ผู้นำโถงกิลด์์หลายคนรู้สึกโกรธเป็อย่างมากพวกเขาเตรียมจะนำกำลังพลไปสังหารเ้าคนที่มาต่อต้าน ก่อนจะจับมาแยกร่างเป็ห้าส่วนสำหรับพวกเขาแล้วกิลด์์เป็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าใครก็ไม่อาจลบหลู่ได้ผู้ใดขัดขืน ผู้นั้นย่อมไม่ได้รับการยกโทษโดยเด็ดขาด
จักรพรรดิหยกขมวดคิ้วก่อนที่จะกระแอมออกมาเบาๆเสียงผู้คนทั้งหลายพลันเงียบโดยทันที พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงเบาๆทั้งโถงเงียบสนิทลงอีกครั้ง จักรพรรดิหยกส่งสายตาไปที่ไท่ไป๋จินซิง ก่อนจะกล่าวว่า"ไท่ไป๋ ช่วยอธิบายเื่นี้ให้ผมฟังที"
"ลูกน้องของเราเ่าั้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุพวกเขาถูกควันหนาทึบจำนวนมากปกคลุมเต็มไปหมดก่อนที่จะถูกสังหารโดยที่พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย ทุกคนพูดเหมือนกันว่าถูกโจมตีจากคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันแต่ระบบแจ้งว่ามีศัตรูเพียงแค่คนเดียว"ใบหน้าของไท่ไป๋จินซิงนั้นแสดงออกถึงความอึดอัดในขณะที่พูดเมื่อเขาไปถึงก็ได้พบว่าสภาพทุกคนดูไม่ได้เลย ทั้ง 30 คนนั้นถูกสังหารหมดแล้วแต่ว่าทุกคนที่ถูกสังหารต่างไม่มีใครเห็นศัตรูเลยว่ามีจำนวนมากแค่ไหนพวกมันเป็ผีอย่างนั้นหรือ และถ้ามีศัตรูแค่คนเดียวจริงๆ มันไม่ยิ่งน่าขายหน้ายิ่งกว่าเดิมอีกหรือนี่ไม่เท่ากับว่าคนของเรา 30 คนไม่กลายเป็พวกไร้ค่าเลยหรือ
"มันเป็ใคร?"จักรพรรดิหยกสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"เมามายซบตักสาวงาม"ไท่ไป๋จินซิงรู้สึกอับอายเล็กน้อยที่จะพูดชื่อที่เขาไม่้าจะพูดถึงดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่นานั้แ่ที่เขาเอ่ยชื่อนี้ออกไปช่างให้ความรู้สึกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
"ดูเหมือนเ้าของเหมืองนั้นยังดูคึกคักร่าเริงดีกว่าที่พวกเราคิดนะรู้สึกว่าเื่นี้เริ่มน่าสนใจขึ้นบ้างแล้วสิ"จักรพรรดิหยกนิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความรู้สึกโกรธขึ้งให้เห็นแม้แต่น้อย "หัวหน้าโถงจี่ยี่ซุยเฟิง(ความทรงจำลอยล่องตามสายลม) นำผู้เชี่ยวชาญไป 100 คนจัดการสังหารเมามายซบตักสาวงามให้กลับไปหมู่บ้านโนวิสซะใครก็ตามที่ต่อต้านกิลด์์เราจะแสดงให้ผู้นั้นได้รับรู้ว่าเรามีท่าทีต่อเื่นี้อย่างไร"
"ได้ผมจะรีบไปจัดการตามนี้" จี่ยี่ซุยเฟิงประสานมือก่อนไปทำตามที่ได้รับคำสั่งมา
"ทุกท่านใจเย็นลงก่อนนี่มันเป็แค่เื่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องให้ความสนใจกับมันมากนักหรอกภารกิจที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ การเลื่อนระดับพยายามทำให้ดีที่สุดในการเลื่อนระดับ" จักรพรรดิหยกกล่าวแก่สี่หัวหน้าโถงที่เหลืออยู่
หลังจากหัวหน้าโถงทั้งสี่ได้รับคำสั่งแล้วพวกเขาก็จากไปโดยทันที เมื่อทั้งสี่ออกพ้นห้องโถงไปแล้วจักรพรรดิหยกก็ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะหัวเราะเล็กน้อย "ไท่ไป๋คุณไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น ถึงแม้ว่าจะมีคนตายไป 30 คนสำหรับเราแล้วมันไม่ได้แย่ถึงขนาดเป็เนื้อร้ายที่ต้องตัดทิ้งเสียหน่อยเราก็แค่หาโอกาสแก้แค้นและคุณก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลุ่มอื่นจะยื่นมือเข้ามาแทรกแซงหรอก
"ใช่เรามาสังหารผู้เล่นที่ชื่อเมามายซบตักสาวงาม"ไท่ซ่งเล่าจุนพูดแต่ยังคงมีความกังวลแฝงอยู่
"ใครจะเชื่อในเื่ของเมามายซบตักสาวงามกัน"ทัวทาเทียนหวังคิดว่ามันไม่น่าจะเป็ไปได้ เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อว่า"ไม่ต้องกังวลเื่เหตุผลหรอก ไม่น่าเอามาใส่ใจเสียด้วยซ้ำไม่ต้องมานั่งเถียงกันเื่ใครเป็คนต้องรับผิดชอบหรอก นี่ไม่ใช่เื่ที่ใครจะต้องออกมาอธิบายว่าผิดหรือถูกถ้าในความเป็จริงแล้วทุกอย่างมันชัดเจน แล้วมันจะแตกต่างกันตรงไหนถ้าในเมื่อผลลัพธ์เป็สิ่งที่สำคัญที่สุด
ไท่ซ่งเล่าจุนช่วยอะไรจักรพรรดิหยกไม่ได้หรอกอย่างอื่นดีหมดยกเว้นแต่ว่าเขาใจดีเกินไป แต่กิลด์์นั้นมีความจำเป็ที่จะต้องได้เหมืองทั้งสองแห่งนี้ไว้ถึงแม้ว่าอีกกลุ่มจะมีเงิน แต่ก็สามารถสนับสนุนเขาได้อย่างจำกัดซึ่งในหลายต่อหลายครั้งเขาต้องพึ่งพาตนเองเมามายซบตักสาวงามนั้นเหมือนจะโชคร้ายเพียงเพราะถือครองหยกเท่านั้นอย่างไรก็ดีก็ไม่อาจโทษไท่ซ่งเล่าจุนได้ เขาจึงเปลี่ยนเื่มาถามทัวทาเทียนหวังแทน"ตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำอะไร เทียนหวังเ้าลองเดาสิว่า จี่ยี่ซุยเฟิงจะใช้เวลานานเท่าไรถึงจะกลับมาที่นี่"
"ถ้าเมามายซบตักสาวงามตายและหลบซ่อนอยู่ในเมืองหลังจากที่เสียชีวิตแล้วมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะประมาณเวลาออกมาได้ แต่ถ้าโดยทั่วไปคิดว่าครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอแล้วมันเป็แค่การตามหาใครบางคนที่ซึ่งต้องใช้เวลาบ้างก็เท่านั้นเอง"ทัวทาเทียนหวังค่อนข้างมั่นใจ จี่ยี่ซุยเฟิงนั้นไม่ใช่คนธรรมดาอีกอย่างเขาก็ยังเป็ถึงผู้นำโถงคนหนึ่งซึ่งความแข็งแกร่งของเขานั้นสูงกว่าเมื่อเทียบกับอีกสี่คนที่เหลือ
จักรพรรดิหยกยิ้มแต่ไม่ได้มีความเห็นใดๆท่าทางของเขาไม่สามารถคาดเดาได้เลย
บริเวณด้านนอกของเหมืองทองแดงชื่อหยางหมายเลข 1 ณ จุดที่ผู้เล่น 30 คนเสียชีวิต รวมถึงยหวินหลี่อู้ด้วยนั้นในตอนนี้ได้มีผู้เล่นไม่ต่ำกว่า 100 คนกำลังยืนอยู่โดยส่วนใหญ่นั้นสวมใส่อุปกรณ์เหล็กดำ ซึ่งมีระดับบรอนซ์จำนวนมากรวมอยู่ในนี้ด้วยบางคนถึงกับใส่ระดับเงิน ถ้าเทียบกับผู้เล่นทั่วไปแล้วก็ถือว่าพวกเขานั้นอยู่ในระดับยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
พวกเขาเหล่านี้เป็ผู้เล่นของกิลด์์นำโดยจี่ยี่ซุยเฟิง โดยมาเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
บนถนนที่ค่อนข้างกว้างสายนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เดินเล่นอยู่ แต่พอหลังจากที่เห็นกลุ่มคนพร้อมทั้งม้าจำนวนไม่ต่ำกว่าร้อยพวกเขาก็เริ่มหลีกทางและเดินออกห่างโดยทันทีเมื่อมองไปเห็นสีหน้าท่าทางเหมือนจะเตรียมไปมีเื่กับใครไม่น่าจะมาเดินเล่นแถวนี้แน่ เป็การดีกว่าถ้าจะดูอยู่ห่างๆซึ่งก็เป็ปกติของคนทั่วไปที่ชอบดูเื่สนุกๆ ต่างพากันซุบซิบคาดเดากันไปว่าเป็กลุ่มของใครกัน
จี่ยี่ซุยเฟิงมองไปยังผู้เล่นที่อยู่โดยรอบเนื่องจากเมามายซบตักสาวงามนั้นโจมตีผู้เล่นและได้สังหารไปมากกว่า 30 คนดังนั้นดูท่าแล้วน่าจะเป็คนที่มีชื่อเสียงพอสมควรอาจจะเป็การยากที่จะหาคนธรรมดาทั่วไป แต่ในกรณีถ้ามีชื่อสีแดง(หัวแดงเวลาฆ่าผู้เล่นด้วยกัน) มันก็เหมือนกับการมองหาเพชรในทรายมันชัดเจนซะยิ่งกว่าอะไรเสียอีกเขามาที่นี่เพื่อสังหารเมามายซบตักสาวงามเพียงคนเดียวเท่านั้น สำหรับคนอื่นๆเขาไม่มีความสนใจแม้แต่น้อย
หึ่งๆๆ
ทันใดนั้นเสียงหึ่งๆก็ตรงเข้ามาที่หูอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าเมื่อมันปรากฏให้เห็นครั้งแรกนั้นมันยังอยู่ค่อนข้างห่างพอสมควรแต่เพียงครู่เดียวในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป เสียงก็เข้ามาอยู่ใกล้ๆหูราวกับอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
จี่ยี่ซุยเฟิงที่อยู่ด้านหลังผู้เล่นรู้สึกแปลกใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปด้วยความประหลาดใจ "ผึ้งเพชฌฆาตทำไมมันมาอยู่ที่นี่และทำไมมันกำลังมุ่งมาทางนี้อีกทั้งยังมีจำนวนมากเสียด้วย" ยังไม่ทันขาดคำ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างความประหลาดใจกลายเป็ความตื่นตระหนกในทันที เมื่อมีเสียงร้องด้วยความเ็ปดังขึ้น
"โอ๊ย...อ๊า..."
เขามองเห็นผึ้งเพชฌฆาตจำนวนไม่ต่ำกว่าโหลบินตรงเข้าหาอย่างบ้าคลั่งดูเหมือนการโจมตีนี้ไม่อาจทำความเสียหายถึงแก่ชีวิต พวกมันมีขนาดเล็ก ว่องไวและยังดุร้ายมาก เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากที่หลายคนถูกโจมตีคนที่เหลือจึงเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่ถึงกระนั้นก็มี ผู้เล่นโดนโจมตีไปไม่ต่ำกว่าโหลเสียงร้องระงมดังไปทั่ว ค่าความเสียหาย -10 -10 -20 -20ลอยอยู่เหนือหัวผู้เล่นอยู่ทั่วไป ถึงแม้ว่าความเสียหายนั้นจะไม่มาก แต่ความเ็ปที่ได้รับกลับมากเสียยิ่งกว่าผู้เล่นกว่าร้อยชีวิตตอนนี้ทั้งหมดเต็มไปด้วยความชุลมุนวุ่นวาย
หลายคนมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วหยิบอาวุธออกมาโจมตีผึ้งเพชฌฆาต ในขณะที่นักเวทเริ่มร่ายเวทไฟเพื่อโจมตีแต่เนื่องจากผึ้งเพชฌฆาตนั้นบินอยู่ในอากาศ มีความคล่องตัวสูง และไม่อยู่รวมกลุ่มกันเป็ฝูงทำให้การโจมตีแบบสะเปะสะปะเ่าั้แทบไร้ผลมีผึ้งเพชฌฆาตจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกโจมตี
ในขณะที่คนในทีมเริ่มสับสนอลหม่านจากการถูกโจมตีะเิควันนับสิบลูกก็ะเิขึ้นกลางอากาศก่อนจะกลิ้งไปตามพื้นส่งควันหนาทึบพวยพุ่งออกมา ชั่วเวลาไม่กี่อึดใจควันก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณโดยตำแหน่งของะเิควันกว่าสิบลูกนั้นถูกกำหนดไว้อย่างรอบคอบและดูคล้ายจะกลืนทั้งคนทั้งม้าของกิลด์์กว่าร้อยชีวิตเข้าไปจนหมดสิ้น
ผึ้งเพชฌฆาตและะเิควันนั้นทำงานประสานกันได้อย่างลงตัวทำงานได้เหมือนคน ลื่นไหลราวสายลม ผู้เล่นที่สังเกตการณ์อยู่ด้านนอกมีความรู้สึกเหมือนว่าได้มองเห็นแสงส่องประกายออกมาจากด้านข้างซึ่งตอนนี้ค่อนข้างดำสนิท จากนั้นก็ได้ยินเสียงหวีดร้องออกมาจากด้านในของกลุ่มควันผสมกับเสียงการปะทะกันของอาวุธอย่างดุเดือด จากนั้นไม่นานก็มีประกายไฟที่เกิดจากเวทมนตร์ดูราวกับอยู่ระหว่างาสองกองทัพ ซึ่งการต่อสู้เป็ไปอย่างดุเดือดเืพล่าน
นี่เป็ครั้งแรกที่จี่ยี่ซุยเฟิงตกอยู่ในท่ามกลางควันดำมากมายซึ่งเป็ความรู้สึกที่ไม่สู้ดีเอาเสียเลยเขามีปฏิกิริยาตอบสนองในครั้งแรกที่เห็นโดยทันทีเขาะโให้คนในกลุ่มรีบกระจายกันออกไป ในฐานะที่เขานั้นมีระดับสูงสุดในที่นี้และรู้ว่าะเิควันนั้นมีจุดอ่อนคือ ระยะทำการที่จำกัดทำให้เขาตอบสนองได้ทันท่วงทีในขณะที่ะโนั้นก็ถูกเสียงกรีดร้องอย่างเ็ปของคนในทีมกลบจนหมดสิ้นเขาประเมินเล่ห์เหลี่ยมของศัตรูต่ำเกินไปและก็ประเมินความสามารถของคนในทีมของเขาสูงเกินไปอีกด้วย
ศัตรูจู่โจมเข้ามาเร็วกว่าที่คาดไว้เกือบจะทันทีที่ควันเริ่มพวยพุ่งออกมา เสียงกรีดร้องระงมเริ่มตามมาโดยเสียงนั้นดังมาจากทุกทิศทางราวกับว่าใน่เวลานั้นศัตรูจำนวนมากมายได้ปรากฏกายขึ้นมาจากพื้นดินที่ว่างเปล่าก่อนจะบุกจู่โจมเข้ามาอย่างโเี้ โดยได้ยินแต่เสียงกรีดร้องอยู่เพียงฝ่ายเดียวราวกับศัตรูกำลังรุกคืบเข้าไปเรื่อยๆ
ควันดำพวกนี้ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถมองเห็นได้แม้กระทั่งนิ้วมือของตนเองความรู้สึกที่เหมือนกับตาบอดไปชั่วขณะ ทำให้ผู้คนเกิดความตื่นตระหนก
ฉินโจ้วใช้ทักษะล่องหนอยู่ด้านข้างเปรียบดั่งคอยสังหารปลา ที่หลุดรอดออกมาโดยเฉพาะ แม้ว่าทหารโครงกระดูกนั้นค่อนข้างทรงพลังแต่ทักษะพิเศษของผู้เล่นนั้นก็ยากจะหยั่งถึง และอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นได้เสมอดังนั้นเขาจึงรอคอยเพื่อจะจัดการสิ่งที่ไม่คาดฝันเ่าั้
จี่ยี่ซุยเฟิงหลบหนีออกมาพร้อมผู้คุ้มกันจำนวนหนึ่งแต่เมื่อผ่านไปได้ไม่กี่ก้าวพวกเขาก็เริ่มกระจัดกระจายกันออกไปเหลือไว้เพียงจี่ยี่ซุยเฟิงอยู่เพียงลำพังในความมืดทุกสิ่งย่อมดูน่ากลัวและอันตรายเมื่อไม่สามารถมองเห็นศัตรูได้เขาเองก็ถูกโจมตีอยู่หลายครั้งจากคนของเขาเอง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะโมโหและโกรธเป็อย่างมากเขาะโออกไปอย่างกราดเกรี้ยว และในขณะที่เขากำลังอ้าปากอยู่นั้นผึ้งเพชฌฆาตตัวหนึ่งก็บินเข้าไปในปากโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวก่อนจะต่อยเข้าไปหนึ่งครั้ง
จี่ยี่ซุยเฟิงรู้สึกถึงความเ็ปอย่างรุนแรงแบบที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับสิ่งใดได้ก่อนที่ความเ็ปจะกระจายไปทั่วร่างร่างกายของเขาไม่สามารถทนกับความเ็ปที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ก่อนจะมีดาบแทงทะลุเข้าไปที่คอ เขาล้มลงโดยมือยังกุมอยู่ที่ลำคอและตายไปโดยที่ตายังคงเบิกโพลงอยู่อย่างนั้น... R.I.P
เขาไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของศัตรูแต่เขาถูกฆ่าด้วยคนของเขาเองที่เข้าใจผิด หลังจากที่จี่ยี่ซุยเฟิงฟื้นคืนชีพขึ้นมาเขาเห็นชื่อของผู้เล่นที่ฆ่าเขาแล้วเขาถึงกับต้องร่ำไห้อยู่ในใจตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกสังหารเขารู้สึกอับอายจนแทบไม่อยากจะฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาอีกครั้ง
การต่อสู้ได้ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดอย่างรวดเร็วควันดำนั้นยังไม่ทันจางหาย เสียงการต่อสู้สงบลง ในาครั้งนี้มีผู้เล่นมากกว่า100 คนถูกสังหาร และมีทหารโครงกระดูก 12 ตัวตายไปการต่อสู้ในครั้งนี้ถือว่าสัมฤทธิผล ในความเป็จริงนั้นผู้เล่นที่ตาย 2 ใน 3ส่วนนั้นถูกฆ่าด้วยฝีมือพวกเดียวกันเอง ที่เหลือถูกสังหารโดยทหารโครงกระดูก
ผู้เล่นกิลด์์ช่างมีน้ำใจเป็อย่างมากพวกเขาทำอาวุธและอุปกรณ์หล่นไว้ถึง 226 ชิ้นเลยทีเดียวเมื่อมาเจอกับฉินโจ้วที่ค่าโชคสูงกว่าปกติดูเหมือนว่าผู้เล่นของกิลด์์นั้นคงจะโชคไม่ดี ผู้เล่นบางคนก็ดรอปอุปกรณ์ 2ชิ้น บางรายถึงกับหนักกว่าดรอปทีเดียว 3 ชิ้นทำให้ฉินโจ้วได้ลาภเป็จำนวนเงินไม่น้อยทีเดียว
ที่โถงสำนักงานใหญ่กิลด์์
ข่าวของจี่ยี่ซุยเฟิงก็ถูกส่งกลับมาเป็อย่างแรกไท่ซ่งเล่าจุนถึงกับตกตะลึง ไท่ไป๋จินซิงเองก็ไม่อยากจะเชื่อในเื่นี้ส่วนทัวทาเทียนหวังเองก็ทำสีหน้าเหมือนถูกผีหลอกตอนกลางวันแสกๆ แต่เขาเองก็รู้ว่าจี่ยี่ซุยเฟิงเองคงไม่กล้าเล่นตลกเื่ข่าวนี้แน่ ช่างน่าละอายใจยิ่งนักคนเป็ร้อย แม้แต่หน้าศัตรูเองยังไม่มีใครสักคนได้เห็นเป็การเสียหน้าอย่างมากเลยทีเดียว
จักรพรรดิหยกไม่สามารถใจเย็นลงได้อีกรอยยิ้มที่อ่อนโยนหายไปั้แ่เมื่อใดก็ไม่อาจทราบได้น้ำเสียงเปลี่ยนกลายมาเป็แข็งกร้าว และเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต ก่อนจะพูดออกมาว่า"เทียนหวัง ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตามต้องสังหารเมามายซบตักสาวงามให้กลับไปเกิดใหม่ที่หมู่บ้านโนวิสให้ได้เราไม่สามารถทำให้ชื่อเสียงของกิลด์์ตกต่ำลงไปมากกว่านี้และต้องสำเร็จเท่านั้น" แต่ไม่มีคำว่า "ห้ามล้มเหลวโดยเด็ดขาด"ตามมาด้วย เพราะเขาคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่จำเป็ต้องใช้คำนี้อยู่แล้ว
"รับบัญชา"น้ำเสียงของทัวทาเทียนหวังนั้นเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตอยู่เต็มเปี่ยม ก่อนที่จะก้าวเดินออกจากโถงไป
ในเวลาเดียวกันนั้นได้มีคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการสังหารของกลุ่มผู้เล่นกิลด์์ที่ล้มเหลวไม่เป็ท่าได้ถูกเผยแพร่อยู่บนฟอรัม ซึ่งมันถูกกระจายต่อออกไปอย่างรวดเร็วจากกลุ่มผู้ชมที่สนใจอยู่เป็จำนวนมาก
อาจเป็เพราะคลิปวิดีโอนี้จึงทำให้กิลด์์เสียหน้าและในขณะเดียวกันะเิควันที่ถูกจุดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้ก่อให้เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นภายหลังจากนี้
มีข่าวออกมาว่าทัวทาเทียนหวังนั้นได้นำผู้เล่นระดับสูงถึง500 คนมุ่งตรงไปที่เหมืองทองแดงชื่อหยาง หมายเลข 1เมื่อข่าวนี้ได้ถูกแพร่กระจายไปถึงกองกำลังหลักทั้งหลาย ส่งผลให้ทั้งสมาคมโลกวังเทพแห่งตะวัน และกองกำลังที่ซ่อนเร้นอยู่พากันมุ่งเป้าไปที่เหมืองทองแดงชื่อหยางหมายเลข 1 ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สำนักงานใหญ่ของกิลด์์นั้นอยู่ไม่ไกลจากเหมืองทองแดงชื่อหยางหมายเลข 1 สักเท่าไร ซึ่งใช้เวลาไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง ก็ถึงทำให้ใช้เวลาไม่นานในการรวบรวมทีม หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงทัวทาเทียนหวังได้นำคนลงมายังเป้าหมาย ด้านหน้าของเหมืองทองแดงชื่อหยาง หมายเลข 1เป้าหมายทางสะดวกถ้าจากระยะนี้เขามองเห็นผู้เล่นคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าทางเข้าพื้นที่เหมืองกำลังมองดูกลุ่มของทัวทาเทียนหวังด้วยสายตาที่เยือกเย็น
"นายเป็ใครกัน?"น้ำเสียงของทัวทาเทียนหวังนั้นไม่สู้ดีนักตอนนี้เขากำลังหาที่ระบายความโกรธอยู่พอดี ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางเขาไว้ ถ้ามันเป็เพราะสายตาที่เยือกเย็นของผู้เล่นที่อยู่ต่อหน้านั้นทำให้เขารู้สึกถึงความประหลาดใจเล็กน้อยเขาคงจะสังหารทิ้งไปนานแล้ว
"ไม่ใช่ว่านายกับคนของนายตามหาผมอยู่หรอกหรือ?"ฉินโจ้วถามกลับไป
"นายคือเมามายซบตักสาวงามหรือ?"ทัวทาเทียนหวังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยั์ตาส่องประกายความแปลกใจอยู่นิดหน่อยไม่ใช่เพราะว่าความกล้าหาญหรือความอ่อนเยาว์ของฉินโจ้ว แต่เป็เพราะชื่อของเขานั้นยังไม่เป็สีแดงทำไมมันเกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าเมามายซบตักสาวงามเพิ่งจะสังหารผู้เล่นของกิลด์์ไปหรอกหรือแล้วทำไมชื่อถึงไม่เป็สีแดงล่ะ ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทัวทาเทียนหวังอยากจะหาผู้เล่นที่ถูกสังหารไปมาสอบถามว่าใครเป็คนโจมตีกันแน่ แล้วทำไมชื่อของเมามายซบตักสาวงามจึงไม่เป็สีแดง
"เป็ผมเองแหละว่าแต่คุณเป็ใคร? แล้วพาคนมาด้วยมากมายนี่อยากให้ผมช่วยอะไรหรือเปล่า? ฉินโจ้วถามด้วยน้ำเสียงปกติ
"นายไม่รู้หรือว่าที่ผ่านมาทำอะไรเอาไว้บ้าง?"ทัวทาเทียนหวังจ้องมองดูฉินโจ้วที่ท่าทางไม่สะทกสะท้านก่อนจะรู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญที่เขาไม่คิดจะหลบซ่อน
"ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกคุณมาที่นี่ และอีกอย่างผมก็ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน"ฉินโจ้วตอบตามความจริง
"ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิตนายสังหารคนของกิลด์์ไปเป็จำนวนมากดังนั้นนายจะต้องชดใช้ให้แก่พวกเขาด้วยชีวิตของนาย ฉันในฐานะรองหัวหน้าแห่งกิลด์์ทัวทาเทียนหวัง มาที่นี่ตามคำสั่งของจักรพรรดิหยกจะมารับชีวิตของนายไป"ทัวทาเทียนหวังจ้องมองฉินโจ้วด้วยความรู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด
"น่าขำแล้วจะอธิบายเื่สังหารคนส่งของและปล้นแร่ของผมว่าอย่างไร?"ฉินโจ้วหัวเราะด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เย้ยหยัน
"ช่างเป็เื่ตลกสิ้นดีหาว่าฉันสังหารคนส่งของของนาย ว่าแต่มีหลักฐานหรือเปล่าล่ะ?"ทัวทาเทียนหวังหัวเราะก่อนที่จะถามกลับ
ฉินโจ้วถึงกับพูดไม่ออกถ้าเขามีหลักฐานอยู่ในมือ ป่านนี้เขาป่าวประกาศให้ชาวโลกรับรู้ไปตั้งนานแล้ว และอีกอย่างคือเขาก็ไม่คิดว่ารองหัวหน้ากิลด์์จะมาไม้นี้
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายพูดถึงเื่อะไรแต่ฉัน้าจะบอกนายไว้การสังหารคนของกิลด์์นั้นมันมีราคาที่ต้องจ่ายอยู่"ทัวทาเทียนหวังกล้าพูดเพราะเขารู้ดีว่าฉินโจ้วนั้นไม่มีหลักฐานอยู่ในมือเขาก็พูดต่อทันทีโดยไม่หยุดรอให้ฉินโจ้วพูดต่อ"ฉันไม่้าที่จะเอาเปรียบผู้อื่น เื่ในวันนี้จะให้จบลงตรงนี้ก็ได้เพียงแค่นายยกเหมืองมาให้กับกิลด์์ และฉันจะจ่ายให้อีก 200,000 เหรียญทองเื่ของเราก็ถือว่าจบกันแค่นี้ และฉันจะช่วยขอร้องจักรพรรดิหยกเื่ที่จะสังหารนายก่อนที่จะส่งกลับไปหมู่บ้านโนวิสให้ ตกลงไหม?"
"ช่างไร้ยางอายสิ้นดี"ฉินโจ้วยิ้มเยาะด้วยความโกรธเป็อย่างมาก ก่อนจะจ้องหน้าทัวทาเทียนหวังและพูดว่า"จะมีอะไรไหม ถ้าผมจะตอบปฏิเสธ"ฉินโจ้วคิดหาวิธีแก้ปัญหาไว้ในใจก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะต้องนำมันมาใช้
ทัวทาเทียนหวังถึงกับหน้าถอดสีก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล "ถ้าอย่างนั้นนายก็ลองถามพวกพี่น้องเหล่านี้ดูเผื่อว่าพวกเขาจะเห็นด้วย"
ฉินโจ้วไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยก่อนจะตอบกลับไปด้วยเสียงที่เ็าว่า "คิดจะข่มขู่กันหรือ? จะบอกไว้ก่อนเลยนะ ต่อให้ขนคนมามากกว่านี้ผมก็ไม่สนทางที่ดีถ้ารีบกลับไปตอนนี้ ผมจะถือว่าเหตุการณ์วันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้นะ"
ทัวทาเทียนหวังไม่เข้าใจว่าฉินโจ้วมาจากที่ใดถึงมีความมั่นใจและกล้าพูดกับเขาอย่างนี้ แต่คิดไปก็เท่านั้น ในเมื่อไม่ตกลงก็ไม่จำเป็ต้องพูดกันอีก ดังนั้นก็เหลือแค่ต้องสู้กัน
"บุกได้"
ทัวทาเทียนหวังออกคำสั่งแค่ผู้เล่นเพียงคนเดียวอันที่จริงเขาก็ไม่คิดว่ามีความจำเป็ถึงขนาดต้องจัดตั้งทีมขึ้นมาด้วยซ้ำหลังจากเสียงพูดจบลง เขาได้เห็นคมดาบประกายแสงตัดทะลวงผ่านท้องฟ้า แสงสว่างจ้าทำให้ตามัวไปชั่วขณะและจู่ๆ ความคิดของเขาก็พลันหยุดนิ่งไปด้วยผู้เล่นกิลด์์ที่อยู่ด้านหลังของทัวทาเทียนหวังได้ทันเห็นแค่เพียงคมดาบแห่งแสงตัดผ่านคอของเขาไปก่อนที่เืจะพุ่งกระฉูดขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าต่อมาก็ปรากฏเหลือแค่ร่างที่ไร้ิญญาและศีรษะของรองหัวหน้ากิลด์
ระ...เร็วมาก นี่มันเร็วเกินไปแล้ว แทบจะไม่ทันกะพริบตาด้วยซ้ำไป
คมดาบประกายแสง
ลมปราณแห่งดาบนี้ดูไปคล้ายกับรุ้งกินน้ำ ที่มีความยาวไม่ต่ำกว่า 10 ฟุตผสมผสานทักทอไปด้วยเส้นใยมรณะ
องครักษ์6 คน จากทั้งหมด 8 คนที่กำลังเดินตรวจตราในพื้นที่เหมืองนั้นตรงมาทางฝั่งที่ฉินโจ้วยืนอยู่หลังจากที่เขาได้สังหารทัวทาเทียนหวังภายในดาบเดียวองครักษ์ทั้งหกคนนั้นต่างก็พุ่งตรงเข้าหากลุ่มผู้เล่นทั้ง 500 คนอย่างรวดเร็วประกายดาบสีขาวราวหิมะส่องประกายวาบผู้เล่นที่อยู่ใกล้ไม่ต่ำกว่าร้อยคนก็ถูกสังหารโดยพลันทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
ผู้เล่นที่ยังคงเหลืออยู่กับผู้เล่นที่คอยสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกต่างพากันแปลกใจตามที่พวกเขารู้มาบรรดาองครักษ์ระดับ 80 จะรับผิดชอบในการเฝ้าระวังเฉพาะในส่วนของเหมืองแร่และคราวนี้พวกเขาเองก็ยังไม่ได้เข้าไปในเหมืองเลยอีกอย่างผู้เล่นเองก็ไม่ได้เป็ฝ่ายที่โจมตีองครักษ์ก่อนพวกองครักษ์ก็ไม่น่าจะออกนอกพื้นที่เหมือง ทำไมวันนี้จึงเป็แบบนี้ไปได้หรือว่าพวกองครักษ์จะฝ่าฝืนคำสั่ง
ถ้าอย่างนั้นแล้วเมามายซบตักสาวงามนั้นจะไม่กลายเป็ผู้ที่ไร้ผู้ต่อต้านไปเลยหรือ?
ผู้เล่นหลายคนเพิ่งจะเคยได้เห็นองครักษ์ระดับเลเวล80 เป็ครั้งแรก ต่างพากันใเป็อย่างยิ่ง นี่คือพละกำลังของเลเวล 80อย่างนั้นหรือ มันช่างเฉียบคม ทรงพลังราวกับไม่ใช่มนุษย์เลยทีเดียว
ผู้เล่นที่กำลังดูอยู่ห่างๆนั้นกำลังใช้ความคิดอย่างไม่เร่งรีบแต่สำหรับผู้เล่นกิลด์์คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้องครักษ์ทั้งหกคนกวัดแกว่งมีดดาบราวกับมีดหั่นเนื้อพวกเขาไล่สังหารศัตรูเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ด้วยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียว ซึ่งผู้เล่นทั้งหลายไม่สามารถป้องกันหรือหลบเลี่ยงได้เลยมันเป็่เวลาที่ค่อนข้างสิ้นหวัง ทั้งระดับเลเวลเองก็ต่างกันมากเกินไปในตอนนี้ไม่มีใครอยากหยุดรอฟังคำสั่งใดๆ แล้ว ทั้งหมดต่างพากันะโโหวกเหวกสี่คนที่อยู่หลังสุดพากันวิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอด จนถึงตอนนี้ไม่มีใครจำได้แล้วว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสังหารฉินโจ้ว
ถึงแม้ว่าผู้เล่นของกิลด์์นั้นวิ่งได้รวดเร็วแต่องครักษ์นั้นกลับวิ่งได้เร็วกว่า พุ่งกระโจนตามไม่กี่ครั้งก็สามารถสังหารไปได้กว่าหนึ่งร้อยคนเพียงไม่กี่อึดใจเมื่อผู้เล่นสามารถวิ่งต่อไปก้าวที่ 5 ก็มีคนเหลือเพียง 1 ใน 3 จากผู้เล่นจำนวน500 คน และเมื่อพวกเขาวิ่งไปถึงก้าวที่ 11 ก็ปรากฏว่าเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10คนสุดท้ายถ้าจะให้บรรยายเหตุการณ์ตรงหน้าคงบอกได้เพียงว่าถูกทำลายย่อยยับจนไม่มีชิ้นดี
เมื่อมองดูแล้วความหวังในการหลบหนีไปจากที่นั่นคงไม่เหลืออีกแล้วผู้เล่นที่เหลือทั้งหมดต่างหันกลับมาโจมตีใส่องครักษ์อย่างดุดัน ถึงพวกเขาจะมีความกล้าหาญ แต่ก็ยังอ่อนแอเกินไปก่อนที่อาวุธของผู้เล่นทั้งหลายจะถูกตัวองครักษ์พวกเขาเ่าั้ก็ถูกดาบแทงทะลุร่างกายภายในเสี้ยววินาที
ั้แ่เริ่มต้นต่อสู้จนกระทั่งสิ้นสุดนั้นใช้เวลาไปไม่ถึง11 วินาทีเท่านั้น ผู้เล่นกิลด์์ทั้งหมด 500 คนไม่มีใครเหลือรอดชีวิตกลับไปแม้แต่คนเดียว ฉินโจ้วต้องใช้เวลาเก็บกวาดสนามรบถึง 5นาที มีอาวุธและอุปกรณ์ที่เก็บได้รวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000 ชิ้น ถ้าเขาอยู่ที่นี่ทั้งวันดูท่าน่าจะร่ำรวยขึ้นได้ไม่ยากเลย
กลุ่ม์พ่ายแพ้อีกครา
ผู้สังเกตการณ์ไม่มีใครสงสัยในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแต่คำถามก็คือทำไมองครักษ์จึงยอมช่วยฉินโจ้วสังหารศัตรูแล้วถ้าเกิดว่าองครักษ์ช่วยฉินโจ้วในการจัดการกับมอนสเตอร์ล่ะมันต้องเป็เื่ใหญ่แน่ๆ
องครักษ์ระดับเลเวล80 ก็มีความสามารถเพียงพอที่จะจัดการกับมอนสเตอร์ใน่ต้นได้อยู่แล้ว
หัวหน้ากิลด์วังเทพแห่งตะวันกวงเย้าเหรินเจี้ยน ไม่มีใครรู้ว่าเขาปรากฏกายขึ้นั้แ่เมื่อใดท่าทางของเขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่สักอย่าง ผ่านไปชั่วครู่เขาเอ่ยกับคนของเขาว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับฉินโจ้วในเวลานี้ก่อนที่เขาจะเดินหายลับไปอย่างเงียบเชียบ
"นายทำได้อย่างไรกันนี่"หลังจากที่ฉินโจ้วเดินกลับเข้ามาในเหมืองนี่เป็อย่างแรกที่หวังโหรวอยากรู้คำตอบมากที่สุดในเวลานี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงแม้ว่าเธอเองไม่ได้ออกจากเหมืองแต่เธอก็ซ่อนตัวอยู่บริเวณทางเข้าเหมืองเพื่อคอยแอบดูสถานการณ์อยู่