ประสบการณ์ที่ได้มาจากมอนสเตอร์ระดับเซียนค่อนข้างมากทำให้เย่เทียนเซี่ยก้าวะโจากเลเวล 15 ไปสู่เลเวล 16 ได้ในทันที และการเลื่อนระดับอีกครั้งของเขาก็นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงของรายการจัดอันดับเลเวลจนทำให้บรรดาผู้เล่นในเขตาหัวเซี่ยต้องตกตะลึง ก่อนหน้านี้ระดับของเย่เทียนเซี่ยคือเลเวล 14 เมื่อวานเขาก็พุ่งขึ้นมาถึงเลเวล 15 อย่างเหลือเชื่อท่ามกลางสายตาของผู้เล่นนับไม่ถ้วน และวันนี้........... เพียงเวลาสั้นๆที่ผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งวันเขาก็ก้าวขึ้นไปสู่เลเวล 16 แล้ว!
พวกเขาทั้งหมดล้วนตกตะลึง และยังคงตกตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ การเพิ่มระดับด้วยความเร็วขนาดนี้มันเหลือเชื่อเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถทำความเข้าใจได้ และในเวลานี้ “เทียนโม่เซี่ย” คนนั้นที่ยังคงอยู่ลำดับที่สองของรายชื่อก็ยังคงเลเวล 14 อยู่เช่นเดิม ก่อนหน้านี้เย่เทียนเซี่ยใช้เวลาในการเก็บเลเวลในหนึ่งวันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นเขาก็ใช้เวลาเดินทางไปเมืองกู่ผิงตลอดสองวันโดยไม่มีโอกาสได้เก็บเลเวลเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นคนที่อยู่ด้านหลังของเขาในอันดับรายชื่อจึงไม่ได้ถูกทิ้งห่างไปไกลมากนัก แต่การที่เขาเลื่อนระดับอย่างต่อเนื่องสองวันติดภายในระยะเวลาสั้นๆอย่างนี้ทำให้เกิดช่องว่างมหาศาลระหว่างอันดับที่หนึ่งและอันดับที่สองถึงสองเลเวล
และเหยาเหยาเองก็เลื่อนระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงเลเวล 12 แล้วเช่นเดียวกัน ในฐานะสัตว์เลี้ยงค่าประสบการที่มันได้รับจะมากกว่าเย่เทียนเซี่ยทำให้ระดับของมันเลื่อนขึ้นไปอย่างง่ายดาย
แสงสว่างของการเลื่อนระดับส่องสว่างขึ้นมาบนหัวของซูเฟยเฟย จั้วพั่วจวินและมู่หรวชิงสุ่ยพร้อมกันทำให้พวกเขาทุกคนเลื่อนระดับขึ้นไปอีก 1 เลเวลทันที เนื่องจากความเสียหายที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกได้รับดูเหมือนจะมาจากเย่เทียนเซี่ยทั้งหมดดังนั้นค่าประสบการณ์ที่เย่เทียนเซี่ยได้รับไปเพียงคนเดียวจึงสูงถึง 50% และอีก 50%ที่เหลือก็ถูกแบ่งไปให้คนอีกสามคน เมื่อมองช่องค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นจนเต็มและหลอดค่าประสบการณ์ในเลเวลใหม่ที่ยาวเหยียดพวกเขาถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วการเลื่อนระดับนั้นก็เป็เื่ที่ง่ายดายเช่นนี้นี่เอง
เย่เทียนเซี่ยทำสำเร็จแล้ว เย่เทียนเซียได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่งท่ามกลางสายตาตกตะลึงที่เพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆของพวกเขา และเขาก็ทำสิ่งที่ไม่มีทางสำเร็จให้สำเร็จได้ราวกับปาฏิหาริย์........ ด้วยพลังของคนเพียงคนเดียวจัดการมอนสเตอร์ชั้นเซียนเลเวล 15 ที่ผู้เล่นพันคนรวมกันก็ยังไม่อาจจัดการได้
พายุหมุนจางหายไปแล้วจึงปรากฏร่างของเย่เทียนเซี่ยที่ยังคงถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงเืไปทั่วทั้งร่าง แสงนั้นส่องสว่างจนแสบตาทำให้พวกเขาแทบไม่กล้ามองตรงๆ ั้แ่เขาพุ่งเข้าไปหาราชสีห์อเมทิสต์หกปีกจนกระทั่งจัดการมันจนร่วงไปบนพื้นเขาใช้เวลาไปทั้งหมด............ไม่ถึงยี่สิบวินาทีด้วยซ้ำ!!
ฉากอันงดงามและน่าใเมื่อครู่ประทับลงไปในใจของพวกเขาและทำให้พวกเขาตื่นเต้นกับ่เวลานี้ต่อไปในอนาคตอีกยาวนาน เพราะพวกเขาได้เป็พยานในตำนานอันเหลือเชื่อนี้ด้วยตาของตัวเอง
“พี่รอง สำเร็จแล้ว..........” จั้วพั่วจวินกำหมัดแน่น งุนงง ตื่นเต้น ใ มึนเบลอ ไม่อยากเชื่อ..........ความรู้สึกเหล่านี้แสดงอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างสับสน ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์บนใบหน้าไป
“แสงสีเือาบย้อมสายลมแห่งความสิ้นหวัง และก่อนเกิดเป็ตำนานอันไปน่าเป็ไปได้.......โอ้! ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าถ้าเื่ทั้งหมดเมื่อกี้นี้ถูกถ่ายเอาไว้แล้วถ่ายทอดไปสู่แต่ละมุมของโลก ไม่รู้ว่ามันจะเป็พายุอันที่ทำให้คนตื่นเต้นแค่ไหน โอ้! ฉันล่ะเสียใจจริงๆที่ลืมถ่ายวีดีโอเอาไว้ เพราะตอนนั้นฉันลืมไปหมดทุกอย่างเลย” มู่หรงชิวสุ่ยพึมพำออกมาอย่างเสียใจ สองมือของเขาลูบคลำไปที่ธนูเหล็กในมืออย่างลืมตัว
“เซี่ยเทียน เก่งสุดๆ เก่งสุดๆไปเลย........” ซูเฟยเฟยเอามือปิดปากเอาไว้ตลอด ั้แ่เย่เทียนเซี่ยพุ่งเข้าไปหาราชสีห์อเมทิสต์หกปีกจนกระทั่งราชสีห์อเมทิสต์หกปีกตกอยู่ในพายุสีเืนั่นจนร่วงลงไปในที่สุด สายตาของเธอก็มองตามการเคลื่อนที่ของเย่เทียนเซี่ยตลอดโดยไม่กระพริบตา ต่อให้เธอจะโง่เง่าในการเล่นเกมแต่ก็น่าจะรู้ว่าความเสียหายมหาศาลจากการโจมตีของเย่เทียนเซี่ยเมื่อครู่นี้หมายความว่าอะไร....... มันคือตัวเลขมหาศาลที่ผู้เล่นใน่เริ่มต้นนี้ไม่มีทางทำได้และไม่มีทางปรากฏขึ้นมาในตัวพวกเขาเด็ดขาด!
และภายใต้ตัวเลขมหาศาลเหล่านี้ เขาได้ทำเื่ปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อสำเร็จแล้ว!
ความตื่นเต้น ความกระตือรือร้น ความภูมิใจ และยังมีความชื่นชมและความหลงใหลพุ่งพล่านขึ้นมาด้วย ยิ่งนานไปเธอก็ยิ่งพบว่าเขาเป็ผู้ชายที่สุดยอดแค่ไหน ทั้งหมดของเขาทำให้เธอยิ่งสลักภาพของเขาเอาไว้ในใจของเธอลึกลงไปเรื่อยๆ แม้ว่าเธอจะอยู่ร่วมกับเขาเป็ระยะเวลาสั้นๆก็ตาม......... ต่อให้จากนี้ไปจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว ตลอดชีวิตของเธอก็จะไม่มีทางลืมเขาเด็ดขาด
เย่เทียนเซี่ยยิ้มน้อยๆ หลังจากใช้พายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้าไปแล้วอารมณ์อันรุนแรงที่เกิดมาจากผลของทักษะาคลั่งและสังเวยเืแห่งโชคชะตาที่อยู่ในใจเขาก็สงบลงไปในที่สุด เขาหยิบน้ำยาฟื้นฟูออกมาขวดหนึ่งแล้วฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองขึ้นเป็ 405 หน่วย และขณะเดียวกันนั้นขนนกสีเืบนห้วงเวลาแห่งโชคชะตาก็หยุดส่องแสง และแสงสีแดงเืที่ส่องสว่างออกมาของมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
เย่เทียนเซี่ยยกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาที่เขามักจะถือไว้ข้างกายั้แ่วันแรกที่เธอจากไปและมันก็เป็สิ่งที่อยู่กับเขาตลอดทุกวันใน World of Fate ขึ้นมาแล้วจ้องมองมันเงียบๆ......... เขารู้ว่าการสังหารราชสีห์อเมทิสต์หกปีกและการสร้างปาฏิหาริย์เ่าั้ไม่ใช่ตัวเขาเอง แต่เป็ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาต่างหาก วันนี้ภายใต้การคำนวณและการชักนำของเย่เทียนเซี่ยในที่สุดห้วงเวลาแห่งโชคชะตาก็ได้แสดงเขี้ยวเล็บอันน่ากลัวของมันออกมาเป็ครั้งแรก ด้วย “สังเวยเืแห่งโชคชะตา” ทำให้เขาได้รับพลังที่เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
แค่ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาได้รับการฟื้นฟูด้วยผลึกแห่งโชคชะตาหนึ่งชิ้นก็น่ากลัวถึงเพียงนี้แล้ว และถ้าผลึกแห่งโชคชะตากลับมาครอบเจ็ดชิ้นล่ะ ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาที่มีรูปร่างสงบูรณ์จะสามารถแข็งแกร่งได้ถึงระดับไหนกัน? เขาพึมพำในใจเบาๆแล้วจ้องมองมัน ความปรารถนาในการตามหาผลึกแห่งโชคชะตาค่อยๆขยายตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ความปรารถนาในการตามหาผลึกแห่งโชคชะตา ก็เพื่อเธอ เพื่อพลังของตัวเอง.......... ในตอนที่เขาอายุได้สี่ขวบ เขาปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีพลัง ในโลกแห่งนี้เขาก็ยังคงปรารถนาสิ่งเดียวกัน
“์ พระเ้า แม่เ้าโว้ย! พี่รอง พี่ทำสำเร็จแล้ว! พี่จัดการมอนสเตอร์ชั้นเซียนได้ด้วยตัวคนเดียว!!” จั้วพั่วจวินวิ่งเข้ามาจากที่ไกลๆพร้อมกับร้องออกมาเสียงดัง สีหน้าของเขายังคงแสดงท่าทางโอเวอร์เกินเหตุ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงไม่หายใจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ และยังคงหลงเหลือความรู้สึกเหมือนภาพลวงตาจนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเองอยู่
“ถ้าเื่นี้ให้ทำสำเร็จโดยคนอื่นคงจะเรียกได้ว่าเป็ปาฏิหาริย์ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นกับพี่รองของเรา......โอ้! ทำไมฉันถึงคิดว่ามันเป็เื่ที่ธรรมดาสุดๆแบบนี้ล่ะ” มู่หรงชิวสุ่ยเดินตามหลังจั้วพั่วจวินเข้ามาด้วยจังหวะไม่ช้าไม่เร็วแล้วพูดออกมาเบาๆ
จั้วพั่วจวินมองเขาแวบนึง “นี่เ้าสี่ ทักษะการประจบประแจงของนายนี้มันล้ำหน้าฉันไปเยอะจริงๆนะ”
“ขอบคุณคำชมของพี่สาม” มู่หรงชิวสุ่ยยักไหล่แล้วส่งสายตาเ้าเล่ห์ให้จั้วพั่วจวิน จั่วพั่วจวินตัวสั่นจนแทบอดไม่ได้อยากจะเตะมันออกไปไกลๆ
“เทียนเซี่ย นายไม่เป็ไรใช่ไหม” ซูเฟยเฟยเดินเข้าไปใกล้เขา แล้วใช้สายตาคลุมเครือมองเขาก่อนจะพูดออกไป เมื่อครู่ร่างกายของเขาถูกปกคลุ่มไปด้วยสีแดงเื บรรยากาศบ้าคลั่งราวกับพายุทำให้เธอหวาดกลัว
“อืม ไม่เป็ไร” เย่เทียนเซี่ยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีแล้วมองไปที่ซากของราชสีห์อเมทิสต์หกปีก ก่อนหน้านี้แม้แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสังหารมอนสเตอร์ชั้นเซียนได้จริงๆ ไม่คิดแม้กระทั่งว่าตัวเองจะสามารถััตัวของมอนสเตอร์ชั้นเซียนได้เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าระดับของมันจะอยู่แค่เพียงเลเวล 15 แต่ถ้าเื่นี้แพร่ออกไปมันคงสามารถสั่นะเืโลกใบนี้ได้ทั้งโลก
ซูเฟยเฟยเฟยใช้ “ทักษะรักษาขั้นต้น” ของตัวเองช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ย แต่เนื่องจากพลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยสูงมาก เมื่อเธอใช้ทักษะรักษาอย่างตั้งใจหนึ่งครั้งก็ทำให้หลอดเืของเขาฟื้นคืนกลับมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ความสามารถของทักษะรักษาขั้นต้นเท่ากับพลังจิติญญาของตัวเอง*2 พอเทียบกับผลลัพธ์ที่โคตรเวอร์ของจิ้งจอกทมิฬที่เท่ากับพลังโจมตีเวทย์*3 แล้วยังต่างกันอยู่หลายเท่า)
ซากของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกมีเหรียญทองหล่นเกลื่อนกลาดอยู่โดยรอบซึ่งน่าจะมากกว่าร้อยเหรียญ เย่เทียนเซี่ยเองก็เพิ่งรู้เป็ครั้งแรกว่าร่างของมอนสเตอร์สามารถดรอปเหรียญออกมามากมายขนาดนี้ แต่เมื่อเทียบกับไอเทมแล้ว ไอเทมไม่กี่ชิ้นที่กองอยู่บนเหรียญทองพวกนั้นดึงดูดสายตามากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย....... อย่างน้อยสายตาของจั้วพั่วจวินก็แทบจะทะลุออกจากเบ้าล่ะนะ สีหน้าแบบนั้นดูเหมือนเขาแทบจะทบไม่ไหวจนอยากจะพุ่งเข้ามาแย่งไอเทมพวกนั้นไปให้หมด
“พี่รอง นั้น.......นั่น...........” จั้วพั่วจวินกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วชี้ไปที่ดาบยาวบนพื้นที่ส่องแสงสีขาวและสีม่วงออกมา “สีแบบนี้.......... แล้วก็ความรู้สึกแบบนี้ หรือว่ามันจะเป็........อาวุธเซียน!”
เมื่อพูดถึง “อาวุธเซียน” เขาก็ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นตึกตักอย่างหนักหน่วง
คำๆนี้สำหรับผู้เล่นใน่เวลานี้คงจะเป็เื่น่าใมากเกินไป
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกดรอปไอเทมออกมาทั้งหมด 4 ชิ้น สามชิ้นส่องแสงสีทองออกมา แต่มีเพียงดาบยาวชิ้นเดียวเท่านั้นที่ปลดปล่อยแสงแปลกๆสีม่วงออกมาท่ามกลางแสงสีขาวและโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางแสงสีทองงดงาม ทำให้ผู้คนพุ่งความสนใจไปที่มันั้แ่แวบแรกและมองเมินแสงสีทองที่อยู่โดยรอบ
ส่วนไอเทมชิ้นอื่นๆพวกเขาก็รู้ว่าพวกมันเป็ไอเทมทองสามชิ้นซึ่งหมายความว่ามันจะต้องมีมูลค่ามหาศาลอย่างแน่นอน
เย่เทียนเซี่ยหยิบดาบยาวที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา ทันทีที่มันอยู่ในมือของเขาความรู้สึกเหมือนไฟช็อตเบาๆก็พุ่งออกมาจากมือของเขา
ดาบอเมทิสต์สังหาร (ดาบสองมือ) : ไอเทมระดับเซียน
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพนักรบเลเวล 15 เนื่องจากยังไม่ได้กำหนดคุณสมบัติจึงไม่สามารถใช้งานได้
“อืม มันคือไอเทมระดับเซียน แล้วก็...แค่เลเวล 15 ก็สามารถใช้ได้แล้ว” เย่เทียนเซี่ยมองดาบเล่มนั้นอีกครั้งแล้วพูดออกมานิ่งๆ
“ห๊า? จริงเหรอ....... แค่นั้นเนี่ยนะ! พี่รอง ถ้าดาบเล่มนี้..........”
“อืม นายอย่าเพิ่งใไป” เย่เทียนเซี่ยโบกมือแล้วเอาดาบอเมทิสต์สังหารเล่มนั้นเก็บเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะพูดออกมาอย่างเสียใจ “มันเป็ดาบสองมือ นายใช้ไม่ได้หรอก”
จั้วพั่วจวินน้ำตาอาบเต็มใบหน้า
“ชิวสุ่ย ดูเหมือนนายจะมีโชคแล้วล่ะ” เย่เทียนเซี่ยก้าวไปข้างหน้าแล้วเก็บไอเทมทองอีกสามชิ้นที่เหลือขึ้นมา ไอเทมหนึ่งในนั้นเป็ธนูระดับทองพอดี.......... ส่วนชื่อของมันก็ตรงไปตรงมาเช่นกัน มันมีชื่อว่าธนูทองคำ
ธนูทองคำ : ไอเทมระดับทอง
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพนักธนูเลเวล 15 คุณสมบัติพละกำลังมากกว่า 20 หน่วยขึ้นไป เนื่องจากยังไม่ได้กำหนดคุณสมบัติจึงไม่สามารถใช้งานได้
คุณสมบัติหลักของนักธนูก็คือความคล่องตัว สำหรับนักธนูแล้วความคล่องตัวไม่เพียงส่งผลต่อความสามารถในการหลบหลีกและความสามารถในการสร้างความเสียหาย แต่มันยังส่งผลอย่างมากต่อความสามารถในการโจมตีด้วย แต่คุณสมบัติพละกำลังก็สำคัญสำหรับนักธนูเช่นกัน เพราะหากมีพละกำลังไม่เพียงพอก็ไม่สามารถง้างธนูในระดับที่สูงขึ้นไปได้ ดังนั้นด้วยจุดนี้นักธนูจึงมักจะเพิ่มคุณสมบัติความคล่องตัว 4 หน่วยและพละกำลัง 1 หน่วย หรืออาจจะแบ่งไปให้ความแข็งแกร่งอีก 1 หน่วยก็ได้
“พี่รอง พี่คือดวงอาทิตย์อันงดงามในชีวิตของผม......” มู่หรงชิวสุ่ยพูดออกมาด้วยความรัก
เย่เทียนเซี่ยสั่นสะท้าน “ปล่อยฉันก่อน เอาไว้ประเมินเสร็จแล้วจะให้นายก็แล้วกัน”
