‘จิ๊บๆๆ’ นกกระจอกถูกเสียงฝีเท้าของนางจ้าวทำให้แตกตื่นพากันโผออกจากกิ่งไม้ บ้างบินขึ้นไปบนยอดไม้ บ้างก็บินไปที่ช่อดอกไม้ก่อนยื่นหัวออกมาส่งเสียงร้องจิ๊บๆ กัน
“ฮูหยินใหญ่ท่านดูสิเ้าคะ แม้แต่นกกระจอกก็ยังมายินดีกับท่านเลยเ้าค่ะ”เหมยเซียงประคองนางจ้าวเดินอย่างเอาใจใส่ เดินไปสนทนากันไป
“เหอๆๆ” นางจ้าวอารมณ์ดีนักหนา หัวเราะดังออกมาไม่หยุดมองเหมยเซียงด้วยสายตายินดีปรีดายามได้ยินคำสรรเสริญของนาง
องค์หญิง นับแต่นี้ไปก็คอยรับมือข้าให้ดีๆ เถิดข้าจะทวงอำนาจนานาที่เคยเป็ของข้าคืนมาให้หมด
นางจ้าวคิดแผนการร้ายกาจได้อีกแผน ด้วยคิดว่าต่อให้แผนนี้ไม่อาจทำให้องค์หญิงล้มครืนลงได้แต่จะต้องสามารถลดทอนความรู้สึกดีๆ ที่ท่านแม่ทัพมีต่อนางได้แน่ๆ
เหมยเซียงไม่รู้ว่านางจ้าวคิดแผนใหม่ได้นึกว่านางจ้าวคงรู้สึกสบายใจเพราะเพิ่งจัดการอาหนูและองค์หญิงได้กระมัง
ณ หอหั่วเยี่ยนหลิ่วจิ้งออกจากห้องมาที่ลานบ้านและเอาแต่เดินไปมาไม่หยุดสีหน้าร้อนรนและหนักอึ้งของนางอยู่ในสายตาของพวกบ่าวตลอดเวลา
เมื่ออวี้จิ่นและอิ๋งเหอได้ยินข่าวก็พากันรีบมา คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา หลิ่วจิ้งเดินไปทางไหน พวกนางก็เดินตามไปทางนั้น
“ฮูหยิน ครานี้จะทำเช่นใดดีเ้าคะต่อให้ท่านมีสามเศียรหกกรก็ไม่มีทางทำเื่มากมายเช่นนั้นได้หมดนะเ้าคะ”อิ๋งเหออดไม่ไหว เอ่ยปากเป็คนแรก
“เอาล่ะๆ อิ๋งเหอเ้าอย่าทำให้ยิ่งวุ่นวายเข้าไปอีกมิใช่ว่าฮูหยินกำลังร้อนใจอยู่หรือ?” อวี้จิ่นถลึงตาใส่อิ๋งเหออย่างไม่พอใจ
อิ๋งเหอได้ยินที่อวี้จิ่นพูด นางรู้ว่าอวี้จิ่นพูดถูกแล้วแต่ก็ยังรู้สึกอัดอั้นเต็มทนเพราะไม่ว่าอย่างไรฐานะของฮูหยินก็สูงว่าฮูหยินใหญ่นั่นชั้นหนึ่งทีเดียวไม่รู้ว่าเมื่อท่านแม่ทัพกลับมาจะจัดการเื่นี้ให้ฮูหยินหรือไม่
ความหวังแรกของอิ๋งเหอก็คือให้ท่านแม่ทัพกลับมาที่จวนโดยเร็ว
หลิ่วจิ้งเห็นว่าตนเองเดินไปมาในลานบ้านด้วยสีหน้าเป็กังวลให้คนที่ควรเห็นได้เห็นหมดแล้ว จึงเงยหน้าขึ้นมองฟ้าถอนใจยาวอย่างจนใจ “ไม่คิดแล้วเื่นี้ค่อยว่ากันใหม่วันพรุ่งเถิด ข้าคิดจนปวดหัวหมดแล้ว”
อวี้จิ่นและอิ๋งเหอสบตากันครั้งหนึ่ง รีบเข้าไปประคองหลิ่วจิ้งกลับห้อง
อิ๋งเหอร้องร่ำอยู่ในใจว่าโมโหแทบตายแล้วฮูหยินใหญ่มาข่มเหงกันเกินไป
กลับเข้ามาในห้อง อวี้จิ่นเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีคนจึงเอ่ยเบาๆกับหลิ่วจิ้งว่า “ฮูหยินทางฮูหยินใหญ่ต้องหาเื่ไปสั่งสอนนางสักหน่อยหรือไม่เ้าคะ อย่างไรเสียฐานะของท่านก็สูงกว่านางหากอยากหาเหตุผลสักข้อไปจัดการนางก็มิใช่ว่าสุดแล้วแต่ฮูหยินหรือเ้าคะ”
อิ๋งเหอฟังอยู่ด้วย รีบพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
“ไม่ต้อง” หลิ่วจิ้งเอ่ยยิ้มๆ “ตัวละครเล็กน้อยเช่นนี้ไม่ต้องให้พวกเราลงมือเองก็จะมีคนจัดการอยู่แล้วเพียงแต่เมื่อถึงยามนั้นก็ต้องดูก่อนว่าข้าจะมีอารมณ์ช่วยนางหรือไม่”
ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องนอนของอาหนูกลับมีบรรยากาศที่ต่างออกไป
หลังจากนางจ้าวกลับไป อาหนูก็ยิ่งโกรธขึ้นเรื่อยๆ ของที่หยิบคว้าได้ล้วนถูกนางเขวี้ยงลงพื้น
“นางจ้าวนึกว่าตนเองเป็ผู้ใด ก็มิใช่แค่อาศัยบารมีลูกในท้องนางยังไม่ทันรู้เลยว่าเด็กนั่นจะได้เกิดหรือไม่ ยังกล้ามาวางอำนาจถึงเรือนข้า”อาหนูกรีดร้องพลางโยนข้าวของวุ่นวายไปหมด
“นางจะมีอะไรดี ระวังไว้เถิด หากแม้แต่์ยังทนดูมิได้ ก็จะมาเก็บนางไปเร็วกว่าเดิม”
อาหนูยิ่งด่า ถ้อยคำก็ยิ่งร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเริ่มแผดเสียงดังขึ้นโดยไม่รู้ตัวยิ่งเมื่อผสมกับเสียงโยนของลงพื้นดังโครมครามไปหมดก็ยิ่งทำให้ค่ำคืนนี้อึกทึกระคายหูนัก
มองเห็นภาพแสนวุ่นวายเละเทะที่อาหนูโยนข้าวของจนพังพินาศเหมยเซียงรู้สึกเสียดายจับใจ
ก่อนหลิ่วจิ้งจะเข้าจวนมา อาหนูยังเป็ที่รักยิ่งของท่านแม่ทัพของประดับตกแต่งที่ส่งมาให้ล้วนเป็ของมีชื่อล้ำค่าหากนำของเหล่านี้ไปขายก็จะได้เงินทองมากมายทีเดียว
แต่เวลานี้กลับถูกอาหนูที่กำลังบันดาลโทสะทำลายไปกว่าครึ่ง ยามนี้อาหนูกำลังโกรธย่อมไม่สนใจเื่ใดๆ รอจนนางได้สติในภายหลังย่อมต้องรู้สึกเสียดายของที่เอามาขว้างปาและสุดท้ายก็จะมาระบายอารมณ์ลงกับบ่าวเช่นพวกนาง
หลังจากหลิ่วจิ้งมาที่จวนท่านแม่ทัพก็มาที่เรือนของอาหนูน้อยครั้งนัก และไม่มีของกำนัลใหม่ๆ มาให้อีกที่เหลืออยู่ยามนี้ก็คือของที่เคยส่งมาให้ครั้งก่อนๆเดิมทีก็นับว่าไม่ได้มากมายอยู่แล้ว มาทำลายไปกว่าครึ่งหนึ่งเช่นนี้ต่อให้อาหนูไม่เสียดาย จื่อเซียวก็ยังเสียดายแทนนาง
“ฮูหยินรองโปรดระงับโทสะก่อนเ้าค่ะหากโมโหจนส่งผลเสียต่อร่างกายแล้วจะปรนนิบัติท่านแม่ทัพเช่นใดเ้าคะ” จื่อเซียวเห็นว่าอาหนูยกแจกันใบหนึ่งขึ้นมาจึงรีบไปรั้งนางเอาไว้
เมื่อได้จื่อเซียวเข้ามาขัดจังหวะที่สุดอาหนูก็ยอมฟังคำเตือนและนั่งลง
“จื่อเซียว เื่ลูกในท้องของนางจ้าว ข้ารับรองได้เลยว่านางจะทำได้แค่ท้องแต่จะไม่ได้คลอดออกมา”
“ฮูหยินรอง ระวังจะมีคนมาได้ยินเข้าเ้าค่ะ” จื่อเซียวในับวันอาหนูจะกล้าขึ้นเรื่อยๆ เื่เช่นนี้ก็ยังพูดออกจากปาก
“กลัวสิ่งใด หากมีบ่าวคนใดในเรือนข้ากล้าไปปากมากข้าจะตัดลิ้นมันออกเสีย” อาหนูไม่ยี่หระใดๆ
“ฮูหยินรองเ้าคะ อย่างไรก็ระวังไว้ก่อนเป็ดีเ้าค่ะ”
จื่อเซียวเองก็เริ่มมีน้ำโหมีความเป็ไปได้อย่างยิ่งว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งนายเช่นนี้จะพลอยทำให้นางเดือดร้อนไปด้วย นางไม่เตือนอีกแล้วและเกิดความคิดอยากเปลี่ยนนายขึ้นมาในหัวอีกหน
แต่แรกที่นางตัดสินใจมาติดตามอาหนูก็เพราะเล็งเห็นว่าอาหนูกำลังเป็ที่รักยามนี้อาหนูไม่เป็ที่รักอีกแล้วซ้ำยังไม่รู้ว่าวันหน้าจะได้กลับมาเป็ที่รักหลงของท่านแม่ทัพอีกคราหรือไม่ นางกลัวแต่ว่ายังไม่ทันมีโอกาสอีกครั้ง ตัวอาหนูเองก็จะทำให้เสียเื่ไปก่อน
จื่อเซียวคิดถึงนายที่นางพอจะไปฝากตัวได้ทางฮูหยินใหญ่นั่นเป็ไปไม่ได้แล้ว ก่อนฮูหยินใหญ่จะตั้งท้องนางคอยติดตามอาหนูจึงไม่เคยมองฮูหยินใหญ่ตรงๆ แม้สักหน ย่อมไม่อาจไปสวามิภักดิ์ด้วยได้จะเหลือก็แต่ทางฮูหยินแล้ว ไม่รู้ว่าฮูหยินจะยอมเชื่อใจและยอมรับความจริงใจที่นางไปฝากตัวหรือไม่
เมื่อจื่อเซียวเกิดความคิดนี้ขึ้นมานางย่อมไม่มาตั้งอกตั้งใจช่วยเหลืออาหนูอีกต่อไปแล้ว
ดึกดื่น สงัดเงียบ สรรพสิ่งเข้าสู่ห้วงฝัน แม้แต่นกกระจอกที่จะแตกตื่นยามเกิดความเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ยังพลอยสงบไปด้วย
ณ เรือนเฉินจื่อ เหมยเซียงกำลังนอนฝันอยู่ที่ห้องทางด้านข้างนางฝันว่าฮูหยินใหญ่คลอดเด็กตัวอ้วนๆ คนทั้งจวนพากันเฉลิมฉลองนางหยิบขนมชิ้นหนึ่งที่ฮูหยินใหญ่กำนัลให้ขึ้นมาอย่างเบิกบานใจ กำลังจะกินแต่กลับถูกเสียงครวญครางของนางจ้าวทำให้ใตื่นเสียก่อน ยังไม่ทันสวมรองเท้านางก็เดินเท้าเปล่าถือตะเกียงวิ่งไปที่ข้างเตียงของนางจ้าว
“ฮูหยิน ท่านเป็อะไรไป ไม่สบายที่ใดเ้าคะ?” เหมยเซียงขวัญผวาเมื่อเห็นนางจ้าวเอาสองมือกุมท้องมีเหงื่ออาบบนหัว
“ไป รีบไปตามหมอมา ข้าเจ็บนักไม่รู้เพราะเมื่อครู่ยืนอยู่ที่เรือนฮูหยินนานเกินไปจนเหนื่อยหรือไม่”ท่าทางนางจ้าวเ็ปเป็ที่สุดเสียงของนางบางเบาจนเหมยเซียงต้องเงี่ยหูฟังจึงจะได้ยิน
“เ้าค่ะๆ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” เหมยเซียงลุกขึ้นสวมรองเท้าอย่างลวกๆแม้แต่ถุงเท้าก็ไม่ได้ใส่ รีบวิ่งออกไปตามท่านหมอหวังมา
เสียงร้องอย่างร้อนใจของเหมยเซียงทำลายความสงบเงียบในค่ำคืนนี้
“ใครน่ะ” ท่านหมอหวังรำคาญใจพลางขยี้ตาที่ยังไม่ทันลืมขึ้นสวมเสื้อคลุมง่ายๆ ลุกขึ้นมาเปิดประตู
“ท่านหมอ เร็วเข้า ฮูหยินบ้านข้าบอกว่าเจ็บท้อง”เหมยเซียงไม่มีเวลามาสนใจเื่ข้อห้ามระหว่างบุรุษสตรี แล้วรีบดึงตัวท่านหมอหวังให้ไปกับนาง
เมื่อมองเห็นว่าเป็เหมยเซียง และได้ยินนางบอกอีกว่าฮูหยินใหญ่เจ็บท้องท่านหมอหวังก็ตึงเครียดขึ้นมาทันใด คนท้องเจ็บท้อง ไม่ใช่เื่ดีเอาเสียเลย
“ปัดโธ่ ฟังข้านะเหมยเซียง ต่อให้รีบเช่นใดก็ต้องรอให้ข้าไปเอาหีบยาเสียก่อนหาไม่หากไปทั้งมือเปล่าแล้วจะให้ข้าตรวจรักษาเช่นใด” ท่านหมอหวังเอื้อมมือไปปัดมือของเหมยเซียงออก
“อ้อๆ ขออภัยเ้าค่ะท่านหมอหวัง ท่านรีบหน่อยนะเ้าคะ”เหมยเซียงกระวนกระวายเป็มดบนหม้อร้อน อย่าได้เกิดเื่ใดกับฮูหยินใหญ่เลยอย่าเกิดเื่เลย นางกระทืบเท้ารอท่านหมอหวังไปพลาง ภาวนาในใจไปพลาง
_____________________________
