หลงหยุนฉีงดงามมากจริงๆ แม้แต่หลงเหยียนยังต้องยอมรับข้อนี้
‘บัดซบ นี่ข้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่? เป็ถึงชายอกสามศอก มีหรือจะยอมทนเห็นน้องสาวถูกรังแกต่อหน้าต่อตา... ข้าต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ ต้องปกป้องพวกเขาให้ได้...’
หลงเหยียนรู้สึกภูมิใจขึ้นมาเล็กน้อย ‘ถ้านางรู้ว่าข้าใช้เวลาแค่สองวันในการฝึกหมัดลงทัณฑ์ละก็ นางต้องไม่พูดแบบนี้แน่ ช่างเถอะ ตอนนี้มีคนสอนบ้าง นับได้ว่าเป็ทางลัดประหยัดเวลาได้บ้าง ยังไงก็ย่อมดีกว่า’
‘ว่าแต่นางก็ไม่เลวเลยนะ ข้าแค่ชกครั้งเดียว นางก็รู้แล้วว่าการฝึกวิชาหมัดลงทัณฑ์ของข้าถึงระดับไหนแล้ว’
“พี่เหยียน ความจริง สิ่งสำคัญของหมัดลงทัณฑ์ก็คือความเร็วในการลงมือ แบบนั้นถึงจะแสดงศักยภาพของมันออกมาได้เต็มที่...”
หลงหยุนฉีอธิบายอยู่นาน ความจริง หลังจากหลงเหยียนผ่านการต่อสู้มาแล้วสองครั้ง ด้วยพร์ที่มี เขาก็เข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว
“หยุนฉี ข้าต้องขอบคุณเ้า ในตระกูลก็มีแค่เ้าเท่านั้นแหละที่ดีกับข้าที่สุด ไม่เพียงแค่ไม่เคยดูถูกข้าเท่านั้น แต่ยังอธิบายให้ข้าฟังอีกมากมาย”
หลงเหยียนนึกถึงงานประลองที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้อีกครึ่งเดือน ตอนนี้ตนเองอายุสิบหกปีแล้ว ได้ยินมาว่ายังมีงานประลองยุทธ์ที่จัดขึ้นเพื่อเด็กหนุ่มมากความสามารถอีก
“จริงด้วย อีกครึ่งเดือนตระกูลจะจัดงานประลอง ได้ยินมาว่าเป็งานประลองครั้งใหญ่ ไม่รู้ว่าผู้ชนะจะได้อะไรเป็รางวัล เ้ารู้ไหม?”
หลงหยุนฉีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ข้าต้องรู้อยู่แล้ว คนที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปีในตระกูลสามารถเข้าร่วมได้ทั้งนั้น ท่านพ่อบอกว่ารางวัลในปีนี้คือตำราฝึกการต่อสู้ระดับสูงสองเล่ม นั่นก็คือ《หมัดสายฟ้าแปดทิศ》และ《หมัดมายา》แต่ดูเหมือนพวกเราคงหมดสิทธิ์ในการตำราทั้งสองเล่มนี้แล้วล่ะ เพราะหลงเซ่าโหยว ลูกชายของลุงใหญ่หลงห้าว กับหลงห่าวเทียน ลูกชายอาสี่ ต่างก็มีพละกำลังขั้นที่ห้าแล้ว ระยะเวลาห้าปีที่ผ่านการฝึกฝนมา การที่จะดันตัวเองให้เท่ากับพวกเขาเป็เื่ที่ยากมาก และที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือพี่หลงอวี่ซี ได้ยินมาว่าพี่หลงอวี่ซีอยู่ในขั้นชีพัที่หกแล้ว”
“ข้างนอกลือกันว่านางเป็คนที่คนภายในกำหนดให้ได้ตำราสองเล่มนี้”
หลงเหยียนใมาก ถึงแม้จะอยู่ในตระกูลหลงเหมือนกัน แต่เขาไม่รู้เลวว่าหลงเซ่าโหยวและหลงห่าวเทียนมีพละกำลังแข็งแกร่งมากขนาดนี้แล้ว แถมยังมีหลงอวี่ซีที่เป็ลูกสาวลุงใหญ่ นางมีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้แล้วหรือ
ชีพัขึ้นที่หก คาดว่าพวกเขาก็คงเป็กลุ่มคนที่ถูกตระกูลยกให้เป็ผู้มีพร์สินะ เมื่อก่อนเขาตัวคนเดียวมาตลอด นึกไม่ถึงเลยว่าตนจะรู้จักเื่ภายในตระกูลน้อยขนาดนี้
“พี่เหยียน ถึงตอนนั้นข้าก็จะเข้าร่วมงานประลองด้วยเหมือนกัน ต่อให้ไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยก็สามารถแสดงจุดยืนในตระกูล ทำให้ทุกคนรู้จักข้า”
เมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของหลงหยุนฉี ความใสซื่อของนางเต็มเปี่ยม แล้วมีหรือที่ตนจะไม่พยายามสู้ด้วย ต่อให้จะเป็โอกาสเพียงน้อยนิด แต่หลงเหยียนก็ไม่มีทางปล่อยไปแน่
ความหวังนั้นเลือนราง แต่หลงเหยียนมีิญญาัที่แข็งแกร่ง จะกลัวไปทำไม! จากนั้นทั้งคู่ก็เตรียมออกจากที่นี่
“หยุนฉี พวกเราไปกันเถอะ ถึงเวลากลับแล้ว ข้ากลัวว่าเซียวปิงหลานจะหาเราเจอ อยู่ในบ้านถึงจะเป็ที่ที่ปลอดภัยที่สุด อีกอย่าง ตอนนี้พ่อเ้าคงเป็ห่วงแย่แล้ว”
พวกเขาสองคนจับมือกันเดินกลับบ้าน ณ ตระกูลหลง หอที่สลักรูปัและหงส์ ความยิ่งใหญ่ของตระกูลหลงแผ่กระจายไปทั่ว แม้แต่องครักษ์ที่เฝ้าประตูยังยืนหลังตรงแลดูองอาจ ใบหน้าแลดูเคร่งขรึม พวกเขาทำเหมือนไม่เห็นหลงเหยียนในสายตา เพียงแค่กล่าวทักทายหลงหยุนฉีที่เดินมาพร้อมกับหลงเหยียน
ในสายตาพวกเขาแล้ว หลงเหยียนไม่มีทางเอาเื่พวกเขา เพราะในสายตาพวกเขา ไม่ว่ายังไงหลงเหยียนก็เป็แค่คนไร้ตัวตนเท่านั้นเอง
“พี่เหยียน ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน เกรงว่าวันนี้ข้าคงถูกเ้าสารเลวนั่นรังแกไปแล้ว”
หลงเหยียนหยุดเดิน มองหน้านาง “เด็กโง่ ต่อให้กระดูกข้าต้องสลาย ก็ไม่ปล่อยให้เขาทำร้ายเ้าหรอก รีบกลับไปเถอะ มิเช่นนั้น หากพ่อเ้ามาเห็นเข้า เขาต้องทำโทษเ้าแน่”
หลงเหยียนพูดจบก็เงยหน้าขึ้น สะอึกในใจ หลงจ้านเอามือไพล่หลัง ยืนห่างจากพวกเขาสองคนแค่เจ็ดถึงแปดเมตร มองหลงเหยียนด้วยสีหน้าเย็นะเื แล้วเริ่มเดินเข้ามาหาพวกเขาสองคน
“ไม่รู้จักไปผุดไปเกิดสักทีนะ หนีเร็ว!” ฟิ้ว... พลังระลอกหนึ่งกดไหล่หลงเหยียนเอาไว้
“เ้าจะหนีไปไหนล่ะ?”
หลงหยุนฉีใรีบปล่อยมือหลงเหยียน ก้มหน้าพูดเสียงเบา “ท่านพ่อ”
“ใครให้เ้าไปอยู่กับเขา ข้าให้เ้าไปหาพี่เ้าไม่ใช่หรือ ข้าเตือนเ้ากี่ครั้งแล้ว อยู่ให้ห่างเ้าหมอนี่”
“ท่านพ่อ ความจริงข้า...”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
หลงจ้านตบใบหน้าที่บอบบางของหลงหยุนฉีแรงๆ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโมโหมาก
ฝ่ามือที่สองกำลังจะฟาดลงมา หลงเหยียนรีบยื่นมือคว้าไว้ “ลุงสอง นี่...”
สายตาที่น่ากลัวของหลงจ้าน ทำให้หลงเหยียนใล้มลงบนพื้น
“เ้ายังมีหน้ามาเรียกข้าว่าลุงสองอีกหรือ? ทำร้ายลูกข้าจนเจ็บหนัก นี่ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเ้าเลย ข้าแค่ไม่เข้าใจ เ้าไปเอาความสามารถมาจากไหนถึงทำร้ายเขาได้ คนไร้ค่าอย่างเ้าไม่คู่ควรเป็คนรุ่นหลังของตระกูลหลงเลย เอ้าอวีอายุมากกว่าเ้าแค่ปีเดียว แต่ฝึกถึงขั้นที่สามแล้ว แล้วเ้าล่ะ ไม่รู้ว่าเ้าไปหาอะไรมา ฝึกไม่กี่วัน ถึงจะมีพลังปราณขึ้นมาหน่อย แต่ในสายตาข้า เ้าก็ยังไร้ค่าวันยังค่ำ ถ้าข้าเป็น้องสามนะ ข้าคงบีบคอเ้าตายไปนานแล้ว ใครจะปล่อยให้เ้ารอดมาจนถึงวันนี้”
หลงจ้านพูดจบ ใบหน้าก็แสดงความเหยียดหยาม
หลงเหยียนไร้ซึ่งความกลัว รีบคลานขึ้นจากพื้น จ้องกลับด้วยความดุดัน แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย
เขาก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน เมื่อก่อน หลงเหยียนไม่เคยอยู่ในสายตาคนในตระกูล รู้สึกว่ามันเป็เื่ที่น่าอายมาก ตอนนี้ถูกลุงสองหยามศักดิ์ศรีอีก ทำให้เขารู้สึกชินชา
แววตาที่น่ากลัวกลับทำให้หลงจ้านรู้สึกชะงักไป ‘เพราะอะไรสายตาของหลงเหยียนถึงน่ากลัวเช่นนี้ ช่างเถอะ วันนี้ข้ายังไม่อยากสั่งสอนเ้า’
“คนไร้ค่าอย่างเ้า หรือว่ายังไม่พอใจ? ยังไม่รีบไสหัวไปอีก”
หลงจ้านด่าทอเสียงดัง ลากหลงหยุนฉีเดินจากไป
หลงหยุนฉีร้องะโ “พี่เหยียน พี่เหยียน ท่านอย่าเสียใจไปเลยนะ...”
เมื่อมองพวกเขาจากไป ในหัวของหลงเหยียนก็ดังกึกก้องไปด้วยเสียงของหลงจ้าน ‘คนไร้ค่าอย่างเ้าไม่คู่ควรเป็คนรุ่นหลังของตระกูลหลง ในสายตาข้า ไม่ว่ายังไงเ้ามันก็เป็แค่คนไร้ค่าวันยังค่ำ’
“เพราะอะไร เพราะอะไร์ถึงไม่ยุติธรรมกับข้าเลย เพราะอะไรต้องถูกทำเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ข้าทนมามากพอแล้ว แม้แต่คนเฝ้าประตูยังไม่เห็นข้าในสายตา”
หลงเหยียนแหงนหน้าคำราม ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วเดินกลับห้องตัวเองอย่างเงียบๆ ในใจของเขากำลังปะทุ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วส่งฝ่ามือออกไปทำลายโต๊ะเก้าอี้ตรงหน้า
“หลงจ้าน สิ่งที่เ้าทำกับข้า ข้าจะจำทุกอย่างเอาไว้ให้ดี เมื่อไรที่ข้าแข็งแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้นข้าจะได้รับการยอมรับจากทุกคน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพละกำลังทั้งนั้น ถ้าข้ามีพละกำลัง ข้าจะแก้แค้นทุกคนให้สาสมแน่”
“หลงจ้าน หลงเอ้าอวี แล้วก็เซียวปิงหลาน พวกเ้ามันสารเลว น่ารังเกียจ โดยเฉพาะเ้า หลงจ้าน เ้าหัวเราะเยาะข้า หลายปีมานี้ ข้าจดจำทุกรายละเอียดไว้หมดแล้วว่าใครทำอะไรข้าบ้าง เมื่อไรที่มีโอกาส ข้าจะทำให้พวกเ้าไม่ตายดี ข้าจะทำให้พวกเ้าเปลี่ยนความคิดใหม่”
ร่างของเขาสั่นเทาอย่างรุนแรง คล้ายคลื่นที่โหมกระหน่ำ ความเกลียดแค้นในใจก่อตัวกลายเป็ัร่างใหญ่ที่กำลังคำรามอยู่บนเมฆสูง!
การหลอมกายคือเส้นทางสู่ราชัน...
หลงเหยียนนั่งขัดสมาธิลง ทำสมาธิเพื่อให้จิตบรรลุ ควบคุมวิชาหมัดลงทัณฑ์ ปรับพลังปราณให้มั่นคง จากนั้นเหงื่อก็ไหลท่วมตัว
อาทิตย์ตกดินอย่างรวดเร็ว ในตระกูลหลงส่องสว่างไปด้วยโคมหนังสัตว์ ภายในบ้านมียอดฝีมือหลายสิบคนผลัดกันเฝ้ารักษาความปลอดภัย
ยอดหอคอย ร่างเล็กยังคงใช้เวลาที่มีฝึกวิชาอย่างต่อเนื่อง
ดวงจันทร์ส่องสว่าง ใช้จิตััทุกสรรพสิ่ง ทุกสรรพสิ่งกำลังเติบโต ทุกอย่างเป็ไปตามวัฏจักรชีวิต ทุกอย่างต้องอาศัยตนเองเท่านั้น ิญญาัทำได้เพียงเส้นนำทาง แต่พลังปราณที่ใช้หล่อเลี้ยงร่างกายยังมากไม่พอ
เวลานี้ร่างกายของเขาอยู่ในลักษณะคล้ายปลอดโปร่ง พลังปราณสามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้เสมอ หลงเหยียนสามารถรับรู้ถึงธาตุพลังจากต้นไม้ใบหญ้าอย่างชัดเจน ทั้งหมดถูกรวมและลอยมาทางเขา คาดว่านี่ก็คงเป็เพราะหยกัชิ้นนั้น ธาตุพลังก่อตัวกลายเป็หลุมวน หลอมกลายเป็พลังปราณ แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย
ิญญาัในร่างกายหลงเหยียนกำลังหมุน คล้ายรู้สึกตื่นเต้นเช่นนั้น
“เกรงว่าผ่านไปอีก่หนึ่ง ิญญาันี้คงถูกหลอมให้กลายมาเป็ิญญายุทธ์ของข้าอย่างสมบูรณ์แล้ว ที่แท้การใช้จิตััธาตุพลังก็เลื่อนขั้นพลังได้ด้วย”
ผ่านการหล่อเลี้ยงจากหลงเหยียน ิญญาัอ่อนโยนและเชื่องมากขึ้น ทั้งคู่ต่างก็คุ้นเคยกันและกันมากขึ้น ทำให้มันรู้สึกว่าร่างกายนี้เป็เ้าของคนใหม่ของมัน
เมื่อร่างกายและิญญาัผสานเข้าด้วยกัน ก่อตัวกลายเป็ศักยภาพที่แข็งแกร่ง หลงเหยียนลืมตาขึ้น เขาพูดด้วยความตื่นเต้น “ดูเหมือนการหลอมิญญาัยังต้องอาศัยธาตุพลังพวกนี้ด้วย แบบนี้ข้าก็มั่นใจได้มากกว่าเดิม มั่นใจว่าข้าจะไม่ถูกมันกลืนกิน”
“ฟึ่บ!” เงาของใครบางคนตีลังกาข้ามกำแพงบ้านตระกูลหลง
หากเป็เมื่อก่อน หลงเหยียนต้องไม่รู้ตัวแน่ ด้วยความเร็วสูงเช่นนั้น ขั้นต่ำก็ต้องเป็ยอดฝีมือผู้มีพละกำลังชีพัขั้นที่แปด
และเมื่อครู่...
หลงเหยียนกำลังตกอยู่ในความใ เขาส่งพลังจิตออกไปปกคลุมรัศมีหลายลี้ หูที่ได้ยินชัดเจน สายตาที่เฉียบขาด เขาได้ยินแม้กระทั่งเสียงใบไม้ที่สั่นไหวเพราะสายลม
หลงเหยียนโค้งตัวพุ่งลง เก็บกลิ่นอายของตัวเองก่อนจะตามออกไป เพราะััได้ว่าเงาที่กะพริบวาบหายไปนั้นเป็กลิ่นอายที่คุ้นเคย คล้ายลุงสองหลงจ้านไม่มีผิด
“ดึกป่านนี้แล้ว? เขาออกไปทำอะไร?”
นี่เป็เส้นทางไปยังศาลากลางน้ำ ไม่นานหลงเหยียนก็เข้าใกล้เงานั้นแล้ว เขาซ่อนตัวอยู่กลางความมืดอย่างระมัดระวัง เฝ้ามองอย่างละเอียด เป็อย่างที่คิด เวลานี้หลงเหยียนเห็นเงาคนสองคนในศาลากลางน้ำ หนึ่งในนั้นก็คือลุงสองของตนนั่นเอง ส่วนอีกคนก็คือเซียวกงเป้าแห่งตระกูลเซียว เซียวกงเป้าคือบิดาของเซียวปิงหลาน
หลงเหยียนได้ยินมาว่า เซียวกงเป้าเป็คนยโสโอหัง รังแกไม่เว้นหญิงหรือชาย ถือเป็คนสารเลวอย่างแท้จริง
เมื่อเห็นพวกเขาสองคนเจอกันที่นี่อย่างลับๆ ล่อๆ หลงเหยียนค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เก็บกลิ่นอายของตัวเอง แล้วขยับร่างเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ
เพราะอยู่ห่างกันมาก ไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังคุยอะไรกันอยู่ คล้ายได้ยินชื่อของหลงห้าว จากนั้นเซียวกงเป้าก็ใช้มือแสดงสัญลักษณ์ผ่าน่คอ
“ฆ่า!”
หลงเหยียนผงะ!
“พวกเขาสองคนไม่ใช่คนดี หรือว่าหลงจ้านคิดแผนการชั่วร้ายอะไรอยู่?” เมื่อนึกถึงเื่เมื่อตอนกลางวัน เพราะอยากสานสัมพันธ์กับตระกูลเซียว หลงจ้านถึงกับใช้บุตรสาวของตนเป็เครื่องมือ เมื่อนึกดูอีกทีแล้ว เขาต้องตั้งใจให้เื่ในวันนี้เกิดขึ้นแน่
อีกทั้งตนยังทำร้ายบุตรชายของเขา หลงจ้านไม่แม้แต่จะตามเอาเื่ เพียงแค่พูดจาหยาบคาย แล้วก็เดินจากไปอย่างเร่งรีบ
หลงเหยียนไม่เข้าใจจริงๆ
“จากนี้ไม่นานก็จะถึงงานประลองยุทธ์ครั้งใหญ่แล้ว หรือว่า... เขาจะวางแผนอะไรในวันนั้น? หรือเขาอยากชิงตำแหน่งผู้นำแห่งตระกูลของท่านพ่อ? แบบนั้นท่านพ่อก็ต้องตกอยู่ในอันตรายสิ?”
--------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้