ต่งซื่อกัดฟันกรอด สมควรตายยิ่งนัก เหตุใดจึงพูดเื่นี้ทุกครั้งที่เอ่ยถึงน้ำพุร้อน? ซุนเหม่ยเหนียง เ้ามันมารยาสาไถย อ้างเหตุผลมากมายเพื่อตำหนิผู้อื่น คิดว่าข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเ้าเลยหรือ? ป้าสามบอกแต่แรกแล้วว่าเ้าจัดหาอนุหกคนให้สามี เพื่อแสดงความใจกว้างเป็แม่พระต่อหน้าทุกคน แต่ลับหลังก็ส่งแกงจิ่วจางให้พวกนางเพื่อทำลายร่างกาย ทำให้พวกนางไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ฮึ สาขาสองก็จะมีเพียงเ้าที่สามารถตั้งครรภ์ได้ เ้าคนแซ่ซุน แม้แต่ลูกชายก็ยังให้กำเนิดไม่ได้ เ้ามีคุณสมบัติอันใดถึงได้ตำแหน่งฮูหยินดูแลจวนตระกูลหลัว
หลังเงียบอยู่นาน จู่ ๆ เหล่าไท่ไท่ก็มองต่งซื่อพลางเอ่ยอย่างอ่อนโยน “เ้าเป็ชายาชอบธรรมของคุณชายเฉียน ในสายตาของข้า เ้าก็เหมือนพวกคุณหนูอิ่ง เดิมทีควรให้เ้าใช้บ่อน้ำพุร้อนร่วมกับพวกนาง แต่ดูเ้าสิ ตอนนี้คุณชายวิ่งไปหอนางโลมทุกวัน สถานที่เช่นนั้นแม้แต่ยุง แม้แต่ต้นหญ้าก็ยังดูสกปรก คงไม่ต้องพูดถึงพวกโสเภณี พวกเ้าเพิ่งเป็คู่ใหม่ปลามันก็ต้องใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็ประจำ เ้าคลุกคลีกับเขาแล้ว การใช้น้ำพุร้อนเกรงว่าจะไม่ใช่เื่เหมาะสมเท่าไรนัก เสี่ยวฉยงและเสี่ยวเส่าล้วนเป็แม่นางน้อย จะให้แปดเปื้อนไม่ได้แม้แต่นิดเดียว...”
เมื่อต่งซื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มก็พลันฝืดเฝื่อน มุมปากยกขึ้นอย่างยากลำบาก แต่ในใจกลับเดือดดาลจนอยากจะฉีกทึ้งโต๊ะ ทุบเก้าอี้และปาถ้วยชาให้แตกเป็เสี่ยง
เฮ้อ ความหมายของนังแก่สมควรตายผู้นี้คือตนมี “สิ่งอัปมงคล” ร่างกายตนสกปรก กลัวว่าหลานสาวสองคนจะแปดเปื้อนกระนั้นหรือ? ั้แ่นางเกิดมาจนออกเรือนยังไม่เคยถูกใครดูถูกเหยียดหยาม ทว่าั้แ่แต่งเข้าตระกูลหลัว เหล่าไท่ไท่ก็ทำดีกับนางมาโดยตลอด ครั้งแรกที่นางคารวะผู้าุโ เหล่าไท่ไท่ก็เป็ผู้มอบเครื่องประดับศีรษะเงินและทองหนึ่งพันตำลึง เพียงไม่นานนางก็กลายเป็นังแก่สมควรตายที่หน้าไม่อายที่สุดในโลก ฮึ ไม่จำเป็ต้องคิดก็รู้ว่าผู้ที่สาปแช่งให้สามีของตนตายทุกวัน ตอนนี้ก็กำลังบีบบังคับให้พี่สาวแท้ ๆ ตายอีกคน จะเป็คนดีได้อย่างไร?
เมื่อเหล่าไท่ไท่เห็นใบหน้าของหลานสะใภ้ยังยิ้มแย้มจึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าในใจหญิงสาวเช่นพวกเ้ามีความคิดเป็ของตัวเอง หวังอยากบุรุษเพียงผู้เดียว ข้าอยากบอกเ้าว่าความคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง บุรุษเกิดมาพร้อมทัศนคติกว้างไกล มุมมองของพวกเขากว้างใหญ่ไพศาลมากกว่าพวกเรา...พวกเราเห็นเพียงเตียงหนึ่งหลังในห้อง เรือนหนึ่งเรือนและห้องอาบน้ำหนึ่งห้อง แต่พวกบุรุษกลับไม่พอใจในสิ่งเหล่านี้ ทัศนคติของบุรุษที่มีต่อสตรีนั้น ไม่ว่าเขาจะชอบเ้ามากเพียงใดก็ยังมีสตรีคนอื่นในใจเสมอ เ้า้าให้เขาสนใจเพียงเ้าคนเดียวใช่หรือไม่? ฮ่า ๆ ข้าอยู่มานานจนอายุปูนนี้ยังไม่เคยเห็นคุณชายร่ำรวยคนไหนไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีอื่นนอกจากภรรยา เ้าดูป้ารองของเ้าสิ นางช่วยลุงรองเลือกอนุที่งดงามและเชื่อฟังเข้าเรือนอย่างใจกว้าง สุดท้ายนางไม่เพียงแต่ไม่สูญเสียความโปรดปรานของลุงเ้า แต่ยังทำให้เขาเชื่อฟังนางอีกด้วย นางบอกหนึ่ง เขาก็จะไม่บอกสอง”
เหลวไหลสิ้นดี ต่งซื่อยิ้มเยาะในใจ ลูกชายคนรองของเ้าอายุมากกว่าสามสิบปีแล้ว แม้แต่ลูกชายก็ยังให้กำเนิดไม่ได้ แตกต่างจากบุรุษที่ไม่มีลูกตรงไหนกัน?
ทว่าเหล่าไท่ไท่มิได้ยินสิ่งที่นางก่นด่าในใจ นางยังคงถอนหายใจกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “กาหนึ่งใบคู่ควรกับถ้วยชาอีกหลายใบ นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติกันแต่โบราณ ไม่มีใครทำลายความจริงข้อนี้ได้ สามีที่เคยมีฐานะต่ำต้อย เมื่อกลายเป็เศรษฐีร่ำรวย มีใครบ้างละทิ้งภรรยาคนแรกแล้วแต่งงานใหม่กับสตรีที่งดงามเข้าเรือน? ข้าไม่รู้ว่าเ้าได้ยินจากป้าสามของเ้าหรือยัง ข้ามีหลานสาวนอกสาขานามว่าเสี่ยวอี้ ปีนั้นพ่อของนางแต่งแม่ของนางเข้าจวน อนุหรือสาวใช้อุ่นเตียงสักคนก็ยังไม่มี คนอื่นต่างพากันบอกว่าเหอจิ้งเซียนนั้นรักเดียวใจเดียว ทั้งยังบอกว่าชวนสยงแต่งงานถูกคนแล้ว ในชีวิตของนางจะไม่มีความกังวลใด ๆ แม้แต่เื่เดียว ถุย! ผีอายุสั้นเช่นเหอจิ้งเซียนกล้าปฏิเสธชวนสยงของพวกเราอย่างใจดำ เขาและเมียเป็สุนัขที่ใจดำที่สุด คงไม่ตายดีเป็แน่”
เป็ครั้งแรกที่ต่งซื่อเห็นเหล่าไท่ไท่เดือดดาลเช่นนี้ โดยปกติมักได้ยินเหล่าไท่ไท่พูดจาเชื่องช้า ทว่าครั้งนี้ถึงกับสบถคำหยาบ ยกผ้าเช็ดหน้าปิดปากอย่างประหลาดใจ เื่นี้ช่างน่าฉงนเสียจริง นางเคยได้ยินเื่ราวของหลัวชวนสยงผู้เป็ป้าเล็กของหลัวไป๋เฉียนมาบ้าง นางไม่เพียงถูกไล่ออกจากบ้านทั้งสองแม่ลูกหลังหย่าร้างเท่านั้น แต่ตอนนี้สตรีผู้นั้นยังแต่งงานใหม่กับบุรุษอีกคนก่อนย้ายออกจากจวน เหตุใดเมื่อพูดถึงเื่อดีตเหล่าไท่ไท่จึงเดือดดาลเช่นนี้ ราวกับ “เหอจิ้งเซียน” ผู้นั้นฆ่าล้างตระกูลหรือขุดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษนางอย่างไรอย่างนั้น? หลัวชวนสยงเป็ลูกสาวของศัตรูหัวใจเหล่าไท่ไท่ไม่ใช่หรือ? แล้วนางจะเดือดดาลไปทำไม? ควรปรบมือร้องเพลงอย่างมีความสุขจึงจะถูก
สีหน้าของซุนซื่อเหมือนจะยิ้ม นางจับจ้องแผ่นโลหะในห้องโถงด้วยดวงตาเปล่งประกาย หลัวไป๋อิ่งได้ยินสิ่งที่เหล่าไท่ไท่กล่าวจึงกระแอมเล็กน้อยเพื่อเตือนนาง
เหล่าไท่ไท่สงบอีกครั้งพลางกล่าวสรุปสั้น ๆ “เ้าเป็สตรีจากตระกูลบัณฑิต ย่อมมีเหตุผลมากกว่าสตรีทั่วไป ข้ารู้ว่าเ้าเป็เด็กดี ข้ารักเ้าพอ ๆ กับที่ข้ารักหลานสาวคนอื่น เื่ที่เ้าอยากใช้น้ำพุดูแลผิวพรรณนั้น...ตามหลักแล้ว เ้าสามารถเป็ส่วนหนึ่งของน้ำพุร้อนในจวนตระกูลหลัวได้ รอให้คุณชายเฉียนเลิกไปหอนางโลม ข้าก็จะขอให้คนส่งน้ำพุร้อนไปให้เ้าที่เรือนหลิวหลี่ทุกวัน ดีหรือไม่?
เมื่อต่งซื่อได้ยินก็เดือดดาลจนตัวสั่น ส่งน้ำพุร้อนไปให้ตน? ฮึ จะพูดอย่างไรสุดท้ายก็หมายความว่าตนไม่สามารถอาบน้ำพุร้อนที่บ่อได้ เห็นได้ชัดว่าเหล่าไท่ไท่กลัวหลานสาวผู้น่ารักของนางจะติดโรคบางอย่าง “เมื่อไรที่หลัวไป๋เฉียนไม่ไปหอนางโลม” หมายความว่าอย่างไร? ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็ยังอยากให้นางหาอนุให้หลัวไป๋เฉียน เพียงอาบน้ำพุร้อนไม่กี่ถังก็ต้องยอมแบ่งสามีกับสตรีอื่นกระนั้นหรือ?
ขณะนี้หลัวไป๋อิ่งเหมือนจะเข้าใจความคิดของต่งซื่อ พลันจ้องจมูกก่อนบอกน้องสะใภ้ “ความจริงแล้วเ้าไม่มีทางเลือกด้วยซ้ำ ไม่ว่าเ้าจะอาบน้ำหรือไม่ คุณชายเฉียนก็อยากวิ่งไปกอดสตรีอื่นอยู่ดี ไม่ว่าเ้าจะโทษตัวเองที่ตอนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งดันเลือกเกิดเป็สตรี ไม่ว่าเ้าจะหาอนุหลายคนให้สามีเพื่อเพิ่มปัญหาให้ตน...แต่เราเป็สตรีมีทางเลือกอื่นด้วยหรือ?”
ซุนซื่อปิดปากหัวเราะ คำพูดของคุณหนูอิ่งนั้นยอดเยี่ยมและไม่เหมือนใคร ฮ่า ๆ บางครั้งตนก็รู้สึกอ่อนเยาว์อีกครั้งเมื่อได้เห็นท่าทางอิจฉาของพวกรุ่นเยาว์เหล่านี้...
เติงเฉ่าวัยสิบเจ็ดปีนวดขาให้เหล่าไท่ไท่อยู่ด้านข้าง พลางกล่าวด้วยรอยยิ้มประจบ “เอ้อร์ไท่ไท่ดูไม่แก่เลยนะเ้าคะ สาวกว่าพวกบ่าวเสียอีก”
จากนั้นเหล่าไท่ไท่ก็บอกให้คนทั้งสามกลับเรือนเพราะตนเริ่มเหนื่อยล้าแล้ว ซุนเหม่ยเหนียงและหลัวไป๋อิ่งเดินออกไปคนละทิศ ต่งซื่อเดินเพียงลำพังทางมุมหนึ่งของสวนที่ไม่มีใคร ก่อนคว้าดอกไห่ถังบานสะพรั่งขยำเป็ชิ้นด้วยความเดือดดาลแทบบ้าคลั่ง พลางคิดในใจ “ป้าสาม ท่านบอกข้าว่าจวนตระกูลหลัวดีมาก แต่ท่านไม่เคยบอกข้าเลยว่าผู้คนที่นี่ล้วนเป็ปีศาจกินคน ถูกผิดไม่แยกแยะ ขาวดำไม่สนใจ”
ดวงตาและหัวใจของคนพวกนั้นมืดบอดหรือไร? หลัวไป๋เฉียนวิ่งออกไปทำเื่ไม่ดีแต่พวกนางก็ไม่ห้าม ไม่ไปนำตัวเขากลับจากหอนางโลมมาสั่งสอน ไม่ขอให้เขาชดใช้ความผิดและขออภัยนาง แต่พวกนางทั้งสามกลับตำหนิตนโดยไม่ได้นัดหมาย คิดว่านางหึงหวงจนไม่ยอมหาอนุให้แก่เขา ฮ่า ๆ ช่างน่าขันนัก เป็สตรีเหมือนกันแต่กลับพูดจาอย่างไร้ความปรานี
นังแก่สมควรตายบอกว่าั้แ่สมัยโบราณจนถึงทุกวันนี้ไม่มีใครสามารถทำลายธรรมเนียมกาน้ำชาหนึ่งใบคู่ควรกับถ้วยชาหลายใบได้ แต่ใครเล่าจะมีความสุขหากยอมให้สามีแต่งอนุเข้าจวน? เฮ้อ หากตอนอยู่ในเมืองฝูโจวเมื่อครึ่งปีก่อน ป้าสามไม่ได้สัญญาว่าจะไม่ให้หลัวไป๋เฉียนแต่งอนุเข้าจวน ตนไม่มีทางยอมตามแม่มาดูตัวที่ตระกูลหลัวแน่นอน อีกทั้งตนก็จะไม่มีทางได้พบดาวซวยในชีวิตเช่นหลัวไป๋เฉียน ไม่ต้องอยู่ในจวนตระกูลหลัวที่น่าขยะแขยงและใส่หน้ากากเข้าหากลุ่มสตรีเหล่านี้
แม้สภาพความเป็อยู่ที่นี่จะดีกว่าจวนในเมืองฝูโจวหลายเท่า แม้จะมีคนเรียกนางว่า “สะใภ้ใหญ่รุ่นเยาว์” ด้วยความนอบน้อม แม้หลัวไป๋เฉียนจะเป็บุรุษรูปงามที่สุดเท่าที่นางเคยพบมาในชีวิต แม้นางจะตระหนักถึงความปรารถนาและได้แต่งงานตาม้า ทว่าั้แ่อาศัยอยู่ในจวนตระกูลหลัวฝั่งตะวันออกที่น่าขยะแขยง นางก็ไม่เคยมีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง รอยยิ้มของนางไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป เมื่อเศร้าและอยากร้องไห้ น้ำตาจะไหลสักหยดก็ยังไม่มี นางอึดอัดขึ้นทุกวัน ตระกูลหลัวแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่คนควรอาศัยแม้แต่น้อย
ตาปลาตายหลัวไป๋อิ่ง จิ้งจอกเฒ่าเ้าเล่ห์ซุนเหม่ยเหนียง จิ้งจอกรุ่นเยาว์หลัวไป๋ฉยงและหลัวไป๋เส่า ไฉ่ตันผู้แสร้งใจดีและซื่อสัตย์แต่แท้จริงกลับเป็ปีศาจเฒ่ากินคน รวมถึงหลัวไป๋เฉียนก็เป็เสมือนม้าป่าไร้เชือก ผูกอย่างไรก็ผูกไม่อยู่ ในตระกูลหลัวแห่งนี้ล้วนไม่ใช่คนทั้งสิ้น
“เหอ ๆ ๆ คุณหนูสาม ท่านไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ บางครั้งเอ้อร์ไท่ไท่ก็เหมือนเด็กเอาแต่ใจ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ความจริงแล้วนางไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใด นางจะไม่ทำร้ายท่านเด็ดขาด…” หยางมามาหยิบชาดอกกุ้ยฮวาขึ้นโต๊ะ หลังดื่มก็เอ่ยชื่นชมไม่หยุด กระทั่งชมคุณหนูสามว่าฝีมือดี อนาคตหากใครได้แต่งงานด้วยก็ล้วนเป็ความโชคดีของคนผู้นั้น
เหอตังกุยยกแขนเสื้อบดบังใบหน้าแสร้งเขินอายพลางหาวก่อนคิดในใจ เมื่อครู่เพิ่งพูดว่า “ชีวิตช่างเงียบสงบ ไม่ได้เห็นคนที่ตนไม่อยากเห็น” แต่ไม่นานเสียงคนจำนวนมากก็กรูเข้ามา เพิ่งบอกว่าวันนี้ไม่ต้อง “ทุ่มเทความพยายามและแรงกายทั้งหมด” แต่หยางมามากลับปิดประตูราวมีความลับ ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าต้องมีเื่แน่นอน หากไม่ใช่เพราะนางพบอาจารย์ตัวน้อยที่เต็มใจสอนวิธีบ่มเพาะกำลังภายใน วันนี้นางคงหมดความอดทนจะรับมือเื่ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดแล้ว
จิ่วกูพยักหน้ายิ้ม “ใช่ ข้าอาศัยในจวนตระกูลหลัวมาหลายปี คิดว่าเอ้อร์ไท่ไท่นั้นเป็คนดีมาก”
เหอตังกุยลดแขนเสื้อพลางพูดด้วยความประหลาดใจ “มามา พวกท่านพูดเื่อะไร? ป้าสะใภ้รองเป็อะไรหรือเ้าคะ? เหตุใดเปิดเื่มาก็พูดถึงป้าสะใภ้รองเช่นนี้?” ขณะพูดก็หยิบกรรไกรเล็มผมของตน
หยางมามาและจิ่วกูมองหน้ากันครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเหอตังกุยก็นึกขึ้นได้จึงเอ่ย “เช้านี้ข้าไม่มีเวลาต้มน้ำร้อนจึงไม่มีชาร้อนต้อนรับพวกท่าน ได้โปรดดื่มชากุ้ยฮวาสักถ้วย” นั่นไม่ได้กล่าวถึงเอ้อร์ไท่ไท่ แต่เป็เพราะคุณหนูสามไม่ได้กลับจวนมานาน นางไม่เคยััฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวในจวนจึงไม่รู้ว่าเอ้อร์ไท่ไท่เป็ผู้ดูแลห้องต้มน้ำร้อนโดยตรง นางอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีห้องต้มน้ำร้อนในจวนตระกูลหลัวโดยเฉพาะ เดิมทีพวกนางคิดเื่นี้เงียบ ๆ แต่เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเื่นี้จึงอดจะเปิดเผยความลับที่พวกนางรู้ไม่ได้
ความจริงแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อน หยางมามาได้ยินสาวใช้กระซิบกระซาบกันว่าเหล่าไท่ไท่ได้ยินจากคนอื่นว่าคุณหนูสามใช้ประโยชน์จากการหายตัวไปของคุณหนูสี่เข้าเรือนเถาเหยา รวมถึงบังคับให้นายน้อยจูทำเช่นนั้น เรียกว่าการ “บังคับเหล่าไท่ไท่หลัวและนายน้อยจู” แม้เอ้อร์ไท่ไท่เกียจคร้านจะสุงสิงเด็กรุ่นเยาว์ในตระกูล แต่นางก็กังวลว่าคุณหนูสามที่ไม่มีพ่อแม่อบรมสั่งสอนั้แ่เด็กจะเติบโตกลายเป็คนไม่ดี ภายภาคหน้าเมื่อแต่งเข้าจวนตระกูลอาจนำวิธีการแย่ ๆ ไปใช้ ถึงตอนนั้นคงไม่มีใครรับที่นางเป็เช่นนี้ได้
สาวใช้คนแรกกล่าว “เราทุกคนรู้ดีว่าเอ้อร์ไท่ไท่ฉลาดและมีความสามารถ นางไม่สามารถทนสิ่งที่ไม่เป็ธรรมได้ คุณหนูสามก้าวล้ำเส้นของเอ้อร์ไท่ไท่ก็สมควรถูกตำหนิ ได้ยินว่าเอ้อร์ไท่ไท่คิดจะให้คุณหนูสามเรียนรู้กฎของจวน”
สาวใช้คนที่สองกล่าวเห็นด้วย “ใช่ มีคนบอกว่าเอ้อร์ไท่ไท่บอกพ่อบ้านทุกคนที่มีป้ายทั้งหมดแล้ว ในฐานะป้าสะใภ้ต้องรับผิดชอบสั่งสอนคุณหนูสามที่ขาดการอบรมสั่งสอน ดังนั้นเอ้อร์ไท่ไท่จะดูแลเื่เล็กน้อยในชีวิตประจำวัน นาง้าเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ชัดเจนและยับยั้งความคิดชั่วร้ายของคุณหนูสาม…ตามที่ได้ยินมา เอ้อร์ไท่ไท่พูดมาไม่น้อย อีกทั้งเนื้อหาก็ไม่น่าฟังนัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เงินเบี้ยเลี้ยงรายเดือน น้ำร้อน ถ่าน สาวใช้และชุดของคุณหนูในเรือนเถาเหยาล้วนถูกยึดกลับหมดแล้ว”
สาวใช้คนที่สามถาม “แล้วอาหารล่ะ? ไม่ใช่บอกว่าอดีตแม่ครัวหวังฉียักยอกเงินค่าอาหารของคุณหนูสามเป็เวลาครึ่งปีจนเื่แดงภายหลังหรอกหรือ? แม่บ้านหยางจะจัดการปัญหายุ่งยากนี้อย่างไร?”
สาวใช้คนแรกตอบ “ในเรือนเถาเหยามีนายบ่าวรวมแล้วหกคน ได้ยินว่าเอ้อร์ไท่ไท่สั่งให้ห้องครัวจัดอาหารให้สาวใช้หกคนในเรือนเถาเหยาเท่านั้น ส่วนเงินพิเศษ...เอ้อร์ไท่ไท่บอกว่าไม่มีใคร้าเงินของนาง ดังนั้นเงินค่าอาหารและเบี้ยหวัดรายเดือนจะถูกบันทึกในบัญชีกลางชั่วคราว ภายภาคหน้าก่อนนางออกเรือน เงินเหล่านี้จะถูกส่งคืนให้แก่นาง”
ฮ่า ๆ สาวใช้คนที่สี่หัวเราะ เอ้อร์ไท่ไท่ช่างแบ่งแยกเื่ส่วนรวมและเื่ส่วนตัวได้ชัดเจนเสียจริง ไม่มีช่องโหว่แม้แต่นิดเดียว
หลังหยางมามาได้ยินก็กังวลว่าคุณหนูสามจะไม่สามารถแบกรับความคับแค้นใจได้จนอาจเปิดเผยว่าคุณหนูสี่อยู่ที่ใดและเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมคุณหนูสามจึงอาศัยในเรือนเถาเหยา แต่ใครจะรู้ว่าเวลาผ่านไปหลายวันคุณหนูสามจะยังนิ่งเฉยอย่างน่าประหลาดใจ ทุกครั้งที่หยางมามาไปเยี่ยมนายน้อยจูก็มักเห็นคุณหนูสามนอนในเรือนหรือนั่งอาบแดดที่ลาน นางไม่เคยบ่นหรือแสดงอาการเศร้าโศกเกี่ยวกับค่าอาหารและค่าใช้จ่ายที่ถูกหัก ใช้ชีวิตสบายกว่าคุณหนูสี่ที่เคยอาศัยที่นี่เสียอีก เรือนเถาเหยาเหมาะสำหรับคนอาศัยเช่นนางจริง ๆ
ตราบใดที่เหล่าไท่ไท่พูดบางอย่างเกี่ยวกับเงินเบี้ยหวัดรายเดือน แม้เอ้อร์ไท่ไท่จะไม่พอใจแต่คุณหนูสามก็จะได้รับเช่นกัน คนสงสัยไม่กลัว กลัวแต่คนไม่สงสัย ในเมื่อเหล่าไท่ไท่มอบอำนาจให้เอ้อร์ไท่ไท่แล้ว นางย่อมไม่สามารถยื่นมือแทรกแซงการตัดสินใจและไม่สามารถหักหน้าเอ้อร์ไท่ไท่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าไท่ไท่เพิ่งมัดคุณหนูสี่ลูกสาวของนางเข้าวัด แม้จะทำเพื่อประโยชน์ของคุณหนูสี่แต่ทุกครั้งที่เห็นเอ้อร์ไท่ไท่ ก็จะรู้สึกผิดไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าเอ้อร์ไท่ไท่อยากทำอะไรก็ปล่อยให้นางทำ
จากนั้นไม่กี่วันเรือนเถาเหยาที่เคยสวยงามก็ไร้ชีวิตชีวา บ่ายวานนี้หยางมามาทนดูต่อไปไม่ไหวจึงตัดสินใจจัดสาวใช้สิบสองคนไปเก็บกวาดและทำความสะอาดทั้งนอกในเรือนเถาเหยา ประดับประดาดอกเบญจมาศทั่วทั้งลาน ไม่นานเรือนเถาเหยาก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
แต่การเปลี่ยนแปลงที่น่าใกลับเกิดขึ้นในงานเลี้ยงเมื่อคืน คนทั้งครอบครัวเกือบสูญเสียเหล่าไท่ไท่ผู้น่าเคารพนับถือมากที่สุดและเป็เสาหลักของครอบครัวไป
ขณะนั้นหยางมามาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างชัดเจน ตอนเหล่าไท่ไท่ขอให้คุณหนูใหญ่ยกน้ำชากลับถูกนางปฏิเสธ เมื่อขอให้คุณหนูสองยกน้ำชา นางก็ตอบรับพอเป็พิธี แม้เหล่าไท่ไท่จะไม่ตำหนิต่อหน้าธารกำนัลและไม่แสดงอารมณ์มากเกินไป แต่หยางมามารักเ้านายผู้นี้ที่อยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี นางแทบอยากเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้นแทนเ้านายของนาง
ดังนั้นเมื่อเหล่าไท่ไท่เปิดปากเป็ครั้งที่สามโดยขอให้คุณหนูสามชงชาให้แก่นาง ขณะคุณหนูสามตอบตกลงอย่างใจกว้าง หยางมามาก็ซาบซึ้งใจมากจนแทบอยากก้มศีรษะขอบคุณ ขอบคุณที่นางส่งเหล่าไท่ไท่เป็ครั้งสุดท้าย...แต่คิดไม่ถึงว่าเหล่าไท่ไท่จะไม่ตาย จากนั้นคุณชายต้วนก็พาตัวเหล่าไท่ไท่กลับมา นอกจากใจนเป็ลมก็ไม่มีส่วนใดได้รับาเ็ ได้ยินว่าคุณหนูสามถูกจับเป็ตัวประกันแทน หยางมามาเป็ห่วงนางยิ่งนัก เมื่อได้ยินว่าเนี่ยชุนช่วยเหลือคุณหนูสามไว้ก็ดีใจอย่างยิ่ง
ตามคำกล่าวเดิมที่ว่า “เมื่อระยะทางทดสอบความแข็งแกร่งของม้า เวลาจึงเป็สิ่งทดสอบจิตใจของคน” โดยปกติคุณหนูหลายคนมักห้อมล้อมเอาใจเหล่าไทไท่ ทุกคนล้วนเป็เด็กดีและเป็สตรีที่ดี ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับความยากลำบากครั้งใหญ่ คนที่ออกมากลับเป็คุณหนูสามผู้อ่อนโยนและร่างกายอ่อนแอ น่าประหลาดใจไม่น้อยที่คุณหนูซึ่งถูกเลี้ยงดูนอกจวนและไม่ได้ใกล้ชิดกับเหล่าไท่ไท่มากนักกลับช่วยเหลือนางโดยไม่อิดออด
คืนที่ผ่านมาหลังหยางมามาช่วยเหล่าไท่ไท่กลับห้องนอนในเรือนฝูโซว่ ขณะหยางมามานวดให้นางก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่าคุณหนูสามเป็สตรีที่ดี แม่ของนางแทบไม่ได้อยู่ที่จวนตลอดทั้งปี คุณหนูสามเป็เด็กน่าสงสารเพราะอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานาน ต่างก็บอกว่า “ลูกมีแม่เปรียบดังสมบัติล้ำค่า ลูกไม่มีแม่ประหนึ่งต้นหญ้าไร้ค่าต้นหนึ่ง” ไม่สู้ให้พวกเราเป็ฝ่ายตัดสินใจหาแม่บุญธรรมให้คุณหนูสามจะดีกว่า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้