ครั้งนี้ ิอวี่ทำให้นางเสียโอกาสได้ใกล้ชิดรู้จักกับซูอี้หรานให้มากขึ้น เิหยูเยียนนั้นโมโหมากจริงๆ แล้ว เมื่อครู่นางอยากจะลงมือสั่งสอนิอวี่จริงๆ
แต่ใครจะไปคิดว่า จะมีศิษย์ขอบเขตอมฤตขั้นที่สองสองคนมาเห็นเข้าพอดี และขัดขวางการลงมือของนาง
มันทำให้เิหยูเยียนนั้นไม่พอใจอย่างมาก แต่นางก็คิดขึ้นมาได้ว่า ครั้งที่แล้วนางตบหน้าิอวี่ไปเขาก็ไม่ได้ตอบโต้ เขาจะคิดหรือเปล่าว่าเพราะนางสนใจเขาถึงได้โกรธ ถึงได้ตบเขา? หากครั้งนี้นางลงมือกับิอวี่อีก เขาจะรู้สึกว่า ... เขาที่อยู่ในใจของนางนั้นมีตำแหน่งความสำคัญที่สูงมากหรือเปล่า?
พอคิดได้แบบนี้ เิหยูเยียนก็รู้สึกขยะแขยง
ิอวี่ทำให้นางเ็ป ทำให้นางคิดอยากจะฉีกเขาออกเป็ชิ้นๆ
แต่เิหยูเยียนก็เข้าใจดี เื่ที่เกิดขึ้นแล้วมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ การลงมือกับิอวี่ก็ไม่ได้ทำให้าแในใจนั้นหายดี ตอนนี้นางจะต้องหลุดพ้นจากิอวี่ ... ลืมเขาไปให้เร็วที่สุด ...
นางไม่อยากให้ิอวี่มาทำอะไรที่เป็การทำลายความสัมพันธ์ระหว่างนางกับซูอี้หราน ไม่อยากเห็นผู้ชายคนไหนคิดไปเอง
ถ้าอย่างนั้นเ้าก็ดูให้ดี ต่อให้หน้าของเ้าจะด้านแค่ไหน อย่างไรก็ต้องเจียมตัวบ้าง!
“แม่สาวน้อย คำพูดนี้ข้าไม่ชอบฟังเลยนะ”
ในเวลานี้เอง ชายหนุ่มคนหนึ่งตรงหน้าก็ส่ายหน้าแบบกวนๆ แล้วพูดว่า “เราเป็ศิษย์ชั้นยอดของฟางหลิงจวิน พลังฝีมือเหนือกว่าเ้า แต่เ้ากลับบอกว่าจะจัดการเราทั้งหมดคนเดียว เหมือนว่าเ้าจะดูถูกเราเกินไปนะ”
ชายคนนี้ชื่อว่าอวี่ชง เขาได้อันดับที่เจ็ดในศึกหอคอยเลี่ยนถ่า
ส่วนคนข้างๆ นั้นมีชื่อว่าข่งหลินเฟิง มีพลังฝีมือขอบเขตอมฤตขั้นที่สองสูงสุดเช่นกัน ได้อันดับที่แปดในศึกหอคอยเลี่ยนถ่า
ถึงแม้ผลคะแนนจะดีไม่เท่าเิหยูเยียน แต่ว่าเิหยูเยียนก็ยังมีระดับพลังต่ำกว่าพวกเขาอยู่หนึ่งขั้น อีกอย่าง พวกเขามีกันสองคน แต่เิหยูเยียนนั้นมีแค่คนเดียว แล้วจะลงมือกับพวกเขาได้อย่างไร?
ถึงร่วมมือกับิอวี่ พวกเขาก็มั่นใจว่าจะชนะได้!
มันเป็การกดดันของพลังฝีมือที่แข็งแกร่ง!
“ิอวี่ อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสเ้านะ เ้าจะมาช่วยกันก็ได้ มันจะได้ไม่จบเร็วเกินไป เดี๋ยวจะไม่สนุก”
สีหน้าของข่งหลินเฟิงนั้นดูสนใจมาก “แต่ข้าจะเตือนสติอะไรสักอย่าง มีดดาบมันไม่มีลูกตา หากเ้าาเ็ขึ้นมา หรือว่าเกิดฆ่าเ้าตาย แล้วไปยังยมโลกก็อย่าโทษข้าก็แล้วกันนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ิอวี่ค่อยๆ หรี่ตาลง เขาสามารถััได้ว่าลมปราณขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดของสองคนนั้นหนาแน่นมาก แต่เขาก็เตรียมจะรับมือไว้แล้ว สัจธรรมเพลิงในดวงจิตเทวะนั้นก็เริ่มลุกโชนขึ้นมา
เขาเตรียมเข้าร่วมวงการต่อสู้แล้ว!
“เ้ายืนเฉยๆ อย่าขยับ”
เิหยูเยียนกลับพูดแบบนี้ขึ้นมา มันเหมือนน้ำแข็งขั้วโลกที่หมุนวนอยู่รอบหัวของิอวี่ นางหันมามองสองคนนั้นแล้วพูดว่า “พูดไร้สาระจบแล้วก็มาเริ่มกันเลย”
พอพูดจบ เิหยูเยียนก็กระดิกข้อมือ แล้วกระบี่สีขาวเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา พลังลมปราณขอบเขตอมฤตขั้นที่สองพุ่งวนรอบกระบี่ ทำให้ตัวกระบี่นั้นเป็สีแดง
ชุดกระโปรงสีแดงของนางปลิวไสวไปพร้อมกับผมอันเงางาม ใบหน้าและดวงตาของนางกลายเป็สีม่วงราวกับความฝัน ท่าทางของนางสง่างามมีชีวิตชีวา!
จากนั้น ร่างกายของเิหยูเยียนนั้นก็สั่นไหว นางพุ่งเข้าใส่อวี่ชงด้านหน้าอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า!
อวี่ชงยิ้มมุมปาก เขาจับดาบเล่มใหญ่ และพุ่งเข้าฟันใส่เิหยูเยียนอย่างบ้าคลั่ง พลังอานุภาพบนตัวดาบบ้าคลั่งมาก มันปะทะใส่ร่างของเิหยูเยียนจนแทบฉีกขาด
ในเวลานี้เอง ข่งหลินเฟิงที่อยู่ด้านข้างก็หาจังหวะโอกาสที่เหมาะสม ใช้หอกพุ่งแทงเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู เป้าหมายอยู่ที่บริเวณหน้าท้องของเิหยูเยียน!
“หักทลายหยก”
เิหยูเยียนตะคอกเบาๆ และตวัดฟันกระบี่ออกไป แสงสีขาวพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ปะทะกับหอกจนมันกระเด็นล่าถอยไป
หักทลายหยก เป็เพลงกระบี่ของเิหยูเยียน เดิมมันก็มีระดับเท่ากับเสวียนระดับต้น อานุภาพแข็งแกร่งมาก แค่โจมตีทีเดียว เิหยูเยียนก็สามารถทำให้ข่งหลินเฟิงนั้นล่าถอยได้แล้ว
จากนั้นอวี่ชงก็โจมตีเข้ามาอีก เขาฟันดาบลงมา ลมปราณพลุ่งพล่าน ซึ่งก็เป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้น!
เิหยูเยียนใช้เพลงกระบี่ “หักทลายหยก” เพื่อต้านการโจมตีของอวี่ชง
ในเวลานี้เอง ข่งหลินเฟิงได้ทำลายลมปราณกระบี่ที่เิหยูเยียนฟันออกมาแล้ว และเขาก็ใช้หอกพุ่งแทงออกไปอย่างบ้าคลั่ง การโจมตีของอวี่ชงนั้นก็ตวัดโจมตีเข้ามาอย่างรุนแรง แต่ละกระบวนล้วนแต่เล่นเอาถึงชีวิต!
ถึงแม้เิหยูเยียนจะใช้ “หักทลายหยก” แต่สองหมัดก็สู้ศัตรูที่มีสี่มือไม่ได้ นางกำลังล่าถอย
ิอวี่ยืนอยู่ที่บริเวณซากปรักหักพัง เขามองไปที่เิหยูเยียน มองไปในดวงตาสีม่วงของนาง ทันใดนั้นเองเขาก็เหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง ...
ในการต่อสู้ เิหยูเยียนพยายามฟันกระบี่ออกไปอย่างเต็มที่ และมากพอที่จะทำให้อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงล่าถอยไปด้วยความตกตะลึง กระบี่มันพุ่งแทงไปยังบริเวณหัวใจของอวี่ชงด้วยความโกรธ แสงกระบี่มันรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด ทุกอย่างเหมือนแค่ผิวปากก็เกิดขึ้น
“เ้ากำลังรนหาที่ตาย!” ถึงแม้ข่งหลินเฟิงจะล่าถอยไปแล้ว แต่เขากลับยังคงใช้หอกพุ่งแทงไปใส่เิหยูเยียนอยู่
ข่งหลินเฟิงรู้สึกหัวเราะในใจ เิหยูเยียนคิดอยากจะทำให้พวกเขาสองคนแยกออกจากกัน จากนั้นก็ค่อยโจมตีมันเป็ความคิดที่ไม่เลวเลย แต่นางไม่มีทางขัดขวางการโจมตีของพวกเขาสองคนได้ เพราะข่งหลินเฟิงก็มีปฏิกิริยาไวมาก วินาทีที่เขากระเด็นออกไป เขาก็โจมตีอีกครั้ง พูดได้เลยว่า เขาแทบไม่ได้ให้เวลาเิหยูเยียนได้หายใจเลย!
ในความคิดของข่งหลินเฟิง เิหยูเยียนจะต้องรีบชักกระบี่กลับมาต้านหอกของเขาแน่นอน
แต่ ... เิหยูเยียนกลับไม่ได้ทำแบบนั้น นางยังคงใช้กระบี่พุ่งแทงไปที่อวี่ชงเหมือนเดิม!
จากนั้นข่งหลินเฟิงก็เห็นว่า หอกยาวนั้นมันแทงเข้าสู่ร่างกายของเิหยูเยียน
“สำเร็จแล้ว?!”
แต่ว่า ...
ข่งหลินเฟิงกลับใแล้วพบว่า หอกมันทะลุผ่านร่างกายของเิหยูเยียน แต่ไม่ได้มีเืกระเด็นออกมาเลยแม้แต่น้อย และตัวหอกยังทะลุปักไปยังเสาสีเหลืองคล้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก และร่างของเิหยูเยียนก็สลายหายไปไม่เหลือ!
“เป็ไปได้อย่างไร!”
ข่งหลินเฟิงตะลึงมาก หลังจากนั้นจู่ๆ เขาก็ััได้ว่ากำลังมีอันตรายพุ่งมาจากด้านหลังของเขา เขาใและรีบหันกลับไปมอง ก็พบว่าเิหยูเยียนมาอยู่ด้านหลังเขาั้แ่เมื่อไหร่ไม่รู้ และกำลังฟันกระบี่ผ่าตรงลงมา
ต่อให้ข่งหลินเฟิงนั้นจะมีความสามารถและปฏิกิริยาไวแค่ไหนมันก็ไม่ทันแล้ว อีกทั้งหอกของเขายังหลุดออกจากมือไปแล้ว เขาไม่มีอาวุธป้องกันอะไรเหลืออยู่เลย ทำให้ต้องยืนมองแขนซ้ายของตัวเองนั้นถูกฟันขาดไป
แขนซ้ายและหัวไหล่ซ้าย มันหลุดออกจากกัน!
ข่งหลินเฟิงร้องขึ้นมาด้วยเสียงโหยหวน และล้มลงเอามือปิดแขนซ้ายร้องด้วยความเ็ป เขาจะไปคาดคิดได้อย่างไรว่าเิหยูเยียนจะทำแบบนี้
ในความเป็จริงแล้ว ั้แ่เิหยูเยียนเริ่มต่อสู้ นางก็ใช้ดวงตาเวทแล้วทันที และเริ่มวางแผนการต่อสู้เอาไว้แล้ว
เมื่อครู่เิหยูเยียนนั้นใช้กระบวนท่าที่มีชื่อว่า “ฟองสบู่ในความฝัน” ขอแค่อีกฝ่ายไม่ทันได้ป้องกันและถูกดวงตาเวทของนางมัวเมา ถ้าอย่างนั้น เิหยูเยียนก็จะสามารถทำให้พวกเขาตกอยู่ในภาพลวงตาเป็เวลาสามวินาทีในทันที โดยจะเห็นภาพเงาของเิหยูเยียน โดยที่เงานั้นมันไม่มีอยู่จริง แต่ศัตรูจะเห็นมันเป็ของจริง!
ดังนั้น เริ่มั้แ่เิหยูเยียนแทงไปที่อวี่ชง ฟองสบู่ในความฝันก็เริ่มทำงาน!
อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงคิดว่าเิหยูเยียนพุ่งแทงเิหยูเยียนไปแล้วในเวลาสามวินาที แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าใน่เวลาสั้นๆ เิหยูเยียนกลับอ้อมไปอยู่ด้านหลังของข่งหลินเฟิง!
ในเวลานี้ เห็นข่งหลินเฟิงถูกตัดแขนซ้ายแล้ว อวี่ชงก็ตื่นตระหนกอย่างมาก เมื่อครู่เขาคิดว่าเิหยูเยียนนั้นอยู่ด้านหน้าของเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเหตุการณ์จะเป็อย่างนี้
เขาถอยหลังไปแบบทุลักทุเล
เิหยูเยียนกลับไล่จี้ตามไป นางฟันกระบี่ออกมาจากระยะห่างจากอวี่ชงสิบเมตร ลมปราณรวบรวมไปบนกระบี่ หลังจากผ่านไปประมาณไม่ถึงครึ่งนาที นางก็ฟันกระบี่ออกไปอย่างรวดเร็วและน่าอัศจรรย์!
“บทเพลงอำลา”
ทันใดนั้นเอง แสงก็พุ่งออกมาจากกระบี่ อวี่ชงทำได้แค่ยกดาบขึ้นมาบังเอาไว้ แต่หลังจากที่ััได้ถึงพลังอันมหาศาล ลมปราณกระบี่ก็ทำให้เสื้อผ้าของเขานั้นฉีกขาด ลมปราณกระบี่ทำให้เขามีาแเต็มไปหมด เืไหลออกมาทั่วตัวจนไม่อาจทำการต่อสู้อีกต่อไปได้!
บทเพลงอำลา เป็เพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งกว่าหักทลายหยก มันเท่ากับหักทลายหยกนั้นรูปแบบปรับปรุง เวลาออกกระบี่นั้นรวดเร็ว ลมปราณกระบี่ก็ทะลุทะลวงได้อย่างแข็งแกร่ง!
ที่จริงไม่ว่าจะเป็ “หักทลายหยก” หรือว่า “บทเพลงอำลา” การเคลื่อนไหวของกระบี่นั้นตรงไปตรงมา เรียบง่าย และดุดัน แต่การใช้บทเพลงอำลานั้นต้องใช้การสะสมพลังงานก่อน
ในสถานการณ์ทั่วไปนั้นจะเล่นให้ถึงตายในทีเดียวนั้นยากมาก เพราะการออกกระบี่นั้นตรงไปตรงมา และยังต้องสั่งสมพลังก่อน
แต่เิหยูเยียนนั้นมีดวงตาเวท นางสามารถสั่งสมพลังมาใช้ใน่เวลาที่ศัตรูนั้นยังไม่ทันรู้ตัว และเมื่อครู่ตอนที่อวี่ชงตื่นตระหนกนางก็สั่งสมพลัง แล้วก็ปล่อยพลังตัดสินแพ้ชนะไป ดวงตาเวทกับเพลงกระบี่เป็การใช้ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเปลี่ยนเป็คนอื่น คงไม่มีใครสามารถใช้เพลงกระบี่ “บทเพลงอำลา” ได้อย่างเหมาะสมได้เท่าเิหยูเยียนแล้ว!
พอนึกถึงสถานการณ์การต่อสู้ที่เกิดขึ้น ั้แ่เริ่มการต่อสู้จนจบ ใช้เวลาไปแค่สามนาทีเท่านั้นเอง
ถึงแม้จะผ่านไปแค่สามนาทีเท่านั้น เิหยูเยียนกลับวางแผนได้อย่างละเอียด สามารถใช้ดวงตาเวทในการเอาชนะการต่อสู้ได้สมบูรณ์!
ดวงตาเวทของนางแข็งแกร่งมากจริงๆ คนนอกอาจจะรู้สึกว่ามันแปลก แต่กลับไม่รู้เลยว่า ผู้ใช้พลังเวทย์นั้นคุมทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ทำให้พวกเขาหลงไปกับภาพลวงตา และพ่ายแพ้จนหมดรูป!
เิหยูเยียนพุ่งมาตรงหน้าของอวี่ชงและใช้กระบี่ชี้ไปที่เขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็าว่า “ต่อไปกล้าอีกไหม?”
“ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว ... ” อวี่ชงตอบอย่างตื่นกลัว
เขาจะไปคิดถึงได้อย่างไรว่าเิหยูเยียนจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ พวกเขาสองคนล้วนแต่เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุด แต่นางกลับสามารถเอาชนะได้ในเวลาอันสั้น!
“แล้วยังไม่รีบไสหัวไปอีก อย่าให้ข้าเจอพวกเ้าอีกนะ” ระหว่างที่พูด นางก็ส่งสัญญาณ
“ได้ ... ได้ ... ต่อไปไม่กล้าแล้ว!”
อวี่ชงรีบพยักหน้า ส่วนข่งหลินเฟิงที่กำลังจะบีบหยกหนีก็ชะงักไป และรีบหยิบแขนซ้ายที่ขาดไปขึ้นมา
ทั้งสองคนหนีไปแบบเือาบท่วมตัว พริบตาเดียวก็ขี่เ้าอสูรสัตว์ปีกจากไป
ในเวลานี้ ิอวี่ที่อยู่เงียบๆ มาตลอดก็ออกตัวทันที เขาคิดจะตามสองคนนั้นไป อยากจะไล่ไปเล่นงานให้ตาย
“เ้าคิดจะทำอะไร”
เิหยูเยียนใช้กระบี่ขวางิอวี่เอาไว้
ิอวี่มองอสูรสัตว์ปีกสองตัวบินไกลออกไป แล้วพูดอย่างร้อนใจว่า “เ้าทำอะไรของเ้า? พวกเขาสองคนเป็คนของฟางหลิงจวินนะ เ้าเองก็เห็นเป้าหมายของพวกเขาคืออยากจะฆ่าข้าให้ตายนะ เ้าไม่ตัดรากถอนโคน ต่อไปพวกเขาก็อาจจะลงมืออีกก็ได้!”
ิอวี่นั้นรู้เป้าหมายของฟางหลิงจวินดี เขาฆ่าซุนอี้ตาย ต่อให้ฟางหลิงจวินจะไม่ได้มั่นใจว่าเขาคือคนลงมือ แต่อย่างไรก็จะต้องลงมือกับเขาแน่นอน ศิษย์ของฟางหลิงจวินหนีไปได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งต่อไปพวกเขาก็จะไปหาคนมาเพิ่มอีก เหลือไว้ก็จะเป็ภัยภายหลัง
“เ้าหุบปากไปเลย”
เิหยูเยียนเอากระบี่ชี้หน้าิอวี่ “ข้าช่วยเ้า แต่เ้ากลับยังมาแสดงอำนาจต่อข้าอีก เก่งนักหรือไง? ถ้าแน่จริงเ้าก็จัดการเองสิ! อีกอย่างต่อให้พวกเขาจะมีเป้าหมายอะไรกับเ้าจริง ครั้งนี้ข้าทำให้พวกเขากลัวไปแล้ว ต่อไปพวกเขาไม่มีทางกล้าทำอะไรเ้าแล้ว เ้าคิดว่าทุกคนจะเหมือนเ้าที่คิดเล็กคิดน้อยทุกเื่หรืออย่างไรกัน?”
สายตาของิอวี่นั้นเย็นะเืดุดันมาก กระบี่หวงฉวนปรากฏขึ้นมาในมือและปัดกระบี่ในมือของเิหยูเยียนที่ชี้หน้าเขาอยู่ออก!
ในเวลานี้ิอวี่เองก็ไม่อยากพูดมาก “ถ้าเ้าไม่ยอม เราก็มาสู้กันสักตั้ง”
ต่อให้เป็ิอวี่ที่มีความอดทนสูง ในเวลานี้เขาเองก็ทนต่อความงี่เง่าเอาแต่ใจของเิหยูเยียนไม่ไหวแล้ว
“เ้า ...”
เิหยูเยียนตะลึงก่อน จากนั้นก็รู้สึกผิดหวังอย่างมาก
เดิมนางคิดว่าหากนางใช้ความสามารถแล้วิอวี่จะได้รู้จักถอย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่ยังไม่รู้จักเจียมตัวแบบนี้อีก
“ิอวี่ จากที่ทำความรู้จักกันใน่นี้ ข้ารู้สึกว่าเ้ามันไม่เอาไหนจริงๆ เ้าไปจากสายตาข้าเดี๋ยวนี้เลย ไปซะ ได้ไหม?” เิหยูเยียนไม่มีแม้แต่อารมณ์อยากจะคุยกับิอวี่
ิอวี่ยิ้มแสยะ “ทำไมข้าต้องไปด้วย?”
“ได้ เ้าอยากจะทำอะไรก็ทำเลย” เิหยูเยียนไม่โกรธแต่ยิ้ม “เ้าไม่ไป ข้าไปเอง”
เิหยูเยียนเก็บกระบี่ แล้วหันหลังจากไปทันที
“เ้าจะไปหาซูอี้หรานอย่างนั้นหรือ เ้าไม่กลัวเขาคิดไม่ซื่อแล้วทำอะไรกับเ้าหรือไง?” ิอวี่พูดจาประชดประชันกลับไป
ในเวลานี้เิหยูเยียนหันหลังให้กับิอวี่อยู่ นางไม่ได้คิดจะหันกลับมา “พูดจบแล้วหรือยัง?”
ิอวี่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าเ้าจะไปทำอะไร แต่หวังว่าเ้าจะจำเอาไว้ อย่าถูกคนบีบคั้นจนหมดหนทาง ถึงรู้ว่าอะไรคือความสิ้นหวัง ถึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นเคยโง่มากแค่ไหน เพราะว่าโลกใบนี้มันไม่ได้ใส่บริสุทธิ์อย่างที่เ้าคิดหรอกนะ”
“เ้ามันเกินเยียวยาแล้ว”
เิหยูเยียนี้เีพูดกับิอวี่อีก นางขึ้นขี่กระเรียนขาวแล้วก็บินหายไปจากสายตาของิอวี่ทันที
หยกของิอวี่กับเิหยูเยียนนั้นสื่อถึงกันตลอด เขาไม่กลัวว่าเิหยูเยียนนั้นจะหายไป เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่อยากตามนางไป
เพราะิอวี่รู้สึกว่าเืลมในร่างกายของเขามันพลุ่งล่านรุนแรง ใช้เวลาอยู่นานกว่าเขาจะทำให้มันสงบลงได้
“... ชิ ไม่อยากคิดแล้ว ฝึกวิชาดีกว่า”
ิอวี่พยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนหน้านี้เขาหยุดอยู่ที่ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดตลอด ตอนนี้อยู่ในสนามรบร้างโบราณเหมาะมากในการจะทะลวงระดับ ทำแบบนี้เขาถึงจะมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
แต่ว่า รอบตัวของเขานั้นไม่มีใครอยู่เลย แล้วใครจะมาช่วยคุ้มกันเขาในเวลาที่ฝึกอยู่ล่ะ?
พอคิดถึงตรงนี้ ิอวี่ก็เริ่มเครียดอีกครั้ง
