“ไม่ใช่ว่าตอนนี้เขาตื่นขึ้นมาแล้วเหรอ?”
ซุนเฟยแสยะยิ้มก่อนจะมองบาร์เซิลที่ใกล้จะเป็บ้าเต็มที จากนั้นก็หันไปสั่งบรู๊ค “แก้มัดให้เขา แล้วให้ทหารสองนายคอยคุ้มกันเขา ข้า้าให้นักเวทกิลแสดงความสามารถในการรบครั้งนี้เต็มที่ การมีนักเวทจะเป็ประโยชน์แก่พวกเรา”
ประกายความเ็าแล่นผ่านดวงตาบาร์เซิล
แต่ในไม่ช้าก็หายไป เขาต้องอดทนไว้
เพียงชั่วขณะ ซุนเฟยก็พลันรู้สึกเย็นะเืที่หลังขึ้นมา เหมือนกับว่ามีสัตว์ร้ายกระหายเืซ่อนตัวอยู่ในเงาของตัวเองและพร้อมที่จะกระโจนออกมาขย้ำเขา...
เขามองไปรอบๆ ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่พบอะไร
“หรือว่าเราจะคิดไปเอง?” ซุนเฟยขบคิดในใจเงียบๆ
และบรู๊คที่ได้รับคำสั่งจากซุนเฟยก็ไม่ได้ท่าทีรู้สึกอะไร คนซื่อตรงคนนี้กำลังปฏิบัติตามคำสั่งขององค์าาอย่างเคร่งครัด เขาะโเสียงดังแล้วโบกมือขึ้น มีทหารสองนายพยุงกิลไปทางหอสังเกตการณ์ประตูกำแพงเมืองหลัก ที่นี่ในยามาจะเป็จุดที่การรบรุนแรงที่สุด แม้ว่าจะอันตราย แต่หากมีนักเวทอยู่ที่นี่ เขาจะเป็ประโยชน์อย่างมากในการทำาอย่างแน่นอน
ตอนนี้เ้าหมูอ้วนกิลถูกซุนเฟยทำให้กลัวจนหัวหด เขาไม่กล้าที่จะต่อต้านแม้แต่นิดเดียว เขาร้องคร่ำครวญจ้องมองไปทางพ่อของเขา...บาร์เซิล
เลขานุการบาร์เซิลกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง...
แต่ตอนนี้เอง ก็มีเสียงยโสหนึ่งลอยขึ้นมา
“ปล่อยนะ ไอ้พวกแมลงสกปรกทั้งสองตัว กล้าดีอย่างไรทำแบบนี้กับนายน้อยกิล?”
หลังสิ้นเสียงพูดนั้น ร่างที่กำยำพุ่งออกมาท่ามกลางฝูงชน
ชายที่ปรากฏตัวออกมาท่าทางหยิ่งยโสและอันตราย เขาไม่พูดอะไรแต่ตรงเข้าไปเตะทหารที่กำลังพยุงกิลอย่างรุนแรง ทหารทั้งสองคนกระเด็นไปด้านหลังจากนั้นเขาก็หันหน้ามาประจบประแจง เหมือนหมากำลังประจบเ้านายแล้วพยุงกิลอย่างนอบน้อม
จากนั้นชายคนนั้นก็หันไปรอบ ๆ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปก่อนจะหันมาตะคอกใส่ทหารที่ได้รับาเ็ที่ยืนอยู่ด้านข้าง “ยืนเซ่อทำไม ไอ้พวกปัญญาอ่อน ตาบอดหรือไง? รีบไปเอาเปลมาหามนายน้อยกิลกลับไปพักผ่อนเดี๋ยวนี้...รนหาที่ตายจริงๆ าเ็หนักขนาดนี้ ไหนใครมันกล้าลงมือ? ไสหัวออกมา!”
ระดับการเปลี่ยนสีหน้าของชายคนนี้เข้าขั้นปรมาจารย์เชียว ซุนเฟยนับจำนวนที่เขาเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็วได้ถึงสามครั้ง ระหว่าง ‘อ่อนน้อม’ และ‘วางอำนาจบาตรใหญ่’ เรียกได้ว่าเป็ ‘จักรพรรดิแห่งการเปลี่ยนสีหน้า’ ของต่างโลกได้เลยนะเนี่ย
ได้ยินอีกฝ่ายถามหาอย่างเต็มปากเต็มขนาดนี้ ซุนเฟยก็อยากจะแกล้งขึ้นมา เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างตรงไปตรงมา เมื่อเดินออกมาก็พูดว่า “เป็ข้าที่ลงมือ ข้าออกมาแล้วไง”
ตอนนั้นเอง บรรยากาศบนกำแพงเมืองก็พลันเงียบสงัดอย่างน่ากลัว
ตอนนี้เองเขาก็พบว่าบรรยากาศวันนี้เหมือนจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
เพราะแม้แต่กิลที่ถูกเขาประคองอยู่ข้างๆ ก็ตัวสั่น...สั่นไม่หยุด อาการสั่นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะว่าดีใจที่มีคนมาช่วย แต่เป็เพราะกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน เ้าหมูอ้วนหันไปมองซุนเฟยอย่างยากลำบาก เขากลัวเหลือเกินว่าท่านปู่คนที่สองซุนเฟยคนนี้จะไม่พูดไม่จาแล้วเดินเข้ามาตบกกหูเขาอีกสิบๆ ครั้ง รสมือนั่น เขาลิ้มรสมาแล้วสองครั้ง ไม่อยากโดนเป็ครั้งที่สามแล้ว
ซุนเฟยไม่สนใจสายตาอ้อนวอนของเ้าหมูนั่น เขากำลังสำรวจเ้าท่อนไม้ที่พุ่งเข้ามากะทันหันจากบนลงล่าง
ชายคนนี้มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตร ผมสีทองยุ่งเหยิงยิ่งเพิ่มความชั่วร้ายให้แก่เขา รอยแผลเป็ลากเฉียงลงมาจากตรงกลางหน้าผาก ที่ตาข้างขวาของเขาผูกที่คาดตาสีดำไว้อันหนึ่งเหมือนัตาเดียว บนร่างกายสวมชุดเกราะแวววาว หากดูเพียงรูปลักษณ์เขาก็ถือว่าเป็คนที่ดุร้าย แต่กลิ่นอายสุนัขรับใช้ ประจบสอพลออาศัยบารมีเ้านายมาอวดเบ่งคละคลุ้ง จนทำให้ซุนเฟยไม่ลังเลที่จะจัดให้มันอยู่ในประเภทที่โง่เกินเยียวยา
บรู๊คกระซิบข้างหูซุนเฟยแนะนำตัวมัน “เขาคือตุลาการทหารคอนก้า”
ซุนเฟยพยักหน้า
ตอนนั้นเอง
“เอ๋? ที่ข้าถามถึง ที่แท้ก็เป็าาอเล็กซานเดอร์? เฮอะ ท่านจะให้ข้าพูดกับท่านอย่างไรดีล่ะ? ทำไมท่านไม่ซุกหัวอยู่ที่พระราชวังเล่า จะวิ่งมาก่อความวุ่นวายบนกำแพงทำไม? รีบๆ ปล่อยท่านกิลไป นี่ไม่ใช่เื่เล่นๆ นะ!”
ตุลาการทหารคอนก้าเห็นซุนเฟยเดินออกมาก็ไม่มีท่าทางเกรงกลัวสักนิด เขาเดินไปตรงหน้าซุนเฟยพร้อมเสแสร้งทำความเคารพ สีหน้าเฉยชาพร้อมกล่าวอย่างมุทะลุ
เขาไม่เคยเห็นาาองค์นี้อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
เป็เพราะหลังจากที่เขาได้รับาเ็ั้แ่ตอนที่าเริ่ม เขาก็หลบอยู่แต่ในบ้านของตัวเอง และคงมุดหัวอยู่ลึกเกินไปจึงไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดเื่อะไรขึ้นบ้าง แม้กระทั่งไม่ได้เห็นฉากที่ซุนเฟยตบกิลอย่างดุเดือด ดังนั้นเขาจึงยังคงคิดว่าซุนเฟยเป็เพียงเด็กปัญญาอ่อนที่มีสมองแค่เด็กอายุสามสี่ขวบ ในคำพูดจึงไม่มีความเคารพเลยแม้แต่น้อย
เลขานุการบาร์เซิลก่นด่าไอ้โง่นั่นในใจ ผีอั่งเปาเฒ่า (บาร์เซิล) รู้ว่าต้องทำอย่างไร ดังนั้นเขาจึงจงใจกระแอมไอเสียงดัง
แต่ตุลาการทหารคอนก้ากลับเข้าใจท่าทางนั่นผิด
เหมือนกับสุนัขที่้าได้รับรางวัลจากเ้านาย เมื่อคอนก้าได้ยินเสียงกระแอมไอจากบาร์เซิลหนักขึ้นๆ เขาก็ยืดกายขึ้นตรงหน้าซุนเฟยแล้วหันหลังให้ซุนเฟย จากนั้นก็ออกคำสั่งอย่างยโส “ไอ้พวกหนอนแมลงสกปรกที่สมควรตายในสนามรบ ยังไม่รีบไปเตรียมเปลให้ข้าอีก! นำหมอทั้งหมดในเมืองแซมบอร์ดไปที่คฤหาสน์ของท่านบาร์เซิลเพื่อรักษานายน้อยกิลเสีย!”
“ตอนนี้หมอกำลังรักษาทหารที่ได้รับาเ็อยู่ขอรับ พวกเขาไม่ว่างที่จะ...” ทหารบางนายตอบกลับเสียงแ่
“หากไอ้แมลงพวกนั้นมันจะตายก็ให้พวกมันตายไป ชีวิตชั้นต่ำของพวกมันจะเทียบกับชีวิตนายน้อยกิลได้อย่างไร? รีบๆ ไปซะ รีบไปหาเปลให้ข้า!” ตุลาการทหารคอนก้าไม่สนใจแม้แต่น้อย
แต่...
คราวนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครฟังเขา
ผีอั่งเปาเฒ่ายิ่งสถบด่าไอ้งี่เง่าหนักกว่าเดิม ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะไกล่เกลี่ยสถานการณ์นี้อย่างไรแล้ว
เขาไม่เคยเห็นเหล่าทหารไม่ยอมทำตามคำสั่งเขามาก่อน ตุลาการทหารคอนก้าพลันรู้สึกว่าตนเองเหมือนกำลังถูกยั่วยุ สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธขึ้นเรื่อยๆ เขาสถบด่ากราดไป “ไอ้ทาสชั้นต่ำ ไอ้หนอนแมลงชั้นต่ำ ยืนบื้อทำไม หรือว่าไม่กลัวกฎของกองทัพ?”
“แล้วเ้าไม่กลัวกฎของกองทัพเหรอ?” เสียงใครบางคนถามขึ้นจากด้านหลัง
“ข้า? ฮ่าๆ กฎของกองทัพ? ข้านี่แหละคือกฎของกองทัพ!ในเมืองแซมบอร์ด คำพูดของข้าคอนก้าคือกฎของกองทัพ!” จิตใต้สำนึกของตุลาการทหารคอนก้าพลันะเิออกมาอย่างโมโห
แต่วินาทีต่อมา เขาก็รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เขาหันกลับไปมองก็พบว่า คนที่ถามเขาเมื่อครู่ก็คือาาปัญญาอ่อนอเล็กซานเดอร์
แต่หลังจากที่กังวลเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นว่าเป็ใครก็พลันโล่งใจขึ้นมา ก็แค่ไอ้โง่ที่มีสมองเท่าเด็กสามสี่ขวบเท่านั้นเอง ฮ่าๆ พูดก็พูดเถอะ เขาจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้?
แต่...
“รนหาที่ตาย!”
เสียงเ็าราวกับหมดความอดทนดังขึ้น
คอนก้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าไอ้าาโง่มันจะเตะหลังเขาจนกระเด็นแบบนี้ พละกำลังน่ากลัวจนไม่อาจต้านทานได้ ทำให้เขากระเด็นไปด้านหน้าอย่างช่วยไม่ได้
“นี่....เป็ไปได้อย่างไร?”
คอนก้าพุ่งไปชนกำแพงเมืองอย่างรุนแรงจนกระอักเืออกมา ในดวงตาของเขาปรากฏความตื่นใ าาที่เหมือนคนโง่ ทำไมถึงสามารถเตะเขาที่มีพละกำลังระดับนักรบหนึ่งดาวจนกระเด็นเหมือนหมาได้?
“หรือว่าข้าจะพลาดเื่อะไรไป?”
คอนก้ากระอักเืไปพลางชำเลืองมองไปทางเลขานุการบาร์เซิลไปพลาง ก็ต้องแปลกใจที่เห็นผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดในเมืองแซมบอร์ดที่ตอนนี้ได้แต่ก้มหน้าลงอยู่ข้างๆ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับตัวเองสักคำ
ก่อนหน้านี้คอนก้าเป็ทหารรับจ้างมาก่อน อย่ามองแต่ท่าทางมุทะลุของเขา ความจริงแล้วเขาเป็คนที่ฉลาดมาก สองปีก่อนเขารอนเร่พเนจรมาถึงเมืองแซมบอร์ด ด้วยพละกำลังนักรบหนึ่งดาว ทำให้ได้รับความชื่นชมจากบาร์เซิลจนกลายเป็คนสนิท ทั้งบาร์เซิลยังทำทุกอย่างเพื่อที่จะมอบตำแหน่งตุลาการทหารให้แก่เขา เมื่อครู่คอนก้าไม่ได้สนใจสังเกตรายละเอียดรอบๆ มากนัก ตอนนี้ได้ลูกเตะนี้ทำให้เขาเข้าใจทิศทางลมที่ไม่ถูกต้องได้แล้ว ดูเหมือนว่าาาโง่ๆ ที่ชื่อว่าอเล็กซานเดอร์จะ...เปลี่ยนไป!
ในใจคอนก้าความคิดพลันกระจ่างชัดขึ้น รับรู้ถึงปัญหาที่น่ากลัวในวันนี้แล้ว ดูเหมือนว่าไอ้ปัญญาอ่อนอเล็กซานเดอร์คนโง่ผู้นั้น น่าจะฟื้นอำนาจในมือขึ้นมาใหม่
ในใจสะดุ้งใ ตอนนี้เขาคิดว่าเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมแล้วหลังจากที่ประเมินสถานการณ์โดยรอบอย่างละเอียด โดยไม่คำนึงถึงร่างกายที่าเ็อีกต่อไป เขารีบคุกเข่าลงพื้น ทั้งยังเริ่มแสดงความสามารถ ‘จักรพรรดิแห่งการเปลี่ยนสีหน้า’ พลางตบหน้าตัวเองเพื่อขอความเมตตา “ฝ่าา ข้าขอประทานอภัยโทษ ข้า...วันนี้ข้าดื่มหนักไป...เมื่อครู่ไม่รู้ตัวว่าได้ทำอะไรลงไป...ฝ่าาโปรดเมตตา ข้าสมควรตาย!”
ชายรูปร่างสูงใหญ่กว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเิเคุกเข่าลงกับพื้นเหมือนสุนัขใกล้ตายกำลังขอความเมตตา ฉากนี้ทำให้ผู้คนรอบๆ รู้สึกคลื่นไส้
“ฝ่าาโปรดเมตตา ข้าสมควรตาย ข้าดื่มหนักไป ข้าสมควรตาย!” คอนก้าไม่สนใจสายตาดูถูกของคนรอบข้าง เขายังคงตบหน้าตัวเองเพื่อขอความเมตตาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“สมควรตาย?” ซุนเฟยแสยะยิ้ม “พูดได้ไม่เลว ที่จริงเ้ามันก็สมควรตาย! ควรตายเป็พันเป็หมื่นครั้ง!”
ซุนเฟยพูด ทันใดนั้นเขาก็เดินไปที่ทหารที่ถูกคอนก้าเตะไปกองกับพื้นจากนั้นก็โน้มตัวลงใช้มือปัดฝุ่นตามร่างสะอาด จากนั้นก็ลากทหารสองนายที่กำลังมึนงงให้เดินมาตรงหน้าคอนก้าที่กำลังคุกเข่าขอชีวิต
“ตุลาการทหารคอนก้า แหกตาเ้าดูซะ นี่เป็หนอนแมลงสกปรกที่เ้าพูดถึงหรือ แหกตาสุนัขของเ้าดูให้ดีๆ ตรงไหนของพวกเขาบ้างที่ไม่าเ็? ในสนามรบตรงไหนบ้างที่ไม่มีเืของพวกเขา? ในตอนที่พวกเขาอดหลับอดนอนสี่วันติดๆ ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเมือง ตุลาการทหารเยี่ยงเ้าเป็คนที่ควรปรากฏตัวบนกำแพงเมืองมากที่สุด แต่ตอนนั้นเ้าไปมุดหัวอยู่ที่ไหน? หรือทำอะไรบ้าง?”
เสียงโกรธเกรี้ยวประหนึ่งฟ้าผ่า ทำให้คอนก้าที่กำลังคุกเข่าขอชีวิตบนพื้นหวาดกลัว ทว่าเหล่าทหารที่อยู่บนกำแพงเมืองกลับรู้สึกเดือดพล่านไปกับคำพูดของซุนเฟย
ทหารบางส่วนสั่นสะท้านด้วยความซึ้งใจ น้ำตานองหน้า คำพูดที่าาพวกเขากล่าวเหมือนกับกำลังพูดความในใจของพวกเขา
“ทหารสกปรก? ไม่! ในสายตาข้า พวกเขาเป็คนที่สะอาดที่สุดในเมืองแซมบอร์ด เืและโคลนบนร่างคืออะไรรู้หรือไม่? มันคือความภาคภูมิใจของลูกผู้ชาย เืและโคลนพวกนี้มันไม่สามารถปกปิดจิติญญาของเหล่านักรบผู้กล้าหาญได้...แต่กับเ้า มันตรงกันข้าม ชุดเกราะแวววาวที่เ้าสวมใส่กลับซ่อนสิ่งสกปรกที่ทำให้ทุกคนรู้สึกสะอิดสะเอียน! หากพวกเขาเป็หนอนแมลงสกปรก แล้วเ้าเป็ตัวอะไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้