หมาป่าสีฟ้าหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเขาเงียบๆ หลังจากเงียบไปเป็เวลานานหมาป่าสีฟ้าก็เงยหน้าขึ้นจากนั้นน้ำเสียงและคำพูดที่เหมือนมนุษย์พูดก็หลุดออกมาจากปากของมัน “นายท่าน..... ท่านกลับมาจากนรกไม่ใช่เพื่อมาพบเขาหรอกเหรอ? ทำไมพอเจอเขาแล้วถึงไม่อยู่กับเขาล่ะ.....”
“อยู่ด้วยกันแล้วยังไง ไม่อยู่ด้วยดันแล้วยังไง....... ฉันก็เป็แค่ผีที่ไม่น่ามีชีวิตอยู่ตั้งนานแล้ว จะมีสิทธิอะไรไปวุ่นวายกับชีวิตของเขา ฉันแค่้ามองเขาอยู่เงียบๆ......... รอคอยให้เขาเอาชนะฉันให้ได้ในสักวันหนึ่ง หลังจากนั้นฉันจะได้ตายตาหลับแล้วกลับไปยังที่ที่ฉันควรกลับไปซักที สิ่งที่ฉันทำได้ก็มีแค่มอบเป้าหมายให้เขาและกระตุ้นให้เขาแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นเอง” น้ำเสียงของชามผมฟ้าแ่เบาสงบนิ่ง ก่อนจะจางหายไปในสายลม
มอบเป้าหมายให้เขาและกระตุ้นให้เขาแข็งแกร่งขึ้น....... นี่เป็เหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่
หมาป่าสีฟ้าเงียบไป จากนั้นสักพักมันก็เปิดปากพูดออกมาอีกครั้ง “.........นายท่าน ท่านไม่รู้สึกเหรอว่าเขาดูเหมือนจะจำท่านได้”
ชายผมฟ้าหลับตาลง เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งสิ่งที่แสดงออกมาก็ยังคงเป็แววตาสงบนิ่งเหมือนคนตาย “ฉันในตอนนี้ใช่ฉันคนเดิมอีกแล้ว นอกจากจะเป็ิญญาที่ไม่สมบูรณ์แล้ว ชีวิตและร่างกายของฉันก็ไม่ใช่ชีวิตและร่างกายที่เคยเป็อีกแล้ว....... แม้แต่ฉันยังจำตัวเองแทบไม่ได้ เขาก็คงไม่มีทางจำได้เหมือนกัน.....”
“แต่ว่า.........”
“จิติญญาสีฟ้า พวกเราไปกันเถอะ” เขาพูดออกมาเสียงนิ่งและเริ่มก้าวเท้าต่อไป พวกเขามุ่งตรงไปด้านหน้าโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคือทิศไหน
หัวใจที่แตกสลาย..........
ชีวิตที่แตกสลาย............
ิญญาที่แตกสลาย..............
เขาเป็เพียงแค่ิญญาที่กลับมาจากนรกอันวุ่นวายเท่านั้น.........
หมาป่าเดียวดาย หมาป่าผู้โดดเดี่ยว............ อู๋ิ!
————
————
จากแสงสว่างจ้าก็เริ่มมืดมิดจนกลายเป็มืดสนิท
กั่วกัวร้องเรียกเย่เทียนเซี่ยไม่รู้เพราะตื่นเต้นหรือหวาดกลัว เสียงลมที่พัดผ่านหูของเย่เทียนเซี่ยยิ่งเร็วขึ้นทุกขณะ เร็วจนรู้สึกเหมือนคมมีดกรีดไปบนใบหน้า และร่างกายของเขา............
ไม่ว่าใครที่ตกลงมายังหุบเหวหมื่นจั้งก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการหลับตา และกรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวังและหวาดกลัว ทว่าเย่เทียนเซี่ยกลับนิ่งสนิทเหมือนตายไปแล้ว เขาไม่ได้กรีดร้อง ไม่มีความหวาดกลัว ไม่มีสับสน ท่ามกลางสายตาของเขามีเพียงความเหม่อลอยราวกับิญญาหลุดออกจากร่าง
ในใจของเขาสะท้อนภาพแผ่นหลังของชายผมสีฟ้าตอนที่เขาเดินจากไป...........แผ่นหลังนั้น.........
เขาส่ายหน้าแรงๆแล้วพูดกับตัวเองในใจอย่างขมขื่น...... ไม่มีทางเป็เขาได้หรอก ไม่มีทาง เขาตายไปแล้วชัดๆ ตายไปนานหลายปีแล้ว......... เขาไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาแบบนั้น ไม่ได้มีผมสีฟ้า....... และยิ่งไม่มีทางเป็ NPC ในโลกนี้ได้แน่นอน คนสองคนไม่มีจุดร่วมใดๆกันทั้งสิ้น!
แต่ทำไมดวงตาของเขาถึงทำให้เย่เทียนเซี่ยคุ้นเคยอย่างประหลาด และความคุ้นเคยนั้นก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยเ็ป ในตอนที่มองแผ่นหลังของเขาจากไปไกลๆนั้น ความรู้สึกคุ้นเคยที่เย่เทียนเซี่ยมีนั้นมาจากที่ไหนกันแน่
ในตอนนั้นแผ่นหลังของเขา แผ่นหลังครั้งสุดท้ายของเขา เย่เทียนเซี่ยไม่มีทางลืมเลือนมันเด็ดขาด มันเป็ครั้งสุดท้ายที่เย่เทียนเซี่ยได้เห็นเขาคนนั้น........ เขาคอยปกป้องเย่เทียนเซี่ยมาตลอด เป็คนที่ใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องเขา
แต่ก็มีเสียงหนึ่งบอกเขาว่าหน้าตาของคนเรานั้นสามารถเปลี่ยนกันได้ รูปร่างก็สามารถเปลี่ยนได้ แม้แต่น้ำเสียงหรือสีผมก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน........ ทว่าสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนคือดวงตาที่แทรกลึกไปถึงิญญาและแผ่นหลังที่เป็ของเขา
โลกสองโลก คนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงและไม่มีทางจะมาพบกันได้ นี่เป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้ แต่ทำไมหัวใจของเขากลับเต้นแรงอย่างสับสน............ ถ้าไม่ใช่จังหวะหัวใจที่เขาััได้จากส่วนลึก แล้วทำไมเขาถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างนี้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะััได้โดยตรง และยังเป็ความรู้สึกที่แข็งแกร่งและจริงจัง ทำไมหัวใจส่วนลึกของเขาถึงััถึงมันได้
“ว๊าวๆๆๆๆ.......นายท่าน...... นายท่าน..... อ๊า!! สูงมาเลยเ้าค่ะ....... มืดมาก....... แล้วก็น่ากลัวมากเลยเ้าค่ะนายท่าน......”
ในที่สุดเสียงร้องเรียกของกั่วกัวก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยตื่นจากภวังค์ แม้ว่าปากน้อยๆของเธอจะร้องออกมาว่า “น่ากลัว” แต่ไม่ว่าใครก็ฟังไม่ออกว่าน้ำเสียงของเธอมันมีความรู้สึกน่ากลัวอยู่ตรงไหน ทว่าน้ำเสียงนั้นมันน่าจะเป็ความตื่นเต้นซะมากกว่า
หุบเหว........... ที่นี่คือ?
สายลมพัดผ่านหูของเย่เทียนเซี่ยไปเป็เวลานาน รอบกายของเขาตกอยู่ในความมืดมิดจนมองไม่เห็นสิ่งใด แต่เขาก็ยังคงตกลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆ หุบเหวสีดำแห่งนี้ช่างลึกจนน่ากลัว!
ความสูงระดับนี้สามารถฆ่าเย่เทียนเซี่ยให้ตายได้เป็สิบๆครั้ง
ทำไมชายคนนั้นถึงพาเขามาที่นี่ แล้วยังจงใจผลักเขาให้ตกลงมาอีก?
“ว่ะฮ่าๆๆๆ...... นายท่านๆ น่ากลัวมากเลยเ้าค่ะ”
ร่างของกั่งกัวลอยอยู่กลางอากาศ ปกติแล้วเธอสามารถบินได้ ไม่มีทางที่เธอจะสามารถตกลงไปอย่างอิสระได้อยู่แล้ว แต่ที่เธอตกลงมาได้ก็เพราะเธอดึงผมของเขาไว้น่ะสิ เส้นผมของเย่เทียนเซี่ยถูกกั่วกัวดึงจนเจ็บจนน้ำตาเขาแทบเล็ด
แต่เมื่อฟังเสียงของกั่วกัวเย่เทียนเซี่ยก็สามารถจินตนาการได้เลยว่าเธอกำลังแหกปากร้องออกมาเสียงดัง พวกเด็กผู้หญิงล้วนชอบการกระตุ้น และกั่วกัวก็คือลำดับต้นๆเลยล่ะ........ เธอที่สามารถบินได้จะกลัวการตกงั้นเหรอ? พูดให้ผีฟังผียังไม่เชื่อเลย!
“ที่นี่คือที่ไหนน่ะ?” เย่เทียนเซี่ยพูดพลางขมวดคิ้ว ภายใต้สถานการณ์สิ้นหวังที่สามารถทำลายจิตใจของคนได้โดยง่ายเช่นนี้ สิ่งที่เย่เทียนเซี่ยแสดงออกมากลับเป็การนิ่งเงียบจนน่าใ........ ในเวลานี้ทุกอย่างมันเริ่มเกินการควบคุมไปหมดแล้ว และมันก็ยิ่งเข้าใกล้ความตายไปทุกขณะด้วย แต่ความเงียบนี้อาจจะเป็แสงท่ามกลางความสิ้นหวังที่ผู้คนสามารถคว้าไว้ได้
เพราะการตกลงมาด้วยความเร็วขนาดนี้เสียงของเย่เทียนเซี่ยจึงเปลี่ยนเป็เสียงเลื่อนลอย ทว่ากั่วกัวกลับได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนเธอจะพูดออกมาอย่างขลาดอาย “ไม่รู้เหมือนกันเ้าค่ะ......นายท่าน ที่นี่คือที่ไหนเหรอเ้าคะ!”
“............” ถ้าฉันรู้แล้วฉันจะถามเธอไหมเล่า!?
คิ้วของเย่เทียนเซี่ยยิ่งขมวดเป็ปมแน่น ในเวลานี้ที่นี่คือที่ไหนไม่ใช่สิ่งที่เขาจำเป็ต้องรู้เป็อันดับแรก ชายคนนั้นพาเขามาที่นี่ทำไมและยังผลักเขาตกลงมาที่นี่ทำไมต่างหากที่เป็สิ่งสำคัญ สิ่งที่เขาต้องเผชิญหน้าเป็อย่างแรกก็คือ......... จะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไงล่ะเนี่ย! หุบเหวจะลึกยังไงก็ต้องมีก้นเหว และด้วยความสูงระดับนี้ ตอนที่ตกลงไปก็คือเวลาที่เขาจะถูกฆ่าตายน่ะสิ!
สายลมที่ทำให้ใบหน้าของเย่เทียนเซี่ยเ็ปเหมือนโดนมีดกรีดบดบังประสาทััทางด้านการฟังของเขาไปจนหมด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การทำใจให้สงบเป็สิ่งที่ยากจะทำได้จริงๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังตกลงมาสายตาของเย่เทียนเซี่ยก็มองไปรอบๆ....... ทั้งหมดที่ดวงตาของเขามองเห็นก็คือความมืดมิด และทันใดนั้นแสงแห่งชีวิตก็ได้ปรากฏขึ้นมาในใจของเขา เขารีบหยิบม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วทำลายมันทันที
“ติ๊ง! ท่านได้ใช้ม่วนคัมภีร์............ไอหมอก ท่านได้รับทักษะ ‘ไอหมอก’ เมื่อทักษะแสดงผลจะเรียกไอหมอกที่สร้างขึ้นมาจากพลังแห่งความตายขึ้นมาปกคลุมร่างกายซึ่งจะสามารถชะลอความเร็วในการร่วงหล่นของร่างกายได้ ใช้พลังเวทย์ 20 หน่วยต่อเนื่องเป็เวลาสูงสุด 5 วินาที และสามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา ทักษะนี้ใช้เวลาคูลดาวน์ 30 วินาที”
ไอหมอก........ เป็ทักษะที่สามารถลดความเร็วในการร่วงหล่นของร่างกายได้ มันคือทักษะกระจอกที่เหมือนจะไร้ประโยชน์ที่ดรอปมาจากาาิญญาวัยเด็ก ตอนนี้มันกลายเป็สิ่งเดียวที่จะสามารถปกป้องชีวิตของเย่เทียนเซี่ยไว้ได้
เย่เทียนเซี่ยไม่ได้รีบใช้ทักษะไอหมอกเพื่อลดความเร็วในการตกลงไปของตัวเองในทันที เขารวบรวมสมาธิเชื่อมต่อกับประสาทการรับรู้ของตัวเอง ทั้งเสียงลมที่ดังอยู่ข้างหูของเขาและเสียงะโของกั่วกัว เขาค่อยๆรับรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะการไหลของอากาศที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า ถ้าเขาใช้ทักษะไอหมอกในเวลานี้ด้วยความตื่นใ เมื่อผลของการลดความเร็วผ่านไป เขาก็คงจะตกลงไปก่อนที่เวลาคูลดาวน์จะเป็ศูนย์แน่ๆ...... และผลที่ได้ก็คงจะกลายเป็โศกนาฏกรรม
ดังนั้น โอกาสที่จะสามรถรักษาชีวิตไว้ได้มากที่สุดก็คือ...... เมื่อทักษะแสดงผลต่อเนื่องเป็เวลา 5 วินาทีตอนที่เขาตกถึงพื้นพอดี!
แต่ขณะที่ร่างของเขากำลังตกลงไป รอบด้านก็มืดมิด ไม่มีทางที่เขาจะมองเห็นรอบตัวเขาและปลายเท้าของเขาได้...... หรือต่อให้มีแสง แล้วจะมีใครสามารถควบคุมเวลาได้อย่างพอเหมาะพอดีเหมือนมีเทพแห่งโชคมาเยี่ยมเยือนเล่า นี่มันแทบจะเป็ไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ดวงตาของเย่เทียนเซี่ยปิดลง สมาธิและความคิดทั้งหมดของเขาล้วนจดจ่ออยู่กับความรู้สึกของตัวเอง เขาคำนวณเวลาอย่างเงียบๆ และรับรู้ถึงอากาศที่ไหลผ่านปลายเท้า
เมื่อร่างกายตกลงมาจากที่สูง ระหว่างการตกนั้นกระแสลมจะไหลผ่านจากปลายเท้าขึ้นมา และกระแสอากาศในตอนที่ร่างัักับพื้นก็จะมีการตอบสนอง จากกระแสที่พัดจากด้านล่างขึ้นมา้า ก็จะเปลี่ยนเป็กระแสอากาศส่วนนึงที่พัดจาก้าลงไปด้านล่าง ทำให้การแสอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย...... ยิ่งห่างจากพื้นน้อยเท่าไร กระแสอากาศก็จะยิ่งเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน และยิ่งอยู่ห่างเท่าไรมันก็จะยิ่งเบาบางมากเท่านั้น
หนึ่งนาที สองนาที สามนาที..........สามนาทีผ่านไป แต่เทียนเซี่ยก็ยังคงตกลงไปเรื่อยๆ ระดับความน่ากลัวของหุบเหวอันมืดมิดนี้เกิดกว่าที่เย่เทียนเซี่ยจินตนาการไว้ ทว่าั้แ่แรกจนถึงตอนนี้เขาก็หลับตามาโดยตลอด ไม่ได้ลืมตาเลยสักนิด และยิ่งไม่อาจทำให้สมาธิของตัวเองแตกซ่านได้......เพราะเมื่อถึงเวลาที่เกี่ยวกับความเป็ความตาย ถึงมันจะอยู่แค่ในเกม แต่ไม่ว่าที่ไหนเขาก็จะไม่ยอมรับ “ความตาย” ของตัวเองโดดเด็ดขาด
สายลมยังคงพัดผ่านข้างหู เมื่อร่วงหล่นลงมานานติดต่อกัน 5 นาที กระแสอากาศที่มีความผิดปกติเล็กน้อยทำให้เย่เทียนเซี่ยมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาขมวดคิ้วแน่น ดวงตาของเขายังคงปิดสนิท ทว่าคิ้วที่ขมวดแน่นของเขาบ่งบอกชัดเจนถึงความกังวลในใจของเขา
ครึ่งวินาที........ หนึ่งวินาที..........สองวินาที...........
แล้วเย่เทียนเซี่ยก็ลืมตาขึ้นมาทันทีก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ “ไอหมอก!”
หมอกสีเทาบางเบาที่แทบจะมองไม่เห็นก่อตัวอยู่ที่ปลายเท้าของเย่เทียนเซี่ยทันที ร่างของเย่เทียนเซ่ยที่ร่วงหล่นลงมาอย่างอิสระก็ค่อยๆหยุดลงท่ามกลางแรงต้านของไอหมอก แม้ว่าจะยังคงร่วงหล่นลงมา แต่ทว่าความเร็วในการร่วงหล่นนั้นกลับช้าลงเรื่อยๆอย่างชัดเจน.............
“เอ๋?” กั่วกัวที่รับรู้ได้ถึงความเร็วที่เริ่มช้าลงก็ร้องออกมาด้วยความใ จากนั้นก็มองไปที่เย่เทียนเซี่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ร่างที่กำลังร่วงหล่นราวกับถูกใยฝ้ายที่มีความเหนี่ยวมากต้านเอาไว้ ระดับความเร็วที่ค่อยๆลดลงทำให้เย่เทียนเซี่ยโล่งใจขึ้นนิดหน่อย ดวงตาของเขามองไปที่ปลายเท้า หัวใจของเขายังคงแกว่งอยู่นิดหน่อย...........
ความเร็วในการร่วงหล่นลดลง ลดลงเรื่อยๆ และเวลาก็ผ่านไปทีละวินาที......... ความเร็วในการร่วงหล่นของเย่เทียนเซี่ยก่อนหน้านี้เร็วมาก แต่แรงต้านของหมอกก็มีจำกัด เวลาห้าวินาทีไม่สามารถทำให้ความเร็วในการร่วงหล่นของเขาลดลงจนเป็ศูนย์ได้
สามวินาที สี่วินาที ห้าวินาที.............
ตุบ!!
เย่เทียนเซี่ยสะดุ้งไปทั้งร่าง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างของตัวเองแหลกเหลวไปแล้วทั่วทั้งร่าง......... เท้าของเขาในที่สุดก็ัักับพื้นดิน ในตอนที่เขาพยายามที่จะร่วงหล่นลงบนพื้นดินอวัยวะภายในของเขาก็ปั่นป่วนขึ้นมาอย่างรุนแรง ทว่าเขากลับมีรอยยิ้มมุมปากน้อยๆ
ข้างหูของเขาไม่มีเสียงแจ้งเตือนใดๆ สติสัมปชัญญะของเขาก็ไม่ได้มืดดับไป....... ผลของหมอกนั้นสิ้นสุดลงพอดีกับตอนที่ร่างของเย่เทียนเซี่ยตกถึงพื้น ในตอนที่ร่างตกถึงพื้นร่างกายของเขาก็มีอาการช็อคจนทำให้เกือบจะคิดว่าตัวเองตายไปซะแล้ว
เมื่อมองไปที่พลังชีวิตของตัวเอง.............. หลอดเืที่เต็มเปี่ยมเวลานี้แทบจะว่างเปล่า........ มันเหลือพลังชีวิตอยู่แค่ 12 หน่วยเท่านั้น!
เทพแห่งโชคมาเยี่ยมเยือนอีกครั้งแล้วหรือเปล่า? เย่เทียนเซี่ยพยุงร่างกายที่ยังไม่หายสั่นดีให้ยืนขึ้นอย่างยากลำบาก ขนาดพบเจอเื่ร้ายแรงขนาดนี้แต่เขาก็ยังมีชีวิตรอดมาได้ แบบนี้เขาคงจะมีโชคไม่น้อยแน่ๆ ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือตรวจสอบว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วทำไมชายคนนั้นถึงได้พาเขามาที่นี่ในเวลานี้
