“วิ่งเร็ว!” เย่เทียนเซี่ยในตอนนี้ไม่อาจสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในแววตาของเธอได้ เขารีบดึงซูเฟยเฟยให้ลุกขั้น ทันทีที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้เงาร่างสีม่วงก็พุ่งเข้ามาท่ามกลางเสียงคำรามที่ดังกึกก้อง
“พี่รอง!!” จั้วพั่วจวินที่หยุดฝีเท้าลงะโออกมาเสียงดัง ในตอนที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกกำลังเตรียมตัวจะพุ่งเข้ามาราวสายฟ้าอีกครั้งเขาก็พยายามจะวิ่งเข้ามา เมื่อกี้ที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกพุ่งเข้าชนเย่เทียนเซี่ยจนนำมาซึ่งตัวเลขความเสียหายอันน่ากลัวมันทำให้เขาใจนแทบบ้า.......... แต่ที่ทำให้เขายิ่งใก็คือเย่เทียนเซี่ยยังคงมีชีวิตอยู่ แต่หลอดเืของเขาก็แทบจะว่างเปล่า
พลังชีวิตของเขามีมากกว่า 2,500............ ก่อนหน้านี้ตัวเขายังคุยโม้ถึงพลังชีวิตเกินพันของตัวเองต่อหน้าเขาอยู่เลย......... เมื่อคิดถึงเื่นี้แล้วจั้วพั่วจวินก็อยากจะหาหลุมให้ตัวเองมุดเข้าไปจริงๆ
แต่เย่เทียนเซี่ยในตอนนี้ไม่สามารถรับการพุ่งโจมตีเป็ครั้งที่สองได้อีกแล้ว อีกทั้งเขาเพิ่งจะถูกพุ่งชนจนล้มลงบนพื้น ข้างกายของเขาก็ยังมีซูเฟยเฟยอีก ไม่มีทางที่เขาจะหลบมันพ้นแน่...........
เสียงคำรามดังก้องก่อนที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกจะพุ่งเข้าใส่เย่เทียนเซี่ยที่เพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้ เงาร่างใหญ่โตราวกับูเาลูกย่อมๆก็ถือโล่แล้วพุ่งเข้ามา โล่ในมือของเขาพุ่งเข้าชนราชสีห์อเมทิสต์หกปีกอย่างหนักหน่วง............
จั้วพั่วจวินใช้ทักษะซึ่งเป็เอกลักษณ์ของผู้พิทักษ์............ เขาใช้ทักษะ “โล่พุ่งปะทะ” พุ่งเข้าใส่ศัตรู
“ย๊ากก!!”
เสียงะโก้องนั้นประกอบไปด้วยการเคลื่อนที่อันแข็งแกร่งและความตั้งใจที่พุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างไม่กลัวตาย เขารู้ดีว่าถ้าตัวเองถูกสิงโตตัวน้อยที่มองยังไงก็ไม่เท่าไรตัวนี้ััเข้าจะเป็อย่างไร.......... แต่เขาก็ยังเลือกที่จะพุ่งเข้าไป
ปั้ง!!
โล่ทองแดงปะทะเข้ากับร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกอย่างหนักหน่วงจนเกิดเป็เสียงปะทะกึกก้อง ร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกถูกพุ่งชนทำให้ทิศทางที่พุ่งเข้ามาเปลี่ยนไปทันที มันพุ่งผ่านร่างของเย่เทียนเซี่ยไป จากนั้นก็หยุดชะงักแล้วล้มลงบนพื้น
จั่วพั่วจินถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะพยุงเย่เทียนเซี่ยขึ้นมา “ไปเร็ว!”
ในตอนที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกลุกขึ้นมาจากพื้นทั้งสี่คนก็วิ่งไปด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้จนออกมาจากระยะสิบเมตรแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงไม่หลุดพ้นไปจากขอบเขตความเกลียดชังของมัน
บางทีอาจจะเป็เพราะมันยังเด็ก ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันจึงไม่รวดเร็วนัก ไม่เพียงไม่สามารถกระชับระยะห่างระหว่างตัวมันเองกับพวกเขาได้ แต่มันกลับถูกทิ้งระยะห่างออกไปเรื่อยๆ ขอบเขตความเกลียดชังของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกคือห้าสิบเมตร พวกของเย่เทียนเซี่ยวิ่งออกมาจนอยู่นอกระยะห้าสิบเมตรแล้วดังนั้นพวกเขาจึงสามารถใช้ม้วนคัมภีร์กลับเมืองได้แล้ว
มอนสเตอร์ชั้นเซียน.......... เย่เทียนเซี่ยอดคิดถึงคำพูดที่เ้าเมืองเทียนเฉินพูดขึ้นมาในตอนที่มอบหมายภารกิจสังหารสิงโตดาบทองให้เขาไม่ได้ เขาพูดถึงเื่นี้ขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจว่าเ้าของสมาคมการค้าเหลียนสั่วที่ตั้งอยู่ทางถนนทางเหนือของเมืองเทียนเฉินถูกมอนสเตอร์ชั้นเซียนฆ่าตาย............ และมอนสเตอร์ชั้นเซียนที่ไม่น่าจะปรากฏตัวขึ้นมาได้กลับปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเขา
ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ชั้นเซียนนั้นเย่เทียนเซี่ยได้รู้ซึ้งแล้วในวันนี้........ ไม่ว่าจะเป็พลังชีวิตหรือพลังโจมตีล้วนมากกว่าบอสขุนนางในเลเวลเดียวกันหลายสิบเท่า ทักษะโจมตีก็ยิ่งน่ากลัวเกินจินตนาการ
มอนสเตอร์ชั้นเซียนเป็สิ่งที่ผู้เล่นไม่อาจต้านทานได้ คำพูดนี้ไม่ได้พูดเกินจริงไปเลยแม้แต่น้อยเพียงแค่มอนสเตอร์ชั้นเซียนวัยเด็กเลเวล 15 ก็น่ากลัวถึงระดับนี้แล้ว ได้ยินมาว่าในทวีปที่สาบสูญมีมอนสเตอร์ระดับเซียนอยู่ทั้งหมดสองถึงสามร้อยตัว ทุกตัวล้วนเป็มอนสเตอร์ที่คนธรรมดาไม่อาจต่อกรด้วยได้ มอนสเตอร์ระดับอสูร์ก็มีเพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้น และมอนสเตอร์ระดับเทพอสูรก็มีน้อยมากๆ แค่ประมาณสิบกว่าตัวเท่านั้น ส่วนมอนสเตอร์ระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งพลังนั้น การคงอยู่ของพวกมันเป็สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจแตะต้องได้
มอนสเตอร์ชั้นเซียนก็น่ากลัวถึงเพียงนี้แล้ว มอนสเตอร์อสูร์กับมอนสเตอร์เทพอสูรที่มีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าก็คงเกินกว่าจินตนาการเป็แน่
คนทั้งสี่พยายามวิ่งตรงเข้าไปในป่า เมื่อทิ้งระยะห่างจากราชสีห์อเมทิสต์หกปีกมาเกือบจะถึงสี่สิบเมตรแล้วความตื่นใที่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์อันตรายในที่สุดก็เริ่มเบาบางลง แต่เมื่อหนีพ้นจากระยะความเกลียดชังของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกแล้วเย่เทียนเซี่ยกลับหยุดชะงักฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน
การหยุดชะงักของเขาทำให้คนอีกสามคนหยุดตามไปด้วย จั้วพั่วจวินถามออกมาพลางเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาไปด้วย “พี่รอง มีอะไรเหรอ........ พวกเราไปจากที่นี่ก่อนเถอะ ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกข้างหลังนั่นน่ากลัวมากเลย”
“ฉันกำลังคิดว่าทำไมฉันต้องหนีด้วย” ใบหน้าของเย่เทียนเซี่ยสงบนิ่งแปลกๆ เขาหมุนตัวกลับไป ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่กำลังวิ่งตามมาด้วยความรวดเร็ว.......... ใช่แล้ว ทำไมเขาจะต้องหนีด้วยล่ะ? ตัวเขากลายเป็คนอ่อนแอขนาดนี้ั้แ่เมื่อไร อ่อนแอถึงขนาดต้องวิ่งหนีจากสิงโตตัวน้อยๆเนี่ยนะ..........
วิ่งหนี เขาเกลียดคำๆนี้ และไม่อยากััคำๆนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
“แต่พี่รอง มันคือมอนสเตอร์ชั้ยเซียนเลยนะ ไม่มีทางที่พี่จะเอาชนะมันได้หรอก!!” จั้วพั่วจวินรีบพูดออกมา เนื่องจากเขาเข้าใจเย่เทียนเซี่ยดี เขาจึงรู้อยู่แล้วว่าเย่เทียนเซี่ยเย่อหยิ่งแค่ไหน เขาไม่มีทางยอมให้ตัวเองกลายเป็ฝ่ายถูกไล่ตามจนต้องวิ่งหนีเด็ดขาด แต่ถ้าเขาเข้าไปท้าทายและเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นเซียนเขาก็คงไม่มีทางชนะอย่างแน่นอน
“พี่รอง หนีก่อนเถอะ การหนีไม่ใช่เื่อ่อนแอ แต่มันคือกลยุทธ์ รอให้ถึงเวลาพวกเราค่อยมาจัดการมันอีกครั้งก็ได้.....ด้วยความสามารถของพี่รองเชื่อว่าใช้เวลาไม่นานแน่นอน” มู่หรงชิวสุ่ยแสดงใบหน้าจริงจังออกมา
“เทียนเซี่ย” ซูเฟยเฟยะโชื่อของเขาออกมาแล้วได้แต่มองเขาอยู่เงียบๆ
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกใกล้เข้ามาทุกที เย่เทียนเซี่ยยกมือขวาขึ้นมา ดวงตาของเขาหรี่ลงจนเป็เส้นเล็กๆ
“พรแห่งแสงสว่าง!!”
แสงสว่างสีขาวกลุ่มหนึ่งสว่างวาบออกมาจากเขี้ยวั์ที่อยู่บนมือขวาของเย่เทียนเซี่ยก่อนจะลามไล้ไปทั่วร่างของเขาทำให้พลังชีวิตของเขาฟื้นฟูกลับมาจนเต็มอีกครั้งภายในอึดใจเดียว เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาเสียงที่ทำให้มู่หรงชิวสุ่ยใก็ดังขึ้นมาข้างหูของเขา
“ติ๊ง! ท่านถูกผู้เล่น ‘เทียนเซี่ย’ เตะออกจากปาร์ตี้!”
“เอ๋? พี่รอง.......”
มู่หรงชิวสุ่ยและจั้วพั่วจวินส่งเสียงออกมาอย่างตกตะลึงพร้อมๆกันเมื่อได้ยินเสียงะโต่ำๆของเย่เทียนเซี่ยที่ดังขึ้นมา “ชิวสุ่ย โจมตีฉัน!”
มู่หรงชิวสุ่ยอึ้งค้างแล้วยักไหล่ขึ้น “โอ้! พี่รองที่รัก ผมคิดว่าหูของผมอาจะมีปัญหา.......”
“ใช้การโจมตีต่อเนื่องสองครั้งโจมตีฉัน! เร็วเข้า!” เย่เทียนเซี่ยจ้องมองไปที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่ใกล้เข้ามาแล้วพูดซ้ำอีกครั้งเสียงดัง
“ห๊ะ! อื้ม!” มู่หรงชิวสุ่ยไม่มีความลังเลอีกต่อไป เขายกธนูขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วโจมตีเข้าไปที่ร่างของเย่เทียนเซี่ยต่อเนื่องสองครั้งด้วยทักษะโจมตีต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็การขอร้องที่เหลือเชื่อ แม้ว่าเขาจะไม่อยากใช้อาวุธของตัวเองโจมตีใส่เย่เทียนเซี่ย แต่เขารู้ดีว่าเย่เทียนเซี่ยไม่ใช่คนที่จะมาล้อเล่นในเวลาแบบนี้ เขาจะต้องจงใจอย่างแน่นอน
-58,-69,
-60,-69,
การโจมตีต่อเนื่องสองครั้งเป่าพลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยไป 256 หน่วย ตัวเลขนี้ทำให้มู่หรงชิวสุ่ยและจั้วพั่วจวินอึ้งค้างไปอีกครั้ง ความสามารถในการโจมตีของมู่หรงชิวสุ่ยพวกเขาสองคนล้วนรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ร่างของเย่เทียนเซี่ยกลับปรากฏตัวเลขความเสียหายอัน “น่าสงสาร” ขึ้นมาเช่นนี้............ พลังป้องกันแข็งแกร่งจริงๆ!
ถ้าพวกเขารู้ว่าเย่เทียนเซี่ยถอดเสื้อเกราะและเกราะขาออกไปเพื่อรับความเสียหายให้มากกว่านี้ไม่รู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
“ดี! หยุดได้!” เย่เทียนเซี่ยส่งเสียงออกมา แล้วเพิ่มมู่หรงชิวสุ่ยกลับเข้าปาร์ตี้เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองพลังชีวิตของตัวเอง ในดวงตาของเขามีแสงแปลกๆที่แทบจะบ้าคลั่งเปล่งออกมา............
เพื่อความภูมิใจที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ของตัวเอง แม้ว่าจะเป็มอนสเตอร์ชั้นเซียน เขาก็อยากจะ............ลองบ้าดูสักครั้ง!
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกพุ่งเข้ามาจนถึงระยะสิบเมตรแล้วร่างของเย่เทียนเซี่ยก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกจะปลดปล่อยการโจมตีออกมาร่างของเย่เทียนเซี่ยก็กลายเป็เงาวูบไหวสายหนึ่ง เขาใช้เงาัสะบั้นโจมตีเข้าไปที่ร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกหนักๆหนึ่งครั้ง......... ช่างเป็การทักทายที่ไร้มารยาทจริงๆ!
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่ถูกพุ่งเข้าโจมตีถูกพลังการโจมตีอันบ้าคลั่งกระแทกกระเด็นออกไปแล้วหล่นลงบนพื้นดินอย่างหนักหน่วง เย่เทียนเซี่ยรีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วเหวี่ยงฟาดการโจมตีธรรมดาๆลงไปบนร่างของมัน
-298!
พลังป้องกันของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกยังไม่ได้อยู่ในระดับที่โกงเกินไป มันเพียงแค่ลดค่าความเสียหายไป 400 หน่วยเท่านั้น การโจมตีของเย่เทียนเซี่ยรุนแรงมากพอที่จะเจาะทะลุการป้องกันของมันได้ เย่เทียนเซี่ยกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนที่ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกจะลุกขึ้นมาเขาก็ยกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาขึ้นแล้วเหวี่ยงมันออกไป....... ทันใดนั้นขนนกสีเืที่ฝังอยู่้าของห้วงเวลาแห่งโชคชะตาก็เปล่งแสงสีแดงออกมาวูบหนึ่ง
ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาปะทะเข้ากับร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกอย่างพอดิบพอดีแล้วแสงสว่างสีแดงก็ส่องสว่างขึ้นมาจากบริเวณที่ตัวดาบััเข้ากับร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกแล้วซึมหายเข้าไปในร่างของมันทันที แสงสีแดงนั้นจะทำให้ใจกลางร่างกายของมันะเิออกมาอย่างฉับพลัน............
-293!
-12000!
ไม่ไกลจากตรงนั้นเมื่อจั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยที่ยังไม่ถอยกลับและจากไปมองเห็นตัวเลขสีแดงนั้นพวกเขาก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...........
ความเสียหายเกินหมื่น!
มันคือความเสียหายเกินหมื่นจริงๆนะ!
เคราะห์กรรมที่ 1ของเคราะห์กรรมทั้งเจ็ดแห่งโชคชะตา แสงสีเืที่ส่องสว่างออกมาจากขนนกสีเื.......... ไม่สนใจทุกอย่าง ไม่สามารถป้องกันได้ ่ชิงพลังชีวิตของเป้าหมายมา 10% ........ ทัณฑ์ชีวิต!
“ดูเหมือนว่าพี่รองจะไม่ได้บ้า......... ร่างของเขาซ่อนบางอย่างที่น่ากลัวมากๆเอาไว้อยู่” จั้วพั่วจวินพูดออกมาอย่างเพ้อๆ มู่หรงชิวสุ่ยพยักหน้าแสดงความเห็นด้วย
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่ได้รับาเ็อย่างหนักในที่สุดก็ยืนขึ้นมาพร้อมกับคำรามออกมาเสียงดัง แสงสว่างของสายฟ้าปกคลุมไปทั่วร่างกายของมัน หลังจากร่ายเวทย์เป็เวลาสั้นๆสายฟ้าสีม่วงสายหนึ่งก็ผ่าลงมาบนร่างของเย่เทียนเซี่ย
“ิญญาัปีศาจ!”
เย่เทียนเซี่ยไม่หลบหลีก ท่ามกลางเสียงกู่ร้องของเขาเปลวไฟไร้สีก็ปะทุขึ้นมาบนร่างของเขาแล้วกำแพงิญญาัที่สามารถป้องกันได้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นมารอบกายเขา เขาพุ่งเข้าไปหาราชสีห์อเมทิสต์หกปีกเป็เส้นตรงโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้วใช้ัสะบั้นออกไปฟาดใส่ร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกเต็มกำลังไม่หยุด
-592,-600,-596……
การโจมตีของเย่เทียนเซี่ยราวกับห่าฝนอันบ้าคลั่ง ผลอันน่าทึ่งที่ติดมากับัสะบั้นทำให้ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกถูกโจมตีจนต้องถอยไปทีละนิดๆ และการโจมตีของมันก็ปะทะเข้ากับแสงสว่างโปร่งใสที่มองไม่เห็นที่ล้อมรอบร่างของเย่เทียนเซี่ยอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด........ แต่ไม่ว่ามันจะโจมตีอย่างไร เมื่อการโจมตีด้วยกรงเล็บหรือการโจมตีด้วยพลังสายฟ้าของมันััเข้ากับกำแพงิญญา พวกมันก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เพียงไม่อาจสร้างความเสียหายใดๆให้เย่เทียนเซี่ยได้ แม้แต่คุณสมบัติพิเศษที่ทำให้เป้าหมายกระเด็นออกไปหรือติดสถานะอัมพาตก็ไม่ส่งผลต่อเขาเลยแม้แต่น้อย
กำแพงิญญาัไม่เพียงลบล้างการโจมตีให้เย่เทียนเซี่ย ตอนนี้ต่อใหู้เาลูกั์ตกลงมาจากท้องฟ้ากำแพงิญญาัก็ไม่มีทางหายไป และถ้าราชสีห์อเมทิสต์หกปีกสามารถยกูเาลูกโตขึ้นมาได้จริงก็ไม่อาจััร่างกายของเย่เทียนเซี่ยได้อยู่ดี
