงนั้นสะท้อนก้องอยู่ในห้องน้ำแคบ ๆ ราวกับความลับต้องห้าม
เช้าวันถัดมา
กลิ่นขนมปังปิ้งหอมอบอวลไปทั่วห้อง รินะยืนอยู่หน้าเตาเล็ก ๆ ที่โรงแรมเตรียมไว้ เธอจัดขนมปังใส่จาน ราดน้ำผึ้งบาง ๆ ต้มซุปอุ่นไว้ในหม้อเล็ก
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน” เธอหันไปยิ้ม
โคโตะที่เพิ่งตื่นเดินตาปรือมาพร้อมผมยุ่งฟู
“หอมจัง พี่รินะทำเหรอ”
“อืม กินก่อนนะ จะได้มีแรงซ้อมต่อ”
รินะยกชามไปวางตรงหน้า
มิยูเดินออกมาเงียบ ๆ เมื่อเห็นซุปที่รินะจัดไว้ เธอยิ้มเล็ก ๆ
“ขอบคุณค่ะ…”
ยูกะก้าวออกมาจากห้องด้วยสีหน้ายังเครียด แต่เมื่อเห็นรินะวางแก้วน้ำผลไม้ให้ เธอก็รับไปโดยไม่พูดอะไร รินะยิ้มบาง
“ดื่มหน่อย จะได้สดชื่น”
เซนะนั่งที่โต๊ะเงียบ ๆ รับจานอาหารเช้าไป เธอพึมพำเสียงเบา
“ขอบคุณนะ”
ทุกคนกินอาหารด้วยกัน เสียงหัวเราะค่อย ๆ กลับมา โคโตะเล่าเื่ฝันเมื่อคืนจนมิยูขำพรืด บรรยากาศคลายลง
ไม่มีใครรู้เลยว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อน รินะยืนร้องไห้อยู่คนเดียวหน้ากระจก
ค่ำวันนั้น ห้องซ้อม
เสียงกลองดังอีกครั้ง ทุกคนซ้อมตามตาราง รินะคอยส่งสัญญาณให้โคโตะปรับจังหวะ คอยกระตุ้นมิยูให้กล้าเล่นเสียงดังขึ้น คอยเป็คนกลางระหว่างยูกะกับเซนะ
ร่างเธอเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า แต่เธอยังคงยิ้มอุ่น และพูดคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ไม่เป็ไรนะ เราจะไปด้วยกัน”