บทที่ 22: สำนักคุ้มภัยพยัคฆ์ทมิฬและเงาในงานประมูล
ค่ำคืนนั้น เมืองเมฆาอรุณสว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากไข่มุกราตรี แต่ในมุมที่มืดมิดที่สุดของเมือง เงาร่างในชุดคลุมสีดำสายหนึ่งกำลังเคลื่อนที่ไปอย่างเงียบเชียบและรวดเร็วราวกับภูตพราย
เย่เฟิงในคราบของ "ท่านโม่" ได้ออกจากโรงเตี๊ยมและมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายของเขา...สำนักคุ้มภัยพยัคฆ์ทมิฬ
ที่ตั้งของมันคือคฤหาสน์ขนาดมหึมาที่กินพื้นที่กว้างขวางทางทิศตะวันตกของเมือง ภายนอกมันดูเหมือนสำนักคุ้มภัยที่ทรงอำนาจและน่าเกรงขาม มีผู้คุ้มกันในชุดเกราะสีดำยืนเฝ้าอยู่ทุกมุมอย่างแ่า แต่ด้วยประสาทััที่เฉียบคมของเย่เฟิง เขาสามารถััได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายและไอสังหารจางๆ ที่ลอยออกมาจากภายใน...มันคือกลิ่นอายที่เขาไม่มีวันลืม...กลิ่นอายของพรรคมารอสูรโลหิต
เขาเดินตรงไปยังประตูใหญ่อย่างสงบ เมื่อผู้คุ้มกันก้าวออกมาขวาง เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่แสดง "ป้ายหยกสีเื" ที่ได้รับมาเท่านั้น
เมื่อเห็นป้ายหยกนั้น ท่าทีที่แข็งกร้าวของผู้คุ้มกันก็เปลี่ยนเป็ความเคารพในทันที "เชิญท่านโม่...นายท่านของเรารอท่านอยู่ด้านในแล้ว"
ผู้คุ้มกันคนหนึ่งได้นำทางเขาเดินผ่านลานกว้างและอาคารหลายหลังเข้าไป จนกระทั่งมาถึงลานประลองใต้ดินที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็สถานที่จัดงานประมูลลับ
ภายในห้องโถงใต้ดินนั้นสว่างไสวไปด้วยแสงจากคริสตัลปราณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความลึกลับและอันตราย แขกที่ได้รับเชิญมาราวห้าสิบคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่จัดเรียงไว้เป็อย่างดี เกือบทุกคนล้วนสวมหน้ากากหรือผ้าคลุมหน้าเพื่อปิดบังตัวตน และกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมาจากแต่ละคนล้วนไม่ธรรมดา อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในขั้นสร้างรากฐานตอนกลาง!
เย่เฟิงเลือกที่นั่งในมุมที่มืดที่สุดอย่างเงียบเชียบ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อสังเกตการณ์...นี่คือแหล่งซ่องสุมของอสรพิษอย่างแท้จริง
ไม่นานนัก งานประมูลก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ชายในหน้ากากอสูรผู้หนึ่งเดินขึ้นไปบนเวที "ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่งานประมูลรัตติกาลของสำนักคุ้มภัยพยัคฆ์ทมิฬเรา ข้าไม่ขอพูดพร่ำทำเพลง...เรามาเริ่มกันที่ของชิ้นแรกกันเลย!"
สินค้าชิ้นแล้วชิ้นเล่าถูกนำขึ้นมาบนเวที...มีทั้งศาสตราวุธระดับจิตที่เปื้อนเื, เคล็ดวิชามารที่ดูดกลืนพลังชีวิต, และที่เลวร้ายที่สุดคือทาสมนุษย์ที่ถูกจับตัวมา...มีแม้กระทั่งศิษย์หญิงจากสำนักฝ่ายธรรมะที่ถูกจับมาเพื่อเป็ "เตาหลอมบำเพ็ญเพียร"
เย่เฟิงกำหมัดแน่นอยู่ใต้เสื้อคลุม ทุกภาพที่เขาเห็นยิ่งตอกย้ำความแค้นในใจของเขาให้ลุกโชนยิ่งขึ้น แต่เขาก็ยังคงควบคุมตัวเองไว้ได้อย่างเยือกเย็น...เป้าหมายของเขาในคืนนี้คือการสังเกตการณ์และรวบรวมข้อมูลเท่านั้น
สายตาของเขาจับจ้องไปยังห้องส่วนตัวบนชั้นสอง ที่ซึ่งแขกที่สำคัญที่สุดนั่งอยู่ เขาััได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังที่สุดสองสายมาจากห้องนั้น...หนึ่งในนั้นต้องเป็หัวหน้าของสาขานี้อย่างแน่นอน
เวลาผ่านไป...จนกระทั่งมาถึงสินค้าชิ้นสุดท้าย
"และสำหรับของชิ้นสุดท้ายในค่ำคืนนี้..." ผู้ดำเนินรายการกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น "มันคือของขวัญชิ้นพิเศษ...ที่เราเพิ่งได้รับมาสดๆ ร้อนๆ จากการ 'ทำความสะอาด' สำนักเล็กๆ แห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้!"
ผู้คุ้มกันสองคนลากกรงเหล็กขนาดใหญ่ขึ้นมาบนเวที...และสิ่งที่อยู่ในนั้น...ก็ทำให้โลกทั้งใบของเย่เฟิงพลันหยุดนิ่ง!
ภายในกรงนั้น...มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนสีดำทมิฬ เขามีสภาพอิดโรยและเต็มไปด้วยาแ แต่ดวงตาของเขากลับยังคงฉายแววดื้อรั้นและไม่ยอมแพ้...และอาภรณ์ที่ขาดวิ่นที่เขาสวมใส่อยู่นั้น...คืออาภรณ์ศิษย์ของ "สำนักกระบี่เมฆาคล้อย"!
"ศิษย์น้องหลิน!" เย่เฟิงอุทานในใจด้วยความตกตะลึงสุดขีด!
เขาจำเด็กหนุ่มคนนั้นได้! ศิษย์น้องหลิน...หนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่เคยดูแคลนเขา! เขาคิดมาตลอดว่าตนเองคือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว...แต่เขาคิดผิด! ยังมีอีกคนที่รอดมาได้...แต่กลับต้องมาตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!
"ศิษย์ที่รอดชีวิตคนสุดท้ายของสำนักกระบี่เมฆาคล้อย!" ผู้ดำเนินรายการประกาศก้อง "คืนนี้...เราจะทำการ 'เค้นิญญา' เพื่อดึงเอาความลับทั้งหมดของสำนักมันออกมาให้ทุกท่านได้ชมกันสดๆ! จากนั้น...ิญญาของมันก็จะถูกหลอมให้กลายเป็ 'ธงิญญาอสูร' ชิ้นใหม่! เริ่มการประมูลได้!"
คำพูดนั้นเปรียบเสมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางจิตใจของเย่เฟิง!
แผนการทั้งหมด...ความสุขุมเยือกเย็นทั้งหมด...พังทลายลงในพริบตา!
หน้ากากแห่งความสงบนิ่งของเขาแตกสลาย...เหลือเพียงดวงตาที่แดงก่ำราวกับโลหิตและไอสังหารอันบ้าคลั่งที่พร้อมจะะเิออกมาทุกขณะ!
เขาจะทนดูสหายร่วมสำนักคนสุดท้ายถูกทรมานจนตายต่อหน้าต่อตาได้อย่างนั้นรึ?
เป็ไปไม่ได้!
แผนการแทรกซึมได้จบสิ้นลงแล้ว...บัดนี้มีเพียงหนทางเดียวเท่านั้น...
นั่นคือการสังหาร! สังหารทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ให้หมดสิ้น!
(จบตอนที่ 22)