เสี่ยวอู่ครุ่นคิด สุดท้ายจึงพูดโน้มน้าว
“ความจริงแล้วนะคุณชาย ท่านกับนายหญิงมิช้าก็เร็วย่อมจะเป็ครอบครัวเดียวกัน ตอนนี้คุณหนูเชวียนเชวียนไปอยู่ในมือของฮูหยินผู้เฒ่า ไม่ถือว่าเป็เื่แย่ คิดไปแล้ว ไม่นานคงจะต้องรวมตัวเข้าด้วยกัน เพียงแต่ ตอนนี้พวกท่านต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่ายอมรับให้ท่านอยู่กับนายหญิง”
“แม้ก่อนหน้านี้ฮูหยินใหญ่คนก่อนจะเสียไปแล้ว แต่จากวิธีทั่วไปของสกุลโจว พวกเขาจะต้องอยากหาคนที่มีประโยชน์ต่อสกุลโจว หรือให้คนของเรือนอื่นยกเข้ามา”
แม้แต่อู่เอ๋อร์ยังคิดถึงปัญหานี้ได้ แน่นอนว่าโจวอ้าวเสวียนย่อมคิดถึงเื่นี้ได้เช่นกัน
เขาโบกมืออย่างหงุดหงิด “รู้แล้ว เ้าไปทำงานเถิด แล้วก็ ตรงนั้นของถวนถวนไม่เป็อะไรจริงๆ ใช่หรือไม่? เหตุใดโม่เต้าจื่อนั่นถึงยังไม่ปรากฏตัว?”
จากหลายวันที่อยู่กับถวนถวนมากขึ้น โจวอ้าวเสวียนได้รู้เื่ที่เขาไม่เคยรู้ ยิ่งรู้มากเข้าจึงยิ่งสงสารทั้งสามแม่ลูก
เช่นตอนนี้ เขาหมือนกับเฉินเนี้ยนหราน ที่คิดถึงเชวียนเชวียน รอคอยให้ครอบครัวมาอยู่รวมกันอย่างที่ไม่เคยเป็เช่นนี้มาก่อน
“ครั้งนี้โม่เต้าจื่อกับลูกศิษย์ของเขาไปชนบทเพื่อขุดศพ เห็นเขาบอกว่าจะต้องรอสักครึ่งปีถึงจะกลับมาได้ ก่อนจะไป โม่เต้าจื่อได้พูดความจริงเอาไว้แล้วว่า การาเ็ของเด็กอย่างคุณชายเล็ก แม้ตอนนี้จะเหมือนรักษาหายดีแล้ว แต่ต้องใช้โอสถบางอย่างถึงจะสามารถรับประกันได้ว่าต่อไปจะไม่มีโรคเรื้อรังในภายหลัง ที่ท่านเซียนเดินทางไปชนบทในครั้งนี้ เหมือนจะไปหาโอสถนั้นมาด้วย”
“ถือว่าเขามีน้ำใจ”
“จริงสิได้ยินมาว่าคุณท่าน...รับภรรยาเพิ่มอีกแล้ว”
เื่นี้ถูกเขียนมาในจดหมายด้วย
“รับก็รับไปสิ” โจวอ้าวเสวียนยิ้มเย็น สำหรับบิดาของเขาคนนี้ ทำได้แค่ปฏิบัติกับเขาอย่างเ็า
“ยังมีคุณชายใหญ่ เหมือนจะเข้ากับคนเบื้องบนได้ไม่เลว ่นี้เตรียมจะรับอนุที่สิบเข้ามาเพิ่ม”
โจวอ้าวเสวียนสำลัก สำหรับสองพ่อลูกนี้ งานอดิเรกเหมือนกันจริงๆ
“เหอะๆ ดูเหมือนว่า ฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาในครั้งนี้ คง้าให้ข้าผู้เป็หลานให้รางวัล ช่างเถิด ใส่เงินสองร้อยก้วนไป คนละหนึ่งร้อยก้วนแล้วส่งกลับไป”
เสี่ยวอู่ตะลึง ก่อนจะพยักหน้ารับ
จะต้องพูดว่า การส่งของขวัญให้ทุกคนสองร้อยก้วน มันน้อยไปจริงๆ แต่คุณชายสั่งไปแล้ว จะต้องมีเหตุผลของเขา
“ไปเถิด ไปเถิด เ้าเองก็ด้วย สามี คืนนี้ตอนที่ข้าบรรยาย เ้าช่วยให้ความร่วมมือแสดง ข้าเชื่อว่าจะได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น”
“ไม่ไป ตีให้ตายข้าก็ไม่เข้าไปอยู่ในวงของสตรี นอกเสียจากต่อไปเ้าอยากให้ข้าถูกคนอื่นๆ หัวเราะเยาะ”
ล้อเล่นกันหรือไร งานบรรยายวันนี้เป็การรวมตัวสตรีทั้งกลุ่ม เขาที่เป็บุรุษแต่งสตรีจะเข้าไปร่วมด้วยเพื่อเหตุใด?
“ไม่เอาสิ สามี สามี...เช่นนี้ คืนนี้ ข้าจะรุก...พวกเรา...”
เอาสิ สตรีหน้าไม่อาย เพื่อที่จะพูดโน้มน้าวสามีตนเอง ถึงขั้นต้องใช้เอาเื่ใต้ผ้าห่มมาหลอกล่อเสียแล้ว
“เอาเถิด...เห็นแก่ที่เ้า้าให้ข้าไป คืนนี้จะทำตามที่เ้า้า”
ในที่สุดคนบางคนก็พยักหน้า แต่กลับทำให้เฉินเนี้ยนหรานทำหน้าหงิก
ใน่นี้ต้องคอยออกกำลังกายในร่มเช่นนี้ จะเกิดปัญหาหรือไม่ หากตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกจะทำเช่นไร?
เฮ้อ ช่างเถิด รับมือกับงานก่อนแล้วกัน ส่วนเื่ลูกค่อยว่ากันทีหลัง สำหรับปัญหาป้องกันการตั้งครรภ์ในยุคสมัยนี้ นางเองก็หมดปัญญาเช่นกัน
คืนวันนั้น เหล่าสตรีชั้นสูงที่มาถึงทางร้าน มีจำนวนเกือบห้าสิบกว่าคน
สตรีมากมายเช่นนี้มาฟังบรรยาย เป็จำนวนที่เกินกว่าเฉินเนี้ยนหรานคาดเอาไว้ เพราะเหตุนี้ นางจึงเชิญทุกคนเข้าไปด้านในก่อน สมัคร ลงชื่อ และค่อยวางของไว้ด้านข้าง
หลังจากผลัดกันแนะนำตัวซึ่งกันและกันแล้ว นางจึงเริ่มบรรยาย
สำหรับอาชีพด้านการขาย ตอนอยู่ในยุคปัจจุบันเฉินเนี้ยนหรานเคยััมันมาก่อนและเคยทำมาก่อนเช่นกัน ตอนนั้นแม้จะไม่ได้เป็ผู้จัดการฝ่ายขาย แต่นับเป็หัวหน้าของฝ่ายขายอยู่่หนึ่ง เพราะเป็เช่นนี้ ดังนั้นตอนนี้จะต้องพูดโน้มน้าวใจกลุ่มสตรีและทำให้พวกนางหวั่นไหว
วิธีที่นางใช้คือผลักโจวอ้าวเสวียนออกไปก่อน
“ทุกท่านเ้าคะ พวกท่านคิดว่าการแต่งหน้าของแม่นางอู๋ซวงในวันนี้งดงามหรือไม่?”
ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันว่างดงาม แต่หลังจากนั้นกลับมีสตรีที่ค่อนข้างละเอียดพบถึงความผิดปกติ
“ไม่ค่อยดีสักเท่าใด ข้าเห็นว่า แม่นางอู๋ซวงในวันนี้เหตุใดถึงได้แปลกๆ เช่นนั้น?”
“ถูกต้องเ้าค่ะ สายตาของฮูหยินท่านนี้ดีมาก ดูจากการแต่งตัวของฮูหยินแล้ว คิดว่าฮูหยินเองก็แต่งกายงามมาก แล้วยังมีพวกเครื่องประดับบนเสื้อผ้า แม่นางอู๋ซวงในวันนี้ แต่งตัวไม่ดีจริงๆ นางยังคงเป็นาง แต่เป็เพราะผลของการแต่งตัวที่ไม่ดี หากมองอย่างละเอียดย่อมพบว่ามันไม่เข้ากันเลย”
“อย่างเช่น เสื้อตัวบนของนางในวันนี้ เป็เสื้อสีแดงอ่อน ด้านล่างยังเป็กระโปรงยาวสีแดงเข้ม ถึงแม้จะเป็สีแดงทั้งตัว แต่สีแดงด้านล่าง กลับสีสดกว่า้า เมื่อเป็เช่นนี้จะทำให้ความรู้สึกในการมองของคนจะสนใจเพียงกระโปรงตัวล่างของนาง ไม่ใช่้า”
“ทั้งๆ ที่นางในวันนี้ยังใส่เครื่องประดับง่ายๆ หนึ่งชิ้น เครื่องประดับนี้ เป็เพียงเครื่องประดับที่งดงามหนึ่งชิ้น แต่ไม่เหมาะกับการแต่งหน้าสีแดงสด ในตอนนี้ข้าอยากจะสอนพี่สาวน้องสาวทุกท่าน ว่าจะจัดเสื้อผ้าและเครื่องประดับอย่างไรให้เข้ากัน”
เพื่อประสิทธิภาพในการแสดง เฉินเนี้ยนหรานจึงให้โจวอ้าวเสวียนเปลี่ยนกระโปรงเข้าคู่กัน
แน่นอนว่า ตอนที่เปลี่ยนจะต้องเป็ที่ที่ไม่มีคน
จะให้โจวอ้าวเสวียนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าสตรีอื่น เฉินเนี้ยนหรานไม่มีทางทำ
จะให้ผู้อื่นมองสามีของตนเอง เช่นนั้นก็เหมือนให้ผู้อื่นได้ผลประโยชน์ไปเปล่าๆ น่ะสิ
เมื่อแต่งตัวใหม่อีกครั้งแล้วปรากฏตัวออกมา ทุกคนล้วนรู้สึกว่าตรงหน้าสว่างวาบขึ้น ความรู้สึกขัดแย้งก่อนหน้า ได้หายไปแล้วในวินาทีนี้
“พอเป็เช่นนี้ ดูแล้วไม่เลวเลยจริงๆ เหมือนจะสวยขึ้นมากเลย”
“ใช่ ปกติแล้วทุกคนต่างเห็นแม่นางอู๋ซวงล้วนแต่แต่งตัวหรูหรา วันนี้ข้าได้ให้นางเปลี่ยนภาพลักษณ์ โดยการเปลี่ยนนางให้เป็สตรีงดงามเรียบร้อย ทุกท่าน โปรดรอสักครู่นะเ้าคะ”
นางแย้มยิ้มให้ทุกคนรอสักครู่ ส่วนตนเองคอยแต่งตัวให้กับโจวอ้าวเสวียน โดยการแก้ไขคิ้วก่อน แล้วค่อยร่างโครงหน้าให้เด่นขึ้น จุดใดควรซ่อนก็ซ่อน จุดใดควรจะเด่นออกมา ก็ให้มันเด่นขึ้นไปอีก
“การแต่งหน้านั้น จะต้องแสดงจุดเด่นเลี่ยงจุดด้อย เอาจุดเด่นของตัวเองออกมาให้ทุกคนเห็น ส่วนจุดด้อยก็เลี่ยงมันไป เมื่อเป็เช่นนี้ ย่อมจะแสดงความงามของตนเองออกมาตรงหน้าทุกคน โดยเฉพาะผิวของแม่นางอู๋ซวง พวกเราไม่ต้องทาเครื่องประทินโฉม เพียงแค่ไล้บนโครงหน้าง่ายๆ ไม่กี่ที ย่อมจะงดงาม ทำให้รู้สึกสบายตา ทั้งยังสง่า สุดท้ายเข้าคู่กับสร้อยเส้นนี้ จะรู้สึกว่านางไม่เหมือนยามปกติหรือไม่?”
ยามใส่สร้อยที่ใช้เปลือกหอยมาร้อยกันเสร็จ ทุกคนต่างอยู่ในอาการตกตะลึง
“แม่ แม่นางที่สง่างามเช่นนี้ คือแม่นางอู๋ซวงจริงๆ หรือ”
มีคุณหนูที่เมื่อครู่ออกไปข้างนอกแล้วเพิ่งกลับเข้ามาใ ไม่อยากเชื่อว่าแม่นางที่ดูสง่างามสูงส่งผู้นี้ คืออู๋ซวงที่หน้าตางดงามคนนั้น
หลังจากได้รับการยืนยันจากทุกคน แล้วมองดีๆ ถึงได้รู้ว่าคนคนนี้คือแม่นางอู๋ซวงจริงๆ
ในตอนนั้นมีคนใจนถึงขั้นลุกขึ้นมาสอบถามว่าสามารถทำให้นางเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปได้หรือไม่
สตรีนางหนึ่งที่ค่อนข้างร่าเริง ได้ขอให้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของนางให้ไม่เหมือนกับยามปกติ นางในเวลาปกติจะใช้รูปลักษณ์สวยงามบริสุทธ์ปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่น ในวันนี้นางอยากจะเป็เป็สตรีที่งดงาม
“ได้เ้าค่ะ ไม่มีปัญหา ข้าจะเลือกชุดให้ท่านก่อน อีกเดี๋ยวจะมาทำทรงผมและแต่งหน้าให้ท่าน วางใจเถิด วันนี้ตอนที่ท่านกลับเรือนไป สามีของท่านจะต้องคิดว่าท่านเป็หญิงงามที่ใดเดินหลงมาแน่นอน”
พอพูดถึงสามี สตรีคนนั้นก็ตาแดงก่ำ
“เฮ้อ พูดแล้วก็ปวดใจ ข้าออกเรือนกับเขามาเจ็ดปีแล้ว หลายปีแรก เขายังสามารถเข้ามานอนร่วมหมอนกับข้า ทว่าสองปีมานี้ เขารับอนุเข้ามาหลายคน และไม่ยอมมาหาข้าที่เรือนอีกเลย”
เมื่อเห็นท่าทางเ็ปของนาง เฉินเนี้ยนหรานพลันยิ้มอ่อน
“วางใจเถิด ั้แ่ตอนนี้ไป ท่านจะต้องมีชีวิตเป็ของตนเอง มีชีวิตด้วยความมั่นใจ ไม่มีความรักที่แสนเ็ปของสามี ยังสามารถทำให้ท่านมีเสน่ห์ได้มากกว่าเดิม เขาไม่มาหาท่าน ไม่อยู่กับท่าน เช่นนั้นเขาก็ขาดทุน บนโลกใบนี้ไม่ใช่พวกเราห่างจากบุรุษมากแล้วจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ บุรุษห่างจากสตรีไม่ใช่ว่าจะตาย ในความเป็จริงแล้ว ในโลกของความรู้สึกนี้ ท่านอย่าได้จริงจังมากเกินไป หากจริงจัง ท่านจะแพ้”
หลายคนต่างเห็นด้วย เฉินเนี้ยนหรานจึงยิ้มเสริมไป
“อีกอย่าง พวกท่านมีความเข้าใจผิดอยู่อย่างหนึ่งคือหากไม่ได้รับความรักจากสามี มักจะโศกเศร้ามาก แต่ละวันทำหน้าทุกข์ตรม มองรูปลักษณ์ของสตรีที่ทุกข์ใจในกระจกแล้ว ข้าขอถามพวกท่าน หากพวกท่านเป็บุรุษ ท่านจะชมชอบสตรีที่ทำหน้าระทมทุกข์คนนี้หรือไม่? สตรีที่อ่อนโยนอ่อนเยาว์มีพลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา เทียบกับสตรีกลางคนผอมแห้ง ผิวเหลือง ทำสีหน้าโศกเศร้า หากเปลี่ยนข้าเป็บุรุษ ข้าย่อมจะเลือกสตรีที่อ่อนเยาว์มีพลัง สตรีนั้นไม่สามารถไม่ดูแลตัวเองได้ ไม่ว่าเมื่อไรย่อมต้องมีชีวิตอย่างมีสีสัน และมีชีวิตให้ตนเองมีเสน่ห์ขึ้นมา”
ด้วยการพูดเช่นนี้ การแต่งหน้าของสตรีนางนั้นก็ถูกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะส่งกระจกเข้าไปที่มือของนาง “อา...นี่คือข้าหรือ?”
เมื่อสตรีที่ปกติจะจริงจังเคร่งขรึมเห็นหญิงสาวที่ดูอ่อนเยาว์งดงามที่อยู่ในกระจกถึงขั้นตะลึงไป สีหน้าตื่นเต้นฉายออกมาอย่างปิดไม่มิด “ข้า ข้าเองก็งดงามสะกดใจคนได้เช่นนี้หรือ?”
นางลูบใบหน้าของตนเองที่ยามนี้เปลี่ยนมางดงามอย่างไม่อยากเชื่อ
ใบหน้ารูปไข่ที่เคยคุ้นเคย บัดนี้ดูแล้วงดงามสะกดใจคนเช่นนี้ ดวงตาที่เคยหม่นหมองกลับถูกเขียนให้โค้งเล็กจนดวงตาค่อยๆ โค้งขึ้นเล็กน้อย แต่กลับทำให้มีเสน่ห์หลากหลายมากขึ้น
นางที่เป็เช่นนี้ มีตรงที่ใดยังเป็คนเคร่งขรึมน่ากลัวดังเช่นยามปกติกัน มีเพียงเสน่ห์มากมายเท่านั้น แค่แต่งเพิ่มไปไม่เท่าไรกลับสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์คนคนหนึ่งไปได้มากถึงเพียงนี้
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่างตกตะลึง
เฉินเนี้ยนหรานมีความสุขมากกับการนำหลักศิลปะของยุคปัจจุบันมาใช้ในยุคโบราณนี้
“อืม ความจริงแล้วใบหน้าของพวกเรามีทั้งจุดดีและไม่ดี บนใบหน้าก็เหมือนกับการแต่งตัว ท่านจะต้องดึงข้อดีกลบจุดด้อยเอาไว้ อย่างเช่นหลิวฮูหยินท่านนี้ นางมีดวงตาที่สวยงามเป็ทุนเดิม ดวงตายาวๆ ซึ่งปกติมักจะทำหน้าตึง จนทำให้ความงามนี้ลดหายไป”
