เหล่าญาติสนิทมิตรสหาย อดีตอาจารย์ ต่างกำลังห่วงใยเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยกันทั้งสิ้น หวังว่าเธอจะปรับตัวเข้ากับชีวิตในมหาวิทยาลัยหัวชิงได้แล้ว และบรรลุผลสำเร็จทางการศึกษาที่เหนือกว่าเดิม
ส่วนคนที่มีความชิงชัง มีความแค้นเคือง ก็กระหายให้เธอประสบอุปสรรคทุกด้านในมหาวิทยาลัยหัวชิง สูญเสียเกียรติยศอันน่ายกย่อง และกลมกลืนเลือนหายไปกับคนอื่นๆ
แน่นอนว่าคนพวกนี้ทำได้เพียงปลอบใจตนเองแบบนี้นั่นแล อย่างเช่นเซี่ยเสี่ยวหลานกับเซี่ยจื่ออวี้ สอบเข้าหัวชิงกับสอบเข้าวิทยาลัยฝึกหัดครูในต้นยุค 80 พื้นเพครอบครัวเหมือนกัน ทว่าจุดเริ่มต้นหลังจบการศึกษาของทั้งสองคนจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากเซี่ยเสี่ยวหลานประพฤติตนดีเยี่ยมขณะเรียนมหาวิทยาลัย ตอนบรรจุตำแหน่งงานจะได้ไปยังหน่วยงานชั้นยอดอย่างแน่นอน ส่วนเซี่ยจื่ออวี้ผู้จบการศึกษาจากวิทยาลัยฝึกหัดครูนั้นต่างออกไป บางหน่วยงานเลือกนักศึกษาจากหัวชิงหรือจิงต้าเป็อันดับต้น นักศึกษาจากจงเคอต้า [1] เองก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน หลังจากนั้นตามมาด้วยเหรินต้า จิงซือต้า... ส่วนจิงซือเยวี่ยน [2] น่ะหรือ ชื่อต่างกับจิงซือต้าแค่ตัวอักษรเดียว แต่ถูกจัดอันดับไว้ค่อนข้างห่างไกลน่ะสิ
ด้วยความแตกต่างนี้ หวังเจี้ยนหัวที่มีบิดาทำงานในฝ่ายอุดมศึกษา คงพอเทียบเทียมได้
ทว่าเซี่ยจื่ออวี้ไม่มี พื้นเพครอบครัวของเธอกับเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่แค่เหมือนกัน เพราะชัดเจนว่าทั้งสองมาจากครอบครัวชนบทเดียวกัน บิดามารดาของเซี่ยเสี่ยวหลานหย่าร้าง เซี่ยต้าจวินพ่อแท้ๆ หายสาบสูญไปนานกว่าครึ่งปีแล้ว เดิมทีเซี่ยจื่ออวี้เป็ต่อเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่บ้าง เนื่องจากบิดามารดาเธอเปิดร้านอาหารว่างอีกด้วย แม้ถึงเวลาบรรจุตำแหน่งงานจะช่วยอะไรไม่ได้ อย่างไรก็ตามฐานะทางการเงินของครอบครัวเซี่ยจื้ออวี้ยังคงถือว่าดีกว่า
พอถึงตอนนี้ เซี่ยต้าจวินหายสาบสูญ เซี่ยฉางเจิงก็กลายเป็คนพิการเสียแขนหนึ่งข้างแล้ว
เซี่ยจื่ออวี้มีพ่อแบบนี้ ไม่มีอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานเสียยังดีกว่า เซี่ยต้าจวินช่วยอะไรไม่ได้ ทว่าอย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ได้เป็ภาระ ส่วนเซี่ยฉางเจิงกลับกำลังถ่วงเซี่ยจื่ออวี้อยู่จริงๆ แม้ขับไล่ศัตรูหัวใจอย่างหลิ่วซานไปได้สักพัก หวังก่วงผิงเองก็เริ่มให้ความสำคัญต่อเธอ และหร่านซูอวี้ยังบอกว่าจะคืนเงินให้บ้านเซี่ยด้วย อีกทั้งครอบครัวหวังเจี้ยนหัวยัง้าพบบิดามารดาของเซี่ยจื่ออวี้ เซี่ยจื่ออวี้คิดไปคิดมา เธอขอปฏิเสธชั่วคราวดีกว่า
ตอนนี้ยังไม่ได้ บิดาเธอมีสภาพเช่นนั้น หากพบปะกันจะพูดอะไรได้
และมารดาเธอก็ยังไม่ได้ตั้งหลักในปักกิ่งอย่างมั่นคงอีกด้วย พออยู่ต่อหน้าบิดามารดาของหวังเจี้ยนหัว อาจทำลายความประทับใจอันน้อยนิดที่เธออุตส่าห์สร้างขึ้นมาจนแหลกละเอียดเอาได้
เซี่ยจื่ออวี้จะไม่ปล่อยมือจากหวังเจี้ยนหัวอย่างแน่นอน
หลังเื่ชั้นเรียนกวดวิชาถูกเปิดเผยต่อหวังก่วงผิง เซี่ยจื่ออวี้ก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอยู่พักใหญ่
เมื่อมีหวังเจี้ยนหัวช่วย นักศึกษาในวิทยาลัยที่ตอนแรก้าเขี่ยเซี่ยจื่ออวี้ทิ้งและรวมตัวกันทำชั้นเรียนกวดวิชาด้วยตนเองก็กลับกลายเป็ซื่อสัตย์ทันที
หวังก่วงผิงยังคาดหวังอีกด้วยว่าชั้นเรียนกวดวิชานี้จะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ประชาสัมพันธ์ให้ดี เพื่อปูทางให้บุตรชายอย่างหวังเจี้ยนหัว จะปล่อยให้นักศึกษาที่เหลือมีความคิดอื่นได้เสียที่ไหน? เขาไม่จำเป็ต้องทำสิ่งใดเลย แค่ส่งคนไปโผล่หน้าที่ชั้นเรียนกวดวิชาบ่อยๆ นักศึกษาของวิทยาลัยก็รู้แล้วว่าเซี่ยจื่ออวี้กำลังคบค้าสมาคมกับพวก ‘บุคคลใหญ่โต’
สำหรับนักศึกษาธรรมดา เ้าหน้าที่สำนักงานคนหนึ่งของฝ่ายอุดมศึกษาคือบุคคลใหญ่โตน่ะสิ
เมื่อเซี่ยจื่ออวี้มีบุคคลใหญ่โตหนุนหลัง ชั้นเรียนกวดวิชาก็ยิ่งมีความน่าประทับใจมากขึ้น ชั้นเรียนภาคฤดูร้อนจบลงแล้ว นักเรียนมากมายยังคงเรียนที่สถาบันกวดวิชาแห่งนี้ต่อ และเปลี่ยนเป็นักเรียนของ ‘ชั้นเรียนสุดสัปดาห์’
อันที่จริงเซี่ยจื่ออวี้ดึงหวังก่วงผิงเข้ามามีส่วนร่วมกับชั้นเรียนกวดวิชาเพื่อขับไล่ศัตรูหัวใจในตอนแรกเท่านั้น ทว่าไม่คิดเลยว่าจะได้ผลลัพธ์อื่นที่น่าพอใจอีกด้วย
ถ้าไม่มีหวังก่วงผิง ไม่ใช่แค่พวกนักศึกษาของวิทยาลัยที่คิดหักหลัง กระทั่งโรงเรียนที่เซี่ยจื่ออวี้เช่าสถานที่ก็สามารถสลัดเซี่ยจื่ออวี้ทิ้งได้เหมือนกัน... เหล่าครูมือสมัครเล่นจากวิทยาลัยฝึกหัดครูสามารถหาเงินจำนวนนี้ได้ ในขณะที่โรงเรียนมียอดอาจารย์ที่ปฏิบัติหน้าที่มานานหลายปี ทำไมจะทำด้วยตนเองไม่ได้?
ความผิดปกติเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าเซี่ยจื่ออวี้ััไม่ได้
แต่จะแก้ไขอย่างไร?
ก็เหมือนที่เธอแนะนำจางชุ่ยให้ขายอาหารว่าง ร้านอาหารว่างทำรายได้ดีก็จริง ทว่าพอเจออุปสรรค เซี่ยจื่ออวี้เองก็ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการสักเท่าไร
เนื่องจากวุ่นวายอยู่กับธุรกิจของตน เซี่ยจื่ออวี้จึงหย่อนยานเื่การเรียนเสียแล้ว ไม่ต้องพูดถึงขบวนเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีวันชาติอะไรนั่น เธอไม่รู้สึกสนใจเกี่ยวกับสิ่งนั้นเลยแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นเธอก็ไม่กล้าพูด เพราะคนบ้านหวังตื่นเต้นมาก รวมถึงคนอื่นๆ รอบตัวก็ตื่นเต้นมากเช่นเดียวกัน
วิทยาลัยฝึกหัดครูไม่มี ‘ขบวนเกียรติยศ’ ดั่งเช่นมหาวิทยาลัยหัวชิง ขบวนของพวกเขาร่วมเดินกับมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง นักศึกษาวิทยาลัยฝึกหัดครูรู้สึกผิดหวังทีเดียว หวังก่วงผิงเองก็ผิดหวังเช่นกัน วิทยาลัยฝึกหัดครูยังดีไม่พอน่ะสิ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ตกอับ หวังเจี้ยนหัวก็คงไม่เสียเวลาไปหลายปีแบบนี้
เมื่อก่อนหวังเจี้ยนหัวมีผลการเรียนไม่เลว เนื่องจากเขาสามารถเข้าถึงทรัพยาการทางการศึกษาที่ดีที่สุดได้มาโดยตลอด การสอบเข้าหัวชิงหรือจิงต้าจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา
ทว่าตอนอยู่ในไร่และยังไม่ได้กลับเมือง เขาคิดแค่หวังเจี้ยนหัวสอบเข้าเรียนในปักกิ่งได้ก็พึงพอใจแล้ว ตอนนี้หวังก่วงผิงกลับรู้สึกเสียดาย—แต่เขาไม่รู้เลยสักนิด แม้หวังเจี้ยนหัวจะสอบไม่ติดหัวชิงหรือจิงต้า หากหนึ่งปีก่อนหวังเจี้ยนหัวไม่ได้เลือกเซี่ยจื่ออวี้ เขาคงมีแฟนสาวที่ศึกษาในหัวชิงแล้ว
เซี่ยจื่ออวี้พูดเื่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดหัวชิงออกมา เป็การชิงลงมือก่อน โดยป้ายสีใส่ภาพลักษณ์เซี่ยเสี่ยวหลานต่อหน้าหวังเจี้ยนหัว
เมื่อหวังเจี้ยนหัวฟังแล้วกลับรู้สึกประหลาดใจมากกว่าโกรธ
ตามหลักเหตุผลแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานที่ร้ายกาจเช่นนี้ เขาควรรังเกียจเดียดฉันท์และระมัดระวังตัว
อย่างไรก็ตามเขาเองก็มีความรู้สึกพวกนี้อยู่จริงๆ
ทว่าภายใต้ความรู้สึกรังเกียจและระวัง มากกว่านั้นคือความเหลือเชื่อ คือความประหลาดใจ คือเหล่าความรู้สึกซับซ้อนหลากหลายที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย
เซี่ยเสี่ยวหลานสวยเย้ายวนใจก็จริง ทว่าความคิดของเธอตื้นเขินเสียจนสามารถมองทะลุผ่านได้อย่างง่ายดาย หวังเจี้ยนหัวเคยคิดว่าเขานั้นรู้จักเซี่ยเสี่ยวหลานดี รวมถึงความชอบที่เซี่ยเสี่ยวหลานมีให้เขาด้วยเช่นกัน
แต่หลังจากคบกับเซี่ยจื่ออวี้ หวังเจี้ยนหัวพบว่าเหมือนเขาจะไม่เคยเข้าใจเซี่ยเสี่ยวหลานเลย
เซี่ยเสี่ยวหลานทำให้เขาคาดไม่ถึงครั้งแล้วครั้งเล่า—ไม่ เขาไม่ควรโดนหญิงสาวใบหน้าสดสวยจิตใจร้ายกาจคนนี้ล่อลวง เขาแค่กำลังสอดส่อง อยากจะยืนยันให้แน่ใจว่าเซี่ยเสี่ยวหลานทำเื่พวกนั้นหรือไม่ก็เท่านั้น!
หวังเจี้ยนหัวและเซี่ยจื่ออวี้ได้รับเลือกเข้าร่วมเดินขบวน สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งรวมตัวกันเป็จำนวนหลักหมื่นคน ทั้งหมดได้ไปเตรียมพร้อมในซอยซึ่งห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรทางทิศตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมินั้แ่เที่ยงคืน ที่นี่แสงไฟสว่างไสว สามารถมองเห็นนักศึกษาจากแต่ละมหาวิทยาลัยได้อย่างชัดเจน นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหัวชิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากเครื่องแต่งกาย
หวังเจี้ยนหัวกับเซี่ยจื่ออวี้เข้าใจกันโดยไม่ต้องปริปาก พวกเขาต่างพากันมองหาร่องรอยของเซี่ยเสี่ยวหลานท่ามกลางฝูงชนจากหัวชิง
ครั้งนี้หัวชิงจัดให้นักศึกษาใหม่ปีหนึ่งเดินขบวน สำหรับรายการนี้เซี่ยเสี่ยวหลานคงถูกเลือกสินะ?
คนที่รู้จักกันจากแต่ละสถาบันเดินไปเดินมาจนทั่ว แม้แต่เหล่าอาจารย์ก็ไม่สามารถห้ามได้ เดิมทีการเดินขบวนก็ไม่ค่อยเข้มงวดมากนัก ไม่เหมือนกับการฝึกอย่างเคร่งครัดของ ‘ขบวนเกียรติยศ’ ทว่ามองหาตั้งหลายรอบ ยังคงไม่เห็นกระทั่งเงาของเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ดี
คงไม่ใช่ว่าไม่มาร่วมการเดินขบวนจริงๆ หรอกนะ?
เซี่ยจื่ออวี้อยากหัวเราะ ดูเหมือนเธอจะประเมินเซี่ยเสี่ยวหลานสูงเกินไปแล้ว... บางทีในมหาวิทยาลัยหัวชิง อย่างเซี่ยเสี่ยวหลานนั่นก็ไม่ได้ถือว่าเลอเลิศสินะ
เซี่ยจื่ออวี้ไม่อยากคิดถึงความแตกต่างทางสถานะที่เป็ไปตามธรรมชาติระหว่างวิทยาลัยฝึกหัดครูกับหัวชิง ตอนนี้ทุกสิ่งของเธอกำลังราบรื่น มันย่อมดีกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานมีคะแนนเกาเข่าดีหรือเรียนมหาวิทยาลัยดีแล้วอย่างไร มีพ่อสามีที่ทำงานในกระทรวงศึกษาธิการไหมเล่า?
หวังก่วงผิงกลับมารับราชการ ความแตกต่างระหว่างเธอกับเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นห่างออกจากกันอีกครั้งแล้ว!
เซี่ยจื่ออวี้ยังคงจมอยู่ท่ามกลางความภาคภูมิใจในตัวเอง อยู่ๆ ก็ได้ยินเพื่อนร่วมหอของหวังเจี้ยนหัวพูดขึ้นโดยใช้น้ำเสียงที่เกินจริงมาก
“เจี้ยนหัวนายดูสิ ขบวนเกียรติยศตรงนั้นน่ะ บุคลิกท่าทางของสาวๆ สุดยอดไปเลย... ชุดสีน้ำเงินจากจิงต้า เสื้อกางเกงขาวจากหัวชิง นั่น นายดูผู้หญิงคนนั้น หน้าตาอย่างกับดาราในโทรทัศน์เชียวล่ะ!”
ในขณะที่ขบวนทางนี้ไม่เป็ระเบียบ ขบวนเกียรติยศที่อยู่อีกฝั่งของถนนได้จัดแถวเรียบร้อยกว่ามากยิ่งนัก
หวังเจี้ยนหัวมองตามทิศทางที่เพื่อนร่วมหอชี้ไป ขบวนเกียรติยศเสื้อขาวกางเกงขาวดูโดดเด่นมากจริงๆ ด้วย คนที่ยืนอยู่ริมแถวแรก—คือเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่รึ?
เซี่ยเสี่ยวหลานจะถูกเลือกเข้าร่วมขบวนเกียรติยศได้อย่างไร!
เซี่ยจื่ออวี้กัดริมฝีปากแน่น
ก็แค่ขบวนเกียรติยศ มันบอกอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ใช่ไหมเล่า?
เธอกำลังปลอบตนเองเช่นนี้ ทว่าหวนนึกถึงคำพูดแกมถอนหายใจของหวังก่วงผิง ‘ถ้าพวกเธออยู่ในมหาวิทยาลัยอย่างหัวชิงหรือจิงต้าก็คงดีไม่น้อย’
เชิงอรรถ
[1]中科大 จงเคอต้า คือ ชื่อย่อของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน (中国科学技术大学)
[2]京师院 จิงซือเยวี่ยน คือ ชื่อย่อของวิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้