ตอนนั้นที่ซ่งอวี้เสนอตัวรักษาอาการป่วยของลุงสือโถว ก็เพื่อใช้ตำแหน่งผู้าุโของเขาทำให้ตนเองสะดวกสบายมากขึ้น วันข้างหน้าตอนจัดการเฉินต้าฮวาจะได้ให้ลุงสือโถวมาเป็กำลังให้ตน ทั้งยังจัดการหวังกุ้ยได้ในคราวเดียว แต่สุดท้ายแผนการที่นางวางเอาไว้ยังไม่ได้ใช้ ทั้งสองก็ถูกโยงเข้ามา ช่างบังเอิญยิ่งนัก
'ท่านเป็คนทำหรือ?' ซ่งอวี้กะพริบตาปริบๆ แววตาของนางแสดงความฉงนของตนออกไปอย่างชัดเจน
หลี่เฉิงมองซ่งอวี้ ในมุมที่ทุกคนมองไม่เห็น เขาลอบจับมือซ่งอวี้ พยักหน้าแล้วอมยิ้ม ถือเป็การยอมรับ
เป็จริงตามคาด นางคิดเอาไว้แล้ว เหตุใดจึงรู้สึกผิดปกติ ทุกอย่างลื่นไหลและสมเหตุสมผลจนเกินไป คล้ายไม่เกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่น้อย แต่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ซุนหลานฮวาไม่ใช่คนโง่ นางจะวิ่งไปขวางหน้าหลี่เฉิงแล้วนินทาว่าร้ายตนได้อย่างไร ส่วนหลี่เฉิง...
ซ่งอวี้เม้มริมฝีปาก จู่ๆ นางก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย
ั้แ่หลี่เฉิงเป็สามีภรรยากับนาง เขาก็ตัวติดกับนางตลอดเวลา ถึงขั้นที่ว่านางไปที่ใด หลี่เฉิงก็ไปที่นั่น แล้ววันนี้เขาจะออกมาเดินเล่นโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร
หลี่เฉิงต้องวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ตั้งใจปิดบังนาง ไม่เปิดเผยให้รู้แม้แต่น้อย กระทั่งป้าหวังมาบอกนาง
ยิ่งคิด นางก็ยิ่งตื้นตันมากขึ้น แท้จริงแล้วโดยที่นางไม่รู้ตัว หลี่เฉิงทำเพื่อนางมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? กลัวว่านางจะถูกผู้อื่นรังแก ดังนั้นเขาจึงตามติดนางตลอดเวลา รู้ว่าคนในหมู่บ้านมักจะนินทาว่าร้ายนาง กลัวว่าข่าวลือเ่าั้จะทำร้ายนาง ดังนั้นเขาจึงวางแผนให้คนที่ป้ายสีนางทะเลาะกันเอง ถอนรากถอนโคนข่าวลือให้สิ้นซาก
ขณะที่ไม่มีผู้ใดสังเกต ซ่งอวี้ก็ถามเสียงเบา "ท่านทำให้พวกนางทะเลาะกันเองได้อย่างไร?"
นางใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันที่ค่อนข้างเรียบง่าย แม้ในโรงพยาบาลจะมีการเหยียบหัวคนอื่นขึ้นที่สูง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ซับซ้อนมากนัก อย่างมากก็แค่ข้าแย่งตำแหน่งเ้า เ้านินทาข้าลับหลังเล็กน้อย แค่นี้เท่านั้น
แผนการที่เชื่อมกันเป็ห่วงโซ่เช่นนี้ แม้ซ่งอวี้จะดูออก แต่ก็ไม่กระจ่าง
อยากจะให้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามแผนการที่เขาวางไว้ เช่นนั้นเขาต้องมั่นใจในอุปนิสัยของผู้คน เข้าใจอุปนิสัยของผู้เล่น น่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง
ซ่งอวี้ตัวสั่น รู้สึกโชคดีที่หลี่เฉิงยืนอยู่ข้างนาง มิเช่นนั้นนางต้องถูกเขากลืนกินไปทั้งตัวและกระดูก ไม่เหลือแม้แต่ซากอย่างแน่นอน
นางคิดว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของนางจะไม่มีผู้ใดเห็น แต่ความเป็จริงหลี่เฉิงล้วนเห็นทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่นางพึมพำในใจ หลี่เฉิงก็พอจะเดาได้ทั้งหมด
หลี่เฉิงยิ้มบางๆ ให้กับซ่งอวี้อย่างมีเลศนัย แม้พวกเขาจะเป็พวกเดียวกัน หลี่เฉิงก็อยากจะ ‘กลืนกิน’ ซ่งอวี้เข้าไปทั้งตัวจนไม่เหลือซาก
เอ๋? เหตุใดจู่ๆ จึงรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาเช่นนี้? ซ่งอวี้เสียวสันหลัง อดไม่ได้ที่จะมองซ้ายมองขวา บ่นพึมพำ "แปลกเหลือเกิน อากาศเย็นลง?"
ทางด้านนี้ สองสามีภรรยากระหนุงกระหนิง อีกด้านหนึ่งเกิดานางร้ายที่แสนดุเดือด
เฉินต้าฮวาเป็คนโยงหวังกุ้ยเข้ามาในเื่นี้ อีกฝ่ายพูดหนักแน่นว่าสามีของตนเป็คนบอก แต่ว่าหวังกุ้ยกลัวผู้าุโยิ่งนัก อีกทั้งเขาก็เป็คนที่วันๆ เอาแต่กินกับนอนและยังชอบเอาเปรียบผู้อื่น กลัวว่าบรรดาผู้าุโจะฉวยโอกาสนี้ลงโทษตนไปพร้อมกัน ด้วยเหตุนี้ ตีให้ตายอย่างไรเขาก็ไม่ยอมรับว่าตนเคยพูด
เวลานี้เฉินต้าฮวาโมโหยิ่งนัก ไม่สนใจว่าที่นี่คือศาลบรรพชนหรือไม่ นางตะคอกด่าทอหวังกุ้ย "ร้ายนักนะหวังกุ้ย ข้าเคราะห์ร้ายยิ่งนักถึงได้แต่งงานกับเ้า! ทั้งที่เ้าเป็คนบอกข้าเองว่าซ่งอวี้เป็คนยั่วยวนเ้า อยากจะหลอกเอาข้าวสารของเรา ชั่วขณะหนึ่งเ้าไม่อาจทนต่อการยั่วยวนของนางได้ จึงผลักซ่งอวี้ล้มลงบนพื้น จนเืไหลอาบ ทั้งยังคิดว่านางตายไปแล้วเสียอีก!"
เฉินต้าฮวาโมโหจนพูดไม่ไตร่ตรอง นางพูดเื่ทั้งหมดที่หวังกุ้ยบอกกับนางในตอนนั้น รวมถึงเื่ที่ซ่งอวี้หกล้มหัวฟาดก้อนหินจนเกือบตาย
การสอบสวนเื่ข่าวลือแปรเปลี่ยนเป็ฆาตกรรม ที่ศาลบรรพชนมีละครฉากใหญ่ฉายขึ้นติดต่อกัน ชาวบ้านที่ตอนแรกทำให้กลายเป็เื่ใหญ่เพราะไม่เกี่ยวกับตน เวลานี้เดือดดาลขึ้นมาทันที
ยามชาวบ้านว่างจากการทำนา พวกเขามักจะจับกลุ่มพูดคุยกันเพื่อฆ่าเวลา แม้การนินทาว่าร้ายผู้อื่นจะเป็การกระทำที่เกินไปเล็กน้อย แต่สำหรับชาวบ้านแล้วไม่ใช่เื่ใหญ่ ทว่าการฆาตกรรมนั้น สองเื่นี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ลองคิดดูเล่า บ้านใกล้เรือนเคียงที่เราคิดว่าจิตใจดี แต่ความเป็จริงกลับเคยสังหารคน มือเคยเปื้อนเืมาก่อน ไม่แน่ว่าวันใดขัดแย้งกับเราเขาอาจจะสังหารเราพลั้งมือฆ่าเราก็เป็ได้
เพียงแค่คิดเช่นนี้ ชาวบ้านจำนวนมากล้วนไม่อาจทนรับได้ ไม่ใช่แค่ชาวบ้านเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้านและผู้าุโ หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินต้าฮวาแล้ว สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
"หวังกุ้ย เ้าช่างใจกล้ายิ่งนัก เ้ากล้าสังหารคนเนี่ยนะ!” ผู้ใหญ่บ้านพูดเสียงเหี้ยม
ซ่งอวี้ซึ่งเป็ ‘ผู้ถูกกระทำ’ เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็หัวเราะเยือกเย็นให้กับหวังกุ้ย แม้หลี่เฉิงจะไม่ลงมือ หลังจากนี้อีกไม่นาน นางก็จะเปิดโปงเื่นี้เช่นเดียวกัน
เพราะตัณหาของหวังกุ้ย ทำให้เ้าของร่างเดิมต้องตาย นางจึงเดินทางทะลุมิติมายังโลกใบนี้ ทุกครั้งที่นอนหลับ นางมักจะฝันเห็นหญิงสาวซูบผอมไร้ที่พึ่งพิงนั่งขดตัวอย่างโดดเดี่ยวอยู่ลำพัง ร้องไห้ด้วยความเสียใจในที่ที่ไม่มีผู้ใดพบเห็น
นางรู้ นั่นคือชีวิตในอดีตของร่างเดิม ไร้ที่พึ่งพิง ใช้ชีวิตเร่ร่อน
"เ้าวางใจเถอะ คนที่ทำให้เ้าตาย ข้าไม่มีวันปล่อยไปแน่นอน" นางลูบหน้าอกข้างซ้ายของตนเองเบาๆ หัวใจที่อยู่ด้านในเต้นช้าๆ ด้วยความรุนแรง
หากไม่ใช่เพราะเกิดเื่ขึ้นกับร่างเดิมพอดี ซ่งอวี้ก็คงไม่มีโอกาสเดินทางทะลุมิติมายังโลกใบนี้ได้ บางทีอาจจะตายไปหลังจากช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความกล้าหาญ นางไม่รู้ว่าจะตอบแทนร่างเดิมอย่างไร สิ่งเดียวที่ทำเพื่อร่างเดิมได้คือลงโทษหวังกุ้ย แสดงน้ำใจของตนเอง
สีหน้าของหวังกุ้ยในตอนนี้ซีดเผือด เขาคิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนจะไม่รู้จักคิดเช่นนี้ พูดเื่ที่เขาผลักซ่งอวี้ล้มออกมา
เพื่อไม่ให้เื่สาวถึงตัว จู่ๆ เขาก็ะเิอารมณ์ ตบหน้าเฉินต้าฮวาสองฉาด ทั้งยังด่าทอออกมา "หญิงสารเลว ดูสิว่าข้าจะตีเ้าให้ตายหรือไม่ ข้าเคยพูดเื่เหล่านี้กับเ้าเมื่อใดกัน!”
ยิ่งเขาหวาดกลัว ก็ยิ่งตบรุนแรงมากขึ้น แก้มของเฉินต้าฮวาบวมแดง มุมปากของนางมีเืไหลออกมา
เฉินต้าฮวาถูกตบจนตะลึงงันไปแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย ทว่าหวังกุ้ยยิ่งตบยิ่งใส่แรงมากขึ้น หากไม่ใช่เพราะชาวบ้านที่อยู่ข้างๆ ดึงตัวเขาเอาไว้ ไม่แน่เขาอาจจะตบอีกฉาดสองฉาดก็เป็ได้
ผู้ใหญ่บ้านโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว ไม่เคยมีผู้ใดกล้าเสียมารยาทในศาลบรรพชนเช่นนี้ นี่ถือเป็ครั้งแรก หากเขาไม่แสดงท่าทีใดๆ ไม่แน่ว่าปีหน้า ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านนี้อาจจะเป็ของผู้อื่นแล้วก็ได้!
"หวังกุ้ย เ้ากล้าทุบตีทำร้ายคนในศาลบรรพชน! เอ้อร์โก่ว เฉ่าเกิน พวกเ้าจับตัวหวังกุ้ยมัดเอาไว้ ข้าจะลงโทษเขาตามกฎของหมู่บ้าน!” ผู้ใหญ่บ้านพูดเสียงเหี้ยม จะลงโทษหวังกุ้ยแล้ว
เฉินซิ่วไฉและผู้ใหญ่บ้านคิดเหมือนกัน อยากจะอาศัยโอกาสนี้จัดระเบียบสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านเสี่ยวหนิว ด้วยเหตุนี้จึงหยิบกฎบรรพชนที่สักการะในศาลบรรพชนขึ้นมา หลังจากไหว้สามครั้งด้วยความเคารพแล้ว ก็เปิดหน้าแรกซึ่งมีการจดบันทึกกฎบรรพชนเอาไว้
คนที่ผู้คนให้ความเคารพเรียกว่าผู้าุโ โดยทั่วไปแล้วล้วนเป็คนรู้หนังสือ พวกเขาล้วนรู้ดีว่ากฎบรรพชนมีข้อใดบ้าง จึงไม่ได้มอง ปล่อยให้เฉินซิ่วไฉดำเนินการ
"กฎบรรพชนข้อที่สาม ไม่เคารพบรรพชน ทำร้ายผู้คนในบรรพชน ลงโทษโดยการโบยสิบแส้"
เฉินซิ่วไฉอ่านกฎข้อหนึ่งของกฎบรรพชนทีละตัวอักษร หลังจากนั้นนำกลับไปสักการะอีกครั้ง ยื่นแส้ที่ไม่มีผู้ใดแตะต้องมานานหลายสิบปีไปให้เอ้อร์โก่ว
"เอ้อร์โก่วเ้ามาฟาดแส้ ทำการลงโทษบัดเดี๋ยวนี้"