ณ ทุ่งดวงดาวอันกว้างใหญ่ ดวงดาราจำนวนนับไม่ถ้วน มีั์ใหญ่หลายตนกำลังโจมตีดาวเคราะห์บางดวง
ดาวแห่งชีวิตสีเขียวมรกตเต็มไปด้วยพลัง เถาวัลย์เขียวปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ ห่อหุ้มดาวดวงนั้นเอาไว้
เหล่าั์สูงเสียดฟ้าพุ่งเข้าหาดาวสีเขียว ก่อนจะเริ่มการต่อสู้นองเืกับเถาวัลย์ นภาพังทลาย แผ่นดินแตกสลาย และดวงตะวันจันทรามืดสนิทลง
เถาวัลย์เขียวต้นหนึ่งซึ่งมีเก้าเส้นย่อยเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล ใบเถาทุกใบลุกเป็ไฟและอาบด้วยพลังแห่งอัสนี มันยืนหยัดสู้จนตัวตายเพื่อต่อต้านผู้บุกรุก
ทะเลดวงดาวเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งา ดาวจำนวนมากถูกรุกราน จากนั้นก็เกิดการะเิทำลายล้างจนสูญหายไป
เถาวัลย์เขียวคำราม จิติญญาแห่งการต่อสู้ช่างน่าอัศจรรย์ ใบของมันฉาบด้วยโลหิต ปลายเถาวัลย์ส่องประกายด้วยแสงเก้าสีที่กลืนกินแสงแห่งการทำลายล้าง สังหารั์เ่าั้แล้วทิ้งศพของพวกมันล่องลอยในทะเลดวงดาว
ทันใดนั้น แสงศักดิ์สิทธิ์สีทองก็ส่องสว่างในความมืด ก่อนจะจมลงไปในท้องทะเล
ดวงตากลมโตที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวดวงนี้กะพริบช้าๆ พร้อมแผ่พลังอันน่าทึ่ง และเล็งมายังเถาวัลย์เขียว
วินาทีต่อมา ฝ่ามือั์สีทองก็ผุดขึ้นจากส่วนลึกของทะเลดวงดาว ทั้งยังคว้าดาวสีเขียวที่เถาวัลย์นั้นอาศัยอยู่ แล้วฉีกกระชากจนดาวแตกเป็เสี่ยงๆ ก่อนจะจับเถาวัลย์เขียวไว้
หนิงเทียนหวาดกลัวอย่างยิ่ง เขามองดูเหตุการณ์เหล่านี้จากมุมมองของเถาวัลย์เขียวจนหัวใจแทบแตกสลาย
นั่นเป็สิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเกินจินตนาการ ซึ่งสามารถทำลายดวงดาวและ์ได้
ภาพเบื้องหน้าแปรเปลี่ยนไป เถาวัลย์เขียวปรากฏขึ้นในสวนสมุนไพร พื้นดินที่นั่นเต็มไปด้วยสีสันซึ่งแฝงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัว และเต็มไปด้วยแสงแห่งความโกลาหล
ร่างสีทองร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในสวนสมุนไพร แล้วเข้ามาหยุดยืนข้างเถาวัลย์เขียว
ในมือของอีกฝ่ายถือเตาหลอมสีแดง ก่อนจะคว้าเถาวัลย์เส้นหนึ่งขึ้นมา แล้วบังคับให้เส้นเถาวัลย์เชื่อมเข้ากับเตาหลอมนั้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงเทียนก็เข้าใจในทันทีว่า อาวุธิญญาทั้งเก้าที่เติบโตบนเถาวัลย์ั์ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มีผู้ใช้วิธีอันเหลือเชื่อบังคับให้เถาวัลย์ต่อติดลงไป ซึ่งถัดจากเตาสีแดงก็คือไหสีเขียว อ่างมหาสมบัติ ไปจนถึงร่มคลุมนภา และหอคอยเก้าชั้น
เถาวัลย์พยายามดิ้นรนขัดขืน แต่มันไม่สามารถต้านทานได้
หนิงเทียนสังเกตว่าสี รูปร่าง และกลิ่นอายของอาวุธิญญาทั้งเก้านั้นแตกต่างไปจากตอนเริ่มต้นต่อกิ่ง
ร่างสีทองบังคับให้เถาวัลย์เขียวดูดซับพลังศักดิ์สิทธิ์ในสวนสมุนไพร จากนั้นก็ใช้มันบำรุงเลี้ยงดูอาวุธิญญาทั้งเก้า เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ปรับปรุงพวกมันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าข้าม่เวลาไปอย่างรวดเร็ว ยามนี้เถาวัลย์เขียวเต็มไปด้วยพลังแล้ว และวันหนึ่งก็เกิดภัยพิบัติขึ้นอย่างฉับพลัน พลังแห่งอัสนีอันน่าพรั่นพรึงร่วงหล่นลงมาจากท้องนภาแล้วพันรอบเถาวัลย์เขียว ก่อนจะระดมฟาดพลังใส่อาวุธิญญาทั้งเก้าจนแทบไม่รอด
หลังได้รับความทุกข์ทรมานจากสายฟ้า อาวุธิญญาทั้งเก้าบนเถาวัลย์ก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง กลิ่นอายของพวกมันแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปอีกกี่ปี แต่ยามนี้กลิ่นอายของเถาวัลย์เขียวเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง และทัณฑ์์ครั้งที่สองก็กลับมาอีกครั้ง
หลังจากนั้นก็เกิดทัณฑ์์ครั้งที่สามและสี่อย่างต่อเนื่อง เถาวัลย์เขียวประสบความทุกข์จาก์ทั้งหมดเก้าครั้ง และมันก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปใน่ทัณฑ์์ครั้งที่เก้า
เถาวัลย์เขียวทนความอัปยศและแบกภาระอันหนักหน่วง มันนอนบนพื้นหญ้า ลิ้มชิมดีขม[1]
ใน่ความทุกข์ยากจากทัณฑ์์ครั้งที่เก้า ทันใดนั้น เถาวัลย์เขียวก็กลายร่างเป็ัและบินขึ้นฟ้า พยายามหนีออกจากสวนสมุนไพร กำจัดสถานะทาส รวมทั้งการปราบปรามของร่างสีทอง
หลังจากอาวุธิญญาทั้งเก้าประสบกับทัณฑ์์ถึงเก้าครั้ง พวกมันก็เปลี่ยนแปลงสู่ความสมบูรณ์แบบอันยิ่งใหญ่ภายใต้การกระตุ้นของเถาวัลย์เขียว เพื่อต่อต้านภัยพิบัติและบุกทะลวง์
เมื่อร่างสีทองสังเกตเห็นสถานการณ์นี้ก็ปล่อยเสียงคำรามสั่นะเืนภา ก่อนจะพุ่งเข้าหาทัณฑ์์และพยายามจับเถาวัลย์เขียวกลับมา แต่เนื่องจากร่างสีทองนั้นทรงพลังเกินไป ทัณฑ์์จึงเข้ากำราบเขาอย่างแข็งขัน และห้ามไม่ให้เขาเข้าใกล้ เขาจึงออกป้ายคำสั่งไปยังยอดหอคอยเก้าชั้นด้วยความโกรธ แล้วเอาชนะเถาวัลย์เขียวจนกลับสู่ร่างเดิม ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้
เถาวัลย์เขียวไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ หลังจากการแปลงร่างเป็ัล้มเหลว มันก็เปิดใช้งานอาวุธิญญาทั้งเก้าอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังต่อสู้ดิ้นรนอย่างสิ้นหวังภายใต้ทัณฑ์์จนได้รับาเ็สาหัส
แต่มันไม่คิดยอมศิโรราบแม้สละชีพ จิติญญาแห่งการต่อสู้ที่น่าตกตะลึงะเืทัณฑ์์ มันฝืนฉีกห้วงมิติให้เปิดออกแล้วหนีไปจากสวนสมุนไพร
ร่างสีทองโกรธจัด เขาเปิดใช้ป้ายคำสั่งจากระยะไกล ทำให้อาวุธิญญาทั้งเก้าบนเถาวัลย์เขียวสั่นไหวพร้อมกัน ก่อนจะสร้างเป็ฟันเฟืองและพยายามทำลายมัน
เถาวัลย์เขียวได้รับความเสียหายเกือบถึงขั้นถูกทำลายล้าง อาวุธิญญาทั้งเก้าค่อยๆ ปิดผนึกไปทีละชั้น ก่อนจะถูกระงับโดยป้ายคำสั่งดังกล่าว
ร่างสีทองะเิทะเลดวงดาวด้วยฝ่ามือเดียว ทว่าเถาวัลย์เขียวยังสามารถคว้าโอกาสนี้หลุดเข้าไปในช่องว่างของห้วงมิติเวลา และหลบหนีข้ามพรมแดนมาได้
ภาพเบื้องหน้าหมุนวนอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ยามนี้เถาวัลย์เขียวเข้าสู่กระแสมิติเวลาอันปั่นป่วน รูแสงกะพริบไหว และทันทีที่พุ่งเข้าไป ดาวดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้ามัน
ครู่ต่อมา เถาวัลย์เขียวก็ร่วงลงมาจากฟากฟ้า แล้วตกลงสู่จักรวรรดิเชียนซานแห่งดินแดนหยวนซิงบนยอดเขาหมื่นอสูร
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงเทียนได้แต่ตื่นตะลึง พร้อมมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจ
ทันใดนั้น ต้นหญ้าและโลงศพทองแดงอนธการในหลุมลึกก็ตกลงมาจากท้องฟ้าเช่นเดียวกัน แต่พวกมันไม่ได้มาจากดาวดวงเดียวกับเถาวัลย์เขียว
แล้วเหตุใดพวกมันถึงตกลงมาในที่เดียวกัน ทั้งยังเป็่เวลาเดียวกันได้เล่า? มีเื่บังเอิญเช่นนี้ในโลกด้วยหรือ?
ต้นหญ้าและเถาวัลย์เขียวต่างก็ต้องละทิ้งบ้านเกิดของตนเพราะถูกประหัตปะา โดยความแตกต่าง คือ ต้นหญ้าปราบปรามโลงศพทองแดงอนธการ ทว่าเถาวัลย์เขียวถูกระงับไว้ด้วยป้ายคำสั่ง
หนิงเทียนมองป้ายคำสั่งซึ่งเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง ทุกตัวอักษรปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์สูงสุดออกมา จนไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เขียนไว้ในป้ายคำสั่งได้
สายตาของเขาพยายามจ้องมองไปที่คำสั่ง ซึ่งการจ้องมองที่ยาวนานนี้ก่อให้เกิดรอยประทับทางจิติญญา และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
บนป้ายคำสั่งสีทอง แสงอร่ามควบแน่นเป็เงาราวกับเ้าแห่ง์และโลกกำลังมองลงมาที่เขาอย่างเ็า
หนิงเทียนรู้สึกถึงการข่มขู่ซึ่งกำลังบุกรุกจิตใจของตน ราวกับ้าควบคุมหรือทำลายเขาให้สิ้น
แผนที่จิติญญาในเส้นลมปราณที่สี่กำลังดิ้นรนต่อต้าน ก่อนจะพัฒนาไปสู่ความลึกลับสูงสุด และเริ่มเปิดเผยข้อมูลจำนวนมากออกมา
“ภาพเถาวัลย์ั! เก้าการเปลี่ยนแปลงของเถาวัลย์ัหยั่งรากลงในแผ่นดิน กระบี่ชี้์ ใจข้าไร้ความกลัวจึงยังก้าวต่อไปได้!”
นี่คือสิ่งที่เถาวัลย์เขียวประสบกับชีวิตและความตาย รวมถึงฝ่าฟันทัณฑ์์ทั้งเก้า ผสมผสานความลึกลับสูงสุดของอาวุธิญญาเก้าชิ้น ก่อนมันจะเข้าใจวิถีทางที่เป็เอกลักษณ์ของตนเอง
วิถีแห่งเถาวัลย์เขียวไม่เพียงแต่กล่าวถึงหนทางการบ่มเพาะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเต๋าที่แท้จริง ซึ่งสร้างแผนภาพเถาวัลย์ัที่เป็เอกลักษณ์ ควบแน่นแส้เถาวัลย์ั และบรรจุเก้าการเปลี่ยนแปลงของเถาวัลย์ั
ยามนี้ เงาสีทองบนป้ายคำสั่งแสดงถึงการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัว เ้าของร่างนิรนามััได้ถึงกลิ่นอายของเถาวัลย์เขียวจากหนิงเทียน และ้ากำจัดเขาให้สิ้นซาก
การบุกรุกเช่นนี้ช่างเลวร้ายยิ่งนัก มันคือการแบกรับเจตจำนงของการดำรงอยู่อันน่าสะพรึงกลัวผ่านป้ายคำสั่ง ซึ่งไม่ต่างจากการต่อสู้จากระยะไกล และหนิงเทียนก็อาจถูกทำร้ายได้อย่างง่ายดาย
หนิงเทียนรับรู้ถึงอันตราย แม้ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากเข้าสู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสี่ แต่เขาก็ยังตัวเล็กยิ่งกว่ามดเมื่ออยู่ต่อหน้าสิ่งมีชีวิตที่น่าพรั่นพรึงเช่นนั้น
คลื่นจิติญญาแห่งการทำลายล้างปกคลุมร่างของหนิงเทียน ทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาแทบะเิออกไปในพริบตา ภาพเถาวัลย์ัสั่นะเื แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานได้เลย
แผนภาพกระบี่ตื่นขึ้น แผนที่จิติญญาส่องสว่าง ยุทธศาสตร์ครอง์พลุ่งพล่าน กระตุ้นให้เกิดการรับรู้ของกระบี่ไร้จำนงในเส้นลมปราณที่สอง อีกทั้งเส้นผมบนศีรษะของเขาก็สว่างไสว ก่อนจะลุกไหม้ด้วยแสงที่แผดเผา
ภายในแผนที่จิติญญา กระบี่ไร้จำนงหมุนวนพร้อมส่งเสียงหวีดหวิว ก่อนจะลอยออกจากร่างของหนิงเทียนแล้วพุ่งเข้าหาเงาสีทอง
กระบี่ไร้จำนงสั่นะเืจนเกิดเสียงดังก้อง พลันมีเงาปรากฏขึ้นบนใบกระบี่ เงาร่างนั้นสง่างามอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความเย่อหยิ่ง
ป้ายคำสั่งมีเจตจำนงอันน่าหวาดหวั่น เงาสีทองถูกเผาไหม้ด้วยแสงอันเจิดจ้า พลังศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวลงมาสำรวจสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากมันััได้ถึงอานุภาพของกระบี่ไร้จำนง
หนิงเทียนเบิกตากว้างจ้องมองร่างอันงดงามบนกระบี่
นางคือไท่เสวียนไม่ใช่หรือ?
เงาอร่ามขยับมือสร้างตราประทับก่อนจะผลักมาด้านหน้า แสงสีทองเดือดพล่านบนฝ่ามือ เปรียบเหมือนวังวนกลืนฟ้าดิน
ร่างบนกระบี่ไร้จำนงโปร่งใส มันสานต่อเจตจำนงของไท่เสวียนด้วยการบินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แต่มั่นคง แล้วเจาะเข้าไปในกระแสน้ำวน
ใน่เวลานั้น กระแสน้ำวนพังทลายลงราวกับโลกใหม่ถูกสร้างขึ้น และภาพทางจิตที่ร่วงหล่นก็ปรากฏขึ้นในใจของหนิงเทียน
เขาเห็นร่างสีทองขนาดั์ยืนหยัดอย่างภาคภูมิใต้แสงดาว ระหว่างการกะพริบตา ฟ้าดินรอบด้านล้วนแผ่รัศมีสีทองอร่าม ซึ่งน่าสยดสยองถึงขีดสุด
เื้ัร่างน่าสะพรึงกลัวนี้ปรากฏแผนที่ดาราแห่ง์ ซึ่งมีความลึกลับขั้นสูงที่ทำให้ผู้คนทั้งกังวลและหวาดหวั่นที่จะจ้องมอง และทันใดนั้นเอง หนิงเทียนก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“บรรดาผู้ที่ข้าปรารถนา ต้องได้พบแผนที่ดารา”
นี่คือคำที่ไท่เสวียนทิ้งไว้ มันจะเกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่ปราบปรามเถาวัลย์เขียวนี้หรือไม่?
เงาของไท่เสวียนชัดเจนบนกระบี่ไร้จำนง ดวงตาของนางจับจ้องร่างสีทองขนาดั์ ทั้งสองฝ่ายต่างอยู่ในมิติที่แตกต่างกัน ทว่ายามนี้พวกเขากลับได้พบกันแล้ว
ฟ้าดินเดือดพล่าน ห้วงมิติเกิดความปั่นป่วน
จิตใจของหนิงเทียนเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย การต่อสู้ระหว่างไท่เสวียนกับการดำรงอยู่อันน่าสะพรึงกลัวนั้นอยู่นอกเหนือความเข้าใจของเขา ทั้งสองข้ามกาลเวลาและห้วงอากาศซึ่งก้าวผ่านระยะเวลาหลายปี หนิงเทียนจึงไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการต่อสู้คืบหน้าไปอย่างไร
เขารู้เพียงว่าในที่สุดกระบี่ไร้จำนงก็บินกลับมา มุมหนึ่งของป้ายคำสั่งที่ปราบปรามหอคอยเก้าชั้นถูกเผา และเงาสีทองที่จางหายไป
ดูเหมือนกระบี่ไร้จำนงของไท่เสวียนจะเป็ฝ่ายได้เปรียบ แต่ในเื่ของรายละเอียดต่างๆ หนิงเทียนกลับไม่รู้แม้แต่น้อย
หลังจากลุกขึ้นยืน หนิงเทียนก็รีบเดินลงจากหอคอยชั้นที่เก้า สถานที่แห่งนี้ทั้งมืดมนและแปลกประหลาด มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอ
ความลับของหลุมั์ถูกค้นพบแล้ว แต่หนิงเทียนกลับรู้สึกหนักใจอย่างยิ่ง
มีความสยดสยองขวัญครั้งใหญ่อยู่เื้ัเถาวัลย์เขียวนี้ และการที่มันปรากฏในดินแดนหยวนซิงเช่นนี้ จะเป็การดึงดูดสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนั่นมาหรือไม่?
เตา ไหสีหยก อ่างมหาสมบัติ ร่มคลุมนภา หรือหอคอยเก้าชั้นล้วนเป็สมบัติล้ำค่า แต่สิ่งเหล่านี้ถูกผนึกไว้นานแล้ว จึงไม่มีผู้ใดสามารถเอามันออกไปได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสมบัติเหล่านี้มาจากชายร่างั์ที่น่าสะพรึงกลัวผู้นั้น เช่นนี้ใครจะกล้าไปยั่วยุเขาเล่า?
หนิงเทียนมาที่ชั้นแปดของหอคอยเพื่อฝึกฝน การผสมผสานระหว่างยุทธศาสตร์ครอง์และการเปลี่ยนแปลงทั้งเก้าของเถาวัลย์ั ทำให้เกิดเสียงสะท้อนระหว่างเขากับเถาวัลย์เขียว ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความเข้าใจที่เขามีต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งเก้าของเถาวัลย์ัก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน
เถาวัลย์เขียวมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในหลุมั์ มันค่อยๆ หดตัวลง รัศมีที่ลู่เข้านั้นราวกับมันกำลังหลีกเลี่ยงบางสิ่งบางอย่าง นอกจากนี้ อาวุธิญญาทั้งเก้าก็ยังหดตัวตามไปด้วย เมื่อศิษย์สำนักต่างๆ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็เริ่มถอนตัวออกจากอาวุธิญญา
ซิ่งอวี่เจวียนกำลังฝึกซ้อมอยู่ในแจกัน ในยามที่หนิงเทียนกลับลงมา นางก็กำลังข้ามเข้าสู่ขอบเขตผนึกดาราขั้นเก้าแล้ว
“เ้ากลับมาแล้ว! ข้างบนเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือ?”
ซิ่งอวี่เจวียนเอ่ยทัก ก่อนจะพบว่าหนิงเทียนมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
“ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสี่! นี่มันไม่เร็วเกินไปหรือ?”
หนิงเทียนยิ้ม ก่อนจะพาซิ่งอวี่เจวียนออกไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้อีกแล้ว
สายอัสนีบนใบเถาวัลย์หายไป ใบสีเขียวและสีแดงเต็มไปด้วยหมอกแห่งความโกลาหล เถาวัลย์ั์ที่เคยสูงเกินกว่าจะขึ้นไปถึงยอดได้ บัดนี้กลับหดตัวลงหลายร้อยจั้ง และยังคงหดต่อไปเรื่อยๆ
ซิ่งอวี่เจวียนถามอย่างประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
หนิงเทียนส่ายหัว เพราะเขาไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงออกไปได้
เมื่อป้ายคำสั่งในหอคอยเก้าชั้นได้รับความเสียหาย พลังปราบปรามบนเถาวัลย์เขียวก็อ่อนแอลงอย่างมาก และหนิงเทียนก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเถาวัลย์เขียว้าทำอะไรหลังจากหดตัวลง
บางทีเถาวัลย์เขียวอาจกังวลเกี่ยวกับการแก้แค้นของสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตนนั้น และเกรงว่าอีกฝ่ายจะตามไล่ล่ามันมายังดินแดนหยวนซิง
ไม่เช่นนั้นจะยังมีเหตุผลใดอยู่อีก?
---------------------------------------
[1] นอนบนพื้นหญ้า ลิ้มชิมดีขม (卧薪尝胆) หมายถึง แสร้งว่ายอมศิโรราบ ยอมทนทรมาน เพื่อสั่งสมกำลังพลและรอโอกาสอันดี
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้