คิดอะไรงั้นหรือ?
นางกำลังคิดถึงฉางไทเฮา แคว้นเป่ยฉีผู้นั้นที่ละทางโลกนานแล้วทว่าจู่ๆ ก็กลับมาเมืองชุ่นเทียน
กำลังคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์การลอบสังหารฉางไทเฮาที่นอกประตูเมืองวันนั้น!
ทว่าเื่พวกนี้...นางจะบอกเขาได้อย่างไร?
เหนียนยวี่สงบจิตสงบใจและเหลือบมองฉู่ชิงที่เอนตัวพิงหัวเตียง "เห็นว่าเทศกาลฉีเฉี่ยวราชทูตของหนานเยวี่ยและตงหลีมาถึงแล้ว ท่านแม่ทัพหลวงมิใช่ว่าควรยุ่งมากหรอกหรือ?"
ยิ่งไปกว่านั้น นางได้ยินว่าฮ่องเต้หยวนเต๋อรับสั่งให้ฉู่ชิงปฏิบัติภารกิจตามหาฆาตกรตัวจริงที่ลอบสังหารฉางไทเฮา
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่ชิงชะงักไปเล็กน้อย แน่นอนว่าเขายุ่งมากราชทูตของราชวงศ์หนานเยวี่ยและตงหลีมาถึงแล้ว แทบทั้งเมืองชุ่นเทียนบังคับใช้กฎระเบียบรักษาการและคนที่รับหน้าที่คุ้มกันเมืองและราชวงศ์ ก็คือทหารภายใต้การบังคับบัญชาของเขา ั้แ่เมื่อคืนวานเป็ต้นไป เขาก็ไม่ได้กลับจวนแม่ทัพทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อครู่เพิ่งจะมีเวลาว่าง เขาก็มาที่นี่
ฉู่ชิงจ้องไปที่เหนียนยวี่ ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างเหนียนยวี่ที่ถูกเขามอง คาดไม่ถึงว่าจะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง
เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว สายตานั้นก็ผละออกจากนางในที่สุด
"เ้าคิดว่า ผู้ใดเป็คนลอบสังหารไทเฮา?" จู่ๆ ฉู่ชิงก็พูดขึ้น อีกครั้งที่ทำให้เหนียนยวี่ประหลาดใจ เขาถามนางว่าผู้ใดลอบสังหารไทเฮาหรือ?
"ท่านแม่ทัพหลวง คำถามนี้ท่านควรจะถามตัวเองเหนียนยวี่เป็เพียงสตรีอ่อนแอ ไหนเลยจะรู้เื่ราวสำคัญของแคว้นเหล่านี้"เหนียนยวี่กล่าวอย่างไม่รีบร้อน น้ำเสียงสงบและสุภาพ
ทันทีที่คำพูดนั้นถูกกล่าวออกมา ฉู่ชิงก็มองมาอีกครั้ง"เ้าไม่เคยเป็สตรีอ่อนแอ"
เหนียนยวี่ใเล็กน้อยรอยยิ้มบนใบหน้ามีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นสองสามส่วน "แม่ทัพหลวงประเมินเหนียนยวี่สูงเกินไปแล้ว"
“ประเมินสูงไปงั้นหรือ?” ฉู่ชิงหัวเราะยกยิ้มเล็กน้อยแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ บรรยากาศก็แปลกประหลาดขึ้นมาทันที ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงของฉู่ชิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ลูกธนูที่แทงทะลุพระวรกายของท่านอ๋องหลีบนหัวธนูมีสัญลักษณ์รูปกรงเล็บเหยี่ยว"
"ตงหลี..."
เหนียนยวี่กล่าวออกมาโดยไม่รู้ตัว ชาติก่อนนางนำกองทัพออกสู้รบทั่วทั้งห้าแคว้นและการคุมเชิงกับตงหลีดำเนินไปนานถึงครึ่งปีนางรู้จักตงหลีและกองทัพของตงหลีเป็อย่างดี
ราชวงศ์ตงหลี มีกองกำลังทหารและอาวุธที่อยู่ภายใต้ราชวงศ์ตงหลีจำนวนหนึ่งพวกเขาล้วนเป็ทหารหน่วยกล้าตาย ทุกคนกล้าหาญและเก่งกาจการต่อสู้ บนอาวุธของพวกเขาจะมีสัญลักษณ์รูปกรงเล็บเหยี่ยว
เมื่อนางเอ่ยคำพูดนี้ออกมาดูเหมือนจะเปิดเผยอะไรไปบางอย่าง ในใจของฉู่ชิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
"ถือว่าเ้ารอบรู้นัก" ดวงตาแหลมคมของฉู่ชิงหรี่ลงตงหลีหรือ?
เด็กสาวอายุสิบห้า แท้จริงรู้ได้อย่างไรว่าสัญลักษณ์นั่นมาจากตงหลี?
เขาไม่ได้คาดหวังว่าการถามหยั่งเชิงของเขาครั้งนี้จะเปิดเผยความผิดปกติของนางออกมามากขึ้น
เหนียนยวี่นึกอะไรขึ้นได้ ฉีกยิ้มมุมปาก“แต่ก่อนข้าได้ยินเื่ราวต่างๆ ในโรงน้ำชาเมืองชุ่นเทียนจึงได้รู้เื่มากมายในแผ่นดินชื่ออวี่ หากท่านแม่ทัพหลวงรู้สึกสนใจ ก็ลองไปนั่งฟังบ่อยๆเชื่อว่าท่านแม่ทัพหลวงเองก็จะต้องได้รับรู้เื่ราวที่ยังไม่กระจ่างอีกมากมายจากที่นั่นเป็แน่”
เหนียนยวี่สงบนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน นางสบตาฉู่ชิงอย่างไม่เกรงกลัวทั้งสองสบสายตากัน ไม่นานฉู่ชิงก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ"ดูเหมือนว่าข้าควรหาเวลาไปลองดูสักหน่อยเช่นนั้นความหมายของเ้าคือคนที่ลอบสังหารฉางไทเฮา คือราชทูตตงหลีงั้นหรือ?”
ครานี้ ในใจเหนียนยวี่ระแวดระวังมากขึ้น "ท่านแม่ทัพหลวงเื่นี้ข้าจะรู้ได้อย่างไร ท่านควรต้องไปตรวจสอบดู ไม่ควรอยู่แต่ภายในห้องข้ายิ่งไปกว่านั้นฟ้าก็มืดแล้ว..."
ความหมายคือ ยามนี้ดึกมากแล้ว นางควรพักผ่อนเสียทีและฉู่ชิงก็ควรจากไปได้แล้ว
ฉู่ชิงเข้าใจความหมายของนางเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างน่าประหลาดใจ ในใจเหนียนยวี่รู้สึกดีใจถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในที่สุด
ฉู่ชิงผู้นี้เฉลียวฉลาดเกินไป เฉียบแหลมเกินไปทั้งยังคาดเดายาก ไม่ว่าเมื่อครู่เขาจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ไม่ว่าเขาจะสงสัยอะไรเกี่ยวกับนางในตอนนี้นางก็ปล่อยให้ตนเองและบุรุษผู้นี้อยู่ด้วยกันภายในห้องไม่ได้อีกแล้ว
ภายในห้อง เสียงฝีเท้าแ่เบาเดินไปทางหน้าต่าง เหนียนยวี่คิดว่าในที่สุดในขณะที่จะได้ส่งท่านผู้แสนดีคนนี้กลับไปเสียทีฝีเท้าก็หยุดชะงักลง
เหนียนยวี่มองฉู่ชิง ทว่าเห็นแค่เขานั่งลงบนตั่งกำลังถอดรองเท้า เขา้าจะทำอะไรกันแน่?
เหนียนยวี่ยังไม่ทันได้ถามออกไป ก็เห็นฉู่ชิงนอนหงายบนตั่งกอดอกราวกับว่าวางแผนจะค้างคืนที่นี่
"นี่ ท่านแม่ทัพหลวง นี่ท่าน..."เหนียนยวี่ลุกจากเตียงอย่างใ เดินไปหน้าตั่ง เห็นเพียงท่านผู้แสนดีคนนี้หลับตาลงไปจริงๆเขาผล็อยหลับไปแบบนี้จริงๆ งั้นหรือ?
ที่นี่คือห้องของนางนะ!
"ข้าเหนื่อยแล้ว อีกสองวันจะมีงานเลี้ยงฉีเฉี่ยวราชทูตของหนานเยวี่ยและตงหลีจะได้เข้าวัง การลอบสังหารฉางไทเฮาเป็เพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น"
เหนียนยวี่คิดจะไล่คนออกไปพอดี เสียงของฉู่ชิงก็ดังขึ้น ทุกถ้อยคำที่พูดนั้นฟังดูเหนื่อยล้าอย่างมากจนทำให้ความคิดของเหนียนยวี่ที่อยากจะไล่เขาไปไม่อาจเอ่ยขึ้นมาได้
เมื่อมองไปที่หน้ากากสีเงินในหัวนางก็ผุดภาพเหตุการณ์ไฟไหม้ในวันนั้นขึ้นมา เห็นใบหน้างดงามนั้นแล้วเหนียนยวี่ก็ย่นคิ้วเล็กน้อย
ใส่หน้ากากมาสิบกว่าปี ปกปิดความลับมาเกินสิบปีแท้จริงเพื่ออะไรกันแน่?
ในใจเหนียนยวี่อยากรู้อยากเห็นทว่ามีเสียงในใจเตือนนางว่าบุรุษผู้นี้อันตรายเกินไป ความลับของเขา นางมิอาจสืบค้น
เหนียนยวี่ห่มผ้าห่มบางๆ ให้บุรุษผู้นั้นและกลับไปนอนลงบนเตียงภายในห้อง ลมหายใจของชายหนุ่มค่อยๆ แ่ลง ทว่าเหนียนยวี่ยังคงมิอาจข่มตาหลับลงได้
คำพูดของฉู่ชิงก้องวนไปมาอยู่ในหัวเหนียนยวี่
การลอบสังหารฉางไทเฮาเป็เพียงจุดเริ่มต้น?
เมื่อนึกถึงข่าวลือเื่การลอบสังหารฉางไทเฮาใน่สองวันที่ผ่านมาสีหน้าของเหนียนยวี่ก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
เขาพูดถูก...ราชวงศ์หนานเยวี่ยจะอดกลั้นต่อการลอบสังหารฉางไทเฮาผู้ซึ่งเป็ถึงองค์หญิงของตนในเวลากลางวันแสกๆ ได้อย่างไร?
เมื่อหลักฐานชี้ไปที่ตงหลีเช่นนั้นหนานเยวี่ยจะยอมแพ้ได้อย่างไร?
หึ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ วังหลวงแคว้นเป่ยฉีจะต้องมีงิ้วสนุกๆ ออกมาให้รับชมอย่างแน่นอนและไทเฮาฉางหนิง รวมถึงหลีอ๋องจ้าวเยี่ยน ท้ายที่สุดแล้วจะเสแสร้งสวมบทบาทอย่างไรในงิ้วครั้งนี้กันนะ?
เหนียนยวี่อดไม่ได้ที่จะตั้งตารอ งานเลี้ยงฉีเฉี่ยวในปีนี้นามของนางได้เข้ามาเป็ส่วนหนึ่งของราชสำนักแล้ว คงยากที่จะไม่ต้องเข้าร่วมในนั้น!
เหนียนยวี่ไม่รู้ว่าเขาหลับไปั้แ่เมื่อไร เช้าวันรุ่งขึ้น ยามที่เหนียนยวี่ตื่นขึ้นมีเพียงนางในห้อง ไร้ซึ่งเงาร่างของฉู่ชิงแล้ว เขาจากไปตอนใด?
เหนียนยวี่งงงวย อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาชายผู้นี้ไปมาไร้ร่องรอยได้ปกติเช่นนี้เลยหรือ!
"คุณหนูรองท่านตื่นแล้วหรือเ้าคะ? บ่าวเข้าไปได้หรือไม่?"นอกประตูมีเสียงกล่าวอย่างนอบน้อมดังขึ้น พร้อมกับเสียงเคาะประตูตามมานั่นคือจื่อเยียน เหนียนอีหลานส่งสาวใช้คนใหม่มาให้นางอีกแล้ว
"อืม เข้ามาเถิด" เหนียนยวี่นั่งอยู่ที่ขอบเตียง เอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงราบเรียบ
ประตูถูกผลักเปิดออก จื่อเยียนเห็นเหนียนยวี่กำลังใช้สองมือล้างหน้านางทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม กล่าวว่า “คุณหนูรองเ้าคะบ่าวจะปรนนิบัติอาบน้ำแต่งตัวให้ท่านเ้าค่ะ”
เหนียนยวี่ส่งเสียงตอบรับ จื่อเยียนคนนี้ เมื่อเทียบกับสาวใช้สองคนก่อนหน้านางฉลาดกว่ามาก เหนียนอีหลานผู้นี้ใช้ความคิดเต็มที่เพื่อนางจริงๆเหนียนยวี่คิดอะไรบางอย่าง ทำท่าทีเหมือนเอ่ยขึ้นโดยไม่รู้ตัว"ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเ้าในจวนเหนียนเลย?"