สือเจียงหย่วนตอบ “มีเบียร์ ขาหมูเย็น แล้วก็อาหารท้องถิ่นชื่อดังของอำเภอหลี่ว์เราอย่างเป็ดเค็ม”
คังอิงถามด้วยความอยากรู้ “คุณจะดื่มเหรอ?” เพราะว่าอาหารพวกนี้ล้วนแต่เป็กับแกล้มทั้งนั้น
“ใช่แล้ว ดื่มฉลองความร่วมมือของพวกเราไง แบบนี้ต้องดื่มกันหน่อย!”
สือเจียงหย่วนก้าวเข้ามาในลานบ้านอย่างมั่นอกมั่นใจ สองขายาวๆ ของเขาเดินไม่กี่ก้าวก็ไปถึงกลางลาน เขาวางอาหารลงบนโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางลาน พลางพูดกับคังอิงว่า
“ข้างในมีเบียร์ทั้งแพ็ก คุณเอาไปแช่ช่องแช่แข็งในตู้เย็นก่อน เดี๋ยวไม่เกินสิบห้านาที พวกเราก็จะได้ดื่มเบียร์เย็นๆ กันแล้ว”
ฟังจากน้ำเสียงแล้ว เขาไม่ได้ถามคังอิงเลยสักคำว่าเธอดื่มเป็หรือเปล่า แถมยังจัดเธอเข้ากลุ่มเพื่อนร่วมวงเหล้าแล้วด้วย ทำให้คังอิงรู้สึกทั้งขำทั้งโมโห เธอบอกว่า
“คุณอยากดื่มก็ดื่มไปคนเดียวเถอะ ฉันไม่ดื่มหรอก”
“ไม่ได้นะ ในวงการธุรกิจไม่ดื่มเหล้าได้ยังไง? ไม่ดื่มเหล้าแล้วจะสร้างมิตรภาพได้ยังไงล่ะ?” สือเจียงหย่วนยิ้มแหยๆ
“ฉันทำธุรกิจไม่ต้องพึ่งการสังสรรค์ดื่มเหล้าหรอก มันขึ้นอยู่กับความ้าของคุณมากกว่า ยังดีที่ฉันพอทำให้ได้” คังอิงตอบกลับเขาด้วยประโยคนี้ ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
สือเจียงหย่วนตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกด้วยความเข้าใจทันที
“ใช่แล้ว พวกเราทำธุรกิจไม่ต้องพึ่งสุรา ใครกล้าบังคับให้คุณดื่มเหล้า คุณบอกผมได้เลย ผมไม่มีทางปล่อยพวกมันไปแน่ หากเพราะไม่ยอมดื่มเหล้าแล้วทำธุรกิจไม่ได้ งั้นพวกเราก็ไม่ทำธุรกิจนี้ก็ได้”
เมื่อคังอิงได้ยินเช่นนั้น ในใจของเธอพลันเบิกบานขึ้นมา ฟังดูแล้วน่าพึงพอใจอย่างยิ่ง ท่าทางของเธออ่อนโยนลงทันที สือเจียงหย่วนถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทำไมกันนะ แค่คังอิงทำท่าทีไม่พอใจ เขาก็รู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายโบราณจ้องมองแล้ว ช่างรู้สึกน่ากลัวจริงๆ…
พอคังอิงผ่อนคลายลง และไม่ทำหน้าบึ้งแล้ว จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิกระทบ… เพียงชั่วพริบตา สือเจียงหย่วนก็รู้สึกราวกับไถลจากยอดคลื่นลูกหนึ่งไปยังอีกคลื่นลูกหนึ่ง รู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา อารมณ์ของเขาขึ้นๆ ลงๆ เขาถูกควบคุมด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยของคังอิง
คังอิงนำอาหารที่อยู่ในถุงพลาสติกออกมาใส่จานแล้ววางไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็นำเบียร์ไปแช่ช่องแช่แข็งตามที่สือเจียงหย่วนบอก
ในตู้เย็นของคังอิงมีของสดไม่มาก จึงแทบไม่ได้ใช้งานช่องแช่แข็งเลย ในนั้นจึงว่างเปล่า ใส่เบียร์เข้าไปสิบกว่ากระป๋องก็ยังไม่เต็ม
เบียร์ที่สือเจียงหย่วนนำมาเป็เบียร์ยี่ห้อหลานไต้แบบกระป๋อง ตอนนี้เบียร์ยี่ห้อหลานไต้กระป๋องละสามหยวนห้าเหมา ซึ่งนับว่าเป็เบียร์ราคาแพงสำหรับเมืองเล็กๆ แห่งนี้
ปกติแล้วผู้คนทั่วไปมักจะดื่มเบียร์เฉียนเจียงขวดละ 8 เหมา ส่วนเบียร์ที่แพงขึ้นมาหน่อยก็คือเบียร์หวงเหอราคาขวดละกว่าหนึ่งหยวน สำหรับเบียร์หลานไต้ถือเป็สินค้าแบรนด์เนม เป็สินค้าแบรนด์ระดับสูงในวงการเบียร์
คังอิงเก็บเบียร์เข้าตู้เย็นเรียบร้อย แล้วก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะกลางลานบ้านพร้อมวางตะเกียบกับชามให้เรียบร้อย
กับแกล้มที่สือเจียงหย่วนนำมาล้วนแต่เป็อาหารขึ้นชื่อของอำเภอหลี่ว์โดยเลือกมาอย่างพิถีพิถัน อย่างเช่นขาหมูเย็นนั้นมีกรรมวิธีที่ค่อนข้างซับซ้อน ได้ยินมาว่าต้องใช้ขาหลังทั้งขาของหมู ออกไปตุ๋นก่อน จากนั้นค่อยนำเนื้อยัดกลับเข้าไป ส่วนเป็ดเค็มนั้น ถึงแม้จะมีขายในหลายๆ ที่ แต่การทำเป็ดเค็มให้อร่อยนั้นก็อยู่กับว่าเนื้อเป็ดสดและรสชาติดีหรือไม่ ซึ่งเป็ดเค็มของอำเภอหลี่ว์ทำถึงมาก
พอเห็นคังอิงหยิบตะเกียบกับชามออกมาจัดเตรียมไว้พร้อม สือเจียงหย่วนก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที ใช่แล้ว แบบนี้แหละถึงจะเป็เพื่อนกัน
ความสุขที่สุดของฤดูร้อนก็คือ การนั่งดื่มเบียร์เย็นๆ คุยโม้โอ้อวดกับเพื่อนสนิท และปล่อยให้สายลมเย็นๆ พัดมาเบาๆ ชีวิตนี้ช่างมีความสุขยิ่งนัก
สือเจียงหย่วนออกมาจากเมืองหลวงได้สักพักแล้ว ่นี้เขายุ่งอยู่กับเื่ธุรกิจเหมืองถ่านหินที่อำเภอหลี่ว์ จึงไม่ค่อยมีเวลาสังสรรค์กับใคร
แม้ว่าอำเภอหลี่ว์แห่งนี้เขาจะมีเพื่อนที่รู้จักกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สนิทสนมถึงขั้นสามารถพูดคุยกันได้ทุกเื่แบบจ้าวซื่อหง ซึ่งเขามีหลายเื่เก็บเอาไว้ในใจมานาน และอยากจะระบายกับคนอื่นบ้าง
หลังจากคังอิงจัดเตรียมตะเกียบกับชามเรียบร้อย พอเห็นว่าได้เวลา เธอจึงไปหยิบเบียร์สองกระป๋องออกมาจากตู้เย็น ตอนนี้เบียร์ก็เย็นได้ที่แล้ว เธอจึงนำเบียร์ที่เหลือออกจากช่องแช่แข็งไปไว้ช่องธรรมดา เพื่อไม่ให้เบียร์ถูกแช่แข็งนานเกินไปจนกลายเป็น้ำแข็ง
พอหยิบเบียร์ออกมาจากช่องแช่แข็ง ก็มีหยดน้ำเกาะบนกระป๋องสีน้ำเงินที่ส่งกลิ่นอายความเย็นออกมาทันที พอวางเบียร์ไว้บนโต๊ะเล็กๆ มันก็ตัดกับสีของกับแกล้ม จนหากหยิบกล้องมาถ่ายรูปเอาไว้ คงจะเป็ภาพฤดูร้อนที่แสนงดงามทีเดียว
สือเจียงหย่วนเปิดฝากระป๋องเบียร์แล้วยื่นให้คังอิง จากนั้นก็เปิดกระป๋องของตนเอง ทั้งคู่ไม่ได้ใช้แก้ว พวกเขาดื่มเบียร์จากกระป๋องโดยตรง
สือเจียงหย่วนยกกระป๋องเบียร์ขึ้น พลางกล่าวกับคังอิงว่า “พวกเรามาดื่มกันหน่อย ฉลองความร่วมมืออันแสนราบรื่น!”
คังอิงมองใบหน้ายิ้มแย้มของสือเจียงหย่วน เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ธุรกิจยังไม่ได้เริ่มเลย ทำไมเขาดูมีความสุขขนาดนั้น หรือเขาจะมีเื่ดีใจอย่างอื่น แล้วถือโอกาสนี้ระบายความสุขออกมา?
คังอิงที่คิดแบบนั้นจึงชนกระป๋องเบียร์กับเขา จากนั้นทั้งสองคนก็ดื่มเบียร์ไปคนละอึก
สือเจียงหย่วนเป็คนดื่มเก่ง เขาดื่มเสียงดัง ‘อึก อึก’ เบียร์ไหลลงคออย่างรวดเร็ว
ตอนที่คังอิงได้ยินเสียงเขาวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ เธอจึงรู้ว่าเบียร์กระป๋องนี้คงถูกดื่มไปครึ่งกระป๋องแล้ว
ดูท่าสือเจียงหย่วนจะมีเื่ดีใจจริงๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีความสุขขนาดนี้ แต่เขาไม่ได้พูดอะไร คังอิงก็ไม่ถามเช่นกัน พวกเขาเป็เพียงหุ้นส่วนทางธุรกิจ ความสัมพันธ์ยังไม่สนิทสนมถึงขั้นจะต้องถามเื่ของกันและกันให้ละเอียดขนาดนั้น
คังอิงไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำให้สือเจียงหย่วนดีใจมากที่สุดก็คือ การที่เขาสามารถสั่งสอนฟู่ซินหลางได้อย่างสาสม แต่เื่ดีใจเช่นนี้ เขาไม่อาจบอกกับคังอิง จึงได้แต่เก็บความยินดีนี้ไว้ในใจ
หากคังอิงอยากจะดื่มจริงๆ เธอก็ไม่เื่มาก แม้เธอจะไม่ได้ดื่มไปครึ่งกระป๋องอย่างรวดเร็วแบบสือเจียงหย่วน แต่ท่าทางในการดื่มแบบเงียบๆ ของคังอิงก็ทำให้สือเจียงหย่วนรู้สึกผ่อนคลาย
ผู้หญิงที่เขารู้จักในเมืองหลวงถ้าไม่กินดื่มจัดมากเกินไป ก็ทำเป็เขินอายกระมิดกระเมี้ยน อ้างว่าแพ้แอลกอฮอล์อะไรพวกนั้นแล้วไม่ยอมดื่ม สือเจียงหย่วนรู้สึกว่าพวกหล่อนไม่จริงใจและน่าเบื่อ
คังอิงนั้นตรงไปตรงมา ดื่มก็คือดื่ม รู้จักควบคุมปริมาณ ทำให้สือเจียงหย่วนรู้สึกสบายใจมาก
เขาออกจากเมืองหลวงมานานแล้ว ไม่ได้พูดคุยกับใครมานาน ในเวลาปกติเห็นได้ว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร คังอิงจะเข้าใจที่เขาพูด ดังนั้นสือเจียงหย่วนจึงรู้สึกว่า ได้ดื่มและพูดคุยกับคังอิงน่าจะเป็เื่ที่ผ่อนคลายมากที่สุด และความจริงก็ไม่ได้ทรยศเขา
ในเมื่อพวกเขาเป็หุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้นคังอิงจึงถือโอกาสนี้รายงานความคืบหน้าของธุรกิจให้สือเจียงหย่วนฟัง
เธอจึงได้เล่าเื่ที่เธอไปเจรจาต่อรองกับทางสำนักงานใหญ่ในวันนี้ให้สือเจียงหย่วนฟัง เธอเล่าว่าผู้จัดการหลี่สนใจให้ทำสัญญาเช่าห้างสรรพสินค้ามิตรภาพ เธอกับผู้จัดการหลี่ได้เจรจาตกลงความตั้งใจเบื้องต้นกันเรียบร้อยแล้ว
“อะไรนะ? คุณจะเช่าห้างสรรพสินค้ามิตรภาพทั้งหมดเลยเหรอ? แถมยังจะเซ็นสัญญาสิบปีอีก?”
เื่นี้เหมือนะเิลูกใหญ่ สือเจียงหย่วนตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาไม่ได้คิดจะทำเื่ใหญ่ขนาดนี้ ั้แ่แรกเขาแค่คิดจะเอาเงินสองแสนหยวนให้คังอิงไปลองทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เปิดร้านเล็กๆ สักร้านในตัวอำเภอ มีลุงเขยรองของเขาคอยดูแล ถึงจะไม่ได้กำไรก้อนโต แต่ก็คงไม่ขาดทุนอะไร
แต่คังอิงกลับทำเื่ใหญ่ เธอคิดจะเช่าห้างสรรพสินค้ามิตรภาพทั้งหมด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้