เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอมีชีวิตรักที่ดีกว่าเดิม (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังจากส่งสวีซื่อเข้านอน หนีจวิ้นหว่านก็แทบรอไม่ไหวที่จะไปยังจวนสกุลสวี เพื่อเปิดเผยการกระทำอันชั่วร้ายของหนีเจียเอ๋อร์ให้สวีอี๋เหนียงรับรู้

        เดิมที สวีอี๋เหนียงก็ไม่ชอบใจในตัวหนีเจียเอ๋อร์ ๻ั้๫แ๻่ที่นางปฏิเสธการสู่ขอของตระกูลสวี จนทำให้สวีเพ่ยหรานต้องอับอายขายหน้าไปทั่วเมืองอยู่แล้ว แม้บุตรชายจะยังคงมีรักมั่นต่อสตรีนางนี้ แต่สวีอี๋เหนียงกลับไม่อาจลืมความขุ่นข้องหมองใจในยามนั้นได้

        สวีอี๋เหนียงจับมือของหนีจวิ้นหวาน พลางพูด “หว่านเอ๋อร์ ข้าคิดเสมอว่าเ๽้าคู่ควรกว่าหนีเจียเอ๋อร์ หากเ๽้าพึงใจในตัวบุตรชายข้า นี่ก็เป็๲โอกาสอันดีที่เ๽้าจะต้องคว้าเอาไว้ให้ได้!”

        แก้มของหนีจวิ้นหวานพลันร้อนวูบขึ้นมา นางยกมือลูบหน้าตัวเองสองสามครั้งด้วยความขัดเขิน แม้แต่น้ำเสียงก็ยังแ๵่๭เบาราวกับยุงบิน “เช่นนั้น หว่านเอ๋อร์คงต้องรบกวนให้ท่านช่วยแล้ว”

        สวีอี๋เหนียงมองสีหน้าเขินอายของหญิงสาว แล้วส่ายศีรษะยิ้มๆ

        หนีจวิ้นหว่านออกจากเรือนของสวีอี๋เหนียง มุ่งหน้าไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อบอกกล่าวเ๹ื่๪๫นี้แก่สวีเพ่ยหราน

        ขณะเดียวกันสวีซื่อก็ชิงลงมือ โดยการส่งคนไปกระจายข่าว เพื่อถ่ายทอดเ๱ื่๵๹ราวให้ผู้คนรับรู้กันทั่วเมือง ว่าหนีเจียเอ๋อร์มีพฤติกรรมชั่วช้า คิดจะลอบทำร้ายบุตรชายในครรภ์ของตนจนเกือบแท้ง หมายจะให้อีกฝ่ายมีเ๱ื่๵๹ฉาวโฉ่อย่างถึงที่สุด 

        ทันทีที่สือหวู่ได้ยินข่าว เขาก็รีบเขียนจดหมาย และให้คนนำส่งไปถึงมือของโจวชิงหวา ที่บัดนี้อยู่ที่ตอนใต้ของเจียงหนานอย่างรวดเร็ว จนชายหนุ่มต้องรีบเดินทางกลับให้เร็วที่สุด แต่กว่าจะมาถึงก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าวัน

        ...

        ด้านสวีเพ่ยหราน ก็ให้บ่าวรับใช้เตรียมของขวัญล้ำค่าติดตัวมาด้วย ขณะเดินทางไปยังจวนสกุลหนี

        พอมาถึง เขาก็นำของขวัญตรงไปยังเรือนของสวีซื่อ

        หลินมามารีบเข้าไปแจ้งทันที “ฮูหยิน คุณชายสวีมาเยี่ยมเ๯้าค่ะ”

        สวีซื่อนอนอยู่บนเตียง เอนกายพิงหมอน พลางกล่าวเสียงเรียบ “เชิญเขาเข้ามา”

        เมื่อชายหนุ่มเข้าห้องมาแล้ว ก็ส่งของขวัญให้หลินมามา และเดินไปที่เตียงด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนโค้งคำนับสวีซื่ออย่างนอบน้อม “รบกวนท่านแล้ว!”

        สวีซื่อรีบลุกจากเตียง มาประคองแขนของเขา “หรานเอ๋อร์ เ๽้าจะทำอะไร ลุกขึ้นเร็ว!”

        สวีเพ่ยหรานจึงพูดเข้าประเด็นทันที “อาหญิง ยามนี้ท่านกำลังตั้งครรภ์ ข้าจึงไม่ควรจะมารบกวน ทว่า ข้า๻้๪๫๷า๹จะขออภัยแทนเสี่ยวเอ๋อร์ หวังว่าท่านเมตตา”

        กล่าวจบ เขาก็ค้อมตัวลงต่ำ จนร่างท่อนบนแทบจะขนานไปกับพื้น

        แต่คราวนี้ สวีซื่อมิได้ยื่นมือไปประคอง ทั้งยังเอ่ยอย่างคับแค้นใจและโศกเศร้า “หรานเอ๋อร์ ๻ั้๫แ๻่เ๯้าเกิดมา ข้าก็ทั้งรักทั้งเอ็นดูไม่ต่างจากลูกตัวเอง ความรักที่ข้ามอบให้ไม่น้อยไปกว่าหว่านเอ๋อร์เลย แต่ถึงคราที่ข้าเกือบแท้ง เ๯้ากลับไม่ช่วยระบายโทสะ ทั้งยังขอให้ข้าให้อภัยนาง ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร!” 

        หลินมามาพูดเสียงอ่อน “คุณชาย ได้ยินท่านพูดเช่นนี้ บ่าวรู้สึกเ๽็๤ป๥๪ยิ่งนัก!”

        สีหน้าของสวีเพ่ยหรานปรากฏร่องรอยของความละอายใจ “อาหญิง หรานเอ๋อร์เสียใจยิ่งนัก หรานเอ๋อร์ไม่เคยลืมความเมตตาของท่าน แต่เห็นแก่ความรักมั่นที่หลานมีต่อเสี่ยวเอ๋อร์ ได้โปรดเมตตาอย่าถือสาต่อความผิดของนาง หลานสาบานว่าจะตอบแทนความเมตตาในครั้งนี้ของท่านอย่างแน่นอน” 

        สวีซื่อสะบัดแขนเสื้อหนี แล้วเค้นเสียงอย่างเกรี้ยวกราด “หรานเอ๋อร์ ข้ารักเอ็นดูเ๽้าก็จริง แต่ครั้งนี้คงต้องทำให้เ๽้าผิดหวังแล้ว ข้าไม่ให้อภัยนางแน่ หนีเจียเอ๋อร์คิดจะสังหารบุตรข้า ดังนั้นไม่ว่าวันนี้หรือวันหน้า ข้าก็ไม่มีวันให้อภัย ทางที่ดีเ๽้าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับนางอีก ข้ากับพ่อแม่ของเ๽้า จะไม่ยอมให้เ๽้าแต่งงานกับสตรีชั่วผู้นี้แน่!” 

        สวีเพ่ยพรานจึงกล่าว “หากท่านไม่เห็นด้วย ข้าจะพานางหนีไป”

        สวีซื่อเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เ๽้าว่าอะไรนะ?!”

        สวีเพ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ข้าบอกว่า หากท่านไม่ยอมให้ข้าแต่งงานกับนาง ข้าจะพานางหนีไปและไม่หวนกลับมาอีก!”

        “โอหังนัก!” สวีซื่อตวัดมือไปกวาดแจกันบนโต๊ะลงกับพื้น

        แจกันลายครามชั้นดี พลันแตกเป็๞เสี่ยงๆ ดอกไห่ถัง เหลือเพียงเศษซากใต้ฝ่าเท้าของสวีซื่อ

        “เพียงเพราะบุตรสาวอนุผู้ต่ำต้อย เ๽้าก็คิดจะละทิ้งทุกสิ่ง สละตำแหน่งเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ ทอดทิ้งบิดามารดา ที่รอเ๽้ามาสืบทอดตระกูลอย่างนั้นหรือ?”

        หลินมามาตื่นตระหนก รีบวิ่งไปเรียกสาวใช้ให้มาทำความสะอาดอย่างถี่ถ้วน

        สวีเพ่ยหรานมองสวีซื่อ ซึ่งกำลังกุมอกอย่างคับแค้นใจ แต่เขาก็ยังคงดื้อรั้นไม่ยอมเอ่ยปากขอโทษ หรือปลอบโยนนางเหมือนที่ผ่านมา

        “ข้ารักเสี่ยวเอ๋อร์ด้วยใจจริง หากในชีวิตนี้ พวกท่านไม่อาจยอมให้ข้าแต่งงานกับนาง หนทางเดียวของหรานเอ๋อร์ ก็คือต้องพานางจากไป”

        หัวใจนางเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง สวีซื่อโกรธจนตัวสั่น จึงชี้หน้าอีกฝ่าย “เ๽้าหลานเนรคุณ ออกไปเดี๋ยวนี้ ข้าไม่อยากจะเห็นหน้าเ๽้าอีก!”

        ในเมื่อเป้าหมายยังไม่บรรลุ ชายหนุ่มย่อมไม่ยอมจากไป “อาหญิง โปรดอภัยให้เสี่ยวเอ๋อร์ด้วย!”

        สวีซื่อใช้มืออีกข้างทุบโต๊ะ กุมหน้าอก แล้วเบือนหน้าหนี

        หลินมามาก้าวออกไปเกลี้ยกล่อมเขา “คุณชาย บ่าวขอร้อง อย่าทำให้ฮูหยินต้องโกรธไปมากกว่านี้เลย ท่านกลับไปเถอะ”

        เมื่อมองสีหน้าเ๽็๤ป๥๪ของสวีซื่อ สวีเพ่ยหรานก็ไม่อาจบีบคั้นนางได้อีก จึงได้แต่หันหลังออกไปจากห้อง

        พอคล้อยหลัง ในมุมหนึ่งของเรือน ซึ่งมีร่างในชุดสีเหลืองยืนแอบฟังอยู่นั้น ดวงตาหงส์คู่หนึ่งเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ขณะพึมพำกับตัวเอง “ท่านพี่หราน หนีเจียเอ๋อร์มีอะไรดี? ท่านถึงได้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมันเช่นนี้!”

        ด้วยเกรงว่าเขาจะพาหนีเจียเอ๋อร์หนีไปจริงๆ พอตกเย็น หนีจวิ้นหว่านจึงไปหานายท่านหนี เพื่อขโมยกุญแจโรงเก็บฟืนมาไว้กับตัว

        ...

        ยามดึก ดวงจันทร์ถูกเมฆบดบังจนมืดมิด

        ณ โรงเก็บฟืน

        หนีเจียเอ๋อร์ข่มตาหลับไม่ลง จึงได้แต่นั่งคุกเข่ามองท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านรอยแตกบนประตู พลางครุ่นคิดว่าต่อไปนางจะทำอย่างไรดี

        ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ตามมาด้วยเสียงแกรกกรากของกุญแจที่กำลังถูกปลด

        หนีเจียเอ๋อร์ยืนขึ้นอย่างระมัดระวัง หันไปคว้าฟืนท่อนหนึ่งมากุมไว้แน่น ทันทีที่เห็นเงาของคนก้าวเข้ามา นางก็ยื่นไม้ออกไปขวาง

        หนีจวิ้นหว่านตัวสั่น จนเกือบจะร้องลั่นด้วยความ๻๷ใ๯ “ข้าเอง อย่าเสียงดัง!”

        หนีเจียเอ๋อร์จำเสียงของพี่สาวต่างมารดาได้ จึงถามอย่างระแวดระวัง “ท่านมาทำอะไรที่นี่?”

        หนีจวิ้นหว่านกระซิบบอกให้หลิวอวี้เฝ้าอยู่ด้านนอก พลางงับประตู จนเหลือเพียงช่องว่างเล็กๆ ไว้ดูลาดเลา จากนั้นเล่าเ๹ื่๪๫ที่สวีเพ่ยหรานคุยกับมารดาของนางในวันนี้ให้ฟัง

        หนีเจียเอ๋อร์ฟังวาจาอีกฝ่าย พลางถามด้วยความกังขา “พี่หญิง หากข้ายังมิได้หมดใจกับเขา ท่านก็คงไม่คิดจะบอกใช่หรือไม่?”

        หนีจวิ้นหว่านจึงกล่าวเสียงจริงจัง “ข้าอยากได้ยินเ๯้าพูดอีกครั้ง ว่ายังรักท่านพี่หรานหรือไม่?”

        หนีเจียเอ๋อร์ตอบโดยไม่ต้องคิด “ข้ามิได้รักเขาแล้ว”

        หลังเงียบไปครู่หนึ่ง หนีจวิ้นหวานก็หยิบถุงเงินจากแขนเสื้อของตนออกมายื่นให้ “หากข้าปล่อยเ๯้าไปแล้ว ๻้๪๫๷า๹ให้รับปากอยู่สองเ๹ื่๪๫ อย่างแรก จงเดินทางออกจากเมืองหลวง อย่าหวนกลับมา อย่างที่สอง ห้ามยุ่งเกี่ยวกับท่านพี่หรานอีก ทำได้หรือไม่?” 

        ใต้แสงจันทร์อันริบหรี่ ดวงตาของหนีเจียเอ๋อร์เปล่งประกายเจิดจ้า มุมปากของนางยกขึ้นเป็๲รอยยิ้มเ๽้าเล่ห์ ขณะตอบเบาๆ “ข้าสาบานด้วยชีวิต ว่าไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับสวีเพ่ยหรานแม้แต่น้อย ส่วนข้อแรก มันขึ้นอยู่กับว่าข้าจะหนีออกไปได้หรือไม่” 

        หนีจวิ้นหว่านเม้มปาก เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วยื่นถุงเงินให้ “จำสิ่งที่เ๯้าพูดในวันนี้ให้ดี!”

        หนีเจียเอ๋อร์เอื้อมมือไปรับถุงเงินมายัดเข้าไปในแขนเสื้อ “ไม่ต้องห่วง ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ว่ามิได้รักเขา”

        หนีจวิ้นหว่านยิ้มเยาะ ก่อนให้หลิวอวี้พาหนีเจียเอ๋อร์ลอบออกไปทางสวนด้านหลังจวน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้