ณ ลานประลอง นอกจากเหลียวหานที่ปลิวกระเด็นไปไกล และเสียงร้องด้วยความเ็ปที่หายตามไปด้วย ก็ไม่มีเสียงอย่างอื่นอีกเลย
เพราะหลังจากที่ผู้ชมทุกคนได้เห็นิอวี่โยนเหลียวหานปลิวไปไกลแล้ว ทั้งหมดก็อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกสักคำ!
จนถึงตอนนี้ ผู้ชมกว่าห้าหมื่นคนถึงได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูขึ้นมา!
พวกเขาเคยเห็นคนที่ใช้กำลังรุนแรงในการเอาชนะคู่ต่อสู้ แต่ไม่เคยเห็นใครใช้วิธีการโจมตีแบบนี้เอาชนะคู่ต่อสู้มาก่อน
การที่จับคนทุบกับพื้นไปมา แล้วโยนคนคนหนึ่งออกไปเหมือนขยะชิ้นหนึ่ง มันเป็วิธีการที่หยาบคายมาก ทำให้พวกเขาเปิดโลกใหม่ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนเลย!
แล้วพวกที่เคยดูถูกิอวี่ที่เคยประชดประชันเขาก่อนหน้านี้นั้น แต่ละคนก็ต้องอ้าปากค้างจนแมลงวันบินเข้าไปได้เลย พวกเขาทั้งรู้สึกตะลึง หน้าแดง และอับอายอย่างมาก
เมื่อครู่พวกเขาเยาะเย้ยว่าิอวี่เป็แค่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งก็ทำอวดเก่ง คิดว่าเขาจะต้องกลายเป็ตลกต่อหน้าทุกคนแน่และกำลังรอดูิอวี่ขายหน้า แต่ิอวี่กลับโยนตัวเหลียวหานออกไปนอกลานประลอง มันทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองต่างหากที่เป็ตัวตลก
พวกเขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พลังกายของิอวี่คล่องแคล่วว่องไวราวกับสายน้ำ จังหวะการโจมตี จังหวะการจับข้อเท้าของเหลียวหาน เขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
เขาใช้พลังกายหลบการโจมตีก่อน เพื่อลดถอนความอดทนของเหลียวหาน และเมื่ออีกฝ่ายหงุดหงิดจนถึงที่สุดแล้ว ิอวี่ก็ตั้งใจปล่อยให้เห็นช่องโหว่ของเขา จากนั้นก็จับล็อคข้อขาของเหลียวหานแล้วจัดการทุบจนได้รับาเ็สาหัส
พูดได้เลยว่า ั้แ่ต้นจนจบิอวี่ลงมือแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาใช้กระบวนท่าเดียวก็เอาชนะเหลียวหานได้แล้ว!
ความสามารถแบบนี้ ศิษย์ผู้ชมห้าหมื่นคนใครกันที่จะสามารถทำได้?
พอคิดได้แบบนี้ พวกเขาก็รู้สึกผิดและอับอาย
“ ... ิอวี่ ประลองสำเร็จ”
ผู้าุโที่เป็กรรมการเองก็ตะลึงไปกับการกระทำของิอวี่เช่นกัน เขารีบสั่งให้ผู้ดูแลสองสามคนรีบไปตามหาเหลียวหานที่ปลิวออกนอกพื้นที่ลานประลอง และปกป้องความปลอดภัยของลูกศิษย์ จากนั้นถึงได้พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “เ้าอยากจะพักก่อนหรือไม่?”
ิอวี่ยิ้มให้กับผู้าุโที่เป็กรรมการแล้วพูดว่า “ไม่ต้องขอรับ”
“ ... ตกลง” ผู้าุโที่เป็กรรมการพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ขอเชิญผู้ท้าชิงคนต่อไปขึ้นบนลานประลองได้เลย!”
“ได้ยินว่า เ้าคลั่งมากเลยใช่ไหม ถ้าแน่จริงก็มาสู้กับข้า!”
หลังสิ้นเสียงของผู้าุโที่เป็กรรมการ ที่ห้องพักทางทิศตะวันออกก็มีผู้กล้าะโขึ้นมาบนเวทีจนทำให้ลานประลองสั่นไหวไปหมด
ิอวี่มองไปก็พบว่าเงาดำที่ว่านั่นเป็ชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีผิวสีคล้ำ ผมสั้นเกรียน รูปร่างสูงปานกลาง เตี้ยกว่าิอวี่ประมาณครึ่งหัว แต่ร่างกายของเขากำยำมาก ขนาดสวมเสื้อกล้ามสีดำทับอยู่ยังเห็นรอยมัดกล้ามได้อย่างชัดเจนเลย
พอทุกคนได้เห็นชายหนุ่มคนนั้น ต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น!
เพราะชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็แค่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง แต่ ... เขาเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุด!
เมื่อครู่ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดกำลังประเมินอยู่ แต่ก็ไม่ได้เลือกที่จะขึ้นไปสู้กับเหลียวหาน เพราะพวกเขารู้สึกว่าถึงเอาชนะได้ก็ไม่สามารถแสดงพร์กับความสามารถของพวกเขาได้
แต่ในตอนนี้ ิอวี่เอาชนะเหลียวหานไปได้และเขากำลังได้ใจ นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าิอวี่นั้นเหนือกว่าเหลียวหานมากมายหลายเท่า
ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้หากใช้ความสามารถเอาชนะิอวี่ได้ ก็น่าจะสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่มีออกมาให้ได้เห็นไม่ใช่หรือ?
เพราะมีความคิดแบบนี้ ชายหนุ่มถึงได้ชิงขึ้นลานประลองทันทีที่ผู้าุโที่เป็กรรมการพูดจบ เอาชนะเพื่อให้ได้หน้า เพื่อที่จะได้แสดงความสามารถให้ผู้าุโใหญ่ได้เห็น!
ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าสือหลง เป็เด็กใหม่ที่เข้ามาเมื่อปีก่อนของสายเลี่ยนเหยียน เพราะมีความสามารถที่แข็งแกร่งอย่างมากจึงมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ศิษย์ทั่วไป วินาทีที่เขาปรากฏตัว หลายต่อหลายคนที่รู้จักเขาต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องะโกันออกมา
เมื่อครึ่งปีก่อนเขาล้มเหลวในการคัดเลือกศิษย์ชั้นยอด สือหลงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เขาฝึกฝนตัวเองอย่างบ้าคลั่งตลอดระยะเวลาครึ่งปี จนมีความสามารถที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม!
หลายคนบอกว่า การคัดเลือกศิษย์ชั้นยอดในครั้งนี้ สือหลงน่าจะได้เป็หนึ่งในผู้ที่ถูกคัดเลือกแน่!
“เหอะๆ เ้าหนู เมื่อครู่ลงมือหยาบคาบไปหน่อยนะ ข้าเองก็ยังใเลย”
สือหลงมองไปที่ิอวี่ ท่าทางของเขาดูเต็มไปด้วยความมั่นใจ “แต่ว่า กระบวนท่าแบบนั้นถ้าเอามาใช้กับข้า มันไม่น่าจะได้ผลอะไร”
พูดจบ สือหลงก็เริ่มยืนตั้งหลัก บนใบหน้าที่ผิวคล้ำดำเหมือนมีชั้นสีแดงบางๆ เคลือบอยู่ อุณหภูมิในร่างกายของเขาเพิ่มพูนขึ้นมา แล้วท่าทางของเขาก็เริ่มสุขุมลง
“เป็ไปอย่างที่คิดเลย สือหลงฝึกรูปปั้นหินไฟสำเร็จแล้ว!” มีเสียงผู้ชมจากนอกพื้นที่ประลองพูดขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
รูปปั้นหินไฟเป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้นประเภทหนึ่ง ที่สามารถดูดซับพลังงานธาตุไฟเพื่อเพิ่มความหนาแน่นให้กับมวลร่างกาย ทำให้มีความแข็งแกร่งหนักแน่นเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
สือหลงแค่ยืนอยู่อย่างนั้นก็เหมือนกับป้อมปราการรูปร่างมนุษย์ที่ไม่อาจทะลุทะลวงไปได้เลย มีแต่ทางตันเท่านั้น!
“ข้ายังมีกระบวนท่าสังหารกับทักษะพลังกายอีกหลายอย่าง แต่ว่า ในฐานะผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุด ข้าไม่อยากใช้ระดับพลังที่แตกต่างรังแกเ้า ดังนั้น ั้แ่ตอนนี้ข้าจะตั้งรับอย่างเดียว”
สือหลงพูดว่า “เ้าใช้กระบวนท่าสังหารของเ้าโจมตีใส่ข้าได้เลย ข้าจะให้เวลาเ้าหนึ่งก้านธูป หลังจากหนึ่งก้านธูปหากข้ายังไม่ขยับก็ขอให้เ้าลงจากลานประลองนี้ไปซะ”
ถึงแม้สือหลงจะไม่ได้เลือกใช้วิธีโจมตี แต่การป้องกันของผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งในเวลาหนึ่งก้านธูปโดยที่ไม่ขยับเลยนั้น ต่อให้เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งคนอื่นก็ยากที่จะทำได้
ทุกคนเข้าใจดี สือหลงกำลังจะแสดงความเชี่ยวชาญในความสามารถของเขาออกมา คิดอยากจะให้เหล่าผู้าุโใหญ่ทั้งหลายเห็นพลังการป้องกันที่น่าทึ่งของเขา!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความคิดของสือหลงนั้นมันยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องลงมือ ิอวี่ก็สามารถทำให้เขาแสดงความแข็งแกร่งที่สุดของตนเองออกมา
“เ้าคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่า” ิอวี่เหลือบมองไปที่สือหลง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เ็า
“ไม่ต้องพูดมาก ลงมือมาเลย”
สือหลงกวักมือเรียกิอวี่ น้ำเสียงของเขานิ่งมาก
“ได้”
ิอวี่จึงไม่พูดมากอีก เวลานี้ พลังงานจำนวนมากจากดวงจิตเทวะสีแดงทองกำลังไหลเข้าสู่หมัดขวา ดวงตาของเขาเป็ประกาย มันเหมือนมีพลังอนุภาพบางอย่างปรากฏขึ้นและกดดันไปที่สือหลง!
ในเวลานี้เอง สือหลงรู้สึกได้ทันทีเลยว่าท่าทางของิอวี่นั้นแตกต่างออกไป มันทำให้จิตใจที่แน่วแน่ของเขาก่อนหน้านี้รู้สึกไม่ค่อยสงบ และเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาจากส่วนลึกในจิตใจ ...
ในเวลานี้เองิอวี่ก็เริ่มลงมือ ปลายเท้าของเขาดีดพื้นแล้วพุ่งตรงเข้าใส่สือหลง ตอนที่ขยับเข้าใกล้สือหลงประมาณสิบเมตรนั้นเขาไม่ได้กะพริบตาเลย!
สือหลงรวบรวมพลังสติจนอยู่ในระดับสูงสุด และเริ่มเดินพลังรูปปั้นหินไฟ แขนขาที่กำยำปักหลักอยู่กับที่อย่างแ่า!
ิอวี่บิดตัว แขนขวาของเขากล้ามเนื้อปูดโปนขึ้นมา ลมปราณจากดวงจิตเทวะทยอยไหลเข้าสู่แขนข้างนั้น หมัดที่ดูเชื่องช้าพุ่งเข้าใส่หน้าอกของสือหลงในทันที
พลังมหาศาลพุ่งเข้ามาในทันที!
“เ้า ... ”
สือหลงตาโต ท่าทางของเขาเปลี่ยนไป หลังจากนั้นตัวของเขาก็เหมือนลูกะุที่พุ่งออกไปนอกลานประลองและชนเข้ากับกำแพงรอบนอกจนเกิดรอยร้าวเหมือนใยแมงมุม!
หมัดเดียวก็ลงจากลานประลองไปเลย!
“อะไรกัน!”
ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาคิดว่าิอวี่น่าจะต้องลงมือโจมตีกับสือหลงหลายต่อหลายครั้งถึงจะทำให้สือหลงที่แข็งแกร่งดั่งผนังเหล็กนั้นขยับเคลื่อนไหวสักนิด แต่ใครจะคิดว่าิอวี่ใช้แค่หมัดเดียวก็ซัดสือหลงกระเด็นลงจากลานประลองได้แล้ว!
ทั่วทั้งลานประลอง ไม่มีใครตกตะลึงเท่าสือหลงอีกแล้ว
เมื่อครู่เขาใช้รูปปั้นหินไฟแล้ว แต่ิอวี่กลับไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้ใดๆ เลย แค่หมัดธรรมดาและลมปราณที่แข็งแกร่งก็ซัดเขาจนกระเด็นออกมาได้แล้ว!
แน่นอนว่า เป็เพราะทักษะรูปปั้นหินไฟสือหลงเลยไม่ได้รับาเ็หนัก แต่หากเมื่อครู่ิอวี่ไม่ได้ปราณีแล้วเลือกที่จะใช้ทักษะการต่อสู้ขึ้นมา สือหลงคงไม่ใช่แค่ปลิวกระเด็นออกนอกลานประลองอย่างเดียว แต่กระดูกหน้าอกของเขาคงหักไปแล้ว!
ดังนั้น ในเวลานี้เอง ไม่มีใครนับถือน้ำใจของิอวี่ได้มากเท่าสือหลงอีกแล้ว
“เป็ข้าเองที่อวดดี เ้าชนะแล้ว”
สือหลงลุกขึ้นมาจากกองเศษกำแพงแล้วคำนับให้กับิอวี่ ถึงแม้ในใจของเขาจะยังไม่ค่อยพอใจ แต่คำพูดและน้ำเสียงของเขาก็แสดงถึงความนับถือมาก มันออกมาจากใจจริงๆ ของเขาทั้งหมด
ิอวี่แค่ยิ้ม “ออมมือแล้ว”
ในเมื่อคู่ต่อสู้ยอมแพ้แล้ว เขาก็ไม่ได้จำเป็จะต้องหยิ่งในชัยชนะของตัวเอง
“สือหลง เ้าถูกคนซัดลงมาจากลานประลอง แต่กลับยอมแพ้เอง เหอะๆ ศักดิ์ศรีของเ้าไปไหนแล้ว?”
ในเวลานี้เอง เสียงนุ่มนวลของชายคนหนึ่งก็ดังเข้ามาในหู เป็เสียงที่ทำให้คนฟังรู้สึกรื่นรมย์มาก เมื่อทุกคนได้สติก็พบว่าชายหนุ่มคนนั้นสวมชุดสีแดงเพลิงไว้ผมยาว เขาปรากฏตัวขึ้นบนลานประลอง
ชายคนนั้นผิวขาวเนียนผ่อง คิ้วโก่งจมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ดูสวยกว่าผู้หญิงทั่วไปอีก หากเข้าไปอยู่ท่ามกลางผู้คนเขาจะต้องกลายเป็ที่โดดเด่นอย่างมาก
ชายหนุ่มไม่ได้มีสีหน้าท่าทางอะไรมากมาย เขาแค่ยิ้มมุมปาก เมื่อรวมกับใบหน้าและรูปร่างที่ผอมสูง มันยิ่งทำให้เขาดูเ็าอย่างมาก
“เอ๊ะ!”
หลังจากผู้ชมกว่าห้าหมื่นคนได้เห็นชายหนุ่มคนนี้แล้ว ต่างก็กรีดร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
“นั่นเซียวหราน เซียวหรานขึ้นประลองแล้ว! ว้าย ... ทำอย่างไรดี ตื่นเต้นจังเลย ... ”
“เซียวหราน เราชอบเ้านะ เซียวหราน!”
“กรี๊ด! ... เซียวหราน! เซียวหราน! เซียวหราน!”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เซียวหรานดูจะเป็ที่ชื่นชอบของหญิงสาวจำนวนมาก ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่เขายังมีพร์ที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย!
เมื่อหนึ่งปีก่อน เขากับสือหลงเข้าสายเลี่ยนเหยียนพร้อมกัน ตอนนั้นเขายังเป็แค่ขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง เมื่อผ่านไปหนึ่งปี ตอนนี้เซียวหรานมีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งระดับสูงสุดแล้ว และมีความสามารถเทียบเคียงกับขอบเขตอมฤตขั้นที่สองด้วย!
เขาอาศัยพร์และทักษะกระบี่จนกลายเป็คนที่โดดเด่นในหมู่ศิษย์ทั่วไป โดยไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งเขายังมีรูปร่างหน้าตาภายนอกที่ดีมาก เลยกลายเป็จุดดึงดูดใจของสาวๆ
พูดได้เลยว่า เซียวหรานเป็เทพบุตรของพวกนาง!
ปกติเซียวหรานไม่ค่อยปรากฏตัวเท่าไร ผู้หญิงหลายคนอยากจะเจอสักครั้งยังยากมาก แต่ตอนนี้มาได้เห็นเทพบุตรของพวกนางอยู่บนลานประลอง พอนึกถึงว่าเขาจะได้ร่ายรำกระบี่ พวกนางก็ตื่นเต้นดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่
