จางไต้ซือที่ถือยาอายุวัฒนะไว้ในมือ กล่าวขึ้นเสียงดังว่า “นี่คือยาเพิ่มสมรรถภาพ เป็ยาอายุวัฒนะขั้นสอง ยาตัวนี้สามารถเสริมพละกำลังให้กับผู้ใช้ได้ในทันที ทั้งยังมีผลในการขับพิษบางชนิดอีกด้วย”
หลังจากจางไต้ซือกล่าวจบ เขาก็ส่งยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นให้กับบุรุษแซ่ซุน ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ผู้าุโซุน ท่านลองตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ดูเถิด”
เมื่อบุรุษแซ่ซุนรับยามาแล้ว เขาก็มองพิจารณาสีและเนื้อััของมัน พร้อมทั้งพิสูจน์กลิ่นของตัวยาด้วย จากนั้นเขาก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ถูกต้อง นี่คือยาอายุวัฒนะขั้นสองระดับสูง เป็ยาเพิ่มสมรรถภาพ”
“จางเฉวียนตั้นสามารถหลอมยาอายุวัฒนะขั้นสองระดับสูงออกมาได้จริงด้วย ดูเหมือนว่าตำแหน่งปรมาจารย์โอสถขั้นสามคงอยู่ไม่ไกลแล้ว”
“ถูกต้อง ดูเหมือนว่าเ้าเด็กคนนั้นคงจะแพ้แล้ว”
นักสลักลายเส้นต่างก็กระซิบกระซาบกันถึงเื่นี้
พรึ่บ!
ทันใดนั้น เมื่อมู่เฟิงตบลงไปบนเตาหลอมโอสถ เม็ดยาก็ลอยออกมาจากเตาหลอม และยาเม็ดนี้ก็สีเหลืองเช่นกัน เพียงแต่มันไม่ได้มีสีสดใสแวววาวเหมือนกับยาเพิ่มสมรรถภาพ แต่มันมีสีเหลืองเข้ม
มู่เฟิงรับยามา ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น “ยาอายุวัฒนะขั้นสอง ยาอิ่มทิพย์!”
“ว่าอย่างไรนะ ยาอิ่มทิพย์!”
“ฮ่าๆ ๆ ๆ นึกไม่ถึงว่าจะเป็ยาอิ่มทิพย์!”
ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำกล่าวของเขา จากนั้นก็มีหลายคนหัวเราะออกมาเสียงดัง เสียงหัวเราะของพวกเขาล้วนแสดงออกถึงความเหยียดหยาม
“หากต้องเปรียบเทียบกับยาอิ่มทิพย์ขั้นสองระดับต่ำ เขาก็แพ้แล้ว”
“ถูกต้อง ยาอิ่มทิพย์เป็โอสถขั้นสองที่สามารถพบเห็นได้มากที่สุด แต่ก็เป็โอสถขั้นสองที่มีมูลค่าต่ำที่สุดเช่นกัน หากเปรียบเทียนในแง่ของมูลค่า เ้าเด็กนั่นคงจะแพ้แล้ว”
นักสลักลายเส้นโอสถพากันพูดจาดูถูกถางถากเด็กหนุ่ม
“ฮ่าๆ ๆ ๆ เฟิงเย่ อย่างมากเ้าก็หลอมออกมาได้เพียงโอสถขั้นสองระดับต่ำเท่านั้น เ้าแพ้แล้ว ยาเพิ่มสมรรถภาพหนึ่งเม็ดของข้า มีมูลค่าเทียบเท่าได้กับยาอิ่มทิพย์สองเม็ดของเ้าด้วยซ้ำ”
จางเฉวียนตั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ยาอิ่มทิพย์เป็ยาอายุวัฒนะที่มีมูลค่าต่ำที่สุดในบรรดายาอายุวัฒนะขั้นสอง และยังเป็ตัวยาที่ถูกใช้บ่อยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ยาชนิดนี้ยังมีผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว นั่นคือมอบพลังงานที่จำเป็ต่อร่างกายเพื่อต้านทานความหิวโหยเท่านั้น
หากทานยาอิ่มทิพย์เข้าไปก็จะสามารถไปอดอาหารเป็เวลาสามถึงสี่วันได้โดยไม่มีผลกระทบ
ยาอายุวัฒนะชนิดนี้เป็ตัวยาที่ผู้คนจำนวนมากใช้กันในเวลาเดินทาง ซึ่งมันก็มีคุณสมบัติไม่ต่างจากอาหารแห้งที่ถูกบีบอัด
“อย่าได้รีบร้อนตัดสินไป”
มู่เฟิงกล่าวอย่างใจเย็น ก่อนจะส่งยาอิ่มทิพย์ให้กับบุรุษแซ่ซุน
บุรุษแซ่ซุนถอนหายใจ ภายในใจของเขาได้ตัดสินผลแพ้ชนะไปก่อนแล้ว แต่ก็ยังต้องนำเม็ดยาของเฟิงเย่มาพิจารณาดูก่อน
“หื้ม!”
แต่เมื่อเขาได้มองพิจารณายาเม็ดนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว สีหน้าของบุรุษแซ่ซุนก็พลันเปลี่ยนไปในทันที ในที่สุดเขาก็เผยความตื่นตะลึงออกมา ก่อนจะเหลือบมองไปทางมู่เฟิง
หลังจากนั้น เขายังคงตรวจสอบอย่างระมัดระวังอีกครั้ง และใบหน้าของเขาก็ดูตื่นตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของบุรุษแซ่ซุน คนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือว่ายาอิ่มทิพย์เม็ดนี้จะมีอะไรผิดปกติกัน?
จางไต้ซือเองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
ในที่สุดบุรุษแซ่ซุนก็มองไปทางฝูงชนก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ยาเม็ดนี้คือยาอิ่มทิพย์จริงๆ”
“เฮ้อ…”
ทุกคนต่างก็รู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินดังนั้น พวกเขายังเผลอคิดไปว่าอาจจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น
“เพียงแต่ยาเม็ดนี้เป็ยาอิ่มทิพย์ที่เกือบจะอยู่ในขั้นสาม กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ยาอิ่มทิพย์นี้เป็ยาอายุวัฒนะขั้นสองระดับสูงสุด!”
แต่ประโยคต่อมาของบุรุษแซ่ซุนกลับทำให้ผู้คนต้องตื่นตะลึง
“ว่าอย่างไรนะ ยาอายุวัฒนะที่เกือบจะอยู่ในขั้นสาม!”
ทุกคนต่างก็ตื่นใเป็อย่างมาก
“ผู้าุโซุน จะเป็ไปได้อย่างไร ยาอิ่มทิพย์จะสามารถหลอมออกมาให้อยู่ในระดับที่เกือบจะอยู่ในขั้นสามได้อย่างไร?”
“ถูกต้อง ผู้าุโซุน ท่านไม่ได้ดูผิดไปใช่หรือไม่?”
หลายคนต่างก็เริ่มตั้งคำถาม กระทั่งจางไต้ซือเองยังไม่อยากจะเชื่อ
“ข้าจะดูผิดไปได้อย่างไร ถ้าเช่นนั้นก็เชิญทุกท่านดูเองเถิด”
บุรุษแซ่ซุนนำยาอายุวัฒนะเม็ดนั้นออกมา ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ตรงนี้สามารถมองเห็นลายอักขระสองเส้นได้อย่างชัดเจน ทุกท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่ แต่ตรงนี้ยังมีอักขระทึบอีกเส้นหนึ่ง ทุกท่านลองมองดูให้ดีสิ”
บุรุษแซ่ซุนนำยาเม็ดนั้นออกมาให้ทุกคนได้ตรวจสอบ นอกจากลายเส้นสองเส้นแรกที่บ่งบอกว่ายาเม็ดนี้คือยาอายุวะฒนะขั้นสองแล้ว ระหว่างลายเส้นทั้งสองนั้นยังมีลายเส้นบางๆ ที่หากไม่สังเกตให้ดีก็อาจจะไม่ทันเห็นอยู่อีกด้วย
“เป็ยาอายุวัฒนะที่เกือบจะอยู่ในขั้นสามจริงด้วย!”
นักสลักลายเส้นโอสถทั้งหลายต่างก็พากันร้องอุทานออกมา จากนั้นก็มีคนคว้ามันไปพิจารณาใกล้ๆ หลังจากทุกคนได้ตรวจสอบมันด้วยตาตัวเองแล้ว ในที่สุดก็สามารถยืนยันได้ว่าเป็ยาอิ่มทิพย์ขั้นสองระดับสูงสุด หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็ยาที่เกือบจะอยู่ในขั้นสามแล้ว!
สายตาของทุกคนต่างก็หันไปมองทางมู่เฟิง โดยที่สายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและความใ ใครจะไปคาดคิดว่าเด็กหนุ่มจะสามารถหลอมยาที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดของยาอายุวัฒนะขั้นสองให้ออกมาเป็ตัวยาขั้นสองระดับสูงสุดได้ วิชาโอสถเช่นนี้ นักสลักลายเส้นโอสถที่อยู่ที่นี่จะมีใครทำได้อย่างเขาบ้าง
“เป็ไปไม่ได้”
จางไต้ซือเดินเข้ามารับยาอิ่มทิพย์ไปตรวจสอบด้วยตัวเอง จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็เหลือเชื่อ ร่างกายของเขาสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความโกรธ
“เป็ไปได้อย่างไร นี่มันยาขั้นสองระดับสูงสุดจริงด้วย...”
“ยาขั้นสองระดับสูงสุด เช่นนั้น เฟิงเอ๋อร์ก็ชนะแล้ว?”
ทุกคนในตระกูลมู่ต่างมีท่าทีตื่นเต้นยินดี
“เ้าสุนัขชั่ว เ้าแพ้แล้ว ตัดมือของเ้าเสีย”
มู่เฟิงกล่าวเสียงเรียบ
“ไม่ ข้าไม่แพ้!”
จางเฉวียนตั้นคำรามออกมาอย่างไม่ยอมรับ “แม้คุณภาพตัวยาของเ้าจะสูงกว่าข้าหนึ่งระดับแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ถึงอย่างไรมันก็เป็เพียงยาอิ่มทิพย์ที่มีมูลค่าต่ำที่สุด คุณค่าของตัวยาต่างหากที่จะเป็ตัวตัดสิน คนที่แพ้มันคือเ้าต่างหาก”
“ถูกต้อง แม้ว่ายาอิ่มทิพย์เม็ดนี้จะเป็ยาขั้นสองระดับสูงสุด แต่คุณค่าของมันก็ยังไม่อาจเทียบกับยาเพิ่มสมรรถภาพได้ ฉะนั้นครั้งนี้เฟิงเย่คงจะต้องเป็ฝ่ายแพ้”
ฉับพลันนั้นผู้คนต่างก็ตระหนักได้ว่ายาอิ่มทิพย์นั้นเป็ยาที่ไร้ค่า
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ…”
แต่ทันใดนั้นมู่เฟิงกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง เด็กหนุ่มเดินไปคว้ายาอายุวัฒนะของเขาออกมาจากมือของจางเฉวียนตั้น
มู่เฟิงชูเม็ดยาในมือขึ้น ก่อนจะกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “ใครบอกกันว่ายาอิ่มทิพย์ในมือข้าเป็เพียงยาอิ่มทิพย์ธรรมดาทั่วไป ทุกท่าน ยาอิ่มทิพย์ของข้ามีฤทธิ์เหนือกว่ายาอิ่มทิพย์ทั่วไปถึงสามเท่า และยาเม็ดนี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ต้านทานความหิวเท่านั้น มันยังสามารถฟื้นฟูพลังปราณได้ด้วย ผลลัพธ์ของมันนั้นเทียบได้กับยาฟื้นฟูพลังปราณขั้นสองหนึ่งเม็ดเลยทีเดียว”
“ว่าอย่างไรนะ ยาอิ่มทิพย์เม็ดนี้สามารถฟื้นฟูพลังปราณได้ด้วย!”
ทุกคนพากันตกตะลึงอีกครั้ง คราวนี้พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อหนักกว่าเดิม เพราะผลลัพธ์ของยาอิ่มทิพย์นั้นมันได้เกินความเข้าใจเดิมของพวกเขาไปแล้ว
“เป็ไปไม่ได้ เ้าจะพิสูจน์อย่างไร?”
จางเฉวียนตั้นคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว เขาไม่เชื่อคำพูดของมู่เฟิง
“ง่ายมาก เช่นนั้นก็มาทำการทดลองกัน ปรมาจารย์โอสถซุน รบกวนท่านช่วยพิสูจน์ด้วย”
มู่เฟิงมอบยาให้ปรมาจารย์โอสถซุน
ปรมาจารย์โอสถซุนพยักหน้า ก่อนจะรับยาเม็ดนั้นมาและกลืนมันลงไป จากนั้นเขาก็เริ่มกลั่นตัวยาออกมา
หลังจากเริ่มกลั่นตัวยาแล้ว เขาก็พบว่ายาเม็ดนี้ไม่เพียงเติมเต็มความหิวให้กับเขาได้เท่านั้น แต่ภายในตัวยามันยังมีพลังปราณส่วนหนึ่งหลั่งไหลออกมาและกำลังเติมเต็มพลังปราณให้กับเขาอีกด้วย
ดวงตาของปรมาจารย์โอสถซุนเปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “สิ่งที่เฟิงเย่กล่าวมานั้นถูกต้อง ยาเม็ดนี้มีผลลัพธ์ในการฟื้นฟูพลังปราณได้จริงๆ”
“เป็ไปได้อย่างไร ยาอิ่มทิพย์จะสามารถฟื้นฟูพลังปราณได้อย่างไร?”
ผู้คนตื่นตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนว่าไม่มีใครคิดว่าปรมาจารย์โอสถซุนจะโกหก เพราะหากเื่นี้เป็เื่เท็จ เขาจะถูกทางวิหารสลักลายลงโทษอย่างหนักแน่ และโทษก็อาจจะมีั้แ่ถูกขับออกจนถึงโทษตาย
หากว่าผลลัพธ์ของยาอิ่มทิพย์สามารถฟื้นฟูพลังปราณได้จริง เช่นนั้นมูลค่าของมันย่อมสูงกว่ายาเพิ่มสมรรถภาพแล้ว
“น้องชาย ยาตัวนี้เ้าขายหรือไม่? ข้าสามารถขอซื้อสักขวดได้หรือไม่?”
ในขณะนั้นเองทหารรับจ้างผู้หนึ่งก็เอ่ยถามขึ้นเสียงดัง เนื่องจากผลลัพธ์ของยาตัวนี้ถือว่าล้ำค่ามากสำหรับอาชีพอย่างพวกเขา มันจะสามารถเต็มเติมความหิวโหยและฟื้นคืนพลังปราณให้พวกเขาได้ในระหว่างการทำภารกิจ
“ต้องขออภัยด้วย ยาตัวนี้ข้าไม่ได้หลอมเกินออกมาเลยสักเม็ดขอรับ”
มู่เฟิงยิ้มให้อีกฝ่ายเป็เชิงขออภัย
เขาหันมองไปที่จางเฉวียนตั้น เวลานี้ใบหน้าของอีกฝ่ายกำลังขาวซีด มู่เฟิงค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปหาอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างใจเย็นว่า “ตัดมือของเ้าเสีย เ้าจะทำมันเองหรือว่าให้ข้าช่วยเ้าดีเล่า?”
จางเฉวียนตั้นถอยห่างออกไปด้วยความใ แต่ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองทางลู่ชูเสวี่ย
ตอนนี้คนเดียวที่จะช่วยเขาได้มีเพียงลู่ชูเสวี่ยเท่านั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้