วันนี้ที่ธนาคารสหแบงค์สาขาประจำจังหวัด มีเื่วุ่นวายเล็ก ๆ เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ประชาไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้เลยขณะที่ยกหูโทรศัพท์คุยจากบริษัทลงทุนสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ ั้แ่ได้เห็นแฟกซ์แจ้งราคาปัจจุบันของหุ้นที่ส่งมาให้เมื่อเช้า ประชาก็คอยยกหูโทรศัพท์สอบถามและทวนราคาอยู่ทุกครึ่งชั่วโมง เพราะมีราคาหุ้นตัวหนึ่งที่ขยับขึ้นอยู่ตลอดเวลา และเมื่อได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้วเขาก็รีบวางสายและยกหูโทรศัพท์กดไปอีกที่หนึ่งทันที
"คุณกานต์นะครับ ผมประชาจากสหแบงค์ครับ” หลังจากคอยสายอยู่สิบกว่านาที ก็มีเสียงคนทักอยู่ที่ปลายสาย ประชาก็ทักทายกลับกันที "ผมโทรมาเื่หุ้น jpl ครับ"
กานต์ที่ตอนแรกยังสงสัยอยู่เล็กน้อยก็เข้าใจในทันที เมื่อสองอาทิตย์ก่อนประชาก็โทรมาแล้วครั้งหนึ่ง หุ้นที่อนงค์กานต์ซื้อไว้ราคาพุ่งมาอยู่ที่ 0.70 บาท ถือว่าเป็ราคาที่ค่อนข้างดี เลยโทรมาสอบถามว่าประสงค์จะขายหรือไม่เพราะกลัวราคาจะย่อลงไปกว่าเดิม เมื่อสอบถามลูกในตอนเย็นวันนั้น ลูกสาวเขายังคงยืนยันหนักแน่นว่ารอให้ถึง 1.50 บาท หลังจากนั้นประชาก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก คราวนี้น่าจะคล้ายกัน คงมาสอบถามให้แน่ใจเหมือนเดิม กานต์คาดเดาในใจ
"คุณกานต์ครับ คราวนี้ผมโทรมาขอคำยืนยันสุดท้ายนะครับ" น้ำเสียงของประชาตื่นเต้นจนกานต์รู้สึกผิดปกติ แล้วคำยืนยันสุดท้ายคืออะไร?
"ข่าวดีมากครับ ตอนนี้หุ้น jpl ใกล้แตะราคา 1.50 บาทแล้ว ผมสอบถามไปหลายรอบแล้ว ทางสำนักงานใหญ่วิเคราะห์มาว่าหุ้นน่าจะไปไกลถึง 2 บาท แต่ในสัญญาซื้อขายทางคุณกานต์ได้ระบุไว้ให้ขายที่ 1.50 บาท ้าเปลี่ยนแปลงไหมครับ รอให้ถึง 2 บาทก่อนค่อยขาย หรือขายที่ 1.50 บาทเลย"
กานต์รู้สึกชาไปทั่วร่างทันทีเมื่อได้ยินเสียงจากปลายสาย มือที่ถือหูโทรศัพท์อยู่เริ่มมีเหงื่อเหนียว ๆ ซึมออกมา ใบหน้าและศีรษะเห่อร้อนขึ้นมาในทันทีทันใด ไม่น่าเชื่อ! ราคาถึง 1.50 จริง ๆ เหรอ? คราวก่อนที่ราคาแตะ 0.70 บาท เขายังรู้สึกเสียดายอยู่เลยที่ลูกสาวเขาไม่ยอมขาย เหมือนเงิน 700,000 บาทลอยหายไปในพริบตา แต่นี่ ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ จาก 700,000 กำลังจะกลายเป็ 1,500,000 บาทแล้ว แค่คิด อาการหูอื้อ ตาลายก็ตามมาสมทบอาการอื่น ๆ ของเขาทันที
"คุณกานต์ครับ คุณกานต์ ยังอยู่ในสายไหมครับ" ปลายสายเงียบไปจนประชาแปลกใจ จึงเรียกกลับไปอยู่หลายครั้งจนกานต์ดึงสติกลับมาได้
"ครับ คุณประชา ยังอยู่ครับ ผมขอทวนอีกที หุ้นกำลังจะขึ้นไปที่ 1.50 บาทนี่จริง ๆ ใช่ไหมครับ?"
"ใช่ครับ แต่มีสิทธิ์ขึ้นไปถึง 2 บาท จะรอก่อนไหมครับ"
เมื่อได้ยินคำถามกลับมา กานต์นิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ทีเดียว "เอาตามที่ลูกสาวผมว่าไว้ครับ ถึง 1.50 บาทก็ขายออกได้เลย"
เมื่อได้คำตอบยืนยันที่ชัดเจน หลังจากวางหูจากกานต์ ประชาก็รีบทำเอกสารขายหุ้นและส่งแฟกซ์ไปให้สำนักงานใหญ่ดำเนินการ ใครจะนึกว่าหุ้นที่แม่หนูคนนี้ซื้อไว้จะราคาพุ่งพรวด ดีวันดีคืน ตอนที่ขึ้นถึง 0.70 บาท เขาก็ใไปรอบหนึ่งแล้ว และเมื่อได้ฟังผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์หุ้นตัวนี้ เขาก็รีบควักเงินส่วนตัว 20,000 บาทซื้อหุ้นเก็บไว้เช่นกัน เสียดายที่ซื้อมาได้ราคาสูงไปหน่อย ได้ที่ 0.80 บาท แต่ถ้าขายตอนนี้ก็ได้กำไรกลับมาเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว ประชานั่งทำเอกสารพร้อมกับอมยิ้มไปด้วยอย่างมีความสุข
สิบเอ็ดโมงกว่าของวันนั้น ราคาหุ้น jpl ก็แตะที่ 1.50 บาทในที่สุด และคำสั่งซื้อขายของกานต์ก็ดำเนินการแล้วเสร็จตอน 14.00 น. ของวันเดียวกัน เมื่อได้รับเอกสารยืนยันเรียบร้อยแล้ว ประชาก็โทรไปแจ้งข่าวให้กานต์ทราบในทันที
-----
ในชีวิตั้แ่เกิดมาจนอายุได้ 37 ปี เขาได้ประสบเื่ที่ทำให้ดีใจและตื่นเต้นอยู่หลายเื่ และเื่นี้ถือเป็เื่ที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตอีกเื่ของเขา ไม่น่าเชื่อเลยว่าเงินล้านกำลังจะมานอนในบัญชีของเขาแล้ว หลังจากได้รับโทรศัพท์่บ่ายจากประชา กานต์ก็ไม่มีสมาธิจะทำงานต่อ เมื่อไม่มีชั่วโมงสอนภาคบ่ายแล้วกานต์จึงขอกลับบ้านก่อนพร้อมทั้งขอลางานในพรุ่งนี้อีกหนึ่งวันด้วย
เมื่อกลับถึงบ้าน ก็ดึงอนงค์ที่กำลังเตรียมของขายอยู่กับผู้ช่วยทั้งสามคนมาคุยกันเงียบ ๆ ในห้อง อนงค์ถึงกับนั่งตะลึงพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียวเมื่อได้ฟังเื่ราวทั้งหมด มันเป็เื่ที่เกินคาดสำหรับเธอ
เมื่อกานต์คุยกับอนงค์เสร็จ ก็ทิ้งเธอนั่งเงียบอยู่ในห้องไว้อย่างนั้น น่าจะสติหลุดเหมือนเขาเมื่อ่เช้า กานต์คิดอย่างมีความสุขพลางคว้ากุญแจรถกระบะและขับรถออกจากบ้านเพื่อไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียนทันที พรุ่งนี้เขานัดกับประชาที่ธนาคารเพื่อจัดการกับเงินขายหุ้นที่ได้ เขาอยากพาอนงค์กานต์ไปด้วย จึงจะแวะไปลาครูที่โรงเรียนให้ในบ่ายนี้
"พ่อทำไมวันนี้ถึงมารับนิดล่ะคะ" อนงค์กานต์เอ่ยทักผู้เป็พ่อทันทีที่เห็นหน้า
"มีข่าวดี รอนิดกลับไม่ไหวเลยมารับเองดีกว่า เดี๋ยวไปคุยกันบนรถ" หลังจากรับไหว้เพื่อนสนิทของอนงค์กานต์แล้ว เขาก็จูงมือลูกสาวเดินขึ้นรถ ท่ามกลางสายตาแปลกใจของอนงค์กานต์ที่มองมาอย่างไม่วางตา
เมื่อได้ยินพ่อเล่าเสร็จ เธอถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ เธอลืมเื่นี้ไปเสียสนิท มัวแต่วุ่นกับการเรียนและสนุกกับเพื่อน ๆ จนลืมนึกถึงเื่หุ้นไปเลย และเมื่อคิดถึงจำนวนเงินที่กำลังจะได้รับ เธอก็ยิ้มพราวออกมาเลยทีเดียว "พ่อ บ้านเราจะมีเงินล้านแล้ว"
"แล้วพ่อจะไปธนาคารเมื่อไหร่คะ"
"พรุ่งนี้ นิดไปกับพ่อเหมือนเดิมนะ เงินก้อนนี้เป็ของนิด จะเปิดบัญชีเงินฝากไว้หรือจัดการอะไร พรุ่งนี้ก็ไปตัดสินใจเสีย เมื่อกี้พ่อเข้าไปลาครูประจำชั้นให้แล้ว" อนงค์กานต์พยักหน้าตอบรับพ่ออย่างว่าง่าย จากนั้นทั้งพ่อและลูกต่างพากันยิ้มอยู่ในรถอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกันแม้แต่คำเดียวจนถึงบ้าน
